Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] The Waiting (ผิงเสีย)
4 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] The Waiting (ผิงเสีย)
[OS] The Waiting
By Fenrir
เขาอยู่มานาน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ได้ตลอดไป
ผมเคยคิดว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายจากเขาไปก่อน กลับกลายเป็นว่าตอนนี้คนที่ถูกทิ้งไว้กลับกลายเป็นผม เป็นเทียนเจินอู๋เสียในสายตาของเขาเสมอมา
ปี๊บ...ปี๊บ...ปี๊บ...
ใต้แสงไฟสลัว ผมยืนเคียงข้างเขา ลมหายใจเย็นชวนยะเยือกลอยเป็นไอขาวฟุ้งในอากาศ แต่ทั้งหมดนี้คงไม่หนาวเท่าเขาที่ต้องอยู่แต่ในนั้น
จางฉี่หลิงตายครบหนึ่งเดือนแล้ว
-
ทุกอย่างเริ่มต้นและจบลงอย่างเรียบง่าย เหมือนครั้งแรกที่เขาและผมเดินสวนกันหน้าร้านของอาสาม
คล้อยบ่ายกลางฤดูใบไม้ร่วง เสี่ยวเกอนั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย หน้าต่างเปิดกว้างรับลมพัดเข้ามาเต็มที่ มู่ลี่สะบัดส่งเสียงกระทบกัน ผมก้าวเข้ามา นี่เป็นห้องของผมเอง คนที่ใช้ได้อย่างอิสระย่อมเป็นเจ้าของบ้าน นอกเหนือจากนั้นคือเมินโหยวผิง
วันนั้นเป็นวันพิเศษ ประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้า นายอ้วนนัดกับผมและเสี่ยวเกอเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเขาจะกลับมาเยี่ยมเราที่หังโจวและจะให้ผมพาไปเลี้ยงข้าวมื้อใหญ่ ผมด่าพอเป็นพิธีใส่โทรศัพท์ไปชุดนึงแต่ก็ยอมให้จนได้ จากนั้นเราจะทำอะไรได้อีกนอกจากบอกเสี่ยวเกอให้เรียบร้อยแล้วตั้งหน้าตั้งตาคอยวันที่จะได้มาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง เพราะหลังจากคณะของผมเดินทางกลับลงมาจากฉางไป๋ซาน ผม นายอ้วน รวมถึงเสี่ยวฮัว ก็แทบไม่ได้เจอกันอีก ต่างฝ่ายต่างมีงานของตนที่ต้องไปจัดการสะสาง ชีวิตมันเป็นเช่นนี้เอง เรื่องหนึ่งจบลงแล้วก็ผ่านไป ยังไม่ทันไรเรื่องใหม่ก็มาดักคอรออยู่ข้างหน้าราวภูตผีตามหลอกหลอน เพราะอย่างนั้นนี่จะเป็นมื้อแรกของพวกเราสามคนในรอบปีตั้งแต่เรื่องทั้งหมดจบลง
ใบหน้าของเมินโหยวผิงดูไม่เปลี่ยนไปจากยามปกติหรือเมื่อสิบปีก่อนเลยสักนิด ทว่าท่วงท่าผ่อนคลายบนเก้าอี้ตัวโปรดของผมทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างบริสุทธิ์ใจ นึกขอบคุณตัวเองเหลือเกินที่อดทนรอและทำทุกอย่างเพื่อพาตัวเขากลับมาอยู่ด้วยกันที่นี่ในวันนี้
“เสี่ยวเกอ ไปกันเถอะ” ผมเรียกเขาให้หลุดจากภวังค์ ตั้งใจเข้ามาหยิบอะไรเล็กๆน้อยๆแล้วพาเขาออกไปด้วยกัน
เข็มบนหน้าปัดนาฬิกาเคลื่อนไป กลไกฝีมือมนุษย์สรรสร้างขยับไหวส่งเสียงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก
ตรงกันข้ามกับก้อนเนื้อที่แทบหยุดเต้นและเลือดในกายที่เย็นเฉียบไปถึงไขสันหลัง สว่างวาบ แล้วว่างเปล่า ราวระเบิดกวาดล้างทุกอย่างกลางจักรวาล
“เสี่ยวเกอ” สองมือยกขึ้นสัมผัสใบหน้า รู้สึกอุ่นด้วยไอชีวิตแผ่วจาง ทว่าเย็นเกินกว่าจะมีวิญญาณ์สถิตในร่าง “เสี่ยวเกอ!”
เขาไม่ลืมตาขึ้นมาอีก แม้ผมจะเรียกเขาเท่าไหร่ก็ตาม
-
ในวงการคว่ำกรวย การมีคนตายหรือเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียเองถือเป็นเรื่องแสนสามัญธรรมดา หากก้าวมาอยู่ในโลกนี้แล้วย่อมได้พบได้เจอะเจอจนกลิ่นสาบสางศพและคาวเลือดติดตามตัว หัวใจคนไม่ใช่หินผา แต่เมื่อถูกทำร้ายทำลายบ่อยครั้ง นานวันเข้าย่อมสร้างเกราะหนา กว่าจะรู้ตัวว่าหัวใจถูกหุ้มด้วยเนื้อหินก็เมื่อนั้นที่คุณไม่มีแม้น้ำตาสักหยดจะหลั่งให้กับความตายที่เกิดขึ้นต่อหน้า ซึ่งอาจรวมถึงจางฉี่หลิงและตัวผมเอง
หากเวลาช่วงสิบปีที่แยกพวกเราไว้ด้วยประตูสำริดมีอำนาจมากพอจะเปลี่ยนบัณฑิตไก่อ่อนนอนเฝ้าร้านไปวันๆอย่างผมให้กลายเป็นก้อนหินเย็นชาผู้สืบทอดบารมีบัญชาหน้าด่านได้ไม่ต่างจากอาสาม ชีวิตของเขาที่ดำเนินยาวนานจนหาจุดเริ่มต้นไม่ได้ย่อมก่อร่างสร้างภูผาสูงตระหง่านอยู่ภายใน ผมคิดว่าเสี่ยวเกอเผชิญหน้ากับการพบพานและลาจากมามากกว่าใครกระทั่งชินชากับความตาย หากมีวันใดวันหนึ่งที่เขาต้องจากไป ย่อมถึงเวลาอันสมควรแล้วที่ร่างกายนี้ต้องหยุดพักหลับใหลไปตลอดกาล
การดำรงอยู่ของสกุลจางและภาระในฐานะทายาททั้งหมดล้วนเป็นของจางฉี่หลิง และเมื่อเขาจากไป ความลวง ความจริง ตัวตนของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมดับสูญตายตกตามกันไปด้วย
ความดื้อดึงของผมไม่มีวันยอมรับให้มันเป็นเช่นนั้น
เวลาของจางฉี่หลิงที่แบกรับหน้าที่หลังประตูสำริดอาจหมดลงเพราะผมเป็นคนจบมัน
แต่เวลาของเมินโหยวผิง เวลาที่เขาต้องใช้ร่วมกันกับผมมันยังไม่หมด
ทั้งผม ทั้งเสี่ยวเกอ เราไม่ได้อดทนรอสิบปีเพื่อพบกับจุดจบแบบนี้! ต่อให้ฟ้าดินลิขิตขีดเส้นให้อายุขัยของเขาสิ้นสุดลงแค่นี้ ผมก็จะลองทุกวิถีทางเพื่อยืดมันออกไป ต่อให้ด้ายชีวิตถูกตัดสะบั้น อู๋เสียคนนี้จะหาด้ายเส้นใหม่ที่แกร่งกว่ามาทดแทนให้!
ผมต้องการเขา
และผมรู้ว่าเขาก็ต้องการผมเหมือนกัน
“รออีกหน่อยนะเสี่ยวเกอ ฉันจะพานายกลับมาเดี๊ยวนี้แหละ”
นาบฝ่ามือบนผิวกระจกใส ความเย็นจากอีกฝากฝั่งของกระจกทำให้ผิวรู้สึกชาเหมือนแช่น้ำกลางทะเลสาปในฤดูหนาว อุณหภูมิระดับนี้อาจทำร้ายคนเป็น แต่มันจะดีสำหรับเมินโหยวผิง ด้วยความช่วยเหลือที่ต่อสายตรงจากตระกูลเซี่ยและตระกูลฮัว บวกกับทรัพย์สินและอิทธิพลมากมายที่ผมไขว้คว้าหามาเลือดตาแทบกระเด็นภายในสิบปีนี้ทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์และบุคลากรชั้นแนวหน้ามากความรู้ทั้งหลายส่งมาถึงมืออย่างรวดเร็ว ร่างของเมินโหยวผิงถูกผมสั่งย้ายไปที่บ้านอีกหลังที่ใหญ่กว่าเพื่อรองรับคนจำนวนมากที่จัดหามาช่วยเขาโดยเฉพาะ ข้าวเย็นที่นายอ้วนแวะซื้อมาให้ก่อนกลับไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วน่าจะยังวางอยู่ในครัวข้างล่าง แปลกดี ทั้งที่คุยงานมาตลอดทั้งวันและแทบไม่ได้นั่งกินอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เมื่อเห็นหน้าเขาผมกลับไม่รู้สึกหิวสักนิด
...อู๋เสีย พาฉันกลับบ้าน...
หางตาของผมเริ่มร้อนผะผ่าว หากยังกลั้นใจยับยั้งมันเอาไว้ได้ ผมสูดลมหายใจลึก ยิ้มให้คนที่นอนอยู่ภายในกระบอกแคปซูลแก้วตรงหน้า
สิบปี เราสองคนยังอดทนรอกันมาได้
เทียบกับครั้งแรกแล้ว ถ้าต้องรออีกสักปีสองปี ห้าปี สิบปี หรือนานกว่านี้ ถ้ามีแต่ต้องพานายกลับมาด้วยวิธีนี้ ผมได้แต่หวังว่ามันคงไม่ทรมานมากนักถ้าต้องรออีกครั้ง ตราบเท่าที่ยังมีความหวังอยู่
จริงไหมเสี่ยวเกอ?
-
ห้องของอู๋เสียมีหน้าต่างอยู่บานหนึ่ง หากเปิดออกไปจะเห็นกิ่งก้านของต้นบ๊วย อวดดอกบานสะพรั่งหยอกล้อลู่ลม
กลิ่นแรกในยามเช้าคือกลิ่นดอกบ๊วย
สิ่งแรกที่ปรารถนายามตื่นคือ...
“ฟื้นแล้วเหรอเสี่ยวเกอ”
เปลือกตาเปิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นใกล้ตัว ก่อนหลุบลงอย่างรวดเร็ว แสงสว่างจ้าที่อาบดวงตาฉับพลันทำให้รู้สึกแสบจนต้องหรี่ตา ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพเบื้องหน้ายังคงพร่ามัวเหมือนมีม่านหมอกหนาบดบัง ทว่าค่อยๆจางลงทีละเล็กละน้อย
จางฉี่หลิงเบือนหน้าไปยังทิศทางของเสียง วิสัยทัศน์ที่เริ่มกระจ่างใสขึ้นเรื่อยๆปรากฏภาพใบหน้าคนๆหนึ่งซึ่งเขาไม่มีวันลืมเลือน
อู๋เสีย?
“นายรู้สึกยังไงบ้าง เจ็บอะไรตรงไหนมั้ย”
เขายันตัวขึ้นทว่าไม่รู้สึกถึงเรี่ยวแรงของตนเลยแม้แต่น้อย จึงล้มตัวลงไปนอนอีกครั้ง แววตาฉายความสับสนชัดบนใบหน้าเรียบเฉย พอจะลุกขึ้นอีกครั้ง คนที่ยืนอยู่ข้างๆก็เอื้อมมือมาจับไหล่เขาไว้ ออกแรงดันเพียงเล็กน้อยให้กลับลงไปนอนอย่างเดิม “อยู่นิ่งๆก่อน อย่าเพิ่งรีบลุกตอนนี้นะ”
“ทำไมฉัน...” เสียงที่เปล่งออกมาฟังดูแหบเบา อีกทั้งคอยังแห้งผากเหมือนทะเลทราย อู๋เสียรินน้ำให้แก้วหนึ่งที่เขาเค้นแรงเอื้อมมือรับมาดื่มด้วยความกระหาย
“จู่ๆนายก็หลับไป” คนตรงหน้าเริ่มอธิบาย ใบหน้าเคร่งขรึมลง “แล้วก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเกือบๆสามเดือนเต็ม...”
เขาเบิกตากว้าง ปล่อยให้คำพูดซึมซับเข้าหัวสมองช้าๆ “ฉันคิดว่านายจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว แต่ว่า...” แก้วน้ำว่างเปล่าในมือถูกดึงออกไป แทนที่ด้วยมือที่ยื่นเข้ามากอบกุมมือขวาของเขาเอาไว้
“ฉันเชื่อว่านายต้องฟื้น ฉันคิดว่านายคงไม่มีวันหลับไปตลอดกาลแบบนั้นแน่ ร่างกายนายอาจแค่อ่อนแอหลังอยู่หลังประตูนั่นมานาน เลยมาชาร์จพลังงานใหม่ข้างนอกเอา”
อู๋เสียยิ้ม ก่อนจะผละออก “เดี๊ยวฉันไปโทรบอกคนอื่นๆก่อนนะว่านายฟื้นแล้ว--”
หมับ
คนที่หยิบมือถือขึ้นมาชะงักเท้า หันกลับไปก็พบว่าคนบนเตียงใช้สองนิ้วยาวคีบชายเสื้อของเขาไว้แน่น แล้วจ้องตาเขาไม่กะพริบ
“มีอะไรเหรอเสี่ยวเกอ นายพัก—“
“อู๋เสียอยู่ไหน”
คนโดนถามมีสีหน้างุนงง จางฉี่หลิงเค้นแรงดึงชายเสื้ออีกฝ่ายแน่นจนมือสั่น
"เพ้อเจ้ออะไรของนาย ฉันอยู่ที่นี้แล้วไง"
“นายไม่ใช่อู๋เสีย”
‘อู๋เสีย’ ตัวกระตุกเบาๆ ปฏิกริยานั้นสร้างแรงสะเทือนส่งผ่านปลายนิ้วมากเกินพอที่จะยืนยันความคิดอ่านในใจได้ชัด
แม้ใบหน้านั้นจะเป็นใบหน้าเดียวกันไม่ผิด
แต่พิจารณาจากแววตา น้ำเสียงที่มีส่วนผิดแปร่งแปลกหูเล็กน้อย และสัมผัสเรียบลื่นของมือคู่นั้นที่กอบกุมมือขวาของจางฉี่หลิงไว้เมื่อครู่ เขารู้ได้ทันทีว่าคนๆนี้ไม่ใช่อู๋เสีย
สิบปีที่เขาไปทำหน้าที่แทนที่คนๆนั้นทำให้หลายๆอย่างในตัวคนไร้เดียงสามากล้นความดื้อรั้นเปลี่ยนแปลงไป ถึงอย่างไรในสายตาของเขาอู๋เสียคนนั้นก็ยังเป็นเทียนเจินอู๋เสียอย่างที่นายอ้วนแซ่หวังเรียกล้ออยู่เรื่อยไป แต่ ‘อู๋เสีย’ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าสะอาดเกินไป สะอาดเหมือนกระดาษขาวที่ไม่เคยต้องฝุ่นต้องหมึก สะอาดยิ่งกว่าอู๋เสียในครั้งแรกที่ได้พานพบกันเสียอีก เสมือนไม่เคยผ่านประสบการณ์แสนอันตรายในการลงกรวย ไม่เคยได้ล้มลุกคลุกคลานแข้งขาหักในป่าเขา หรือกระทั่งแววตาเด็ดขาดในการรับมือลูกน้องของเถ้าแก่อู๋ที่เขาเคยได้เห็นก็ไม่มีทิ้งร่องรอยไว้
“เขาอยู่ไหน นายต้องการอะไร”
ดวงตาสองคู่จับจ้องราวเสือกับสิงห์ระแวดระแวงภัย
อู๋เสียถอนหายใจยาว
“ใบหน้านี้ตบตาคุณไม่ได้จริงๆสินะ”
คนโดนจับได้ยกมือขึ้น ค่อยๆเลาะนิ้วผ่านกลุ่มผม ลอกผิวสีเนื้อติดกลับออกมา เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นตา
“ในหัวของคุณคงมีแต่คำถาม ผมจะตอบคุณทั้งหมดเอง ส่วนเรื่องอู๋เสีย คุณไม่ต้องห่วงอะไรเขาอีกแล้ว”
หน้ากากหนังมนุษย์ถูกผู้สวมใส่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ชายแปลกหน้าเข้ามาประชิดขอบเตียง แล้วโค้งตัวทำความเคารพ
“ผมคือทายาทสกุลอู๋ ทุกสิ่งที่เราทำ ทุกสิ่งที่คุณจะได้เห็น ได้รู้ต่อจากนี้ ทั้งหมดเกิดจากความต้องการของท่านปู่ของผม”
เขาเงยหน้าขึ้น
“ผมคือหลานของปู่เสียหรืออู๋เสียที่คุณรู้จัก ท่านคงยินดีมากหากได้รู้ว่าคุณกลับมาแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะครับ จางฉี่หลิง”
-
...ไม่ถึงขนาดนั้น ถ้านายหายไป อย่างน้อยฉันจะรู้...
สองมือที่เหี่ยวย่นเกร็งกำแท่นวางแขนแน่น ดวงตาฝ้าฟางบนใบหน้ามากริ้วรอยแห่งกาลเวลาจับจ้องผ่านม่านกระจกทรงกระบอก ร่างที่อยู่ในแคปซูลยังไร้ปฏิกริยาตอบสนอง
เอื้อมมือระโหยโรยแรงทาบบนพื้นผิวเนียนใสของกระจก ลูบไล้เหนือบริเวณใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างไม่อาจเอ่ยคำบรรยายใดๆให้กับความรู้สึกจุกที่ตื้อตีบตันในลำคอ เขาหายใจลำบากเหลือเกิน
“ขอโทษนะเสี่ยวเกอ”
...แต่เวลาของฉันหมดแล้ว...
ปี๊บบบบ.....!!
เสียงร้องลั่นจากหน้าจอวัดชีพจรสร้างความโกลาหลทั่วทั้งห้องสี่เหลี่ยมเล็ก เงามากมายเคลื่อนไหววูบวาบ เสียงโหวกเหวกวุ่นวาย เสียงฝีเท้าหนักของผู้คน
ล้วนค่อยๆเงียบสงัดลง....
โลกทั้งใบของอู๋เสียดับสนิท
และแล้ว
...กึก...
จางฉี่หลิงก็ได้ลืมตาขึ้น
ในอีกสามปีหลังจากนั้น
--------------------------------------------------
:: Talk ::
เราไม่รู้จะพูดอะไร เรารู้แค่ว่ากาวถังนี้เหนื่อยมาก *นอนแผ่*
Re: [OS] The Waiting (ผิงเสีย)
ฟืดดด อ่านแล้วอยากร้องไห้โฮ ชอบดราม่าที่พี่แต่งมากมายค่ะ ซาบซึ้งงงง เราเองก็สงสารอู๋เสียนะ แต่ทำไมเราสงสารเสี่ยวเกอมากกว่าที่ต้องตื่นขึ้นมาแล้วพบกับความเจ็บปวด ฮือๆๆ เอาอีกๆ จัดดราม่ามาอีกเยอะๆเลยค่ะ *ยื่นถังกาวใบใหญ่ให้*
HaiSaka- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 20
Points : 3319
Join date : 17/04/2015
Re: [OS] The Waiting (ผิงเสีย)
อ้าวเฮ้ย แอบหนีไปแต่งเมียเหรอนายน้อย
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [OS] The Waiting (ผิงเสีย)
พอนึกสภาพในหัวเสี่ยวเกอเมื่อตอนได้รับฟังเรื่องราวจากหลานเถ้าแก่และคิดย้อนกลับไปน้ำตาก็ไหลออกมาเลยค่ะโฮ
อู๋เสียจะแต่งเมียด้วยความรู้สึกแบบไหน มีลูกด้วยความรู้สึกยังไง ทุกอย่างที่ทำไปเพื่อเพียงแค่เฝ้ารออนาคตอีกครั้ง อีกครั้งที่เมินโหยวผิงจะลืมตาขึ้นมา
แต่กลับอยู่ไม่ทันเสียอย่างงั้น *ร้องไห้*
มานั่งย้อนอ่านฟิคคุณเฟนเรียไปก็กาวแตกสลับกับน้ำตา จะบ้าตาย แง 5555
ปล. แต่เป็นฟิคที่ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ <3 ดราม่านี่มันดีจริมๆ-- /แค่ก
อู๋เสียจะแต่งเมียด้วยความรู้สึกแบบไหน มีลูกด้วยความรู้สึกยังไง ทุกอย่างที่ทำไปเพื่อเพียงแค่เฝ้ารออนาคตอีกครั้ง อีกครั้งที่เมินโหยวผิงจะลืมตาขึ้นมา
แต่กลับอยู่ไม่ทันเสียอย่างงั้น *ร้องไห้*
มานั่งย้อนอ่านฟิคคุณเฟนเรียไปก็กาวแตกสลับกับน้ำตา จะบ้าตาย แง 5555
ปล. แต่เป็นฟิคที่ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ <3 ดราม่านี่มันดีจริมๆ-- /แค่ก
endoshita- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 1
Points : 3242
Join date : 14/06/2015
Similar topics
» [OS] #dmbjdaily the waiting is over : 带我回家 (Take me home) "I'm home" (ผิงเสีย ว่านวัง เฮยฮัว)
» [OS] #dmbjdaily the waiting is over : 带我回家 (Take me home) "สุดท้าย"
» [OS]#dmbjdaily the waiting is over : 带我回家 (Take me home)
» [OS] แสงสว่างและความมืด [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (โทรศัพท์มือถือ) waiting for you [implied 15]
» [OS] #dmbjdaily the waiting is over : 带我回家 (Take me home) "สุดท้าย"
» [OS]#dmbjdaily the waiting is over : 带我回家 (Take me home)
» [OS] แสงสว่างและความมืด [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (โทรศัพท์มือถือ) waiting for you [implied 15]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth