Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS]#dmbjdaily 29 days left (Lock)(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)(R-18)
+2
yakusoku
The_Dark_Lady
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS]#dmbjdaily 29 days left (Lock)(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)(R-18)
(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)
Warning โปรดระวังความคิโม่ยไร้สติ
ช่วงนี้อู๋เสียรู้สึกแปลกๆ…
เวลาที่อยู่บ้านเพียงลำพังในยามค่ำคืน เขามักรู้สึกว่ามีคนลอบแอบมองอยู่ แต่พอลองดูจริงๆก็ไม่มีใคร เล่นเอาเขาหลอนอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเขาทำงานกับพวกของเก่า เรื่องลึกลับก็เจอมาพอสมควรอยู่แล้ว ถ้าจะมาจิตอ่อนกับเรื่องแบบนี้คงเสียชาติเกิดมาเป็นหลานของหมาแก่อู๋แห่งหังโจว เขาจึงปล่อยๆมันไป คิดว่าตัวเองหลอนไปเองมากกว่า
แล้วตกดึกเขามักจะฝัน…
ว่ามีเงาดำก้าวเข้ามาภายในห้อง บดบังแสงจันทร์ที่สาดส่อง ร่างสูงโปร่งนั้นนั่งลงบนเตียงข้างเขาที่นอนอยู่ จรดปลายนิ้วไล้กรอบหน้า คิ้ว เปลือกตา สันจมูก แก้ม บดคลึงริมฝีปากอยู่นานก่อนจะสอดเข้ามาลูบไล้ภายใน เป็นความฝันที่ให้ความรู้สึกเหมือนจริง ยามที่นิ้วนั้นสอดเข้ามา เขาอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เมื่อเขาถึงที่สุดนิ้วคู่นั้นจะถอนออกไป
สองมือกร้านของเงาดำนั้นพลันเปลี่ยนเป็นลูบไล้ผิวกายเขาแทน ปัดเสื้อนอนที่เขาใส่ให้เปิดออก เค้นคลึงจนให้ความรู้สึกเจ็บแปลบเป็นระยะ ใบหน้าของเงาดำขยับเคล้าเคลียยอดอก ทุกคืนเขาได้ยินเสียงลิ้นเปียกชื้นโลมเลีย บางครั้งก็เป็นเรียวนิ้วบดคลึง คีบเคล้น ให้ความรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียวซ่าน ในบางค่ำคืนเขาถึงกับปลดปล่อยออกมา
ทันทีที่เขาปลดปล่อย ความฝันนั้นจะจบลง…
อู๋เสียหงุดหงิดทุกครั้งกับการตื่นมาในยามเช้าแล้วพบว่าตัวเองฝันเปียกจากความฝันเหล่านั้น…
เขาคิดว่าตัวเองคงจะห่างเหินจากการผ่อนคลายมากเกินไป ร่างกายถึงระบายออกด้วยความฝันพิสดารแบบนั้น เขาจึงพยายามออกไปนัดบอด ไปเที่ยวคลับตามที่เพื่อนของเขาชวน หวังจะตกสาวมาซักคนแล้วสนุกกันให้สุดเหวี่ยง
...แต่การเที่ยวหนนั้นพังไม่เป็นท่า เพราะเขารู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาจนเที่ยวไม่สนุก เขารู้สึกเหมือนมีสายตาเย็นๆของใครบางคนมองตามหลังตลอดเวลา จนสุดท้ายสาวๆที่โต๊ะออกอาการรำคาญแล้วออกไปโฉบหาคนอื่น
ตกดึกคืนนั้น...ความฝันเพิ่มระดับความแอดวานซ์ขึ้น…
เงาดำนั้นสอดแทรกช่องทางเบื้องหลังเขาด้วยนิ้ว ขยับคว้านภายในผนัง บดเบียดกดคลึงในส่วนลึก บังคับร่างกายเขาให้ไปถึงจุดสูงสุดโดยไม่แตะต้องเบื้องหลัง ก่อนขยับบดเบียดร่างกายเสียดสีกัน...แล้วอีกฝ่ายก็ปลดปล่อยใส่ต้นขาของเขา
ความฝันให้ความรู้สึกสมจริงจนเขาหวาดหวั่น
...ยิ่งตื่นเช้ามาแล้วพบว่าร่างกายตัวเองยังคงเรียบร้อยดียกเว้นความเหนอะหนะส่วนล่างเขายิ่งหวาดกลัว
เขาเริ่มไม่กล้านอนหลับ...
“เทียนเจินดูโทรมมาก...นี่ไม่ได้นอนมากี่คืนแล้ว…”
นายอ้วนเพื่อนเขาทักขึ้นเมื่อมาเยี่ยมที่ร้าน
“สาม…”
เขาตอบเรียบๆ ซบหน้าลงกับต้นแขน การไม่ได้นอนทำให้เขารู้สึกอ่อนเพลียอย่างมาก ...แต่จะให้นอนเขาก็กลัว
“พาไปเที่ยวแล้วยังฝันร้ายอยู่อีกเหรอ…”
นายอ้วนถามขึ้น เขาเล่าเรื่องฝันแปลกๆให้อีกฝ่ายฟังเป็นคนแรกๆ ไม่กล้าบอกให้ครอบครัวรับรู้เพราะกลัวจะกังวล เป็นห่วงกัน เขาแยกจากบ้านใหญ่มาอยู่คนเดียวตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย แค่รบกวนเรื่องกิจการก็มากพอแล้ว จะเอาปัญหาส่วนตัวไปรบกวนก็ใช่ที่
...แถมยังเป็นปัญหาน่าอายขนาดนี้…
“ฝันร้ายหนักกว่าเดิมด้วย…”
“หะ…”
นายอ้วนอุทานก่อนจะขมวดคิ้ว เจ้าตัวยกมือขึ้นกอดอกแล้วลูบคาง ทำหน้าครุ่นคิด
“นี่มันแปลกๆแล้ว…” แล้วก็หันมาถาม “นายเริ่มฝันร้ายเมื่อไหร่…”
เขาเลิกคิ้ว รู้สึกงงๆที่อยู่ๆก็ถูกถามแต่ก็ตอบไป “สัปดาห์ก่อน…”
“ช่วงนั้น นายได้เจอใครแปลกๆบ้างไหม…”
“คนแปลกๆ…” เขาทวนคำ “ไม่นี่...แต่...เอ๊ะ…” เขานึกอะไรขึ้นมาได้ลางๆ คนๆนั้นจะว่าแปลกก็คงได้แต่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน
“อะไรเทียนเจิน…”
“เปล่าๆ...สัปดาห์ก่อนฉันเจอคนๆหนึ่งที่ดูแปลกๆจริงๆนั่นหละ...แต่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน…”
“เล่ามา…”
“หะ…”
“นายอ้วนบอกให้เล่าก็เล่าสิ...รึอยากจะฝันร้ายต่อไปเรื่อยๆ…”
ได้ยินดังนั้นเขาจึงเปิดปาก แม้ยังงุนงงอยู่ก็ตาม “ช่างทำกุญแจน่ะ ...พอดีว่ากุญแจที่ร้านมันเสียเลยเรียกคนมาซ่อม แล้วอาสามก็แนะนำช่างมาคนหนึ่ง ไม่รู้ชื่อจริงเขาชื่ออะไรแต่อาสามบอกให้เรียกเขาว่า เสี่ยวเกอ เป็นคนนิ่งๆ ไม่หือไม่อือ นั่งเงียบเป็นสากกระเบือ แต่ทำงานดีมาก...พอซ่อมกุญแจในร้านเสร็จ ฉันนึกได้ว่าพวกกุญแจลูกบิดในบ้านมันก็เก่าจะพังแหล่ไม่พังแหล่ ไหนๆมีช่างมาแล้ว เปลี่ยนๆไปเลยก็ดี...ฉันก็เลยให้เขาไปทำกุญแจที่บ้าน…”
“แล้วไงต่อ…”
“ก็ไม่ยังไง เขาก็ไปเปลี่ยนกุญแจที่บ้านให้ ตอนแรกก็กะเปลี่ยนแค่ไม่กี่ที่...แต่เขาแนะนำว่าควรเปลี่ยนใหม่ทั้งบ้าน ฉันก็เลยตามเลย เขานัดมาทำให้วันถัดมา ฉันก็อยู่บ้านรอ วันถัดมาเขาก็มาเปลี่ยนให้จนเสร็จ ส่งมอบลูกกุญแจ จ่ายค่าจ้าง จบ...แยกย้าย…”
“นายรู้ที่มาที่ไปของช่างทำกุญแจคนนี้ไหม…”
“ไม่อ่ะ...อาสามแนะนำมา...น่าจะไว้ใจได้ ฉันเลยไม่ได้สืบค้นอะไรมาก…”
“นายนี่มัน…” นายอ้วนถอนหายใจ เขาอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่ ท่าทีแบบนั้นมันอะไรกัน แต่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรต่อกลับเปลี่ยนเรื่องพูดแทน
“ฉันคิดว่าที่นายฝันร้าย...อาจจะไม่ใช่ฝันร้าย…”
“หะ…”
“มาพิสูจน์กัน…”
นายอ้วนพูดขึ้นแล้วนั่งลงสาธยายแผนการยาวเหยียดของตัวเอง โดยที่เขาได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ
.
.
.
.
.
ไม่มีเวลาแล้ว
ร่างสูงโปร่งในเสื้อฮู้ดสีดำซึ่งยืนนิ่งอยู่ในตรอกแคบๆข้างร้านขายของเก่าของอู๋เสียพึมพำ
...อีกฝ่ายเริ่มรู้ตัวแล้วแถมยังมีคนอื่นเข้ามาสอด
ไม่มีเวลาแล้ว
ชายคนนั้นได้แต่คิดในใจ ขณะแอบฟังเสียงสนทนาของคนทั้งสองที่อยู่ในร้าน
...สงสัยคงต้องทำให้จบภายในคืนนี้
ร่างโปร่งที่คลุมฮู้ดสีดำ สะบัดตัวหันหลังกลับแล้วเดินหายไปในตรอกอย่างรวดเร็ว
.
.
.
.
.
สุดท้าย อู๋เสียก็ต้องทำตามแผนการที่นายอ้วนวางไว้อย่างเสียไม่ได้เพราะความอยากรู้อยากเห็นว่าความฝันนั่นแท้จริงแล้วคืออะไร
...ข้อสันนิษฐานของนายอ้วนที่ว่ามีคนย่องเข้าหาเขาในยามค่ำคืนทำให้เขาขนลุก แต่เขาไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจาก พิสูจน์มัน
แผนการคือ คืนนี้นายอ้วนจะซุ่มอยู่ในรถนอกรั้วบ้าน แผนการคือให้เขาแกล้งทำเป็นหลับดู ซึ่งถ้ามีคนย่องเข้าหา เขาจะรู้และกดโทรฉุกเฉินเรียกนายอ้วน เขายกกุญแจสำรองให้อีกฝ่ายไปเผื่อมีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่นายอ้วนคาดเดา อีกฝ่ายจะได้เข้ามาช่วย
ถ้ามันเป็นแค่ฝันร้ายเพราะความฟุ้งซ่านของเขา มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น...และเขาควรไปเข้าพบจิตแพทย์
เขาหวัง...ขอให้มันเป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่ง…
เขาดับไฟนอน รออยู่นาน จนแทบจะเคลิ้มหลับเพราะร่างกายอ่อนเพลียหลังจากถ่างตาตื่น ไม่หลับไม่นอนอยู่สามวันเพราะกลัวความฝัน แต่เขากลับได้ยินเสียงลั่นของกลอนลูกบิด
เขาหรี่ตามอง เห็นบานประตูเปิดออกในแสงสว่างรางๆ แสร้งหลับตาปี๋ รู้สึกถึงใครบางคนขยับเข้าใกล้แต่แทบไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า
เขานึกถึงนายอ้วนเลื่อนมือคลำหาโทรศัพท์ที่เขาเอาวางไว้ข้างตัวใต้ผ้าห่ม
แต่คนที่เข้ามาเหมือนจะรู้ทัน ผ้าห่มที่คลุมตัวเขาถูกสะบัดออกมือสองข้างถูกจับตรึงเหนือศีรษะ…
เขาเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ แทบจะหวีดร้องออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของคนๆหนึ่งในระยะประชิด
“นะ...นาย…”
อีกฝ่ายปรายตามองนิ่ง รวบมือเขาสองข้างด้วยมือข้างเดียว อู๋เสียพยายามจะบิดออกแต่มือนี้กลับแข็งแรงกว่าที่คาดไว้ ได้แต่มองอีกฝ่ายเอามือที่ว่างหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาดู
ในความมืด...มีเพียงแสงสว่างจากหน้ามือถือซึ่งโชว์ว่ากำลังโทรออกหานายอ้วน แสงสีขาวอมฟ้าส่องใบหน้าคมสันที่ขาวซีดล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีดำซอยสั้นของเสี่ยวเกอ...ช่างทำกุญแจคนนั้น ใบหน้าดูดีซึ่งมักจะมีแต่แววเฉยเมยวันนี้แลดูประหลาดไป ยิ่งมีแสงนวลส่องเน้นใบหน้าแบบนี้ ยิ่งดูหลอนจนชวนขนลุก
“เสี่ยวเกอ…”
เขาเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่ว ข้อมือถูกจับยึดไว้แน่นจนเริ่มเจ็บ
“ถ้าหวังจะให้เขามาช่วย...นายคิดผิด…” เสี่ยวเกอพูดเรียบๆด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ แต่นัยน์ตาสีดำกลับเปล่งประกายประหลาด อู๋เสียรู้สึกได้ว่าร่างกายกำลังสั่นด้วยความหวาดกลัวต่อสายตานั้น “...กุญแจสำรองชุดนั้น เป็นของปลอม”
“นาย…” เขาอุทาน ในหัวหมุนติ้วด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย สุดท้ายกลั่นออกมาได้แค่คำว่า “ทำไม…”
“เพราะฉันคลั่งไคล้ในตัวนาย…” อีกฝ่ายกระซิบด้วยเสียงแหบพร่า มือซึ่งมีสองนิ้วยาวอย่างผิดปกติวางมือถือเขาลง ใบหน้านั้นลดลงมาที่ลำคอของเขา
ก่อนเขาจะสัมผัสได้ถึงเรียวลิ้มเปียกชื้นไล้เลียตามแนวข้างลำคอของเขา ไล้ละจนถึงกระดูกไหปลาร้าที่โผล่พ้นเสื้อนอน สลับกับความรู้สึกเจ็บแปลบจากคมฟันขบกัดและแรงดูดดุนของริมฝีปากได้รูป
ขนเขาลุกชันทั่วทั้งตัว ยกขาหมายจะฟาดเข้าที่กลางลำตัวให้อีกฝ่ายกระเด็นออกไป แต่ฝ่ายนั้นรู้ทัน มือซึ่งลูบไล้ช่วงเอวก็เปลี่ยนมาจับขาเขาเอาไว้ ยึดให้เกาะเหนี่ยวที่สะโพกของอีกฝ่ายก่อนร่างสูงโปร่งนั้นจะขยับตัวเข้าแทรกกลางหว่างขาของเขา
“อย่า…” อีกฝ่ายปรามเสียงต่ำ แต่เขาไม่สนใจฟัง สบโอกาสที่คนด้านบนเผลอคลายมือลงนิดหน่อย สะบัดมือสองข้างออกจากพันธนาการ กำหมัดแน่นแล้วซัดผลัวะเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลานั่น
เขาคิดว่าต่อยไปเต็มแรงจนน่าจะทำให้อีกฝ่ายเซออกไปได้แต่แรงหมัดเพียงแค่ทำให้ใบหน้าของเสี่ยวเกอสะบัดไปด้านข้างเท่านั้น ตัวของอีกฝ่ายยังคงแทรกอยู่ตรงหว่างขาเขานิ่ง มือข้างหนึ่งยังคงยึดขาเขาไว้แน่น
...และบีบเค้นเต็มแรง จนเขาเผลอร้องครางออกมาด้วยความเจ็บ เมื่ออีกฝ่ายหันหน้ากลับมา มุมปากมีของเหลวสีแดงสดหยดลงมาอันน่าจะเป็นผลจากแรงหมัดของเขา ใบหน้าหล่อเหลาที่เขาเคยนึกชมตอนพบกันครั้งแรกว่าดูดีเกินจะเป็นแค่ช่างซ่อมกุญแจธรรมดาเรียบตึง แววตาเป็นประกายวาววับ ขณะยกหลังมือขึ้นเช็ดเลือด
“ฉันไม่อยากจะทำแบบนี้เลย...แต่นายรั้นเกินไปแล้ว…”
เสี่ยวเกอคนนั้นเอ่ยเสียงเรียบ เขาเสียวสันหลังวาบ ตื่นตะลึงจนได้แต่นอนนิ่ง ขณะมองอีกฝ่ายควักเอาสิ่งของชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง
.
.
.
.
.
นายอ้วนสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา เขาเผลอหลับไปขณะที่ดำเนินแผนการพิสูจน์ความจริงที่วางเอาไว้กับนายน้อยสาม
พอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นดู ก็พบว่ามีสายโทรเข้าสายหนึ่งเป็นของอู๋เสีย
เขากระเด้งตัวขึ้นนั่ง ลนลานคว้ากุญแจสำรองที่เอามาจากอีกฝ่าย วิ่งห้อไปที่หน้าบ้านอู๋เสียซึ่งปิดไฟเงียบสนิท
...แต่กุญแจกลับไม่สามารถไขได้
ในใจนายอ้วนร้อนรน เป็นห่วงกังวล...สิ่งที่เขาหวั่นกลัวกลายเป็นจริงแล้ว มีคนพยายามปองร้ายอู๋เสียอยู่จริงๆ ถึงจะไม่ใช่การหมายชีวิตแต่ก็น่าหวาดกลัวพอๆกัน
เขามือไม้สั่นขณะหยิบโทรศัพท์โทรเข้าเครื่องของอู๋เสีย…
เขาภาวนาให้อีกฝ่ายรับสาย หวังว่าเขาคิดมากไปเอง อู๋เสียอาจจะแค่เผลอนอนดิ้นไปโดนโทรศัพท์…
รออยู่อึดใจ เขาจึงได้ยินเสียงสัญญาณตอบรับ ตามมาด้วยเสียงของเพื่อนของเขา กล้ามเนื้อที่เขม็งเกลียวจึงค่อยคลายตัวลง
“นะ...นายอ้วน…” เสียงของอู๋เสียดังมาจากปลายสาย เจือเสียงหอบหายใจ เขาฟังแล้วรู้สึกประหลาด
“อู๋เสีย...เป็นอะไรรึเปล่า...มีอะไรเกิดขึ้น…”
“เป็นเขา...เขารู้…”
เสียงจากปลายสายทำให้นายอ้วนตัวชาวาบ เสียงเสียดสีแผ่วเบาและเสียงครางที่เล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์บ่งบอกชัดเจนว่าสิ่งที่เขาหวาดกลัวเกิดขึ้นแล้ว และเขาไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนสนิทไว้ได้ทัน
“เขาปลอมกุญแจ…”
เสียงของอู๋เสียขาดหาย แล้วถูกแทนที่ด้วยอีกเสียงหนึ่ง
“กลับไปซะ…” น้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงแววข่มขู่คุกคาม
เสียงสะอื้นที่แทรกเข้ามาทำให้นายอ้วนลังเลใจ
“ฉันจะไม่ทำอะไรรุนแรง ฉันไม่ได้มุ่งร้ายหรือหมายชีวิตเขา ขอให้นายวางใจ...อย่าแจ้งตำรวจ ถ้านายไม่อยากให้เพื่อนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง...หลังจากนี้แล้วฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง…”
แล้วสายก็ถูกตัดไป…
นายอ้วนยืนนิ่งอยู่หน้าประตูบ้านเนิ่นนาน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ควรจะทำตามที่ผู้ชายคนนั้นบอก อยู่เฉยๆ รับรู้ว่าเพื่อนถูกช่างทำกุญแจโรคจิตช่วงชิงพรหมจรรย์ไปแล้วปล่อยให้เขาไปจัดการเรื่องกันเอาเอง หรือจะโทรแจ้งตำรวจซึ่งเสี่ยงต่อความอับอายขายขี้หน้ายันหลานบวชของเพื่อนตัวเอง
...จนกระทั่งแว่วเสียงหนึ่งจากชั้นบนของบ้าน นายอ้วนจึงเผ่นออกจากที่นั่นโดยไม่เหลียวหลัง
ในใจอดไม่ได้ที่จะนึก...อู๋ซันเสิ่งผู้หวงหลานยังกับอะไรดีคนนั้นรู้ตัวหรือเปล่าว่าชักศึกเข้าหาหลานตัวเองเสียแล้ว
.
.
.
.
.
จางฉี่หลิงมองร่างขาวเนียนที่ถูกเปิดเปลือยอยู่เบื้องหน้าด้วยความกระหาย ยกขาเรียวซึ่งถูกรัดไว้ด้วยปลอกหนังสีดำทีมีเชือกผูกรั้งกับขาเตียงขึ้นประทับจูบ
ในที่สุด เขาก็พบคนที่เหมือนกับแม่กุญแจ...กระตุ้นให้เขา กุญแจของเขาอยากจะไขตัวตนของอีกฝ่าย เปิดตัวตนของอีฝ่ายออกมาให้หมด
เขาทำงานให้อู๋ซันเสิ่งมาได้ซักพักแล้ว ชายคนนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจค้าขายวัตถุโบราณซึ่งมีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดาเพราะตระกูลอู๋นั้นแท้จริงแล้วเป็นตระกูลโจรลักโขมยของเก่า ทั้งจากสุสานและจากพิพิธภัณฑ์ เขาซึ่งมีความชำนาญในด้านกลไกล็อก กุญแจต่างๆจึงถูกฝ่ายนั้นดึงตัวมาเป็นพวก
เรื่องมันเริ่มจากเขาถูกอู๋ซันเสิ่งเรียกใช้ด้วยเรื่องที่เขามองว่าไร้สาระ คือการทำหน้าที่เป็นช่างซ่อมกุญแจ เนื่องจากกุญแจในร้านขายของของหลานชายมีปัญหา
แต่พอได้พบกับหลานชายคนที่ว่า เรื่องที่เขาคิดว่าไร้สาระก็เปลี่ยนไป...หลานชายสกุลอู๋คนนี้ช่างดูสงบเสงี่ยม ไร้คราบของความเป็นคนตระกูลอู๋โดยสิ้นเชิง แต่เมื่อได้ใกล้ชิดจึงรู้ว่าลึกๆภายใน คนๆนี้เก็บซ่อนความรู้สึกนึกคิดอะไรหลายๆอย่างเอาไว้มากมายเลยทีเดียว สังเกตได้ว่าอู๋เสียคนนี้มักชอบมีสีหน้าครุ่นคิด บางครั้งก็แสดงสีหน้าแปลกๆยามเมื่ออยู่คนเดียวลำพัง
...เขาเริ่มปรารถนาจะเห็นตัวตนที่อีกฝ่ายเก็บงำเอาไว้
และโอกาสก็หล่นลงบนตัก เมื่ออู๋เสียพึงพอใจในงานของเขาและร้องขอให้เขาไปเปลี่ยนกุญแจที่บ้าน
อู๋ซันเสิ่งดูไม่พอใจนัก แต่ก็ขัดหลานชายคนเดียวไม่ได้ อันที่จริงตั้งแต่ก่อนเริ่มงานอีกฝ่ายก็เกริ่นๆเอาไว้แล้วว่าอย่าพยายามเข้าไปยุ่มย่ามหรือเผยอะไรให้กับหลานชายเขานัก
...แต่เขาไม่สน
เขาโน้มน้าวให้อู๋เสียเปลี่ยนกุญแจใหม่ทั้งบ้านและเพราะว่าตัวเขาเป็นช่าง จึงเก็บกุญแจสำรองของบ้านหลังนี้ไว้ที่ตัวเองชุดหนึ่ง ให้กุญแจจริงกับอู๋เสียแล้วก็กุญแจสำรองปลอมอีกชุดหนึ่ง
หลังจากวันนั้นก็เป็นเขาย่องเข้าหาอีกฝ่ายมาตลอด…
ตอนแรกก็แค่อยากมองเฉยๆ แต่มือดันเผลอไปลวนลามร่างนิ่มๆนั่นเสียได้ ยิ่งเห็นใบหน้าเคลิบเคลิ้มยามที่เขาสัมผัส ใบหน้าเย้ายวนยามถูกกระตุ้นให้ถึงจุดสูงสุดของคนไร้สติแต่กลับมีปฏิกิริยาตอบสนองได้น่ารักเขายิ่งเตลิด แต่ยังดีที่เขายังยั้งตัวเองไว้ได้ทัน ไม่ได้ล่วงเกินอีกฝ่ายจนถึงที่สุด จัดการกลบเกลื่อนร่องรอยของตัวเอง ทำให้เหมือนว่าอีกฝ่ายแค่ฝันไป
เส้นความอดทนเขาค่อยๆถูกบั่นทอนลงเมื่ออู๋เสียพยายามหนีจากเขาด้วยการไปหาหญิงสาว เขาตามสะกดรอยก่อกวนจนอู๋เสียไม่มีสมาธิ ตอนดึกก็เข้าไปกลั่นแกล้งร่างกายที่น่าปรารถนานี้ ใจจริงคิดอยากจะเล่นกับร่างกายนี้ไปเรื่อยๆจนเริ่มคุ้นชิน แล้วเขาจึงจะไขกุญแจ แต่การพยายามหนีเขาด้วยการไม่หลับไม่นอนแถมยังดึงเอาคนอื่นมาช่วยแบบนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ
...คราวนี้ถึงอีกฝ่ายจะไม่ชิน เขาก็จะไขตัวตนอีกฝ่ายออกมา เปิดเปลือยทุกส่วน เข้าสัมผัสในส่วนที่ลึกที่สุด ตีตราร่างกายนี้และครอบครองเป็นเจ้าของ
ทำให้แม่กุญแจอู๋เสียนี้คุ้นชินต่อการสัมผัสลูกกุญแจของจางฉี่หลิง…
“ปล่อย…” เสียงหวานครางเครือ ผสานกับเสียงกุญแจมือกระทบเหล็กหัวเตียง
เพราะในตอนแรกอู๋เสียขัดขืน...เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจับอีกฝ่ายตรึงกับเตียงด้วยกุญแจมือและปลอกรัดหนัง
อู๋เสียนั้นถูกล็อกอยู่ด้วยความหวาดหวั่น
...เขามอบจุมพิตแตะแต้มร่างกาย มอบสัมผัสที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่มีต่ออีกฝ่าย ไขเอาตัวตนอันเย้ายวนของอีกฝ่ายออกมาอย่างช้าๆ เปิดล็อกจิตใจอันหวาดหวั่นด้วยความวาบหวามอย่างใจเย็น
เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากอันแห้งผากของตัวเอง มองดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำน้ำ ใบหน้าน่ารักแดงซ่าน ร่างกายขาวเนียนที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อเพราะเลือดสูบฉีด มีรอยขบกัดและรอยตีตราสีแดงจัดแตะแต้มตามร่างกาย คราบของเหลวขุ่นขาวเปรอะตรงหว่างขา และหน้าท้องราบ
กุญแจของเขาถูกโอบล้อมด้วยร่องหลืบของแม่กุญแจอันอุ่นุ่มและรัดแน่น จางฉี่หลิงขยับสะโพกสองสามครั้ง ร่างข้างใต้แอ่นโค้งขึ้นด้วยความรัญจวนใจที่ได้รับ ริมฝีปากจิ้มลิ้มครวญเสียงหวาน ไม่เหลือท่าทีต่อต้านในตอนแรก
...เขาปลดกุญแจมือให้อีกฝ่าย ตามด้วยปลอกหนัง
ของพวกนี้ไม่จำเป็นแล้ว ...แม่กุญแจที่ปิดตายถูกเปิดออกต่อหน้าเขาแล้ว
เขาโถมกายเข้าหาอู๋เสีย มองแขนเรียวขาวอ่อนแรงโอบรับเขา เรียวขาที่อ้าออกกว้างรับตัวตนของเขาไว้โดยไม่ผลักไส
ขอเขาเพลิดเพลินกับการไขกุญแจอันน่าหลงใหลนี้อีกซักพักก็แล้วกัน...จางฉี่หลิงคิดขณะใช้ปลายนิ้วลูบไล้ผิวสีข้างนิ่มมือของคนใต้ร่าง
...แล้วเขาค่อยไปรบกับคุณอาขี้หวงคนนั้นเพื่อให้ได้แม่กุญแจคนนี้มาอยู่ในครอบครองอย่างสมบูรณ์…
END
Locksmith แปลว่าช่างทำกุญแจค่ะ
...หาศัพท์เกี่ยวกับ Lock แล้วไปเจอ
แล้วจู่ๆก็อยากเขียนคิโม่ยจางฉี่หลิงขึ้นมา...ก็เลยกลายเป็นพลอตแบบนี้ แบบที่คุณช่างทำกุญแจแอบสตอล์กลูกค้า
แต่จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ายังโรคจิตไม่พอ//อีห่านี่...
...เดลี่ช่วงนี้มีแต่หัวข้อที่ชวนให้จิตแตกเหลือเกินค่ะ...//หรือความจริงแล้วอีนี่ควรวางถุงกาวลงแล้วตั้งสติก่อน?
Warning โปรดระวังความคิโม่ยไร้สติ
ช่วงนี้อู๋เสียรู้สึกแปลกๆ…
เวลาที่อยู่บ้านเพียงลำพังในยามค่ำคืน เขามักรู้สึกว่ามีคนลอบแอบมองอยู่ แต่พอลองดูจริงๆก็ไม่มีใคร เล่นเอาเขาหลอนอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเขาทำงานกับพวกของเก่า เรื่องลึกลับก็เจอมาพอสมควรอยู่แล้ว ถ้าจะมาจิตอ่อนกับเรื่องแบบนี้คงเสียชาติเกิดมาเป็นหลานของหมาแก่อู๋แห่งหังโจว เขาจึงปล่อยๆมันไป คิดว่าตัวเองหลอนไปเองมากกว่า
แล้วตกดึกเขามักจะฝัน…
ว่ามีเงาดำก้าวเข้ามาภายในห้อง บดบังแสงจันทร์ที่สาดส่อง ร่างสูงโปร่งนั้นนั่งลงบนเตียงข้างเขาที่นอนอยู่ จรดปลายนิ้วไล้กรอบหน้า คิ้ว เปลือกตา สันจมูก แก้ม บดคลึงริมฝีปากอยู่นานก่อนจะสอดเข้ามาลูบไล้ภายใน เป็นความฝันที่ให้ความรู้สึกเหมือนจริง ยามที่นิ้วนั้นสอดเข้ามา เขาอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เมื่อเขาถึงที่สุดนิ้วคู่นั้นจะถอนออกไป
สองมือกร้านของเงาดำนั้นพลันเปลี่ยนเป็นลูบไล้ผิวกายเขาแทน ปัดเสื้อนอนที่เขาใส่ให้เปิดออก เค้นคลึงจนให้ความรู้สึกเจ็บแปลบเป็นระยะ ใบหน้าของเงาดำขยับเคล้าเคลียยอดอก ทุกคืนเขาได้ยินเสียงลิ้นเปียกชื้นโลมเลีย บางครั้งก็เป็นเรียวนิ้วบดคลึง คีบเคล้น ให้ความรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียวซ่าน ในบางค่ำคืนเขาถึงกับปลดปล่อยออกมา
ทันทีที่เขาปลดปล่อย ความฝันนั้นจะจบลง…
อู๋เสียหงุดหงิดทุกครั้งกับการตื่นมาในยามเช้าแล้วพบว่าตัวเองฝันเปียกจากความฝันเหล่านั้น…
เขาคิดว่าตัวเองคงจะห่างเหินจากการผ่อนคลายมากเกินไป ร่างกายถึงระบายออกด้วยความฝันพิสดารแบบนั้น เขาจึงพยายามออกไปนัดบอด ไปเที่ยวคลับตามที่เพื่อนของเขาชวน หวังจะตกสาวมาซักคนแล้วสนุกกันให้สุดเหวี่ยง
...แต่การเที่ยวหนนั้นพังไม่เป็นท่า เพราะเขารู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาจนเที่ยวไม่สนุก เขารู้สึกเหมือนมีสายตาเย็นๆของใครบางคนมองตามหลังตลอดเวลา จนสุดท้ายสาวๆที่โต๊ะออกอาการรำคาญแล้วออกไปโฉบหาคนอื่น
ตกดึกคืนนั้น...ความฝันเพิ่มระดับความแอดวานซ์ขึ้น…
เงาดำนั้นสอดแทรกช่องทางเบื้องหลังเขาด้วยนิ้ว ขยับคว้านภายในผนัง บดเบียดกดคลึงในส่วนลึก บังคับร่างกายเขาให้ไปถึงจุดสูงสุดโดยไม่แตะต้องเบื้องหลัง ก่อนขยับบดเบียดร่างกายเสียดสีกัน...แล้วอีกฝ่ายก็ปลดปล่อยใส่ต้นขาของเขา
ความฝันให้ความรู้สึกสมจริงจนเขาหวาดหวั่น
...ยิ่งตื่นเช้ามาแล้วพบว่าร่างกายตัวเองยังคงเรียบร้อยดียกเว้นความเหนอะหนะส่วนล่างเขายิ่งหวาดกลัว
เขาเริ่มไม่กล้านอนหลับ...
“เทียนเจินดูโทรมมาก...นี่ไม่ได้นอนมากี่คืนแล้ว…”
นายอ้วนเพื่อนเขาทักขึ้นเมื่อมาเยี่ยมที่ร้าน
“สาม…”
เขาตอบเรียบๆ ซบหน้าลงกับต้นแขน การไม่ได้นอนทำให้เขารู้สึกอ่อนเพลียอย่างมาก ...แต่จะให้นอนเขาก็กลัว
“พาไปเที่ยวแล้วยังฝันร้ายอยู่อีกเหรอ…”
นายอ้วนถามขึ้น เขาเล่าเรื่องฝันแปลกๆให้อีกฝ่ายฟังเป็นคนแรกๆ ไม่กล้าบอกให้ครอบครัวรับรู้เพราะกลัวจะกังวล เป็นห่วงกัน เขาแยกจากบ้านใหญ่มาอยู่คนเดียวตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย แค่รบกวนเรื่องกิจการก็มากพอแล้ว จะเอาปัญหาส่วนตัวไปรบกวนก็ใช่ที่
...แถมยังเป็นปัญหาน่าอายขนาดนี้…
“ฝันร้ายหนักกว่าเดิมด้วย…”
“หะ…”
นายอ้วนอุทานก่อนจะขมวดคิ้ว เจ้าตัวยกมือขึ้นกอดอกแล้วลูบคาง ทำหน้าครุ่นคิด
“นี่มันแปลกๆแล้ว…” แล้วก็หันมาถาม “นายเริ่มฝันร้ายเมื่อไหร่…”
เขาเลิกคิ้ว รู้สึกงงๆที่อยู่ๆก็ถูกถามแต่ก็ตอบไป “สัปดาห์ก่อน…”
“ช่วงนั้น นายได้เจอใครแปลกๆบ้างไหม…”
“คนแปลกๆ…” เขาทวนคำ “ไม่นี่...แต่...เอ๊ะ…” เขานึกอะไรขึ้นมาได้ลางๆ คนๆนั้นจะว่าแปลกก็คงได้แต่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน
“อะไรเทียนเจิน…”
“เปล่าๆ...สัปดาห์ก่อนฉันเจอคนๆหนึ่งที่ดูแปลกๆจริงๆนั่นหละ...แต่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน…”
“เล่ามา…”
“หะ…”
“นายอ้วนบอกให้เล่าก็เล่าสิ...รึอยากจะฝันร้ายต่อไปเรื่อยๆ…”
ได้ยินดังนั้นเขาจึงเปิดปาก แม้ยังงุนงงอยู่ก็ตาม “ช่างทำกุญแจน่ะ ...พอดีว่ากุญแจที่ร้านมันเสียเลยเรียกคนมาซ่อม แล้วอาสามก็แนะนำช่างมาคนหนึ่ง ไม่รู้ชื่อจริงเขาชื่ออะไรแต่อาสามบอกให้เรียกเขาว่า เสี่ยวเกอ เป็นคนนิ่งๆ ไม่หือไม่อือ นั่งเงียบเป็นสากกระเบือ แต่ทำงานดีมาก...พอซ่อมกุญแจในร้านเสร็จ ฉันนึกได้ว่าพวกกุญแจลูกบิดในบ้านมันก็เก่าจะพังแหล่ไม่พังแหล่ ไหนๆมีช่างมาแล้ว เปลี่ยนๆไปเลยก็ดี...ฉันก็เลยให้เขาไปทำกุญแจที่บ้าน…”
“แล้วไงต่อ…”
“ก็ไม่ยังไง เขาก็ไปเปลี่ยนกุญแจที่บ้านให้ ตอนแรกก็กะเปลี่ยนแค่ไม่กี่ที่...แต่เขาแนะนำว่าควรเปลี่ยนใหม่ทั้งบ้าน ฉันก็เลยตามเลย เขานัดมาทำให้วันถัดมา ฉันก็อยู่บ้านรอ วันถัดมาเขาก็มาเปลี่ยนให้จนเสร็จ ส่งมอบลูกกุญแจ จ่ายค่าจ้าง จบ...แยกย้าย…”
“นายรู้ที่มาที่ไปของช่างทำกุญแจคนนี้ไหม…”
“ไม่อ่ะ...อาสามแนะนำมา...น่าจะไว้ใจได้ ฉันเลยไม่ได้สืบค้นอะไรมาก…”
“นายนี่มัน…” นายอ้วนถอนหายใจ เขาอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่ ท่าทีแบบนั้นมันอะไรกัน แต่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรต่อกลับเปลี่ยนเรื่องพูดแทน
“ฉันคิดว่าที่นายฝันร้าย...อาจจะไม่ใช่ฝันร้าย…”
“หะ…”
“มาพิสูจน์กัน…”
นายอ้วนพูดขึ้นแล้วนั่งลงสาธยายแผนการยาวเหยียดของตัวเอง โดยที่เขาได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ
.
.
.
.
.
ไม่มีเวลาแล้ว
ร่างสูงโปร่งในเสื้อฮู้ดสีดำซึ่งยืนนิ่งอยู่ในตรอกแคบๆข้างร้านขายของเก่าของอู๋เสียพึมพำ
...อีกฝ่ายเริ่มรู้ตัวแล้วแถมยังมีคนอื่นเข้ามาสอด
ไม่มีเวลาแล้ว
ชายคนนั้นได้แต่คิดในใจ ขณะแอบฟังเสียงสนทนาของคนทั้งสองที่อยู่ในร้าน
...สงสัยคงต้องทำให้จบภายในคืนนี้
ร่างโปร่งที่คลุมฮู้ดสีดำ สะบัดตัวหันหลังกลับแล้วเดินหายไปในตรอกอย่างรวดเร็ว
.
.
.
.
.
สุดท้าย อู๋เสียก็ต้องทำตามแผนการที่นายอ้วนวางไว้อย่างเสียไม่ได้เพราะความอยากรู้อยากเห็นว่าความฝันนั่นแท้จริงแล้วคืออะไร
...ข้อสันนิษฐานของนายอ้วนที่ว่ามีคนย่องเข้าหาเขาในยามค่ำคืนทำให้เขาขนลุก แต่เขาไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจาก พิสูจน์มัน
แผนการคือ คืนนี้นายอ้วนจะซุ่มอยู่ในรถนอกรั้วบ้าน แผนการคือให้เขาแกล้งทำเป็นหลับดู ซึ่งถ้ามีคนย่องเข้าหา เขาจะรู้และกดโทรฉุกเฉินเรียกนายอ้วน เขายกกุญแจสำรองให้อีกฝ่ายไปเผื่อมีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่นายอ้วนคาดเดา อีกฝ่ายจะได้เข้ามาช่วย
ถ้ามันเป็นแค่ฝันร้ายเพราะความฟุ้งซ่านของเขา มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น...และเขาควรไปเข้าพบจิตแพทย์
เขาหวัง...ขอให้มันเป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่ง…
เขาดับไฟนอน รออยู่นาน จนแทบจะเคลิ้มหลับเพราะร่างกายอ่อนเพลียหลังจากถ่างตาตื่น ไม่หลับไม่นอนอยู่สามวันเพราะกลัวความฝัน แต่เขากลับได้ยินเสียงลั่นของกลอนลูกบิด
เขาหรี่ตามอง เห็นบานประตูเปิดออกในแสงสว่างรางๆ แสร้งหลับตาปี๋ รู้สึกถึงใครบางคนขยับเข้าใกล้แต่แทบไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า
เขานึกถึงนายอ้วนเลื่อนมือคลำหาโทรศัพท์ที่เขาเอาวางไว้ข้างตัวใต้ผ้าห่ม
แต่คนที่เข้ามาเหมือนจะรู้ทัน ผ้าห่มที่คลุมตัวเขาถูกสะบัดออกมือสองข้างถูกจับตรึงเหนือศีรษะ…
เขาเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ แทบจะหวีดร้องออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของคนๆหนึ่งในระยะประชิด
“นะ...นาย…”
อีกฝ่ายปรายตามองนิ่ง รวบมือเขาสองข้างด้วยมือข้างเดียว อู๋เสียพยายามจะบิดออกแต่มือนี้กลับแข็งแรงกว่าที่คาดไว้ ได้แต่มองอีกฝ่ายเอามือที่ว่างหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาดู
ในความมืด...มีเพียงแสงสว่างจากหน้ามือถือซึ่งโชว์ว่ากำลังโทรออกหานายอ้วน แสงสีขาวอมฟ้าส่องใบหน้าคมสันที่ขาวซีดล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีดำซอยสั้นของเสี่ยวเกอ...ช่างทำกุญแจคนนั้น ใบหน้าดูดีซึ่งมักจะมีแต่แววเฉยเมยวันนี้แลดูประหลาดไป ยิ่งมีแสงนวลส่องเน้นใบหน้าแบบนี้ ยิ่งดูหลอนจนชวนขนลุก
“เสี่ยวเกอ…”
เขาเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่ว ข้อมือถูกจับยึดไว้แน่นจนเริ่มเจ็บ
“ถ้าหวังจะให้เขามาช่วย...นายคิดผิด…” เสี่ยวเกอพูดเรียบๆด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ แต่นัยน์ตาสีดำกลับเปล่งประกายประหลาด อู๋เสียรู้สึกได้ว่าร่างกายกำลังสั่นด้วยความหวาดกลัวต่อสายตานั้น “...กุญแจสำรองชุดนั้น เป็นของปลอม”
“นาย…” เขาอุทาน ในหัวหมุนติ้วด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย สุดท้ายกลั่นออกมาได้แค่คำว่า “ทำไม…”
“เพราะฉันคลั่งไคล้ในตัวนาย…” อีกฝ่ายกระซิบด้วยเสียงแหบพร่า มือซึ่งมีสองนิ้วยาวอย่างผิดปกติวางมือถือเขาลง ใบหน้านั้นลดลงมาที่ลำคอของเขา
ก่อนเขาจะสัมผัสได้ถึงเรียวลิ้มเปียกชื้นไล้เลียตามแนวข้างลำคอของเขา ไล้ละจนถึงกระดูกไหปลาร้าที่โผล่พ้นเสื้อนอน สลับกับความรู้สึกเจ็บแปลบจากคมฟันขบกัดและแรงดูดดุนของริมฝีปากได้รูป
ขนเขาลุกชันทั่วทั้งตัว ยกขาหมายจะฟาดเข้าที่กลางลำตัวให้อีกฝ่ายกระเด็นออกไป แต่ฝ่ายนั้นรู้ทัน มือซึ่งลูบไล้ช่วงเอวก็เปลี่ยนมาจับขาเขาเอาไว้ ยึดให้เกาะเหนี่ยวที่สะโพกของอีกฝ่ายก่อนร่างสูงโปร่งนั้นจะขยับตัวเข้าแทรกกลางหว่างขาของเขา
“อย่า…” อีกฝ่ายปรามเสียงต่ำ แต่เขาไม่สนใจฟัง สบโอกาสที่คนด้านบนเผลอคลายมือลงนิดหน่อย สะบัดมือสองข้างออกจากพันธนาการ กำหมัดแน่นแล้วซัดผลัวะเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลานั่น
เขาคิดว่าต่อยไปเต็มแรงจนน่าจะทำให้อีกฝ่ายเซออกไปได้แต่แรงหมัดเพียงแค่ทำให้ใบหน้าของเสี่ยวเกอสะบัดไปด้านข้างเท่านั้น ตัวของอีกฝ่ายยังคงแทรกอยู่ตรงหว่างขาเขานิ่ง มือข้างหนึ่งยังคงยึดขาเขาไว้แน่น
...และบีบเค้นเต็มแรง จนเขาเผลอร้องครางออกมาด้วยความเจ็บ เมื่ออีกฝ่ายหันหน้ากลับมา มุมปากมีของเหลวสีแดงสดหยดลงมาอันน่าจะเป็นผลจากแรงหมัดของเขา ใบหน้าหล่อเหลาที่เขาเคยนึกชมตอนพบกันครั้งแรกว่าดูดีเกินจะเป็นแค่ช่างซ่อมกุญแจธรรมดาเรียบตึง แววตาเป็นประกายวาววับ ขณะยกหลังมือขึ้นเช็ดเลือด
“ฉันไม่อยากจะทำแบบนี้เลย...แต่นายรั้นเกินไปแล้ว…”
เสี่ยวเกอคนนั้นเอ่ยเสียงเรียบ เขาเสียวสันหลังวาบ ตื่นตะลึงจนได้แต่นอนนิ่ง ขณะมองอีกฝ่ายควักเอาสิ่งของชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง
.
.
.
.
.
นายอ้วนสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา เขาเผลอหลับไปขณะที่ดำเนินแผนการพิสูจน์ความจริงที่วางเอาไว้กับนายน้อยสาม
พอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นดู ก็พบว่ามีสายโทรเข้าสายหนึ่งเป็นของอู๋เสีย
เขากระเด้งตัวขึ้นนั่ง ลนลานคว้ากุญแจสำรองที่เอามาจากอีกฝ่าย วิ่งห้อไปที่หน้าบ้านอู๋เสียซึ่งปิดไฟเงียบสนิท
...แต่กุญแจกลับไม่สามารถไขได้
ในใจนายอ้วนร้อนรน เป็นห่วงกังวล...สิ่งที่เขาหวั่นกลัวกลายเป็นจริงแล้ว มีคนพยายามปองร้ายอู๋เสียอยู่จริงๆ ถึงจะไม่ใช่การหมายชีวิตแต่ก็น่าหวาดกลัวพอๆกัน
เขามือไม้สั่นขณะหยิบโทรศัพท์โทรเข้าเครื่องของอู๋เสีย…
เขาภาวนาให้อีกฝ่ายรับสาย หวังว่าเขาคิดมากไปเอง อู๋เสียอาจจะแค่เผลอนอนดิ้นไปโดนโทรศัพท์…
รออยู่อึดใจ เขาจึงได้ยินเสียงสัญญาณตอบรับ ตามมาด้วยเสียงของเพื่อนของเขา กล้ามเนื้อที่เขม็งเกลียวจึงค่อยคลายตัวลง
“นะ...นายอ้วน…” เสียงของอู๋เสียดังมาจากปลายสาย เจือเสียงหอบหายใจ เขาฟังแล้วรู้สึกประหลาด
“อู๋เสีย...เป็นอะไรรึเปล่า...มีอะไรเกิดขึ้น…”
“เป็นเขา...เขารู้…”
เสียงจากปลายสายทำให้นายอ้วนตัวชาวาบ เสียงเสียดสีแผ่วเบาและเสียงครางที่เล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์บ่งบอกชัดเจนว่าสิ่งที่เขาหวาดกลัวเกิดขึ้นแล้ว และเขาไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนสนิทไว้ได้ทัน
“เขาปลอมกุญแจ…”
เสียงของอู๋เสียขาดหาย แล้วถูกแทนที่ด้วยอีกเสียงหนึ่ง
“กลับไปซะ…” น้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงแววข่มขู่คุกคาม
เสียงสะอื้นที่แทรกเข้ามาทำให้นายอ้วนลังเลใจ
“ฉันจะไม่ทำอะไรรุนแรง ฉันไม่ได้มุ่งร้ายหรือหมายชีวิตเขา ขอให้นายวางใจ...อย่าแจ้งตำรวจ ถ้านายไม่อยากให้เพื่อนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง...หลังจากนี้แล้วฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง…”
แล้วสายก็ถูกตัดไป…
นายอ้วนยืนนิ่งอยู่หน้าประตูบ้านเนิ่นนาน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ควรจะทำตามที่ผู้ชายคนนั้นบอก อยู่เฉยๆ รับรู้ว่าเพื่อนถูกช่างทำกุญแจโรคจิตช่วงชิงพรหมจรรย์ไปแล้วปล่อยให้เขาไปจัดการเรื่องกันเอาเอง หรือจะโทรแจ้งตำรวจซึ่งเสี่ยงต่อความอับอายขายขี้หน้ายันหลานบวชของเพื่อนตัวเอง
...จนกระทั่งแว่วเสียงหนึ่งจากชั้นบนของบ้าน นายอ้วนจึงเผ่นออกจากที่นั่นโดยไม่เหลียวหลัง
ในใจอดไม่ได้ที่จะนึก...อู๋ซันเสิ่งผู้หวงหลานยังกับอะไรดีคนนั้นรู้ตัวหรือเปล่าว่าชักศึกเข้าหาหลานตัวเองเสียแล้ว
.
.
.
.
.
จางฉี่หลิงมองร่างขาวเนียนที่ถูกเปิดเปลือยอยู่เบื้องหน้าด้วยความกระหาย ยกขาเรียวซึ่งถูกรัดไว้ด้วยปลอกหนังสีดำทีมีเชือกผูกรั้งกับขาเตียงขึ้นประทับจูบ
ในที่สุด เขาก็พบคนที่เหมือนกับแม่กุญแจ...กระตุ้นให้เขา กุญแจของเขาอยากจะไขตัวตนของอีกฝ่าย เปิดตัวตนของอีฝ่ายออกมาให้หมด
เขาทำงานให้อู๋ซันเสิ่งมาได้ซักพักแล้ว ชายคนนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจค้าขายวัตถุโบราณซึ่งมีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดาเพราะตระกูลอู๋นั้นแท้จริงแล้วเป็นตระกูลโจรลักโขมยของเก่า ทั้งจากสุสานและจากพิพิธภัณฑ์ เขาซึ่งมีความชำนาญในด้านกลไกล็อก กุญแจต่างๆจึงถูกฝ่ายนั้นดึงตัวมาเป็นพวก
เรื่องมันเริ่มจากเขาถูกอู๋ซันเสิ่งเรียกใช้ด้วยเรื่องที่เขามองว่าไร้สาระ คือการทำหน้าที่เป็นช่างซ่อมกุญแจ เนื่องจากกุญแจในร้านขายของของหลานชายมีปัญหา
แต่พอได้พบกับหลานชายคนที่ว่า เรื่องที่เขาคิดว่าไร้สาระก็เปลี่ยนไป...หลานชายสกุลอู๋คนนี้ช่างดูสงบเสงี่ยม ไร้คราบของความเป็นคนตระกูลอู๋โดยสิ้นเชิง แต่เมื่อได้ใกล้ชิดจึงรู้ว่าลึกๆภายใน คนๆนี้เก็บซ่อนความรู้สึกนึกคิดอะไรหลายๆอย่างเอาไว้มากมายเลยทีเดียว สังเกตได้ว่าอู๋เสียคนนี้มักชอบมีสีหน้าครุ่นคิด บางครั้งก็แสดงสีหน้าแปลกๆยามเมื่ออยู่คนเดียวลำพัง
...เขาเริ่มปรารถนาจะเห็นตัวตนที่อีกฝ่ายเก็บงำเอาไว้
และโอกาสก็หล่นลงบนตัก เมื่ออู๋เสียพึงพอใจในงานของเขาและร้องขอให้เขาไปเปลี่ยนกุญแจที่บ้าน
อู๋ซันเสิ่งดูไม่พอใจนัก แต่ก็ขัดหลานชายคนเดียวไม่ได้ อันที่จริงตั้งแต่ก่อนเริ่มงานอีกฝ่ายก็เกริ่นๆเอาไว้แล้วว่าอย่าพยายามเข้าไปยุ่มย่ามหรือเผยอะไรให้กับหลานชายเขานัก
...แต่เขาไม่สน
เขาโน้มน้าวให้อู๋เสียเปลี่ยนกุญแจใหม่ทั้งบ้านและเพราะว่าตัวเขาเป็นช่าง จึงเก็บกุญแจสำรองของบ้านหลังนี้ไว้ที่ตัวเองชุดหนึ่ง ให้กุญแจจริงกับอู๋เสียแล้วก็กุญแจสำรองปลอมอีกชุดหนึ่ง
หลังจากวันนั้นก็เป็นเขาย่องเข้าหาอีกฝ่ายมาตลอด…
ตอนแรกก็แค่อยากมองเฉยๆ แต่มือดันเผลอไปลวนลามร่างนิ่มๆนั่นเสียได้ ยิ่งเห็นใบหน้าเคลิบเคลิ้มยามที่เขาสัมผัส ใบหน้าเย้ายวนยามถูกกระตุ้นให้ถึงจุดสูงสุดของคนไร้สติแต่กลับมีปฏิกิริยาตอบสนองได้น่ารักเขายิ่งเตลิด แต่ยังดีที่เขายังยั้งตัวเองไว้ได้ทัน ไม่ได้ล่วงเกินอีกฝ่ายจนถึงที่สุด จัดการกลบเกลื่อนร่องรอยของตัวเอง ทำให้เหมือนว่าอีกฝ่ายแค่ฝันไป
เส้นความอดทนเขาค่อยๆถูกบั่นทอนลงเมื่ออู๋เสียพยายามหนีจากเขาด้วยการไปหาหญิงสาว เขาตามสะกดรอยก่อกวนจนอู๋เสียไม่มีสมาธิ ตอนดึกก็เข้าไปกลั่นแกล้งร่างกายที่น่าปรารถนานี้ ใจจริงคิดอยากจะเล่นกับร่างกายนี้ไปเรื่อยๆจนเริ่มคุ้นชิน แล้วเขาจึงจะไขกุญแจ แต่การพยายามหนีเขาด้วยการไม่หลับไม่นอนแถมยังดึงเอาคนอื่นมาช่วยแบบนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ
...คราวนี้ถึงอีกฝ่ายจะไม่ชิน เขาก็จะไขตัวตนอีกฝ่ายออกมา เปิดเปลือยทุกส่วน เข้าสัมผัสในส่วนที่ลึกที่สุด ตีตราร่างกายนี้และครอบครองเป็นเจ้าของ
ทำให้แม่กุญแจอู๋เสียนี้คุ้นชินต่อการสัมผัสลูกกุญแจของจางฉี่หลิง…
“ปล่อย…” เสียงหวานครางเครือ ผสานกับเสียงกุญแจมือกระทบเหล็กหัวเตียง
เพราะในตอนแรกอู๋เสียขัดขืน...เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจับอีกฝ่ายตรึงกับเตียงด้วยกุญแจมือและปลอกรัดหนัง
อู๋เสียนั้นถูกล็อกอยู่ด้วยความหวาดหวั่น
...เขามอบจุมพิตแตะแต้มร่างกาย มอบสัมผัสที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่มีต่ออีกฝ่าย ไขเอาตัวตนอันเย้ายวนของอีกฝ่ายออกมาอย่างช้าๆ เปิดล็อกจิตใจอันหวาดหวั่นด้วยความวาบหวามอย่างใจเย็น
เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากอันแห้งผากของตัวเอง มองดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำน้ำ ใบหน้าน่ารักแดงซ่าน ร่างกายขาวเนียนที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อเพราะเลือดสูบฉีด มีรอยขบกัดและรอยตีตราสีแดงจัดแตะแต้มตามร่างกาย คราบของเหลวขุ่นขาวเปรอะตรงหว่างขา และหน้าท้องราบ
กุญแจของเขาถูกโอบล้อมด้วยร่องหลืบของแม่กุญแจอันอุ่นุ่มและรัดแน่น จางฉี่หลิงขยับสะโพกสองสามครั้ง ร่างข้างใต้แอ่นโค้งขึ้นด้วยความรัญจวนใจที่ได้รับ ริมฝีปากจิ้มลิ้มครวญเสียงหวาน ไม่เหลือท่าทีต่อต้านในตอนแรก
...เขาปลดกุญแจมือให้อีกฝ่าย ตามด้วยปลอกหนัง
ของพวกนี้ไม่จำเป็นแล้ว ...แม่กุญแจที่ปิดตายถูกเปิดออกต่อหน้าเขาแล้ว
เขาโถมกายเข้าหาอู๋เสีย มองแขนเรียวขาวอ่อนแรงโอบรับเขา เรียวขาที่อ้าออกกว้างรับตัวตนของเขาไว้โดยไม่ผลักไส
ขอเขาเพลิดเพลินกับการไขกุญแจอันน่าหลงใหลนี้อีกซักพักก็แล้วกัน...จางฉี่หลิงคิดขณะใช้ปลายนิ้วลูบไล้ผิวสีข้างนิ่มมือของคนใต้ร่าง
...แล้วเขาค่อยไปรบกับคุณอาขี้หวงคนนั้นเพื่อให้ได้แม่กุญแจคนนี้มาอยู่ในครอบครองอย่างสมบูรณ์…
END
Locksmith แปลว่าช่างทำกุญแจค่ะ
...หาศัพท์เกี่ยวกับ Lock แล้วไปเจอ
แล้วจู่ๆก็อยากเขียนคิโม่ยจางฉี่หลิงขึ้นมา...ก็เลยกลายเป็นพลอตแบบนี้ แบบที่คุณช่างทำกุญแจแอบสตอล์กลูกค้า
แต่จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ายังโรคจิตไม่พอ//อีห่านี่...
...เดลี่ช่วงนี้มีแต่หัวข้อที่ชวนให้จิตแตกเหลือเกินค่ะ...//หรือความจริงแล้วอีนี่ควรวางถุงกาวลงแล้วตั้งสติก่อน?
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3634
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [OS]#dmbjdaily 29 days left (Lock)(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)(R-18)
เสียวเกอเป็นสโตรกเกอร์โรคจิต ชอบอ่ะค่าาา อยากให้มีต่อจัง
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [OS]#dmbjdaily 29 days left (Lock)(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)(R-18)
//q// อะเฮื้อะะะะะ แอร็ยยยยยยยยยยยยยย
ฟีลดาร์กๆ ฮือว โม่ยดีค่ะ /ซับ
ฟีลดาร์กๆ ฮือว โม่ยดีค่ะ /ซับ
Cathareen- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 149
Points : 3595
Join date : 24/12/2014
Re: [OS]#dmbjdaily 29 days left (Lock)(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)(R-18)
อ่านแล้วนึกถึงคดีข่มขืนที่เคยอ่านเลยครับ
เป็นเคสผู้ชายฝรั่งหน้าตาดีหลายคดี ที่เป็นนักข่มขืนต่อเนื่อง ทั้งๆที่มีผู้ต้องสงสัยพร้อม ตำรวจมั่นใจว่าน่าจะเป็นคนร้าย แต่จับไม่ได้เพราะไม่มีคนแจ้งความ ถถถถ
คนใบ้จางแอดวานส์กลายเป็นคนโรคจิตจางซะแล้ว
เปลี่ยนจ็อบแล้วดาร์คขึ้นนะ ง้ากกกกกกก ผมชอบบบบบ
คือหน้าตาดีอะไรก็ง่าย ถถถถถถ
ไขกุญแจ.. ไขกุญแจ ไขกุญแจ ไขกุญ--- //พรวดดดดดดด
ล็อคสมิทจางงงงงงงงงงง นายเฟติชแม่กุญแจสิน้าาาาา ฟ้าคคค //นายน้อยสรุปก็ยอมเพราะแพ้หน้าตาเสี่ยวเกอชิมิ ฟฟฟฟฟ
เป็นเคสผู้ชายฝรั่งหน้าตาดีหลายคดี ที่เป็นนักข่มขืนต่อเนื่อง ทั้งๆที่มีผู้ต้องสงสัยพร้อม ตำรวจมั่นใจว่าน่าจะเป็นคนร้าย แต่จับไม่ได้เพราะไม่มีคนแจ้งความ ถถถถ
คนใบ้จางแอดวานส์กลายเป็นคนโรคจิตจางซะแล้ว
เปลี่ยนจ็อบแล้วดาร์คขึ้นนะ ง้ากกกกกกก ผมชอบบบบบ
คือหน้าตาดีอะไรก็ง่าย ถถถถถถ
ไขกุญแจ.. ไขกุญแจ ไขกุญแจ ไขกุญ--- //พรวดดดดดดด
ล็อคสมิทจางงงงงงงงงงง นายเฟติชแม่กุญแจสิน้าาาาา ฟ้าคคค //นายน้อยสรุปก็ยอมเพราะแพ้หน้าตาเสี่ยวเกอชิมิ ฟฟฟฟฟ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [OS]#dmbjdaily 29 days left (Lock)(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)(R-18)
โรคจิตเจ้าขาเอ๊ยยยยยยยยยย โรคจิตตตตตตตตต
แอร๊ยยยยยยย นายน้อย กลัวแทนนายน้อย //มือถือกล้องอยู่มุมห้อง
เสี่ยวเกอนายมันอากงตัวร้ายยยยยย
แอร๊ยยยยยยย นายน้อย กลัวแทนนายน้อย //มือถือกล้องอยู่มุมห้อง
เสี่ยวเกอนายมันอากงตัวร้ายยยยยย
poypoy- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 105
Points : 3575
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านตระกูลอู๋ ใต้เตียงนายน้อยสาม
Re: [OS]#dmbjdaily 29 days left (Lock)(AU) Mr.Locksmith (ผิงเสีย)(R-18)
คิโม่ยสุดๆไปเลยยยย ได้เห็นนายจางรัวแกนายน้อยแบบนี้รู้สึกฟินดีจริงๆ//ไอ้โรคจิต!!!
HaiSaka- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 20
Points : 3319
Join date : 17/04/2015
Similar topics
» [OS] #dmbjdaily 155 days left : (sorry) อู๋เสียผิดเองที่หล่อมากไป (ผิงเสีย)
» [OS]#dmbjdaily 29 days left : LOCK [พานสาม]
» [Drabble]#dmbjdaily 29 days left (Lock) Hope to Keep You Save (ว่านวัง, 15, เอ้อร์เหลียน)
» [OS] #dmbjdaily 59 days left (Left) ตำแหน่งสำคัญ [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily 30 days left : Alone [ผิงเสีย]
» [OS]#dmbjdaily 29 days left : LOCK [พานสาม]
» [Drabble]#dmbjdaily 29 days left (Lock) Hope to Keep You Save (ว่านวัง, 15, เอ้อร์เหลียน)
» [OS] #dmbjdaily 59 days left (Left) ตำแหน่งสำคัญ [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily 30 days left : Alone [ผิงเสีย]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth