Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
#ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
+14
nightsza
Rozenkreuz
prince501
sagacity191
Xiamouren
mikanchan
hnee
annminki
Malangporyim
Mayao
yakusoku
schneewittchen
Yuwadee Wana
anurakbeer
18 posters
หน้า 1 จาก 1
#ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
Chapter 13
ร่วมงาน
อู๋เสียเคลียร์สิ่งของบนโต๊ะ วางเหรียญกษาปณ์เหรียณหนึ่งลงกลางโต๊ะ “นี่คือนครเฮยสุ่ยแห่งซีเซี่ย” แล้ววางซองบุหรี่ไว้ข้างๆ “นี่คือพิกัดคร่าวๆ ที่หลานถิงไป เธอเห็นอะไรไหม”
หลีชู่ทาบดูเล็กน้อย “ใกล้กันมากเลยนะ”
“นครเฮยสุ่ยเป็นเมืองโบราณชื่อดังของเส้นทางสายไหมโบราณ ต่อมาในยุคราชวงศ์สุ่ย ถูกกลบฝังด้วยพายุทรายในชั่วข้ามคืน หายสาบสูญไปนับแต่นั้น ภายหลังในปี 1909 ถูกโจรขุดสุสานรัสเซียค้นพบและขุดขึ้นมา ถูกยกเค้าจนเกลี้ยง” อู๋เสียกล่าว “แต่ว่า ผู้คนทั่วไปเชื่อว่า สมบัติที่แท้จริงของนครเฮยสุ่ยยังไม่ถูกพบ ก่อนราชวงศ์สุ่ย นครเฮยสุ่ยเป็นปราการด่านสำคัญ รอบๆ มีคนตายนับไม่ถ้วน นครเฮยสุ่ยเคยมียุครุ่งเรืองในประวัติศาสตร์หลายช่วง ในยุคราชวงศ์ตั่งเซี่ยง (Tanghut=ทิเบต) ชนเผ่ามองโกลที่เฝ้าเมืองในยามนั้น ทำกำไรเป็นสมบัติมหาศาล ผู้ปกครองนครถูกทัพใหญ่แห่งจงหยวนล้อมไว้ ภายหลังถูกตัดเส้นทางน้ำ ตีฝ่าออกมาได้แล้วหนีเข้าทะเลทราย แต่เมื่อทัพใหญ่แห่งจงหยวนเข้าเมือง กลับไม่พบทรัพย์สมบัติใดๆ มีคนสงสัยว่า สมบัติทั้งปวงของนครเฮยสุ่ยในยุคตั่งเซี่ยง ถูกชาวมองโกลพวกนี้นำเข้าสู่ทะเลทรายปาตันจี๋หลินทั้งหมด ดังนั้น กองทัพจงหยวนพาขบวนไล่ตามเข้าทะเลทราย แกะรอยเท้ามาเรื่อยๆ จนถึงสถานที่ที่ชื่อกู่ถงจิง”
หลีชู่ฟังจนเคลิ้ม เขานีกภาพรายละเอียดและบทสรุปตอนท้ายเอาไว้ในใจคร่าวๆ แล้ว ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม เรื่องเล่าของอู๋เสีย จะต้องมันหยดแน่ๆ
“พวกเขาเจอเสื้อเกราะและอาวุธของทหารแตกทัพมองโกล ทั้งหมดตกกระจายอยู่บนพื้นทราย แต่ตัวคนหายไป ไม่มีคราบเลือด ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเสื้อผ้าและอาวุธพวกนี้เท่านั้น” อู๋เสียกล่าว
หลีชู่ “อ้อ” ออกมาคำหนึ่ง เว้นเล็กน้อย “แล้วข้อสรุปของคุณคืออะไร”
อู๋เสียถอนหายใจเฮือกหนึ่ง จุดบุหรี่มวนใหม่ สูบเข้าหนึ่งที “ดูตามตำนานนี้แล้ว เมื่อยามนั้น ชาวมองโกลกลุ่มนี้จะต้องซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในทะเลทรายอย่างแน่นอน ทรัพย์สมบัติพวกนี้เมื่อขนออกมาแล้ว ย่อมไม่สามารถนำติดตัวไว้ตลอดเวลา จะต้องซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่งในทะเลทราย และจะต้องอยู่รอบๆ กู่ถงจิงด้วย” เขาหัวเราะ “ถ้ากู่ถงจิงมีซากสุสานหลวงเก่าที่ลึกลับ ก็จะเป็นที่ซ่อนสมบัติพวกนี้ที่ดีที่สุด ข้อมูลประเภทนี้ เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งสำหรับคนค้าขายวัตถุโบราณอย่างฉัน ดังนั้น ฉันจึงส่งขบวนลูกน้องของฉัน มุ่งหน้าไปสืบค้นในทะเลทราย สี่เดือนก่อน ในที่สุดพวกเขาก็หาสถานที่ในรูปถ่ายเจอ แต่กลับไม่พบอะไรเลย เบาะแสเดียวที่ได้มา” อู๋เสียชี้ไปที่หลังของหลีชู่ “ก็คือภาพนี้ พวกเขาเจอพระพุทธรูปองค์หนึ่งในอารามผาถ้ำร้างรอบนอกกูู่ถงจิง บนหลังของพระพุทธรูป พวกเขาพบภาพที่คล้ายรอยสักนี้ วาดอยู่บนนั้น”
หลีชู่ได้ยินจากเหลียงวานว่า พวกเขาเจอภาพภาพนี้จากหลังของศพโบราณ ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องโกหก เรื่องราวเบื้องหลังของมัน ที่แท้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ “ไม่ใช่หลังของศพโบราณยุคราชวงศ์สุยหรือ”
“นั่นเป็นเรื่องแต่งของหวังเหมิง” อู๋เสียกล่าว “เธอคงรู้แล้ว คนที่ฉันส่งออกไปทำงานนี้ชื่อหวงเหยียน ตอนแรกฉันเลิกหวังว่าจะเจอสิ่งของใดๆ จากสถานที่นั่นแล้ว พวกคนที่กลับมา ก็ดูเหมือนเกิดปัญหาทางจิตประสาทกันนิดหน่อย โดยเฉพาะเจ้าหวงเหยียน เขาปักใจเชื่อว่าภาพภาพนี้กับกู่ถงจิง มีความเกี่ยวข้องกัน เริ่มพยายามแก้ปริศนาของภาพนี้อย่างบ้าคลั่ง ต่อมาฉันแทบหาตัวเขาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่ว่า ฉันได้ทำผิดพลาดอีกหนึ่งอย่าง ฉันไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ หลังจากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์เรื่องหลังของเธอ”
“ถ้าอย่างนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่” หลีชู่ถาม “ทำไมเขาจึงตาย”
“เขาถูกคนเก็บ” อู๋เสียเขี่ยบุหรี่ทีหนึ่ง “ฉันไม่รู้ว่าเขาตายได้ยังไง แต่ก่อนตาย เขาได้สลักเบาะแสทั้งหมดที่เขาพบลงบนหลังของเธอ เบื้องหลังของเรื่องนี้จะต้องซับซ้อนมากแน่นอน ฉันคาดเดาภาพบนหลังเธออาจจะบอกเราได้ว่า สมบัติที่ชาวมองโกลพวกนั้นนำออกมาอยู่ที่ไหน ดังนั้นหากทิ้งเธอไว้ที่นี่ อาจเป็นอันตรายมาก เธอติดตามเราไปทะเลทราย ไม่ว่าเราจะหาของเหล่านั้นเจอหรือไม่ ฉันก็จะประกาศออกไปว่าพวกเราได้มาแล้ว จากนั้น เธอก็จะหมดประโยชน์ และปลอดภัย”
หลีชู่ลูบหน้า ไม่อาจปฏิเสธว่า อู๋เสียพูดอย่างมีเหตุผล แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เหมาะ ภายในใจมีความปรารถนาหนึ่งต้องการให้เขาหนี ขณะนี้เขาจึงตระหนักได้ว่าตนช่างอ่อนแอ ความจริงคือตนไม่สามารถพิจารณาสถานการณ์---เขาในขณะนี้ ทำได้เพียงรับปาก แต่โดยสัญชาตญาณแล้ว เขาอยากหลบหนี
“เจ้านาย พูดตามตรงนะ คุณมีความจริงใจมากพอแล้ว แต่กลับเป็นเพราะความจริงใจพวกนี้ทำให้ผมรู้สึกกังวล ผมรู้สึกว่าในนี้มีกับดัก คนทำอาชีพอย่างพวกคุณ ไม่มีทางจริงใจขนาดนี้ได้” อีกทั้งการไปกู่ถงจิงมันอันตรายขนาดนั้น ยังมีโอกาสเป็นบ้าอีกด้วย ใครจะไปยอม! หลีชู่ไม่กล้าพูดออกมา เพียงพึมพำในใจ
“ในเชิงการค้า มันเป็นไปไม่ได้ แต่เรื่องพวกนี้ พูดออกมาก็ไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอเชื่อแล้ว แต่เมื่อกลับไปพักสักครู่ ก็จะรู้สึกว่าฉันโม้ แต่ภาพบนหลังของเธอนั้นมีอยู่จริง อันตรายก็มีอยู่จริง” อู๋เสียดูนาฬิกาข้อมือ “ฉันได้เล่าทุกอย่างที่เล่าได้กับเธอหมดแล้ว อีกสามวัน ฉันจะไปรับเธอที่โรงพยาบาล ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างสุภาพต่อกัน ฉันก็ไว้ใจเธอ แต่ถ้าเธออย่าตุกติกกับฉัน ถ้าเธอร้ายกับฉัน ฉันจะกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง เมื่อถึงตอนนั้น เธอหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ฉันหาตัวเจอ”
หลีชู่ฟังเสียงประตูลิฟต์ปิดลง รู้ว่าคนกลุ่มนี้จากไปแล้วจริงๆ จึงถอนใจอย่างโล่งอก
“เปิดประตู! แม่จะแตกแล้ว” เหลียงวานร้องลั่นอยู่ในห้อง หลีชู่ปล่อยเธอออกมา เธอก็วิ่งตรงเข้าห้องน้ำทันที
หลีชู่ประคองใบหน้าตนเอง บอกให้ตัวเองผ่อนคลายลง เขากัดฟันอย่างอ่อนแรง นึกในใจว่า ‘สวรรค์ ฉันไปทำกรรมอะไรไว้นะ นี่ฉันเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม หวงเหยียนทุบหัวฉันจนสมองเสื่อมไปแล้ว แต่ฉันไม่รู้ตัว มีชีวิตอยู่ในภาพลวงตาของตัวเอง’
เรื่องพวกนี้จะเกิดกับฉันได้ยังไง ทะเลทรายปาตันจี๋หลิน สถานที่ห่าเหวที่แม้แต่ชื่อยังไม่เคยได้ยิน
เหลียงวานถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่มีแรงเล่ารายละเอียด เพียงเล่าใจความคร่าวๆ เมื่ออู๋เสียจากไป ความหวาดกลัวในใจของเขา ซึมซ่านออกมาเหมือนหยดหมึกลงบนกระดาษสา ตราชั่งในใจของเขา เทเอียงไปทางการถอยหนีทั้งหมด คิดยังไงก็ไม่ถูกต้อง
อู๋เสียคาดการณ์เอาไว้แม่นยำมาก หลีชู่ทบทวนเรื่องเล่าของอู๋เสีย ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเขากุขึ้น อีกทั้งเขารู้สึกจริงๆ ว่า คนพวกนี้พาตนไปทะเลทราย ต้องมีเจตนาอื่นเคลือบแฝง เมื่ออู๋เสียไป เขาก็แทบตัดสินใจในทันที “พี่สาว ผมต้องไปซ่อนตัวต่างถิ่นทันที หัวของคนพวกนี้มีปัญหา คุณให้ผมยืมเงินนิดหน่อยได้ไหม”
เหลียงวานไม่ไปสนใจเขา แต่รีบดูแผลของเขาทันที ตรวจดูว่าเมื่อครู่ละเลยส่วนไหนไปหรือเปล่า เธอจ้องหลังของหลีชู่ มีสีหน้าครุ่นคิด หลีชู่เรียกชื่อเธอหลายครั้ง จึงได้สติ พูดว่า “เธอตั้งใจว่าจะไปซ่อนตัวที่ไหน”
“ไม่รู้ ซื้อตั๋วอะไรได้ก็ไป ไปทิเบต ไปเหมียวเจียง ที่ไหนกันดารก็ไปที่นั่น เอาเป็นว่าต้องซ่อนอยู่ในที่ที่พวกนั้นหาผมไม่เจอ”
“ฉันแนะนำว่าเธออย่าเปลืองสมองคิดเลย” เหลียงวานจับแผลของเขา พูดช้าๆ ว่า “เธอหนีไม่พ้นฝ่ามือพวกเขาหรอก”
“ทำไม”
“เขาทิ้งรูปถ่ายใบหนึ่งไว้ที่หลังเธอ เธออาจเจ็บแผลเกินไป จึงไม่รู้สึก”
หลีชู่พยายามเงยหน้าขึ้น รับรูปถ่ายมา แล้วแทบจะร้องออกมาในทันที ไม่รู้เป็นเพราะเจ็บแผล หรือเป็นเพราะเห็นรูปถ่ายกันแน่
มันเป็นรูปถ่ายครอบครัวพร้อมหน้าของหลีชู่ ถ่ายที่ทะเลสาบโฮ่วห่าย (สถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่ง) ตัวเขาในรูปยังเล็กอยู่ พ่อแม่ยังไม่หย่ากัน ครอบครัวสามคน รักใคร่สนิทสนม
“นี่คือพ่อแม่ของเธอใช่ไหม” เหลียงวานกล่าว
“ใช่ เขาทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง ทำไมเขาถึงมีรูปถ่ายใบนี้”
“นี่เป็นการบอกกับเธอว่า ถ้าเธอคิดจะหนีไปทั่ว ทางที่ดีควรพาพ่อแม่เธอหนีไปด้วย ไม่อย่างนั้น เธอหนีไปได้ พวกเขาก็จะเป็นคนซวยแทนเธอ”
หลีชู่มองดูรูปถ่าย ตับไตไส้พุงหนาวแข็ง ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี
เขาสามารถพาพ่อแม่หนีไปด้วยได้หรือ ไม่มีทาง! อย่าว่าแต่พ่อหัวแข็งที่ไม่มีวันเชื่อเขา แม่ของเขาก็มีครอบครัวของตัวเอง เขาจะบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้อย่างไร อีกทั้งเรื่องมันโม้แรงขนาดนั้น พวกเขาไม่มีทางเชื่อ เหมือนกับสมัยที่เขายังเด็ก ถ้าพวกเขาให้ความสำคัญกับตน เชื่อตน ก็ไม่มาถึงขั้นหย่าร้างกันเช่นวันนี้
เขามองรูปถ่ายนั้นใจลอย ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง กำรูปถ่ายไว้ในมือแน่น
ไม่ใช่ว่าเขาได้ทำการตัดสินใจแล้ว แต่พบว่า เขาทำได้เพียงไม่ตัดสินใจใดๆ ทั้งนั้น แล้วรอดูว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไป
เมื่อนานมาแล้ว ปู่ของผมมักบอกกับผมว่า จงรู้ “แรงบันดาลใจแรกเริ่ม” ของคน ปู่เรียกมันว่าวัตถุประสงค์ตั้งต้น มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ผมสับสนระหว่างแรงบันดาลใจกับเป้าหมายสุดท้าย ต่อมาผมจึงเข้าใจ แรงบันดาลใจมาจากเมื่อเริ่มต้น ส่วนเป้าหมายมักเป็นตอนสุดท้าย อีกทั้งสิ่งเหล่านี้ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ขณะอยู่ในกระบวนการ บางครั้งบางครา เป้าหมายถึงกับมุ่งสู่ฝั่งตรงข้ามกันกับเมื่อเริ่มต้น---อู๋เสีย
ร่วมงาน
อู๋เสียเคลียร์สิ่งของบนโต๊ะ วางเหรียญกษาปณ์เหรียณหนึ่งลงกลางโต๊ะ “นี่คือนครเฮยสุ่ยแห่งซีเซี่ย” แล้ววางซองบุหรี่ไว้ข้างๆ “นี่คือพิกัดคร่าวๆ ที่หลานถิงไป เธอเห็นอะไรไหม”
หลีชู่ทาบดูเล็กน้อย “ใกล้กันมากเลยนะ”
“นครเฮยสุ่ยเป็นเมืองโบราณชื่อดังของเส้นทางสายไหมโบราณ ต่อมาในยุคราชวงศ์สุ่ย ถูกกลบฝังด้วยพายุทรายในชั่วข้ามคืน หายสาบสูญไปนับแต่นั้น ภายหลังในปี 1909 ถูกโจรขุดสุสานรัสเซียค้นพบและขุดขึ้นมา ถูกยกเค้าจนเกลี้ยง” อู๋เสียกล่าว “แต่ว่า ผู้คนทั่วไปเชื่อว่า สมบัติที่แท้จริงของนครเฮยสุ่ยยังไม่ถูกพบ ก่อนราชวงศ์สุ่ย นครเฮยสุ่ยเป็นปราการด่านสำคัญ รอบๆ มีคนตายนับไม่ถ้วน นครเฮยสุ่ยเคยมียุครุ่งเรืองในประวัติศาสตร์หลายช่วง ในยุคราชวงศ์ตั่งเซี่ยง (Tanghut=ทิเบต) ชนเผ่ามองโกลที่เฝ้าเมืองในยามนั้น ทำกำไรเป็นสมบัติมหาศาล ผู้ปกครองนครถูกทัพใหญ่แห่งจงหยวนล้อมไว้ ภายหลังถูกตัดเส้นทางน้ำ ตีฝ่าออกมาได้แล้วหนีเข้าทะเลทราย แต่เมื่อทัพใหญ่แห่งจงหยวนเข้าเมือง กลับไม่พบทรัพย์สมบัติใดๆ มีคนสงสัยว่า สมบัติทั้งปวงของนครเฮยสุ่ยในยุคตั่งเซี่ยง ถูกชาวมองโกลพวกนี้นำเข้าสู่ทะเลทรายปาตันจี๋หลินทั้งหมด ดังนั้น กองทัพจงหยวนพาขบวนไล่ตามเข้าทะเลทราย แกะรอยเท้ามาเรื่อยๆ จนถึงสถานที่ที่ชื่อกู่ถงจิง”
หลีชู่ฟังจนเคลิ้ม เขานีกภาพรายละเอียดและบทสรุปตอนท้ายเอาไว้ในใจคร่าวๆ แล้ว ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม เรื่องเล่าของอู๋เสีย จะต้องมันหยดแน่ๆ
“พวกเขาเจอเสื้อเกราะและอาวุธของทหารแตกทัพมองโกล ทั้งหมดตกกระจายอยู่บนพื้นทราย แต่ตัวคนหายไป ไม่มีคราบเลือด ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเสื้อผ้าและอาวุธพวกนี้เท่านั้น” อู๋เสียกล่าว
หลีชู่ “อ้อ” ออกมาคำหนึ่ง เว้นเล็กน้อย “แล้วข้อสรุปของคุณคืออะไร”
อู๋เสียถอนหายใจเฮือกหนึ่ง จุดบุหรี่มวนใหม่ สูบเข้าหนึ่งที “ดูตามตำนานนี้แล้ว เมื่อยามนั้น ชาวมองโกลกลุ่มนี้จะต้องซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในทะเลทรายอย่างแน่นอน ทรัพย์สมบัติพวกนี้เมื่อขนออกมาแล้ว ย่อมไม่สามารถนำติดตัวไว้ตลอดเวลา จะต้องซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่งในทะเลทราย และจะต้องอยู่รอบๆ กู่ถงจิงด้วย” เขาหัวเราะ “ถ้ากู่ถงจิงมีซากสุสานหลวงเก่าที่ลึกลับ ก็จะเป็นที่ซ่อนสมบัติพวกนี้ที่ดีที่สุด ข้อมูลประเภทนี้ เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งสำหรับคนค้าขายวัตถุโบราณอย่างฉัน ดังนั้น ฉันจึงส่งขบวนลูกน้องของฉัน มุ่งหน้าไปสืบค้นในทะเลทราย สี่เดือนก่อน ในที่สุดพวกเขาก็หาสถานที่ในรูปถ่ายเจอ แต่กลับไม่พบอะไรเลย เบาะแสเดียวที่ได้มา” อู๋เสียชี้ไปที่หลังของหลีชู่ “ก็คือภาพนี้ พวกเขาเจอพระพุทธรูปองค์หนึ่งในอารามผาถ้ำร้างรอบนอกกูู่ถงจิง บนหลังของพระพุทธรูป พวกเขาพบภาพที่คล้ายรอยสักนี้ วาดอยู่บนนั้น”
หลีชู่ได้ยินจากเหลียงวานว่า พวกเขาเจอภาพภาพนี้จากหลังของศพโบราณ ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องโกหก เรื่องราวเบื้องหลังของมัน ที่แท้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ “ไม่ใช่หลังของศพโบราณยุคราชวงศ์สุยหรือ”
“นั่นเป็นเรื่องแต่งของหวังเหมิง” อู๋เสียกล่าว “เธอคงรู้แล้ว คนที่ฉันส่งออกไปทำงานนี้ชื่อหวงเหยียน ตอนแรกฉันเลิกหวังว่าจะเจอสิ่งของใดๆ จากสถานที่นั่นแล้ว พวกคนที่กลับมา ก็ดูเหมือนเกิดปัญหาทางจิตประสาทกันนิดหน่อย โดยเฉพาะเจ้าหวงเหยียน เขาปักใจเชื่อว่าภาพภาพนี้กับกู่ถงจิง มีความเกี่ยวข้องกัน เริ่มพยายามแก้ปริศนาของภาพนี้อย่างบ้าคลั่ง ต่อมาฉันแทบหาตัวเขาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่ว่า ฉันได้ทำผิดพลาดอีกหนึ่งอย่าง ฉันไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ หลังจากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์เรื่องหลังของเธอ”
“ถ้าอย่างนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่” หลีชู่ถาม “ทำไมเขาจึงตาย”
“เขาถูกคนเก็บ” อู๋เสียเขี่ยบุหรี่ทีหนึ่ง “ฉันไม่รู้ว่าเขาตายได้ยังไง แต่ก่อนตาย เขาได้สลักเบาะแสทั้งหมดที่เขาพบลงบนหลังของเธอ เบื้องหลังของเรื่องนี้จะต้องซับซ้อนมากแน่นอน ฉันคาดเดาภาพบนหลังเธออาจจะบอกเราได้ว่า สมบัติที่ชาวมองโกลพวกนั้นนำออกมาอยู่ที่ไหน ดังนั้นหากทิ้งเธอไว้ที่นี่ อาจเป็นอันตรายมาก เธอติดตามเราไปทะเลทราย ไม่ว่าเราจะหาของเหล่านั้นเจอหรือไม่ ฉันก็จะประกาศออกไปว่าพวกเราได้มาแล้ว จากนั้น เธอก็จะหมดประโยชน์ และปลอดภัย”
หลีชู่ลูบหน้า ไม่อาจปฏิเสธว่า อู๋เสียพูดอย่างมีเหตุผล แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เหมาะ ภายในใจมีความปรารถนาหนึ่งต้องการให้เขาหนี ขณะนี้เขาจึงตระหนักได้ว่าตนช่างอ่อนแอ ความจริงคือตนไม่สามารถพิจารณาสถานการณ์---เขาในขณะนี้ ทำได้เพียงรับปาก แต่โดยสัญชาตญาณแล้ว เขาอยากหลบหนี
“เจ้านาย พูดตามตรงนะ คุณมีความจริงใจมากพอแล้ว แต่กลับเป็นเพราะความจริงใจพวกนี้ทำให้ผมรู้สึกกังวล ผมรู้สึกว่าในนี้มีกับดัก คนทำอาชีพอย่างพวกคุณ ไม่มีทางจริงใจขนาดนี้ได้” อีกทั้งการไปกู่ถงจิงมันอันตรายขนาดนั้น ยังมีโอกาสเป็นบ้าอีกด้วย ใครจะไปยอม! หลีชู่ไม่กล้าพูดออกมา เพียงพึมพำในใจ
“ในเชิงการค้า มันเป็นไปไม่ได้ แต่เรื่องพวกนี้ พูดออกมาก็ไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอเชื่อแล้ว แต่เมื่อกลับไปพักสักครู่ ก็จะรู้สึกว่าฉันโม้ แต่ภาพบนหลังของเธอนั้นมีอยู่จริง อันตรายก็มีอยู่จริง” อู๋เสียดูนาฬิกาข้อมือ “ฉันได้เล่าทุกอย่างที่เล่าได้กับเธอหมดแล้ว อีกสามวัน ฉันจะไปรับเธอที่โรงพยาบาล ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างสุภาพต่อกัน ฉันก็ไว้ใจเธอ แต่ถ้าเธออย่าตุกติกกับฉัน ถ้าเธอร้ายกับฉัน ฉันจะกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง เมื่อถึงตอนนั้น เธอหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ฉันหาตัวเจอ”
หลีชู่ฟังเสียงประตูลิฟต์ปิดลง รู้ว่าคนกลุ่มนี้จากไปแล้วจริงๆ จึงถอนใจอย่างโล่งอก
“เปิดประตู! แม่จะแตกแล้ว” เหลียงวานร้องลั่นอยู่ในห้อง หลีชู่ปล่อยเธอออกมา เธอก็วิ่งตรงเข้าห้องน้ำทันที
หลีชู่ประคองใบหน้าตนเอง บอกให้ตัวเองผ่อนคลายลง เขากัดฟันอย่างอ่อนแรง นึกในใจว่า ‘สวรรค์ ฉันไปทำกรรมอะไรไว้นะ นี่ฉันเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม หวงเหยียนทุบหัวฉันจนสมองเสื่อมไปแล้ว แต่ฉันไม่รู้ตัว มีชีวิตอยู่ในภาพลวงตาของตัวเอง’
เรื่องพวกนี้จะเกิดกับฉันได้ยังไง ทะเลทรายปาตันจี๋หลิน สถานที่ห่าเหวที่แม้แต่ชื่อยังไม่เคยได้ยิน
เหลียงวานถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่มีแรงเล่ารายละเอียด เพียงเล่าใจความคร่าวๆ เมื่ออู๋เสียจากไป ความหวาดกลัวในใจของเขา ซึมซ่านออกมาเหมือนหยดหมึกลงบนกระดาษสา ตราชั่งในใจของเขา เทเอียงไปทางการถอยหนีทั้งหมด คิดยังไงก็ไม่ถูกต้อง
อู๋เสียคาดการณ์เอาไว้แม่นยำมาก หลีชู่ทบทวนเรื่องเล่าของอู๋เสีย ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเขากุขึ้น อีกทั้งเขารู้สึกจริงๆ ว่า คนพวกนี้พาตนไปทะเลทราย ต้องมีเจตนาอื่นเคลือบแฝง เมื่ออู๋เสียไป เขาก็แทบตัดสินใจในทันที “พี่สาว ผมต้องไปซ่อนตัวต่างถิ่นทันที หัวของคนพวกนี้มีปัญหา คุณให้ผมยืมเงินนิดหน่อยได้ไหม”
เหลียงวานไม่ไปสนใจเขา แต่รีบดูแผลของเขาทันที ตรวจดูว่าเมื่อครู่ละเลยส่วนไหนไปหรือเปล่า เธอจ้องหลังของหลีชู่ มีสีหน้าครุ่นคิด หลีชู่เรียกชื่อเธอหลายครั้ง จึงได้สติ พูดว่า “เธอตั้งใจว่าจะไปซ่อนตัวที่ไหน”
“ไม่รู้ ซื้อตั๋วอะไรได้ก็ไป ไปทิเบต ไปเหมียวเจียง ที่ไหนกันดารก็ไปที่นั่น เอาเป็นว่าต้องซ่อนอยู่ในที่ที่พวกนั้นหาผมไม่เจอ”
“ฉันแนะนำว่าเธออย่าเปลืองสมองคิดเลย” เหลียงวานจับแผลของเขา พูดช้าๆ ว่า “เธอหนีไม่พ้นฝ่ามือพวกเขาหรอก”
“ทำไม”
“เขาทิ้งรูปถ่ายใบหนึ่งไว้ที่หลังเธอ เธออาจเจ็บแผลเกินไป จึงไม่รู้สึก”
หลีชู่พยายามเงยหน้าขึ้น รับรูปถ่ายมา แล้วแทบจะร้องออกมาในทันที ไม่รู้เป็นเพราะเจ็บแผล หรือเป็นเพราะเห็นรูปถ่ายกันแน่
มันเป็นรูปถ่ายครอบครัวพร้อมหน้าของหลีชู่ ถ่ายที่ทะเลสาบโฮ่วห่าย (สถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่ง) ตัวเขาในรูปยังเล็กอยู่ พ่อแม่ยังไม่หย่ากัน ครอบครัวสามคน รักใคร่สนิทสนม
“นี่คือพ่อแม่ของเธอใช่ไหม” เหลียงวานกล่าว
“ใช่ เขาทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง ทำไมเขาถึงมีรูปถ่ายใบนี้”
“นี่เป็นการบอกกับเธอว่า ถ้าเธอคิดจะหนีไปทั่ว ทางที่ดีควรพาพ่อแม่เธอหนีไปด้วย ไม่อย่างนั้น เธอหนีไปได้ พวกเขาก็จะเป็นคนซวยแทนเธอ”
หลีชู่มองดูรูปถ่าย ตับไตไส้พุงหนาวแข็ง ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี
เขาสามารถพาพ่อแม่หนีไปด้วยได้หรือ ไม่มีทาง! อย่าว่าแต่พ่อหัวแข็งที่ไม่มีวันเชื่อเขา แม่ของเขาก็มีครอบครัวของตัวเอง เขาจะบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้อย่างไร อีกทั้งเรื่องมันโม้แรงขนาดนั้น พวกเขาไม่มีทางเชื่อ เหมือนกับสมัยที่เขายังเด็ก ถ้าพวกเขาให้ความสำคัญกับตน เชื่อตน ก็ไม่มาถึงขั้นหย่าร้างกันเช่นวันนี้
เขามองรูปถ่ายนั้นใจลอย ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง กำรูปถ่ายไว้ในมือแน่น
ไม่ใช่ว่าเขาได้ทำการตัดสินใจแล้ว แต่พบว่า เขาทำได้เพียงไม่ตัดสินใจใดๆ ทั้งนั้น แล้วรอดูว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไป
เมื่อนานมาแล้ว ปู่ของผมมักบอกกับผมว่า จงรู้ “แรงบันดาลใจแรกเริ่ม” ของคน ปู่เรียกมันว่าวัตถุประสงค์ตั้งต้น มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ผมสับสนระหว่างแรงบันดาลใจกับเป้าหมายสุดท้าย ต่อมาผมจึงเข้าใจ แรงบันดาลใจมาจากเมื่อเริ่มต้น ส่วนเป้าหมายมักเป็นตอนสุดท้าย อีกทั้งสิ่งเหล่านี้ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ขณะอยู่ในกระบวนการ บางครั้งบางครา เป้าหมายถึงกับมุ่งสู่ฝั่งตรงข้ามกันกับเมื่อเริ่มต้น---อู๋เสีย
anurakbeer- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 184
Points : 3946
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
กรีดร้อง นายน้อยร้ายกาจมากกกกก
หลีชู่เป็นเด็กดี ว่าง่ายๆ เถอะนะลูก อยู่กับนายน้อยเนี่ยดีที่สดแล้ว นายน้อยจริง ๆ ใจดีใจอ่อนนะคะ
ตอนนี้นายน้อยมาเฟียมากกกกก เท่มาก ร้ายกาจมาก กรีดร้องโหยหวน รักนายน้อยและจะรักตลอดไปค่ะ
หลีชู่เป็นเด็กดี ว่าง่ายๆ เถอะนะลูก อยู่กับนายน้อยเนี่ยดีที่สดแล้ว นายน้อยจริง ๆ ใจดีใจอ่อนนะคะ
ตอนนี้นายน้อยมาเฟียมากกกกก เท่มาก ร้ายกาจมาก กรีดร้องโหยหวน รักนายน้อยและจะรักตลอดไปค่ะ
Yuwadee Wana- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 352
Points : 3840
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
อะโหย..........นายน้อยยิ่งอัพเลเวลออร่ามาเฟียขึ้นทุกตอน
ขอบคุณคุณเบียร์มากเลยนะคะ^^
ขอบคุณคุณเบียร์มากเลยนะคะ^^
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
หลีซู่จ๋า หนูเชื่อฟังนายน้อยดีๆเถอะ นายน้อยเป็นคนดีนะเออ
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3842
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
นายน้อย ร้ายกาจมากก อ่านจบพูดอะไรไม่ออกเลย นอกจากคำว่านายน้อยร้ายกาจ โอ้ยยยยยยย นี่คนเดียวกะเทียนเจินอู๋เสียคนนั้นจริงๆน่ะหรอ นายน้อยยยยยยย โคตรน่ากลัว มาเฟียมากกกก ขำไม่ออกแล้วววววววววว
Mayao- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 26
Points : 3330
Join date : 23/04/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
นายน้อยยยยยย *กระโจนเข้าเลียรองเท้าเถ้าแก่*
น่ารักจังเลย ขู่ได้เท่มาก แง น่ารัก ดี แงเทิร์นควีนหนักมาก
สรุปว่านายน้อยจะหิ้วหลีชู่ไปซวยนี่แค่เพราะอยากรู้ข้อมูลกับไปตบแย่งของกับใครสักคนที่จะมาเก็บน้องสินะคะ 555555 ทำไมเป็นคนแบบนี้!!! 555555 แต่ดีค่ะ ดี เท่เหลือเกิน
ขอบคุณสำหรับแปลนะคะ ซาไห่ยังจำเป็นอยู่ค่ะ แฮ่กๆ ฟืดๆ
น่ารักจังเลย ขู่ได้เท่มาก แง น่ารัก ดี แง
สรุปว่านายน้อยจะหิ้วหลีชู่ไปซวยนี่แค่เพราะอยากรู้ข้อมูลกับไปตบแย่งของกับใครสักคนที่จะมาเก็บน้องสินะคะ 555555 ทำไมเป็นคนแบบนี้!!! 555555 แต่ดีค่ะ ดี เท่เหลือเกิน
ขอบคุณสำหรับแปลนะคะ ซาไห่ยังจำเป็นอยู่ค่ะ แฮ่กๆ ฟืดๆ
Malangporyim- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 290
Points : 3792
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทุ่งด้วงโฮโม
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
ไปเถิดน้องหลี ตามเขาไปจะได้เจอแต่สิ่งดี้ดี~~~
annminki- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 46
Points : 3495
Join date : 30/11/2014
Age : 31
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
อาเสียของฉันสมเป็นนายน้อยตระกูลอู๋แห่ง 9 ตระกูลใหญ่แล้ว
ครั้งนี้เพื่อเป้าหมาย ไม่ว่าจะต้องใช้สิ่งใดหรือวิธีการใด ล้วนไม่สำคัญ
หลี่ซู่วางใจเถอะ เจอกับนายน้อยแซ่อู๋คนนี้ ดีกว่าเจอคนอื่นๆในแก๊งค์นี้เยอะนะ
ถึงอาเสียจะร้ายกาจขึ้นมาก แต่ดูไปก็ร้ายกาจอำมหิตเท่าเพื่อนฝูงพรรคพวกไม่ได้หรอก
ครั้งนี้เพื่อเป้าหมาย ไม่ว่าจะต้องใช้สิ่งใดหรือวิธีการใด ล้วนไม่สำคัญ
หลี่ซู่วางใจเถอะ เจอกับนายน้อยแซ่อู๋คนนี้ ดีกว่าเจอคนอื่นๆในแก๊งค์นี้เยอะนะ
ถึงอาเสียจะร้ายกาจขึ้นมาก แต่ดูไปก็ร้ายกาจอำมหิตเท่าเพื่อนฝูงพรรคพวกไม่ได้หรอก
hnee- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 203
Points : 3686
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
นานวันผ่านไป เดี๋ยวนี้นายน้อยอีพเกรดความร้ายกาจขึ้นเยอะนะคะ ถถถถถถถถถถถ
ขอบคุณที่แปลให้อ่านค่ะ รอตอนต่อไปเสมอค่ะ OJZ
ขอบคุณที่แปลให้อ่านค่ะ รอตอนต่อไปเสมอค่ะ OJZ
mikanchan- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 15
Points : 3378
Join date : 23/02/2015
Age : 27
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
อ๊ายยยย มัวแต่งมงาน มาอีกทีบอร์ดเปลี่ยนไปปปปปป
แต่ที่สำคัญคือซาไห่อัพ !! //เรานี่กระโจนมาอ่านเป็นอันดับแรกเลยค่ะ 5555
ก่อนอื่นใด มีข้อสงสัยว่าคุณเบียร์จะพิมพ์พลาดค่า แง ถ้าถูกแล้วแต่เราเบลอเอง ยังไงก็ขอโทษนะคะ ;;v;;
"แต่ถ้าเธออย่าตุกติกกับฉัน" => "แต่ถ้าเธอตุกติกกับฉัน" หรือเปล่าอ่ะคะ ;;v;; คำว่าอย่ามาทีงงเลย....
///////////เข้าโซนโวยวาย///////////////
นายน้อยร้ายกาจจจจจจจจจจ !!! ลูกไม้นี้โบราณมากแต่ก็ได้ผลดีทุกยุคทุกสมัยสิน่า !
หลี่ชู่... เข้าใจอยู่นะว่าเป็นใครก็อยากจะเผ่นหนี แต่กับคนชวนคนนี้ ยุยงค่ะ ตอบรับไปเลย ไปกับเขาเถอะ สนุกแน่--- แอร๊บ
//โดนกรีดร้องคุงกรีดร้องใส่หูทำนอง "เอ็งไม่ใช่ตูนี่หว่าก็พูดได้เซ่!"
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่าาาาา //กราบคุณเบียร์อีกรอบ
แต่ที่สำคัญคือซาไห่อัพ !! //เรานี่กระโจนมาอ่านเป็นอันดับแรกเลยค่ะ 5555
ก่อนอื่นใด มีข้อสงสัยว่าคุณเบียร์จะพิมพ์พลาดค่า แง ถ้าถูกแล้วแต่เราเบลอเอง ยังไงก็ขอโทษนะคะ ;;v;;
anurakbeer พิมพ์ว่า:Chapter 13
“ในเชิงการค้า มันเป็นไปไม่ได้ แต่เรื่องพวกนี้ พูดออกมาก็ไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอเชื่อแล้ว แต่เมื่อกลับไปพักสักครู่ ก็จะรู้สึกว่าฉันโม้ แต่ภาพบนหลังของเธอนั้นมีอยู่จริง อันตรายก็มีอยู่จริง” อู๋เสียดูนาฬิกาข้อมือ “ฉันได้เล่าทุกอย่างที่เล่าได้กับเธอหมดแล้ว อีกสามวัน ฉันจะไปรับเธอที่โรงพยาบาล ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างสุภาพต่อกัน ฉันก็ไว้ใจเธอ แต่ถ้าเธออย่าตุกติกกับฉัน ถ้าเธอร้ายกับฉัน ฉันจะกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง เมื่อถึงตอนนั้น เธอหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ฉันหาตัวเจอ”
"แต่ถ้าเธออย่าตุกติกกับฉัน" => "แต่ถ้าเธอตุกติกกับฉัน" หรือเปล่าอ่ะคะ ;;v;; คำว่าอย่ามาทีงงเลย....
///////////เข้าโซนโวยวาย///////////////
นายน้อยร้ายกาจจจจจจจจจจ !!! ลูกไม้นี้โบราณมากแต่ก็ได้ผลดีทุกยุคทุกสมัยสิน่า !
หลี่ชู่... เข้าใจอยู่นะว่าเป็นใครก็อยากจะเผ่นหนี แต่กับคนชวนคนนี้ ยุยงค่ะ ตอบรับไปเลย ไปกับเขาเถอะ สนุกแน่--- แอร๊บ
//โดนกรีดร้องคุงกรีดร้องใส่หูทำนอง "เอ็งไม่ใช่ตูนี่หว่าก็พูดได้เซ่!"
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่าาาาา //กราบคุณเบียร์อีกรอบ
Xiamouren- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 30
Points : 3439
Join date : 28/01/2015
Age : 30
ที่อยู่ : แถวๆ ประตูสำริด ตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
ถ้าเธอร้ายกับฉัน ฉันจะกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง
ไม่อยากจะเชื่อว่า คนพูดจะเป็นนายน้อยของเรา
ชักจะเด็ดขาดน่าดู
ขอบคุณค่ะ
ไม่อยากจะเชื่อว่า คนพูดจะเป็นนายน้อยของเรา
ชักจะเด็ดขาดน่าดู
ขอบคุณค่ะ
sagacity191- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 53
Points : 3525
Join date : 06/11/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
ร้ายกาจ ร้ายกาจ นายน้อบชนะเลิศอีกแล้วค่ะงานนี้ จิตวิญญาณของมาเฟียโดยแท้ หลีชู่คิดจะหนีก็ไม่ได้แล้ว เอาน่าทำตามที่นายน้อยอู๋ต้องการไปเถอะนะ
prince501- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3277
Join date : 23/07/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
นายน้อยบทตัวร้ายยยยยย อ่อกกกกก
ดาเมจแรง ด้วงขอกราบ นี่มันฉากตัวร้ายข่มขู่คนบริสุทธิ์ชัดๆ ถถถถ
ดาเมจแรง ด้วงขอกราบ นี่มันฉากตัวร้ายข่มขู่คนบริสุทธิ์ชัดๆ ถถถถ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3860
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
นายน้อยเจ้าเล่ห์ขึ้นมากเลยนะเนี่ย
nightsza- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 51
Points : 3292
Join date : 28/06/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
ออร่ามาเฟียจับ...เเต่อย่าหลุดโก๊ะมานะคะนายน้อย
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3973
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
เหมือนเห็นอาสามกับเทียนเจินอู๋เสียผสมกันในตัวเถ้าแก่อู๋
Nlm1122- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 33
Points : 3231
Join date : 07/08/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
เจ้าหนูน้อยหลีชู่ ดูท่าจะถึงทางตันเสียแล้วสินะ
ไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง
การล่วงรู้ความลับที่ไม่ควรจะรู้
ชะตากรรมที่มีผู้มายัดเยียดให้อย่างไม่ตั้งใจ
เริ่มนำภัยมาสู่ตัวเด็กชายอย่างเลี่ยงไม่ได้
และไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็อันตรายอย่างยิ่งยวดทั้งสิ้น
งานนี้พร้อมบินสู้ทะเลทรายได้แล้วค่ะหลีชู่
ไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง
การล่วงรู้ความลับที่ไม่ควรจะรู้
ชะตากรรมที่มีผู้มายัดเยียดให้อย่างไม่ตั้งใจ
เริ่มนำภัยมาสู่ตัวเด็กชายอย่างเลี่ยงไม่ได้
และไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็อันตรายอย่างยิ่งยวดทั้งสิ้น
งานนี้พร้อมบินสู้ทะเลทรายได้แล้วค่ะหลีชู่
arshura09- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 118
Points : 3156
Join date : 14/01/2016
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 13 ร่วมงาน
ร้ายกาจมาก สงสารหลีซู่น้อยจัง
temslaw- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 33
Points : 3515
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ป่าท้อสิบลี้
Similar topics
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 12 เรื่องราวของอู๋เสีย (4)
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 24 ทะเลสาบเคลื่อนที่
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 01 หนุ่มน้อยผู้บาดเจ็บ
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 16 แผนการของอู๋เสีย
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 20 สิ่งที่แตะต้องไม่ได้
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 24 ทะเลสาบเคลื่อนที่
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 01 หนุ่มน้อยผู้บาดเจ็บ
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 16 แผนการของอู๋เสีย
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 20 สิ่งที่แตะต้องไม่ได้
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth