Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS]#dmbjdaily 31 days left : Lipstick (กลั่นแกล้ง)
4 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS]#dmbjdaily 31 days left : Lipstick (กลั่นแกล้ง)
#dmbjdaily 31 days left : Lipstick (กลั่นแกล้ง)
จะเทพสวรรค์องค์ใดกลั่นแกล้งก็ไม่อาจทราบได้...
แต่ตอนนี้บ้านนายน้อยสามแห่งสกุลอู๋กำลังจะลุกเป็นไฟเพราะใครบางคน...
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เจ้าของบ้านเองนั่นแหละ!!
ร่างสูงที่มีผมสีดำสนิทมองมาอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมอีกคนต้องโกรธ ในขณะที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าความเฉยชานั้นคือชนวนระเบิดชั้นดีสำหรับอู๋เสียที่นั่งกระวนกระวายใจรอมาตลอดคืน
ก็นึกอยู่ว่าไปหลงทางที่ไหนรึเปล่า เพราะสกิลการใช้ชีวิตแบบคนปกติไม่ค่อยมี แต่นี่อะไร...
รอยลิปสติก!!
เขาอยากจะกรี๊ดเสียลั่นบ้าน (แต่ทำไม่ได้และไม่อยากทำ) เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าไปได้รอยมาเมื่อไหร่ แต่ที่น่าหงุดหงิดมาที่สุดก็คือ...
เจ้าของรอยนั่นเหมือนจงใจทำทับรอยที่เขาทำเอาไว้เมื่อวันก่อน...
น่าโมโห...
“นายไม่รู้จริงๆหรือไม่อยากพูดกันแน่ว่ารอยนี้มาได้ยังไง” เขารู้ดีว่าคนอย่างจางฉี่หลิง ต่อให้เอาชะแลงมางัดปากแต่ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่มีทางเค้นออกมาได้ เพราะงั้นเลยไม่รู้ว่าตกลงใจจริงของหมอนี่รู้หรือไม่รู้กันแน่ว่าใครทำ
“ฉันไม่รู้”
“เฮอะ! งั้นวันนี้ไปนอนข้างนอก!” แม้อากาศในหน้าหนาวจะไม่เอื้อแก่การนอนข้างนอกขนาดไหน แต่นายน้อยสามก็ไม่คิดใจอ่อน เพราะอารมณ์หงุดหงิดมันพุ่งขึ้นสูงมากจนแม้แต่นายอ้วนหวังที่มาเที่ยวบ้านผิดเวลาก็ไม่สามารถดึงลงมาให้เย็นได้ เสี่ยอ้วนถอนหายใจแบบปลงๆแล้วตบบ่าน้องชายอีกคนเบาๆ
“ไปทำอีท่าไหนมาล่ะเสี่ยวเกอ? อยากเที่ยวหญิงก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่น่าจะรู้เสียหน่อยว่าเทียนเจินมันขี้หึง?” พอเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วใส่เหมือนไม่เข้าใจ อะไรๆก็ชักจะไม่เข้าเค้า เขาจึงตัดสินใจถามตรงๆ
“น้องเสี่ยวเกอ... เสี่ยถามจริงๆเถอะนะ เมื่อคืนไปไหนมา?”
“เฮยเสียจื่อเรียกไป”
“หือ? ไปที่ไหน?”
“โรงงิ้ว” คำตอบยังคงห้วนสั้น แต่ทำไม๊ ทำไมเหมือนจะเริ่มจับใจความได้ เพราะเพิ่งได้ยินข่าวว่าคุณชายเก้าแห่งบ้านสกุลเซี่ยมาเล่นงิ้วที่หังโจวน่ะสิ งานนี้มีเฮแหงๆ
ถ้าคุณชายนั่นเล่นไม่ซื่อ ทางนี้ก็บื้อเหลือเชื่อที่ตามเกมไม่ทัน...
ด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีเสี่ยอ้วนเลยตั้งใจจะทำให้ทั้งสองคนคืนดีกัน อย่างน้อยก็ก่อนคืนนี้ ไม่งั้นน้องเสี่ยวเกอคงได้นอนข้างนอกแล้วหนาวตายขึ้นมาจริงๆ จนเทียนเจินมาร้องไห้ฟูมฟายกะเสี่ยอีกรอบ
ไอ้นี่ก็เหลือเกิน โกรธเสียมากมาย ถ้าพ่อกิเลนทิ้งไปจริงๆละจะร้องไม่ออก
เดินยังไม่ทันจะถึงโรงงิ้วก็เจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาในระยะที่พ้นทะเลสาบซีหูมาไม่เท่าไหร่
“อ่าว! คนใบ้จาง มาทำอะไรแถวนี้? นายอ้วนด้วย มาเดทกันสองคนนายน้อยสามไม่ว่าหรอครับ?” เดทบ้านเตี่ยเอ็งน่ะสิ! มองยังไงของมัน นายแว่นดำหรืออาจารย์ของอู๋เสียกำลังยืนซื้อเสี่ยวหลงเปา (ซาลาเปาหมูลูกเล็กมีน้ำซุปอยู่ด้านใน) ของขึ้นชื่อของหังโจวอยู่ ไหนๆก็ได้เจอพยานปากที่หนึ่งโดยบังเอิญแล้ว เสี่ยก็ขอทำหน้าที่นักสืบต่อไป
“เมื่อคืนนายอยู่กับน้องเสี่ยวเกอใช่มั้ย?”
“ครับ? ทำไมหรือ?”
“พวกนายไปไหนกันมา”
“ความลับครับ” จบข่าว... ตอบมาอย่างนี้เอารองเท้ามาฟาดหน้ากันเลยเถอะ นี่กวนตีนใช่มั้ย!!!
“ไม่ใช่ความลับอะไร” จู่ๆน้องเสี่ยวเกอก็พูดทะลุขึ้นมากลางปล้อง ทำเอานายแว่นถึงกับทำท่าตกใจ
“นายยอมเปิดปากพูดหรอว่าไปที่แบบนั้นมา”
“ไปโรงงิ้ว...”
“อ่านะ... ก็สถานที่กลางคืนไง แบบว่า...” จะพูดให้มันกำกวมทำไมมิทราบ เสี่ยก็นึกว่าพวกนายไปหาหญิงจริงๆแล้วไม่ชวนเสี่ย ชิชะ อุ๊ย! หลุดความในใจ...
“แล้วไปทำอะไรกัน?”
“อ่อ ผมอยู่กับคุณชายเซี่ยน่ะครับ ส่วนคนใบ้จางคุณชายเซี่ยให้ผมเรียกไปหา” นั่นไง ทีเสี่ยซื้อหวยล่ะดันไม่ถูก แต่นึกไม่ถึงจริงๆว่าพ่อเชิ้ตชมพูนั่นจะเล่นวิธีแสบสันสะท้านทรวงแบบนี้
มารยาหญิงสมหญิงไม่อิงนิยายเลย ถ้าให้ทายดีไม่ดีเจ้าของรอยลิปสติกนั่นก็คงจะเป็นคุณชายเก้านั่นแหละ
“อย่าบอกนะว่าเรื่องแค่นั้นถึงกับโดนไล่ออกจากบ้าน?”
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ” พอเล่าต้นสายปลายเหตุให้ฟัง นายนั่นก็หัวเราะแบบไม่ไว้หน้าแล้วบอกเสียชัดเจนว่า คุณชายเซี่ยเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นสุดๆ คงจะยอมไม่ได้ที่พี่ชายโดนแย่งไปสินะ
“แบบนี้แค่เอานายไปยืนยันเทียนเจินก็คงหายโกรธแล้วสินะ”
“คิดง่ายไปแล้วครับนายอ้วน ถึงนายน้อยสามจะเข้าใจ แต่คุณชายไม่เลิกราหรอกนะครับ นายจะทำยังไงล่ะคนใบ้จาง?” แม้คำพูดเหมือนจะเป็นห่วงแต่ก็มีน้ำเสียงหยอกเย้าราวกับสนุกสนานกับสถานการณ์ตรงหน้าเสียเต็มประดา
“เรื่องอู๋เสียฉันจัดการเองได้ พวกนายไม่ต้องยุ่ง แต่เรื่องอื่น คงต้องฝากนายจัดการ” เฮยเสียจื่อยิ้มกว้างอย่างถูกใจกับคำพูดนั้น และก่อนที่นายอ้วนหวังจะทันได้รู้ตัว เขาก็โดนลากเข้าไปอยู่ในแผนการนี้เรียบร้อยแล้ว
สองวันต่อมาในตอนเย็นพวกเขาก็นัดเจอกันที่โรงงิ้ว เพื่อทานข้าวเย็นไปด้วยดูงิ้วไปด้วยในที่นั่งพิเศษที่คุณชายเซี่ยยอมจัดเอาไว้ให้เพื่อพี่ชายสุดที่รักโดยเฉพาะ ไม่มีใครอยากรู้ว่าจางฉี่หลิงใช้วิธีใดง้อนายน้อยสามเพราะดูจากอาการหน้าแดงหูแดงแล้วก็พอจะเดาได้ไม่อยาก
และขืนถามมากไปอาจจะมีพลองบินลอยมาแถวๆนี้ก็เป็นได้
“นายบอกว่าจะพามาเจอเจ้าของรอยลิปสติกนั่นไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมมาที่โรงงิ้วที่เสี่ยวฮัวเล่นล่ะ?” แม้จะยังคงท่าทีงอนไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วอู๋เสียเหมือนจะหายโกรธโดยสิ้นเชิงไปแล้วกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
“เขาอยู่ที่นี่” เพราะพูดน้อยเกินไปเสี่ยอ้วนเลยต้องทำตัวเป็นเครื่องขยายความคิดของคนผมดำแทน
“พาเทียนเจินมาดูคุณชายเก้าเล่นงิ้วด้วย แล้วก็แก้ความเข้าใจผิดไปด้วยในตัวไง”
“เหรอ” เจ้าตัวนั่งดื่มชาไปเงียบๆ ไม่เหมือนนายแว่นที่ตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่อาจทราบได้ คุณชายเก้าเลี้ยงไม่ดีหรืออย่างไร เจอกันแต่ละทีกระซวกข้าวไม่มีเกรงใจคนมองเลย
“นั่นไงๆ คุณชายเก้าออกมาแล้ว” สาวสวยหน้าหวานคมกำลังออกมารำทวนด้วยความองอาจและสวยงาม สะกดทุกสายตาคนในโรงงิ้วให้เป็นหนึ่งเดียว เชื่อเลยว่าค่าตัวคุณชายคนนี้อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าหกหลักหรอก
หลังการแสดง คุณชายที่ยังไม่แม้แต่จะล้างหน้าก็มานั่งร่วมวงกับพวกเขาด้วยชุดตัวนางเต็มยศ
“เคยได้ยินมาว่าสมัยเด็กเทียนเจินไปขอคุณชายเซี่ยแต่งงาน มาเห็นแบบนี้แสดงว่าท่าจะจริงสินะเนี่ย”
“จริงสิ...แล้วฉันก็ตอบตกลงไปแล้วด้วย” รอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษส่งตรงมาจากสกุลเซี่ย ให้ใครบางคนที่ตอนนี้ก็ยังทำหน้ามึนไม่รับรู้อะไรอยู่
“ได้ข่าวว่านอกใจอาเฮียฉันหรอ? ถ้าไม่ใส่ใจฉันจะเอาคืนล่ะนะ”
“ไม่ได้บอกอย่างนั้น” นับเป็นคำแรกที่เมินโหยวผิงเปิกปากหลังจากที่เข้ามาในโรงงิ้ว สายตาวาวๆนั่นแลดูอันตรายขึ้นมาเยอะพอดูเมื่อไม่ได้จับจ้องอยู่ที่อู๋เสีย
“แหมคุณชาย วันนั้นก็นั่งแบบนี้ไม่ใช่หรอครับ? ที่เรียกเรามาเมากันทั้งคืนน่ะ” นายแว่นดำเริ่มประเด็นตามแผน คุณชายเซี่ยถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วถลึงตาใส่
“วันไหนหรอ? ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”
“เมื่อสองวันก่อนไงเทียนเจิน ที่เสี่ยไปหานายที่บ้าน เสี่ยวเกอออกไปข้างนอกใช่มั้ยล่ะ?” นายอ้วนชงต่อให้ดอกที่สอง และในขณะที่จางฉี่หลิงกำลังจะตอกปิดฝาโลงนั้นเองที่คุณชายเก้าดันไหวตัวทัน
“อ่อ วันที่นายกับเฮยเสียจื่อมาหาผู้หญิงที่นี่น่ะหรอ?”
งานเข้า!
สองคนที่เหลือมองหน้าเมินโหยวผิงที่ยังคงนิ่งสนิท ไม่เปลี่ยนสีหน้าพลางลอบกลืนน้ำลายลงคอกันเองอย่างยากลำบาก เพราะไม่รู้จะให้ความช่วยเหลืออย่างไรต่อดี ในเมื่องานนี้...
เซี่ยอวี้ฮัวดันร้ายกว่าที่คิด!
“โฮ่... มาหาหญิงที่นี่งั้นหรอ?”
“มะ...ไม่ใช่นะครับนายน้อยสาม ผมก็แค่มาหาคุณชาย แอ่ก!” ตาแว่นดำโดนพลองบินตีแสกหน้าไปเรียบร้อย หมดตัวช่วยไปหนึ่ง ส่วนนายอ้วนตรงนั้นแค่ใช้สายตากดดันก็ล่าถอยไปแล้ว
“ฉันขอไปห้องน้ำหน่อยก็แล้วกัน” บรรยากาศรอบตัวอู๋เสียเริ่มทะมึนขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่มีใครกล้าขัด คุณชายเก้าถึงกับแสยะยิ้มเมื่อเห็นประกายฟาดฟันในแววตารูปสลักที่ปกติมันจะเฉยชาต่อท่าทีของคนอื่น
จะไฝว์หรอ?... เขาก็ไม่ยอมถอยง่ายๆเหมือนกันแหละ...
เพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย อู๋เสียเลยมาล้างหน้าล้างตาให้สบายตัวขึ้นบ้าง ความจริงเขาเคลียร์กับเสี่ยวเกอเรียบร้อยแล้วก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่อยากรู้ว่าเจ้าของรอยลิปสติกนั้นเป็นใคร
แต่ยังไม่ทันจะเดินพ้นประตูห้องน้ำ เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคุยกันด้านนอกเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง
“เขามาที่นี่อีกแล้วเนอะ คนหล่อๆผมดำที่เคยมาพร้อมกับคนใส่แว่นดำอ่ะ”
“ใช่ๆ สเปคเลยอ่ะ หน้านิ่งๆละลายใจมาก”
“แต่น่าเสียดาย... ดันเป็นคนของคุณชายเก้าซะงั้น”
“ใช่ เมื่อสองวันก่อนนะเห็นชัดเลยว่าคุณชายเซี่ยทำตัวเป็นเจ้าของมาก ถึงขั้นทิ้งรอยลิปสติกบอกทุกคนเลยว่าเขามีเจ้าของแล้วน่ะ”
“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปนะเธอ จริงๆคุณชายก็หล่อนะ น่าเสียดายไม่น่าเป็นเลย” (เป็นอะไร?)
“เฮ้อ! โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวันแล้วแก..” อะไร? ยังไง? ใคร? ทิ้งรอยลิปสติก...
เสี่ยวฮัวหรอ!?
ข้อมูลที่ได้รับมาใหม่ทำให้นายน้อยสามช็อคจนสมองขาวโพลน เดือดร้อนเสี่ยอ้วนที่เดินมาตามแล้วได้ยินเข้าพอดีสรุปให้อีกที แบบสั้นๆ กระชับและได้ใจความ
“ไม่ต้องอึ้งหรอกเทียนเจิน เจ้าของรอยลิปสติกที่ทำให้นายทะเลาะกับเสี่ยวเกอจนบ้านแทบแตกนั่นน่ะ... ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย คุณชายเซี่ยตอนแต่งหญิงไง”
เสี่ยวฮั๊วววววววว!!!
พอกลับมานั่งที่โต๊ะคราวนี้ดูเหมือนอู๋เสียจะดูเยือกเย็นขึ้นมาจนน่าตกใจ แต่ยังหรอก เขายังมีทีเด็ดที่เตรียมเอาไว้อีกเยอะ บุรุษเชิ้ตชมพูส่งยิ้มให้พี่ชาย ก่อนจะหันไปเหยียบเท้าแว่นดำปากมากที่กำลังจะอ้าปากพูดอีกครั้ง
“อาเฮีย อยากกินอะไรอีกมั้ย? ที่นี่อาหารอร่อยเยอะนะ”
“ก่อนหน้านั้นนะเสี่ยวฮัว... นายจะอยู่ในชุดนั้นไปจนถึงเมื่อไหร่หรอ?” พออีกฝ่ายทักเขาถึงได้คิด ว่าตัวเองยังอยู่ในสภาพแต่งหญิงเล่นงิ้ว ปกติแต่งจนชินไม่ได้รู้สึกเคอะเขินอะไร...แต่พออู๋เสียทักแล้ว...
มันอดเขินไม่ได้...
“นั่นสินะ แต่เวลาคุณชายเก้าแต่งหญิงก็สวยไม่หยอกเลยนะเทียนเจิน”
“นั่นสิ สวยจนเทบจำไม่ได้จริงๆเนอะเพราะงั้น...”
“ถ้าวันนั้นไปนั่งอยู่กับหนุ่มที่ไหนก็คงไม่มีใครรู้ใช่มั้ยล่ะ?” นายน้อยสามยังคงยิ้มให้ แต่ประโยคต่อมากลับหยุดลมหายใจของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
“อาจารย์... ฝากอบรมน้องชายให้ทีได้มั้ยครับ ว่าอย่ามาแกล้งพี่ชายให้ใจหายใจคว่ำอีกน่ะ”
“รับทราบครับคุณศิษย์ที่รัก” แว่นดำคืนชีพขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคศักดิ์สิทธิ์ ส่วนคุณชายเก้าหน้าซีดไปเรียบร้อย เตรียมจะลุกหนีทว่าก็ยังช้ากว่าเฮยเสียจื่อที่เหมือนจะรอเวลานี้มานานแล้ว
“คืนนี้มีทำโทษนะครับคุณชาย”
“ปล่อยฉันนะไอ้โรคจิต! ไอ้แว่นเฮ็งซวย! อู๋เสียนายทำแบบนี้ไม่ได้นะ! อาเฮีย! ฉันขอโทษ!!!!!!!” เสียงร้องโหยหวนของคุณชายเก้าเป็นอันต้องเงียบไปเมื่อร่างสูงหิ้วขาหายไปหลังฉากโรงงิ้ว นายน้อยสามถอนหายใจหนักๆหนึ่งทีแล้วหันไปเหล่อีกคนที่ดูเหมือนจะพอใจหน่อยๆกับสถานการณ์เมื่อครู่
“ขอโทษนะเสี่ยวเกอ”
“เรื่องอะไร”
“ที่ฉันโมโหนายเมื่อสองวันก่อน”
“ไม่เป็นไร คิดดอกเบี้ยไปแล้ว”
“บ้า!” ดูเหมือนว่าคู่นั้นจะยังคงนั่งกินข้าวกันแบบนั้นอีกนาน งั้นเสี่ยขอเฟดตัวเองออกไปนั่งแยกโต๊ะคงไม่ว่าอะไรกันใช่มั้ย? อ่อ! แต่เงินของโต๊ะใหม่รบกวนเก็บที่เทียนเจินนะ
เอาล่ะ... ไปกินข้าวดีกว่า...
-------------------------------------------
Behind the scene
“ยัยคนเขียน! เธอตาย!!!”
“ถ้านายทำร้ายฉันตอนหน้าจะเจอแว่นดำxxx แล้วก็xxxx นะ จะบอกให้”
“อึ่ก!... เล่นสกปรกนี่!”
“ฉันก็แค่เขียนตามหัวข้อ... //ชี้ข้างบน”
“ก็แล้วทำไมต้องเอาฉันมาเป็นตัวซวยด้วย!”
“ก็ในที่นี้มีนายคนเดียวที่ใช้เครื่องสำอางนี่นา ถ้าไม่นับซิ่วซิ่วอ่านะ”
“ว่าไงนะ!”
“ทำใจนะคุณชายเก้า โฮะๆ” หญิงสาวเดินสะบัดพัดปิดปากหัวเราะออกไปอย่างสะใจ แหมๆ นานจะแกล้งคุณชายเก้าได้ทั้งที ของแบบนี้จะให้พลาดได้ยังไง...
//จบเถ้ออออ
----------------------------------
วันนี้โดนสูบพลังงานไปกับที่ประชุมค่ะ ไม่ทอร์คนะคะ ขอตัวไปนอนเดี้ยงก่อน
จะเทพสวรรค์องค์ใดกลั่นแกล้งก็ไม่อาจทราบได้...
แต่ตอนนี้บ้านนายน้อยสามแห่งสกุลอู๋กำลังจะลุกเป็นไฟเพราะใครบางคน...
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เจ้าของบ้านเองนั่นแหละ!!
ร่างสูงที่มีผมสีดำสนิทมองมาอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมอีกคนต้องโกรธ ในขณะที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าความเฉยชานั้นคือชนวนระเบิดชั้นดีสำหรับอู๋เสียที่นั่งกระวนกระวายใจรอมาตลอดคืน
ก็นึกอยู่ว่าไปหลงทางที่ไหนรึเปล่า เพราะสกิลการใช้ชีวิตแบบคนปกติไม่ค่อยมี แต่นี่อะไร...
รอยลิปสติก!!
เขาอยากจะกรี๊ดเสียลั่นบ้าน (แต่ทำไม่ได้และไม่อยากทำ) เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าไปได้รอยมาเมื่อไหร่ แต่ที่น่าหงุดหงิดมาที่สุดก็คือ...
เจ้าของรอยนั่นเหมือนจงใจทำทับรอยที่เขาทำเอาไว้เมื่อวันก่อน...
น่าโมโห...
“นายไม่รู้จริงๆหรือไม่อยากพูดกันแน่ว่ารอยนี้มาได้ยังไง” เขารู้ดีว่าคนอย่างจางฉี่หลิง ต่อให้เอาชะแลงมางัดปากแต่ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่มีทางเค้นออกมาได้ เพราะงั้นเลยไม่รู้ว่าตกลงใจจริงของหมอนี่รู้หรือไม่รู้กันแน่ว่าใครทำ
“ฉันไม่รู้”
“เฮอะ! งั้นวันนี้ไปนอนข้างนอก!” แม้อากาศในหน้าหนาวจะไม่เอื้อแก่การนอนข้างนอกขนาดไหน แต่นายน้อยสามก็ไม่คิดใจอ่อน เพราะอารมณ์หงุดหงิดมันพุ่งขึ้นสูงมากจนแม้แต่นายอ้วนหวังที่มาเที่ยวบ้านผิดเวลาก็ไม่สามารถดึงลงมาให้เย็นได้ เสี่ยอ้วนถอนหายใจแบบปลงๆแล้วตบบ่าน้องชายอีกคนเบาๆ
“ไปทำอีท่าไหนมาล่ะเสี่ยวเกอ? อยากเที่ยวหญิงก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่น่าจะรู้เสียหน่อยว่าเทียนเจินมันขี้หึง?” พอเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วใส่เหมือนไม่เข้าใจ อะไรๆก็ชักจะไม่เข้าเค้า เขาจึงตัดสินใจถามตรงๆ
“น้องเสี่ยวเกอ... เสี่ยถามจริงๆเถอะนะ เมื่อคืนไปไหนมา?”
“เฮยเสียจื่อเรียกไป”
“หือ? ไปที่ไหน?”
“โรงงิ้ว” คำตอบยังคงห้วนสั้น แต่ทำไม๊ ทำไมเหมือนจะเริ่มจับใจความได้ เพราะเพิ่งได้ยินข่าวว่าคุณชายเก้าแห่งบ้านสกุลเซี่ยมาเล่นงิ้วที่หังโจวน่ะสิ งานนี้มีเฮแหงๆ
ถ้าคุณชายนั่นเล่นไม่ซื่อ ทางนี้ก็บื้อเหลือเชื่อที่ตามเกมไม่ทัน...
ด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีเสี่ยอ้วนเลยตั้งใจจะทำให้ทั้งสองคนคืนดีกัน อย่างน้อยก็ก่อนคืนนี้ ไม่งั้นน้องเสี่ยวเกอคงได้นอนข้างนอกแล้วหนาวตายขึ้นมาจริงๆ จนเทียนเจินมาร้องไห้ฟูมฟายกะเสี่ยอีกรอบ
ไอ้นี่ก็เหลือเกิน โกรธเสียมากมาย ถ้าพ่อกิเลนทิ้งไปจริงๆละจะร้องไม่ออก
เดินยังไม่ทันจะถึงโรงงิ้วก็เจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาในระยะที่พ้นทะเลสาบซีหูมาไม่เท่าไหร่
“อ่าว! คนใบ้จาง มาทำอะไรแถวนี้? นายอ้วนด้วย มาเดทกันสองคนนายน้อยสามไม่ว่าหรอครับ?” เดทบ้านเตี่ยเอ็งน่ะสิ! มองยังไงของมัน นายแว่นดำหรืออาจารย์ของอู๋เสียกำลังยืนซื้อเสี่ยวหลงเปา (ซาลาเปาหมูลูกเล็กมีน้ำซุปอยู่ด้านใน) ของขึ้นชื่อของหังโจวอยู่ ไหนๆก็ได้เจอพยานปากที่หนึ่งโดยบังเอิญแล้ว เสี่ยก็ขอทำหน้าที่นักสืบต่อไป
“เมื่อคืนนายอยู่กับน้องเสี่ยวเกอใช่มั้ย?”
“ครับ? ทำไมหรือ?”
“พวกนายไปไหนกันมา”
“ความลับครับ” จบข่าว... ตอบมาอย่างนี้เอารองเท้ามาฟาดหน้ากันเลยเถอะ นี่กวนตีนใช่มั้ย!!!
“ไม่ใช่ความลับอะไร” จู่ๆน้องเสี่ยวเกอก็พูดทะลุขึ้นมากลางปล้อง ทำเอานายแว่นถึงกับทำท่าตกใจ
“นายยอมเปิดปากพูดหรอว่าไปที่แบบนั้นมา”
“ไปโรงงิ้ว...”
“อ่านะ... ก็สถานที่กลางคืนไง แบบว่า...” จะพูดให้มันกำกวมทำไมมิทราบ เสี่ยก็นึกว่าพวกนายไปหาหญิงจริงๆแล้วไม่ชวนเสี่ย ชิชะ อุ๊ย! หลุดความในใจ...
“แล้วไปทำอะไรกัน?”
“อ่อ ผมอยู่กับคุณชายเซี่ยน่ะครับ ส่วนคนใบ้จางคุณชายเซี่ยให้ผมเรียกไปหา” นั่นไง ทีเสี่ยซื้อหวยล่ะดันไม่ถูก แต่นึกไม่ถึงจริงๆว่าพ่อเชิ้ตชมพูนั่นจะเล่นวิธีแสบสันสะท้านทรวงแบบนี้
มารยาหญิงสมหญิงไม่อิงนิยายเลย ถ้าให้ทายดีไม่ดีเจ้าของรอยลิปสติกนั่นก็คงจะเป็นคุณชายเก้านั่นแหละ
“อย่าบอกนะว่าเรื่องแค่นั้นถึงกับโดนไล่ออกจากบ้าน?”
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ” พอเล่าต้นสายปลายเหตุให้ฟัง นายนั่นก็หัวเราะแบบไม่ไว้หน้าแล้วบอกเสียชัดเจนว่า คุณชายเซี่ยเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นสุดๆ คงจะยอมไม่ได้ที่พี่ชายโดนแย่งไปสินะ
“แบบนี้แค่เอานายไปยืนยันเทียนเจินก็คงหายโกรธแล้วสินะ”
“คิดง่ายไปแล้วครับนายอ้วน ถึงนายน้อยสามจะเข้าใจ แต่คุณชายไม่เลิกราหรอกนะครับ นายจะทำยังไงล่ะคนใบ้จาง?” แม้คำพูดเหมือนจะเป็นห่วงแต่ก็มีน้ำเสียงหยอกเย้าราวกับสนุกสนานกับสถานการณ์ตรงหน้าเสียเต็มประดา
“เรื่องอู๋เสียฉันจัดการเองได้ พวกนายไม่ต้องยุ่ง แต่เรื่องอื่น คงต้องฝากนายจัดการ” เฮยเสียจื่อยิ้มกว้างอย่างถูกใจกับคำพูดนั้น และก่อนที่นายอ้วนหวังจะทันได้รู้ตัว เขาก็โดนลากเข้าไปอยู่ในแผนการนี้เรียบร้อยแล้ว
สองวันต่อมาในตอนเย็นพวกเขาก็นัดเจอกันที่โรงงิ้ว เพื่อทานข้าวเย็นไปด้วยดูงิ้วไปด้วยในที่นั่งพิเศษที่คุณชายเซี่ยยอมจัดเอาไว้ให้เพื่อพี่ชายสุดที่รักโดยเฉพาะ ไม่มีใครอยากรู้ว่าจางฉี่หลิงใช้วิธีใดง้อนายน้อยสามเพราะดูจากอาการหน้าแดงหูแดงแล้วก็พอจะเดาได้ไม่อยาก
และขืนถามมากไปอาจจะมีพลองบินลอยมาแถวๆนี้ก็เป็นได้
“นายบอกว่าจะพามาเจอเจ้าของรอยลิปสติกนั่นไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมมาที่โรงงิ้วที่เสี่ยวฮัวเล่นล่ะ?” แม้จะยังคงท่าทีงอนไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วอู๋เสียเหมือนจะหายโกรธโดยสิ้นเชิงไปแล้วกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
“เขาอยู่ที่นี่” เพราะพูดน้อยเกินไปเสี่ยอ้วนเลยต้องทำตัวเป็นเครื่องขยายความคิดของคนผมดำแทน
“พาเทียนเจินมาดูคุณชายเก้าเล่นงิ้วด้วย แล้วก็แก้ความเข้าใจผิดไปด้วยในตัวไง”
“เหรอ” เจ้าตัวนั่งดื่มชาไปเงียบๆ ไม่เหมือนนายแว่นที่ตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่อาจทราบได้ คุณชายเก้าเลี้ยงไม่ดีหรืออย่างไร เจอกันแต่ละทีกระซวกข้าวไม่มีเกรงใจคนมองเลย
“นั่นไงๆ คุณชายเก้าออกมาแล้ว” สาวสวยหน้าหวานคมกำลังออกมารำทวนด้วยความองอาจและสวยงาม สะกดทุกสายตาคนในโรงงิ้วให้เป็นหนึ่งเดียว เชื่อเลยว่าค่าตัวคุณชายคนนี้อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าหกหลักหรอก
หลังการแสดง คุณชายที่ยังไม่แม้แต่จะล้างหน้าก็มานั่งร่วมวงกับพวกเขาด้วยชุดตัวนางเต็มยศ
“เคยได้ยินมาว่าสมัยเด็กเทียนเจินไปขอคุณชายเซี่ยแต่งงาน มาเห็นแบบนี้แสดงว่าท่าจะจริงสินะเนี่ย”
“จริงสิ...แล้วฉันก็ตอบตกลงไปแล้วด้วย” รอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษส่งตรงมาจากสกุลเซี่ย ให้ใครบางคนที่ตอนนี้ก็ยังทำหน้ามึนไม่รับรู้อะไรอยู่
“ได้ข่าวว่านอกใจอาเฮียฉันหรอ? ถ้าไม่ใส่ใจฉันจะเอาคืนล่ะนะ”
“ไม่ได้บอกอย่างนั้น” นับเป็นคำแรกที่เมินโหยวผิงเปิกปากหลังจากที่เข้ามาในโรงงิ้ว สายตาวาวๆนั่นแลดูอันตรายขึ้นมาเยอะพอดูเมื่อไม่ได้จับจ้องอยู่ที่อู๋เสีย
“แหมคุณชาย วันนั้นก็นั่งแบบนี้ไม่ใช่หรอครับ? ที่เรียกเรามาเมากันทั้งคืนน่ะ” นายแว่นดำเริ่มประเด็นตามแผน คุณชายเซี่ยถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วถลึงตาใส่
“วันไหนหรอ? ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”
“เมื่อสองวันก่อนไงเทียนเจิน ที่เสี่ยไปหานายที่บ้าน เสี่ยวเกอออกไปข้างนอกใช่มั้ยล่ะ?” นายอ้วนชงต่อให้ดอกที่สอง และในขณะที่จางฉี่หลิงกำลังจะตอกปิดฝาโลงนั้นเองที่คุณชายเก้าดันไหวตัวทัน
“อ่อ วันที่นายกับเฮยเสียจื่อมาหาผู้หญิงที่นี่น่ะหรอ?”
งานเข้า!
สองคนที่เหลือมองหน้าเมินโหยวผิงที่ยังคงนิ่งสนิท ไม่เปลี่ยนสีหน้าพลางลอบกลืนน้ำลายลงคอกันเองอย่างยากลำบาก เพราะไม่รู้จะให้ความช่วยเหลืออย่างไรต่อดี ในเมื่องานนี้...
เซี่ยอวี้ฮัวดันร้ายกว่าที่คิด!
“โฮ่... มาหาหญิงที่นี่งั้นหรอ?”
“มะ...ไม่ใช่นะครับนายน้อยสาม ผมก็แค่มาหาคุณชาย แอ่ก!” ตาแว่นดำโดนพลองบินตีแสกหน้าไปเรียบร้อย หมดตัวช่วยไปหนึ่ง ส่วนนายอ้วนตรงนั้นแค่ใช้สายตากดดันก็ล่าถอยไปแล้ว
“ฉันขอไปห้องน้ำหน่อยก็แล้วกัน” บรรยากาศรอบตัวอู๋เสียเริ่มทะมึนขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่มีใครกล้าขัด คุณชายเก้าถึงกับแสยะยิ้มเมื่อเห็นประกายฟาดฟันในแววตารูปสลักที่ปกติมันจะเฉยชาต่อท่าทีของคนอื่น
จะไฝว์หรอ?... เขาก็ไม่ยอมถอยง่ายๆเหมือนกันแหละ...
เพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย อู๋เสียเลยมาล้างหน้าล้างตาให้สบายตัวขึ้นบ้าง ความจริงเขาเคลียร์กับเสี่ยวเกอเรียบร้อยแล้วก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่อยากรู้ว่าเจ้าของรอยลิปสติกนั้นเป็นใคร
แต่ยังไม่ทันจะเดินพ้นประตูห้องน้ำ เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคุยกันด้านนอกเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง
“เขามาที่นี่อีกแล้วเนอะ คนหล่อๆผมดำที่เคยมาพร้อมกับคนใส่แว่นดำอ่ะ”
“ใช่ๆ สเปคเลยอ่ะ หน้านิ่งๆละลายใจมาก”
“แต่น่าเสียดาย... ดันเป็นคนของคุณชายเก้าซะงั้น”
“ใช่ เมื่อสองวันก่อนนะเห็นชัดเลยว่าคุณชายเซี่ยทำตัวเป็นเจ้าของมาก ถึงขั้นทิ้งรอยลิปสติกบอกทุกคนเลยว่าเขามีเจ้าของแล้วน่ะ”
“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปนะเธอ จริงๆคุณชายก็หล่อนะ น่าเสียดายไม่น่าเป็นเลย” (เป็นอะไร?)
“เฮ้อ! โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวันแล้วแก..” อะไร? ยังไง? ใคร? ทิ้งรอยลิปสติก...
เสี่ยวฮัวหรอ!?
ข้อมูลที่ได้รับมาใหม่ทำให้นายน้อยสามช็อคจนสมองขาวโพลน เดือดร้อนเสี่ยอ้วนที่เดินมาตามแล้วได้ยินเข้าพอดีสรุปให้อีกที แบบสั้นๆ กระชับและได้ใจความ
“ไม่ต้องอึ้งหรอกเทียนเจิน เจ้าของรอยลิปสติกที่ทำให้นายทะเลาะกับเสี่ยวเกอจนบ้านแทบแตกนั่นน่ะ... ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย คุณชายเซี่ยตอนแต่งหญิงไง”
เสี่ยวฮั๊วววววววว!!!
พอกลับมานั่งที่โต๊ะคราวนี้ดูเหมือนอู๋เสียจะดูเยือกเย็นขึ้นมาจนน่าตกใจ แต่ยังหรอก เขายังมีทีเด็ดที่เตรียมเอาไว้อีกเยอะ บุรุษเชิ้ตชมพูส่งยิ้มให้พี่ชาย ก่อนจะหันไปเหยียบเท้าแว่นดำปากมากที่กำลังจะอ้าปากพูดอีกครั้ง
“อาเฮีย อยากกินอะไรอีกมั้ย? ที่นี่อาหารอร่อยเยอะนะ”
“ก่อนหน้านั้นนะเสี่ยวฮัว... นายจะอยู่ในชุดนั้นไปจนถึงเมื่อไหร่หรอ?” พออีกฝ่ายทักเขาถึงได้คิด ว่าตัวเองยังอยู่ในสภาพแต่งหญิงเล่นงิ้ว ปกติแต่งจนชินไม่ได้รู้สึกเคอะเขินอะไร...แต่พออู๋เสียทักแล้ว...
มันอดเขินไม่ได้...
“นั่นสินะ แต่เวลาคุณชายเก้าแต่งหญิงก็สวยไม่หยอกเลยนะเทียนเจิน”
“นั่นสิ สวยจนเทบจำไม่ได้จริงๆเนอะเพราะงั้น...”
“ถ้าวันนั้นไปนั่งอยู่กับหนุ่มที่ไหนก็คงไม่มีใครรู้ใช่มั้ยล่ะ?” นายน้อยสามยังคงยิ้มให้ แต่ประโยคต่อมากลับหยุดลมหายใจของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
“อาจารย์... ฝากอบรมน้องชายให้ทีได้มั้ยครับ ว่าอย่ามาแกล้งพี่ชายให้ใจหายใจคว่ำอีกน่ะ”
“รับทราบครับคุณศิษย์ที่รัก” แว่นดำคืนชีพขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคศักดิ์สิทธิ์ ส่วนคุณชายเก้าหน้าซีดไปเรียบร้อย เตรียมจะลุกหนีทว่าก็ยังช้ากว่าเฮยเสียจื่อที่เหมือนจะรอเวลานี้มานานแล้ว
“คืนนี้มีทำโทษนะครับคุณชาย”
“ปล่อยฉันนะไอ้โรคจิต! ไอ้แว่นเฮ็งซวย! อู๋เสียนายทำแบบนี้ไม่ได้นะ! อาเฮีย! ฉันขอโทษ!!!!!!!” เสียงร้องโหยหวนของคุณชายเก้าเป็นอันต้องเงียบไปเมื่อร่างสูงหิ้วขาหายไปหลังฉากโรงงิ้ว นายน้อยสามถอนหายใจหนักๆหนึ่งทีแล้วหันไปเหล่อีกคนที่ดูเหมือนจะพอใจหน่อยๆกับสถานการณ์เมื่อครู่
“ขอโทษนะเสี่ยวเกอ”
“เรื่องอะไร”
“ที่ฉันโมโหนายเมื่อสองวันก่อน”
“ไม่เป็นไร คิดดอกเบี้ยไปแล้ว”
“บ้า!” ดูเหมือนว่าคู่นั้นจะยังคงนั่งกินข้าวกันแบบนั้นอีกนาน งั้นเสี่ยขอเฟดตัวเองออกไปนั่งแยกโต๊ะคงไม่ว่าอะไรกันใช่มั้ย? อ่อ! แต่เงินของโต๊ะใหม่รบกวนเก็บที่เทียนเจินนะ
เอาล่ะ... ไปกินข้าวดีกว่า...
-------------------------------------------
Behind the scene
“ยัยคนเขียน! เธอตาย!!!”
“ถ้านายทำร้ายฉันตอนหน้าจะเจอแว่นดำxxx แล้วก็xxxx นะ จะบอกให้”
“อึ่ก!... เล่นสกปรกนี่!”
“ฉันก็แค่เขียนตามหัวข้อ... //ชี้ข้างบน”
“ก็แล้วทำไมต้องเอาฉันมาเป็นตัวซวยด้วย!”
“ก็ในที่นี้มีนายคนเดียวที่ใช้เครื่องสำอางนี่นา ถ้าไม่นับซิ่วซิ่วอ่านะ”
“ว่าไงนะ!”
“ทำใจนะคุณชายเก้า โฮะๆ” หญิงสาวเดินสะบัดพัดปิดปากหัวเราะออกไปอย่างสะใจ แหมๆ นานจะแกล้งคุณชายเก้าได้ทั้งที ของแบบนี้จะให้พลาดได้ยังไง...
//จบเถ้ออออ
----------------------------------
วันนี้โดนสูบพลังงานไปกับที่ประชุมค่ะ ไม่ทอร์คนะคะ ขอตัวไปนอนเดี้ยงก่อน
natsume- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 97
Points : 3520
Join date : 08/01/2015
ที่อยู่ : บนหลังกิเลน
Re: [OS]#dmbjdaily 31 days left : Lipstick (กลั่นแกล้ง)
คุณชายฮัวร้ายกาจนัก...
...แต่ก็ไม่เท่าจางอากงล่ะ
อยู่นิ่งๆให้คนอื่นทำนู่นทำนี่ให้ ปล่อยให้ปริศนาคลี่คลายไปเอง
...ได้อู๋เสียมาอ้อน หึหึ
อีกคนที่กำไรก็เฮยเสียจื่อละนะ...555 สงสารคุณชายจริงๆ กะจะเล่นเขาโดนสวนคืนซะเจ็บแสบเลย
...แต่ก็ไม่เท่าจางอากงล่ะ
อยู่นิ่งๆให้คนอื่นทำนู่นทำนี่ให้ ปล่อยให้ปริศนาคลี่คลายไปเอง
...ได้อู๋เสียมาอ้อน หึหึ
อีกคนที่กำไรก็เฮยเสียจื่อละนะ...555 สงสารคุณชายจริงๆ กะจะเล่นเขาโดนสวนคืนซะเจ็บแสบเลย
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3634
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [OS]#dmbjdaily 31 days left : Lipstick (กลั่นแกล้ง)
อร๊ายยย คุณชายกรรมตามสนองค่าา555
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [OS]#dmbjdaily 31 days left : Lipstick (กลั่นแกล้ง)
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์
สมน้ำหน้าเสี่ยวฮัวววว มาใส่ร้ายคนใบ้จางที่อ้าปากแก้ตัวไม่เป็นแบบนี้ได้ไง *ตบตี* //โดนพลองตบกลับ แอ้ก
(คลานขึ้นมาชี้หน้า) กรรมตามสนองแล้ว ว่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า!! เฮยๆจัดการรรร
สมน้ำหน้าเสี่ยวฮัวววว มาใส่ร้ายคนใบ้จางที่อ้าปากแก้ตัวไม่เป็นแบบนี้ได้ไง *ตบตี* //โดนพลองตบกลับ แอ้ก
(คลานขึ้นมาชี้หน้า) กรรมตามสนองแล้ว ว่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า!! เฮยๆจัดการรรร
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily 31 days left (Lipstick) Lipstick Stain (ผิงเสีย)(R-18)
» [OS] #dmbjdaily 59 days left (Left) ตำแหน่งสำคัญ [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily 32 days left : Lipstick (plan) เฮยผิง
» NEW UPDATE 18/04/215 [Doujin] Dmbjdaily 225 days, 162 days, 148 days, 123 days left.
» [drabble] #dmbjdaily 59 days : "Left" Left Behind (พานจื่อ) No Pairing (มีเนื้อหาเล่ม 10 ค่ะ)
» [OS] #dmbjdaily 59 days left (Left) ตำแหน่งสำคัญ [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily 32 days left : Lipstick (plan) เฮยผิง
» NEW UPDATE 18/04/215 [Doujin] Dmbjdaily 225 days, 162 days, 148 days, 123 days left.
» [drabble] #dmbjdaily 59 days : "Left" Left Behind (พานจื่อ) No Pairing (มีเนื้อหาเล่ม 10 ค่ะ)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth