Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] อดีต (ผิงเสีย)
+2
casey
Fenrir
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] อดีต (ผิงเสีย)
[OS] อดีต (ผิงเสีย)
By Fenrir
ผมมีหลายร้อยหลายพันเรื่องที่อยากเล่าให้เขาฟัง
สิบปีที่เขาหายไปผมทำอะไรบ้าง พบคนแบบไหนมา ผ่านการฝึกฝนสุดโหดของเฮยเสียจื่อมาได้ยังไง ลงดินไปมากมายเท่าไหร่ ขึ้นเหนือล่องใต้จนกวาดรวบและขยายเขตอิทธิพลของอาสามไปขนาดไหน จนถึงวันที่ผมและทุกคนเคลื่อนขบวนไปหยุดหน้าประตูที่สลักอยู่ในความทรงจำผมมานานแสนนาน ผมอยากให้เขาได้รู้ทั้งหมด
หากมีอยู่เรื่องเดียวที่ผมอยากถาม
“จางฉี่หลิง นายเคยชอบฉันบ้างไหม?”
เมินโหยวผิงหันกลับมา มองผม ดวงตาของเขากระจ่างราบเรียบเหมือนผิวน้ำในแอ่งหลังหมดฝนโปรย
“...ฉันเคยชอบนาย”
ผมเบิกตากว้างเหมือนตัวตลก คำตอบของเขาอยู่เหนือความคาดหมายไปมาก ผมเคยนึกจินตนาการนับครั้งไม่ถ้วนว่าเมินโหยวผิงจะมีปฏิกริยาอย่างไรกับคำถามเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าของคำถามนั้นเป็นผม
เขาอาจนึกไม่ถึง ไม่รู้สึกอะไร เมินเฉยเหมือนผมไม่ได้อยู่ตรงนั้น เดินหนีไปดื้อๆ หรือทำท่าทำทางเหมือนคำถามของผมช่างไร้สาระกระทั่งไม่ควรหลุดมาจากปากเถ้าแก่สาม
แต่ผมไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ว่าคำตอบจะออกมาในรูปนี้ ทุกอย่างในหัวขาวโพลนและว่างเปล่า ทำอะไรไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก
ผมหลุบตา ปล่อยให้เสียงของเมินโหยวผิงค่อยๆซึมซับเข้ามาในหัว สวนทางกับความเจ็บปวดที่เริ่มซึมผ่านปากแผลเก่าจากวันวานที่เคยไร้เดียงสาของผม
หนึ่งคำถามที่คาอยู่ในใจมานานนับหลายปี บัดนี้ผมได้คำตอบจากปากเมินโหยวผิงแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องกลั้นใจกดความรู้สึกตีบตันบางอย่างที่จุกในลำคอ มองภาพคนที่ผมลงทุนลงแรงพากลับมาจากฉางไป๋ซานกำลังยกเป้สัมภาระใบใหญ่ขึ้นสะพายหลัง ตั้งท่าจะเดินออกไป
เมื่อก่อนเขาคงเห็นผมเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตช่วงหนึ่งของเขา เป็นคนที่พานพบและเข้ามาเกี่ยวโยงกันเพียงชั่วคราวเพื่อบรรลุบางอย่างและจากลากันเมื่อถึงเวลา
หากตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าสำหรับเขา สิบปีที่ผ่านมานี้ ผมเป็นอะไร
...คนที่เขาเคยชอบ...จะมีความหมายอื่นใดไปได้อีกนอกจากว่าจะไม่สลักสำคัญแล้ว
หรือร้ายที่สุดเท่าที่ผมคิดออก เขาเกลียดผม ซึ่งนั่นแย่ยิ่งกว่าการปฏิเสธตรงๆอีก
หางตาผมร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้ นี่ผมกำลังหวังอะไรจากสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่กัน แต่ลึกๆใจผมก็ไม่อยากให้เมินโหยวผิงลำบากใจไปมากกว่านี้
เมื่อเรากลับมาพบกันอีกครั้ง ผมเผชิญหน้ากับเขาพร้อมความตั้งมั่นที่จะบอกกับเมินโหยวผิง ต่อให้ไม่ฟังผมก็จะบังคับ
ให้เขายอมรับ ให้ยอมคิดคล้อยตามผมสักครั้งว่า “ชีวิตนี้เป็นของนาย”
นี่เป็นปณิธานที่ผมอยากมอบให้เขา มันอาจเป็นความดื้อดึง เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เหลือรอดมาถึงตัวผมในวันนี้ จะป้อนมันซ้ำๆจนจำสลักลงไปในหัว ให้มันเป็นคำสาปที่ต่อให้โรคสูบวิญญาณจากสายเลือดตระกูลจางก็ลบล้างหรือทำอะไรคำพูดผมไม่ได้ เมินโหยวผิงควรเป็นอิสระเสียทีจากสิ่งที่ตระกูลและคนรุ่นก่อนขีดเส้นวางชะตาให้เดิน ผมต้องการให้เขาพึงจดจำอยู่เสมอว่าโลกนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกหน้าเลย ตราบใดที่เขามองชีวิตตัวเองเป็นสิ่งที่เขาเท่านั้นกำหนดได้
และนับตั้งแต่วินาทีที่พวกเราพาตัวเมินโหยวผิงออกมาจากประตูสำริด ในสายตาของเถ้าแก่สาม ภาระหน้าที่ทั้งหมดในฐานะจางฉี่หลิงได้สูญหายไปกับสิบปีแห่งความทรมานทั้งเขาและผมจนหมดสิ้น
ไม่เหลือปลอกคอจากอดีตล่ามเราไว้อีกแล้ว มีแต่ปัจจุบันและอนาคตที่ต้องก้าวไปหา
‘ไม่ว่านายอยากไปไหน อยากทำอะไร นายเลือกได้เองแล้วนะ’
ผมเคยเอ่ย เห็นได้ชัดว่าเขาฟังอยู่ แต่ไม่ได้พูดอะไร
‘แต่ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อ นายมาอยู่กับฉันก่อนก็ได้ จะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ก็แล้วแต่นาย ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอก’
เขาควรจะได้พัก มีบ้าน มีชีวิตที่สุขสงบเหมือนคนทั่วๆไป ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายในกรวย ไม่ข้องแวะกับอาณาจักรคนตายอีก หรือกระทั่งมีครอบครัว...
พอเขามีท่าทียอมรับในอิสรภาพที่ผมเฝ้ากรอกหูเขาทุกวัน ต้องการออกเดินทางตามใจปรารถนา เป็นผมซะเองที่กำลังจะกลายเป็นตัวถ่วงชีวิตใหม่ของเมินโหยวผิง
ผมอยากรั้งเขาไว้ บอกเขาดังๆ กลบทับความตั้งใจใดๆในหัวเขาให้มิด
อยู่ที่นี้...
อยู่ที่หังโจว...
อยู่กับฉัน...
ให้โอกาสฉัน เพื่อซื้อเวลาจากนายอีกสักนิด
นี่ผมกำลังจะกลืนน้ำลายตัวเอง เป็นผู้ล่ามโซ่เส้นใหม่ต่อจากบรรพบุรุษของเขากับมือน่ะหรือ?
ทั้งที่เขาทำเพื่อผมมามาก เสี่ยงตายช่วยผมออกมา เสียสละชีวิตสิบปีเฝ้าหลังประตูเพื่อปกป้องความไร้เดียงสาของผม
นี่ผมจะโลภมากไปถึงเมื่อไหร่ จะเห็นแก่ตัวร้องขออะไรจากเขาได้อีก
หรือท้ายที่สุดแล้วผมจะกลายเป็นเพียงอดีต เป็นเสี้ยวความทรงจำหนึ่งในล้านที่มีอยู่มากมายในตัวเมินโหยวผิง รอวันที่เขาจะกลับไปลืมเลือนหรือละทิ้งไว้เบื้องหลัง
“อู๋เสีย”
มือของเมินโหยวผิงยกขึ้นสัมผัสแก้มของผม น้ำตาไหลตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นผมไม่ทันได้รู้ตัว
ผมเงยหน้าขึ้น เสี่ยวเกออยู่ในชุดพร้อมออกเดินทาง โลกภายนอกและหนึ่งวงแขนโอบของผมห่างกันเพียงระยะราวห้าเมตรก่อนถึงบานประตู
ถ้าจะไป แล้วนายหยุดทำไม
นายควรรีบ ก่อนที่ฉันจะห้ามตัวเองไม่ไหว
“ฉันเคยชอบนาย”
ผมแทบร้อง หน้าชา เย็นวาบไปถึงไขสันหลัง
เมินโหยวผิง หัวจิตหัวใจนายมันทำด้วยอะไร!
นี่นายกะจะตัดรอนกันถาวรถึงขนาดย้ำความรู้สึกของนายให้ฉันฟังเชียวหรือ
“นั่นเป็นเรื่องในอดีต ฉันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้”
เขาละมือจากใบหน้าของผม ภาพตรงหน้าพร่ามัวจากการร้องไห้ไม่น้อย
น้ำตาอาจทำให้ผมปฏิเสธได้ว่าเมินโหยวผิงไม่ได้ยกยิ้มที่มุมปาก
“ฉันรักนาย”
แต่มันไม่ใช่ข้ออ้างที่ผมจะหลอกตัวเองว่าหูฟาดอย่างแน่นอน
หลังนิ่งค้างอยู่หลายวิ ผมพลันได้สติ รีบคว้าไหล่เขาไว้ก่อนเจ้าตัวจะหันหลังเดินออกไป
ให้ตายยังไงผมก็ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องก่อน อย่ามาโยนระเบิดทิ้งแล้วจากไปง่ายๆสิวะไอ้เรือพ่วงนี่!
หลังกึ่งลากกึ่งส่งสายตาข่มขู่แบบที่ลูกน้องเถ้าแก่สามได้เห็นบ่อยๆให้มานั่งดื่มชา คุยที่โต๊ะกลมกลางร้านให้เป็นเรื่องเป็นราวก็ได้ความกระจ่าง
เมินโหยวผิงตั้งใจออกเดินทางก็จริง แต่ไม่ใช่การไปแล้วไปลับ ไม่ใช่ความตั้งใจตัดขาดจากโลกโดยสิ้นเชิงเหมือนครั้งสิบปีก่อนที่เขามาลาผมหรือนายอ้วนก่อนไปฉางไป๋ซาน
ครั้งนี้เขามีเป้าหมายใหม่ที่เขาต้องไปทำ เป้าหมายของตัวเอง เมินโหยวผิงบอกว่าเขาต้องไปเอาของบางอย่างออกมาจากสุสานและอีกหลายที่ เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างที่ผมต้องการ
“ที่นายต้องการตะหาก” ผมแก้ “ว่าแต่ของที่นายว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ งั้นให้พวกฉันเดินทางไปด้วยน่าจะดีกว่า นายอ้วนก็ไม่น่าจะมีปัญหาด้วย ลงกรวยไปถ้ามีแต่คนคุ้นเคยที่มีฝีมือจะได้ทำงานง่ายขึ้น”
เขาส่ายหน้า “งานนี้มีแต่ฉันคนเดียวที่ทำได้ คนอื่นมาก็ไม่มีประโยชน์”
เอ๊ะ ไอ้นี่ ฟังแล้วชักแปลกๆ นี่เมินโหยวผิงหมายถึงผมหรือเปล่าวะ?
ถ้าเป็นตัวผมในอดีตคงของขึ้นลุกชี้หน้าเสี่ยวเกอไปแล้ว อย่าคิดว่าบอกรักกันเมื่อกี้แล้วจะมาพูดอะไรลบหลู่เถ้าแก่สามได้นะ
ต่อให้อีกฝ่ายเป็นจางฉี่หลิง ผมก็มั่นใจว่าตัวเองมีฝีมืออยู่พอตัวแล้ว ขบวนที่ไปพาตัวกลับกลับมาจากฉางไป๋ซานก็มีผมเป็นผู้นำเอง ถ้าไม่มีน้ำยาคงไม่รอดมานั่งหน้ามึนอยู่แบบนี้หรอก
“แล้วของที่ท่านใต้เท้าจางฉี่หลิงต้องการนักต้องการหนามันอะไรกันล่ะขอรับ ข้าน้อยเถ้าแก่สามผู้ต่ำต้อยไร้ประโยชน์ใคร่ขอความกระจ่างจากใต้เท้าได้บ้างหรือไม่”
เมินโหยวผิงวางถ้วยชาลง
“ฉันจะไปหาแหวน”
“แหวน? พวกสมบัติเครื่องประดับในสุสานน่ะเหรอ” ผมขมวดคิ้ว ลงกรวยด้วยกันมานาน ไม่เห็นเลยว่าเสี่ยวเกอกลายเป็นคนนิยมทรัพย์สินเงินทองของสวยงามไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ในโลงของจางฉี่หลิงรุ่นก่อน มีดาบทองคำดำและแหวนอีกสองวงที่ฝั่งร่วมไปด้วย”
ผมเข้าใจในทันทีว่าเมินโหยวผิงพูดถึงอะไร ตอนที่ผมกับนายอ้วนไปช่วยเสี่ยวเกอที่ติดอยู่ในหอบ้านสกุลจาง เราพบกับโลงของ ‘จางฉี่หลิง’ นอกจากร่องรอยการฝังทรัพย์สมบัติคู่กายร่วมลงไปอย่างดาบของเมินโหยวผิง ก็ยังมีวัตถุปริศนา ซึ่งเดาจากรูปร่างก็น่าจะเป็นแหวนตามที่เขาบอกจริง
“มันเป็นแหวนหยกคู่ สืบทอดกันมาในสกุลจาง คนที่มีกรรมสิทธิ์ในแหวนคู่นั้นมีเพียงผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าบ้านเท่านั้น”
...ซึ่งก็คือคนตรงหน้าผม เมินโหยวผิง จางฉี่หลิง เสี่ยวเกอของเรา... ผมคิดตาม เขาอธิบายต่อไป
“ผู้นำสกุลจะถือครองแหวนไว้ทั้งสองวง และจะต้องมอบแหวนวงหนึ่งนั้นให้กับคู่ครองเมื่อแต่งงาน ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจากอดีตที่ลบล้างไม่ได้ เมื่อผู้ถือครองแหวนหยกสิ้นอายุขัย ผู้ที่จะนำแหวนคู่ออกมาจากนิ้วมือของพวกเขาได้ มีเพียงจางฉี่หลิงคนต่อมา”
เขาผินหน้า มองท้องฟ้าผ่านช่องหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดอ้ารับลม
“ฉันจะไปนำแหวนหยกคู่กลับมา”
ความเงียบโรยตัวลงระหว่างผมกับเสี่ยวเกอ ใต้หน้าฉากที่ไร้อารมณ์ผมเห็นความเด็ดเดี่ยวในดวงตาคู่นั้น
ผมคิดว่าผมควรพูดอะไรสักอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะประโยคถัดมา
“แล้วกลับมาสวมให้นาย นายเองก็ต้องสวมให้ฉันด้วยเหมือนกัน”
เสียงของเมินโหยวผิงราบเรียบเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศเหมาะสมยามลงกรวย แต่หูของผมกลับได้ยินเพียงจังหวะกลองรัวรบในอกที่ดังชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
ผมกลั้นหายใจ ตอนนั้นเองเขาหันกลับมา เอื้อมมือทาบทับลงบนมือของผม อุณหภูมิอุ่นๆผ่านผิวกระเบื้องเคลือบของถ้วยชาเทียบกับความร้อนที่พุ่งพล่านผ่านสัมผัสแผ่วจางจากปลายนิ้วเขาบนผิวหนังไม่ได้แม้แต่นิด!
“หากนายว่าต้องการแบบนั้น อู๋เสีย”
จางฉี่หลิงวรยุทธ์ช่างร้ายกาจ! ด้วยคำพูดแค่ไม่กี่คำพลันทวีความร้อนจากมือแล่นปราดทะลุปรอทไปถึงใบหน้า หัวเหอผมเห่อร้อนระส่ำระส่ายคล้ายกำลังมีไข้
ผมแม่งรู้สึกเหมือนโดนเอาคืนจากคำถามที่ผมถามเขาไปในตอนแรก แล้วไอ้ประโยคบอกเล่าที่ทำให้คนฟังอย่างผมรู้สึกเหมือนโดนลองใจทั้งๆที่คำตอบนั้นก็รู้ๆกันดีมันอะไรกันหาไอ้บ้าเมินโหยวผิง
ไอ้คนขี้โกง!
“นายจะกลับมาจริงๆใช่ไหม” สีหน้าของผมคงไม่สู้ดีนัก เมื่อเขาพยักหน้าและสบตาผม คล้ายกับความกังวลที่ถ่วงอึ้งในตัวผ่อนกำลังลง
ผมถอนหายใจ ผมถือว่านั่นเป็นคำยืนยันจากคนปากหนักที่เครดิตดี เชื่อถือได้แล้วกัน
เมินโหยวผิงอยู่ในเสื้อฮู้ดตัวเก่งพร้อมข้าวของอุปกรณ์มากมาย เป็นภาพชินตาที่ผมจำได้ขึ้นใจทุกครั้งที่เขากำลังจะจากไป ทั้งคราวที่เขาเดินออกจากโรงพยาบาลไปเสียเฉยๆ หรือหันหลังให้ผมหลังการร่ำลาที่หังโจว
แต่ครั้งนี้มีสิ่งที่ต่างออกไป...
“หนึ่งสัญญา แลกกับหนึ่งชีวิตใหม่”
วงแขนกว้างที่แข็งแกร่งกว่าตาเห็นโอบผมเข้ามาจนเอนปะทะเข้ากับร่างของเขา ช่างรวดเร็วและเงียบเชียบสมเป็นยอดฝีมือ
“นายอยู่รอฉันที่นี่ อู๋เสีย”
ถ้าไม่รอแล้วฉันจะทำอะไรได้มากกว่านี้อีก? ผมได้แต่ตัดพ้อในใจ แต่แววตาที่หาได้ยากจากเมินโหยวผิงนั้นคงสะท้อนบางอย่างที่ทั้งผมและเขาต่างตกลงกันภายใต้ความเงียบพร้อมเพรียงกัน
ผมยืนส่งเขาที่หน้าประตู มองแผ่นหลังกว้างที่ถูกกระเป๋าสัมภาระใบโตบังจนเกือบมิด กลิ่นชาอ่อนๆที่เราสองคนดื่มยังกรุ่นกำจาย อบอวลด้วยกลุ่นอายความรู้สึกที่ทั้งแปลกหน้าและคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
สำหรับเขา นี่อาจเป็นการเดินทางไกลเพื่อเป้าหมายของตัวเองครั้งแรก
สำหรับผม นี่อาจเป็นการยินยอมปล่อยมือให้เขาเดินจากไปครั้งแรก
อดีตนั้นมันจบไปแล้ว ไม่ว่าเขาหรือผมก็ย้อนกลับไปแก้มันใหม่ให้เป็นดังใจไม่ได้อีก
เหลือแต่การเดินทางบทใหม่ของปัจจุบัน ในคราวนี้ทั้งเขาและผม เราจะเริ่มต้นออกเดินทางไกล ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางด้วยกัน
ไม่ว่าสุดสายเส้นทางอนาคตนั่นจะมีอะไรรอคอยอยู่
ขอเพียงมือคู่นี้ต่างเติมเต็มช่องว่างกันและกันด้วยมือของอีกฝ่าย
ผมไม่หวั่นเกรงหรือลังเลอะไรอีกแล้ว
Fin.
----------------------------------------
Talk
//นอนแผ่หรา
ไหงพล๊อตสั้นๆคำพูดกาวๆแค่ไม่กี่บรรทัดมันถึงงอกมาได้ขนาดนี้ เราไม่เข้าใจเลยยยยยย!!!!!!!!
Re: [OS] อดีต (ผิงเสีย)
จฉลข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะข่นบ๊ะ
เถ้าแก่อู๋เสียใจขนาดนี้ยังมาแกล้งกันอีก หนอย ชอบใจล่ะสิเห็นเค้าร้องไห้ตาแดงใส่น่ะ นายมันคนซาดิสม์
/กะ..ก็เข้าใจอยู่หรอก ด้วงก็ชอบรังแกเถ้าแก่เหมือนกัน เถ้าแก่น่าเคี้ยวจะตายไป *พูดเสียงเบาว์
เถ้าแก่อู๋เสียใจขนาดนี้ยังมาแกล้งกันอีก หนอย ชอบใจล่ะสิเห็นเค้าร้องไห้ตาแดงใส่น่ะ นายมันคนซาดิสม์
/กะ..ก็เข้าใจอยู่หรอก ด้วงก็ชอบรังแกเถ้าแก่เหมือนกัน เถ้าแก่น่าเคี้ยวจะตายไป *พูดเสียงเบาว์
casey- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 86
Points : 3586
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] อดีต (ผิงเสีย)
อร๊าย ตอนจบแบบนี้ล่ะที่ต้องการ ไม่เคยเขียนได้เองเล้ย 5555555
ที่ชอบมากที่สุดก็คือการได้เห็นเสี่ยวเกอเป็นอิสระนี่ล่ะ
เมื่อก่อนเคยชอบ แต่ตอนนี้รักสินะคะจางฉี่หลิง *วี้ดวิ้ว*
ในที่สุดก็แฮปปี้เอ็นดิ้งกับเสี่ยวเกอซะทีนะอู๋เสีย มีการไปเอาวงเอาแหวนด้วย ชอบจังค่ะ ชอบมากเลย ฮรือ
ที่ชอบมากที่สุดก็คือการได้เห็นเสี่ยวเกอเป็นอิสระนี่ล่ะ
เมื่อก่อนเคยชอบ แต่ตอนนี้รักสินะคะจางฉี่หลิง *วี้ดวิ้ว*
ในที่สุดก็แฮปปี้เอ็นดิ้งกับเสี่ยวเกอซะทีนะอู๋เสีย มีการไปเอาวงเอาแหวนด้วย ชอบจังค่ะ ชอบมากเลย ฮรือ
Eli-kun- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 80
Points : 3436
Join date : 04/03/2015
Re: [OS] อดีต (ผิงเสีย)
กรี๊ดดดดดดดด แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ฉันเคยชอบนาย......ที่บอกว่าเคยเพราะตอนนี้รักนายแล้ว
O<-< /ล้มตาย
เกร๊ดดด แงงง จางฉี่หลิงงงงง ร้ายกาจจจจจ ร้ายกาจที่สุดดดดด
ฮืออ ชอบบบบบบบบบบ ฮืออออ ไปเอาแหวนด้วย ฮืออออออ
ปล. Y/w/Y เราก็เป็นอีกคนที่รอรวมเล่มของคุณเบสนะก๊ะ /ส่งพลังหัวใจให้รัวๆ
ฉันเคยชอบนาย......ที่บอกว่าเคยเพราะตอนนี้รักนายแล้ว
O<-< /ล้มตาย
เกร๊ดดด แงงง จางฉี่หลิงงงงง ร้ายกาจจจจจ ร้ายกาจที่สุดดดดด
ฮืออ ชอบบบบบบบบบบ ฮืออออ ไปเอาแหวนด้วย ฮืออออออ
ปล. Y/w/Y เราก็เป็นอีกคนที่รอรวมเล่มของคุณเบสนะก๊ะ /ส่งพลังหัวใจให้รัวๆ
Cathareen- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 149
Points : 3595
Join date : 24/12/2014
Re: [OS] อดีต (ผิงเสีย)
จบแบบที่น้ำตาจะไหล จบแบบนี้ดีมากคะ คือแบบไม่ได้จากกันตลอดไปนิจริงมั้ย ละคงไม่นานเกินที่จะรอ
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [OS] อดีต (ผิงเสีย)
อื้อหือ ไอตอนฉันเคยชอบนายนี่แบบ ผมกำลังจะกระโดดง้างขาเตรียมดร็อปคิกใส่หน้าเสี่ยวเกอละ //ถ้าทำได้...
น้ำตากำลังจะไหล ทำไมแม่งเลวงี้วะเสี่ยวเกอ
ฉันรักนายใช้เวลาประมวลผลประมาณห้าวินาทีเลยนะเว้ย คือเหมือนกำลังจมน้ำ สำลัก ผมเผ้าสยายไปด้านบนเหมือนในหนัง เห็นริบหรี่ๆทั้งที่จมน้ำตอนกลางคืน จู่ๆก็เปรี้ยง ฟูๆ นิ่มๆ มีแคนดี้ลายสีรุ้ง กับโปลิ่งสีชมพูเด้งไปมาบนพื้นหญ้าเขียวขจี
เอื้อออออะ ไอเสี่ยงเกอบร้าาาาาาา //แต่ตอนหลังขอแต่งงานให้อภัย //นายน้อยตบหัวด้วยแรงเขิล ถถถถ
น้ำตากำลังจะไหล ทำไมแม่งเลวงี้วะเสี่ยวเกอ
ฉันรักนายใช้เวลาประมวลผลประมาณห้าวินาทีเลยนะเว้ย คือเหมือนกำลังจมน้ำ สำลัก ผมเผ้าสยายไปด้านบนเหมือนในหนัง เห็นริบหรี่ๆทั้งที่จมน้ำตอนกลางคืน จู่ๆก็เปรี้ยง ฟูๆ นิ่มๆ มีแคนดี้ลายสีรุ้ง กับโปลิ่งสีชมพูเด้งไปมาบนพื้นหญ้าเขียวขจี
เอื้อออออะ ไอเสี่ยงเกอบร้าาาาาาา //แต่ตอนหลังขอแต่งงานให้อภัย //นายน้อยตบหัวด้วยแรงเขิล ถถถถ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Similar topics
» [OS] อดีต [เอ่อร์เสีย]
» [OS] #dmbjdaily '520' (ผิงเสีย :: เหม่งจาง,ผิงเสีย)
» [OS-AU] วิธีสยบเด็กฉบับเฮยเสียจื่อ #ผิงเสีย + เฮย
» [OS] โรค - ผิงเสีย
» [OS] งานวิจัยว่าด้วยการศึกษาพฤติกรรมของจางฉี่หลิง (ผิงเสีย)
» [OS] #dmbjdaily '520' (ผิงเสีย :: เหม่งจาง,ผิงเสีย)
» [OS-AU] วิธีสยบเด็กฉบับเฮยเสียจื่อ #ผิงเสีย + เฮย
» [OS] โรค - ผิงเสีย
» [OS] งานวิจัยว่าด้วยการศึกษาพฤติกรรมของจางฉี่หลิง (ผิงเสีย)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth