Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[SF] #dmbjdaily (เมิน) ความผิดใคร? Part1 [อารองxอาสามxอาเซี่ย]
5 posters
หน้า 1 จาก 1
[SF] #dmbjdaily (เมิน) ความผิดใคร? Part1 [อารองxอาสามxอาเซี่ย]
Title: ความผิดใคร? (ได้ข่าวว่าพวกตูโดนกระทำ??)
Pairing: อู๋เออร์ไป๋ x อู๋ซันเสิ่ง x เซี่ยเหลียนหวน
Rate: PG
หมายเหตุ เป็นตอนต่อจากฟิค Threesome Halloween ค่ะ
จิ๊บๆ
เช้าแล้ว....ไม่สิ เที่ยงแล้วต่างหาก
ผมตื่นขึ้นมาได้ซักพักนึงแล้วแต่ยังไม่มีแม้แต่แรงจะขยับตัวไปเข้าห้องน้ำ เหลือบมองยังตัวการที่นอนน้ำลายยืดย้อยอยู่ข้างๆ แล้วพาลอยากจะสะกิดปลุกด้วยฝ่าเท้าซักที
ช่างเป็นเรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่งของผมที่หลงคำล่อลวง นึกสนุกไปตามแผนการแกล้งพี่เออร์ไป๋ของเจ้างี่เง่าซันเสิ่งนี่ เพียงเพราะตอนนั้นผมเกิดอยากรู้ว่าถ้าร่างสูงเจ้าระเบียบคนนั้นยามเมามายจะมีสภาพอย่างไร ถึงได้เผลอตกปากรับคำเข้าร่วมขบวนการมอมเหล้าพี่สองจนเรื่องมาจบลงที่เตียงกับอาการปวดสะโพกขั้นรุนแรงแบบนี้
ใครจะไปคิดกันล่ะว่า บัณฑิตหน้าตายที่ไม่เคยมีข่าวคาวกับหญิงสาวนางใด ยามอยู่บนเตียงจะเร่าร้อนได้ขนาดนี้ อู๋เออร์ไป๋ยามปกติคือเสือหลับ ถึงแม้จะแผ่อำนาจกดดันแต่ยังพอต่อรองกันได้ ทว่าเมื่อคืนอีกฝ่ายราวกับกลายร่างเป็นพยัคฆ์ร้ายล่าเหยื่อ กรงเล็บและเขี้ยวแหลมฝังจมลงในเนื้อของเหยื่อตัวน้อย ฉีกกระชากกัดกินอย่างดุดันและไม่รู้จักพอ กว่าพี่สองจะกินจนพอใจยอมปล่อยให้เขาทั้งสองพักผ่อนได้แสงตะวันก็มาเยือนขอบฟ้าเสียแล้ว แถมกว่าเขาจะตื่นตะวันก็ตรงหัวพอดี
ให้ตายเถอะ แบบนี้ก็ไปไม่ทันเวลาออกเดินทางแล้วน่ะสิ ไหนจะเสี่ยวฮัวลูกชายเขาอีก ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง แต่คิดอีกทีเตี่ยคงพาไปส่งกลับที่บ้านใหญ่เรียบร้อยก่อนเดินทางไปพบลามะตามกำหนดการณ์ของวันนี้แล้วล่ะ
จะว่าไป..คนข้างๆ ผมนี่ก็เป็นหนึ่งในคณะเดินทางครั้งนี้ด้วยนี่นา
“ฮ้าววว... อืม... แจ๊บๆ” ดูมัน นอกจากจะยังไม่ตื่นแล้วยังทำน่าเกลียด หาวเสียงดังเคี้ยวน้ำลายแจ๊บๆ ดูทุเรศสายตาเป็นที่สุด
เนื่องจากผมเป็นคนดี ทนเห็นเพื่อนรักนอนหลับไม่รู้เรื่องในขณะที่คนอื่นออกไปกอบโกยความรวยกันได้ คุณชายเซี่ยคนนี้เลยสงเคราะห์ปลุกให้ตื่นด้วยการใช้เท้าสะกิด ‘เบาๆ’ ที่เอวสอบเต็มแรง!
โครม!!
“โอ๊ยยยยย ทำเชี่ยอะไรของแกวะ เจ้าลูกเต่าเหลียนหวน!”
อา ผมว่าผมออกแรงแค่นิดเดียวเองนะ เพราะสะโพกยังเจ็บอยู่ แค่จะขยับตัวผมก็ปวดร้าวไปหมด แต่สงสัยอีกฝ่ายจะอยู่ชิดริมเตียงมากไปหน่อย พอโดนผมใช้เท้ายันเข้าเลยกลิ้งตกเตียงไปทันที แอบสงสารหน่อยๆ เพราะผมคิดว่าสวัสดิภาพร่างกายของเจ้านั่นคงไม่ได้ดีไปกว่าผมนักหรอก
“ปลุกแกไง นี่มันจะบ่ายแล้ว แกจะไม่ตามไปคว่ำกรวยกับพวกผู้ใหญ่แล้วรึไง”
“สภาพนี้จะไปให้บ๊ะจ่างมันแดกหัวเอารึไง ช่างมัน แค่ชวดกรวยแฟบๆ ไปกรวยเดียวไม่สะเทือนขนหน้าแข้งพี่สามคนนี้หรอก”
อู๋ซันเสิ่งค่อยๆ คืบคลานขึ้นมานอนแผ่บนเตียงตามเดิม สองมือสอดรองใต้หมอนเอ่ยตอบอย่างไม่ยี่หระ ร่างเพรียวที่มีกล้ามเนื้อสมส่วนนั่นประดับไปด้วยรอยจ้ำแดงมากมายตั้งแต่แผ่นอกตึงแน่น พาดผ่านหน้าท้องเป็นลอนสวย และผมคิดว่าภายใต้ผ้าห่มที่เจ้าตัวดึงมาปิดท่อนล่างนั่นจะต้องมีรอยจูบอีกไม่น้อยแน่ๆ
ผมพลันรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่าตอนนี้ตัวเองคงมีรอยเสือกัดไปทั่วตัวไม่ต่างกัน เลยต้องตวาดใส่อีกฝ่ายเรื่องเมื่อคืนกลบเกลื่อนปื้นแดงบนหน้า
“แล้วทีนี้จะเอาไงต่อ อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องกลายเป็นเมียพี่สองไปซะงั้น ช่างคิดอะไรได้บรรเจิดจริงๆ ฉันไม่น่าไว้ใจความคิดแกเลย”
“อ้าว ไหงโทษกันงี้ แกเองก็นึกสนุกด้วยนี่หว่า ใครมันจะไปคิดล่ะว่าพี่รองจะเคี้ยวยากอย่างนี้ ปกติเห็นเอาแต่อ่านหนังสือกับเฝ้าร้านน้ำชา หรือรำมวยแล้วมันจะช่วยเพิ่มพลังลมปราณวะ?”
ท้ายประโยคเหมือนอีกฝ่ายจะพูดกับตัวเอง แต่ผมแอบได้ยินนะ แอบขำอยู่ด้วยเนี่ย
จ๊อกกก…
เสียงปริศนาดังขึ้น พวกเรามองหน้ากันเงียบๆ ก่อนจะระเบิดหัวเราะ จะว่าไปนอกจากของกินเล่นในงานปาร์ตี้ผมก็ไม่ได้แตะอะไรอีกเลย ถึงขนมหวานที่พี่เออร์ไป๋ ‘ป้อน’ ให้จะชวนให้อิ่มไปทั้งอาทิตย์ แต่ตอนนี้พวกผมคงต้องลุกไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปหาอะไรใส่ท้องประทังชีวิตกันแล้วล่ะ
ผมเอื้อมคว้าได้ผ้าคลุมชุดแดรกคูล่าตรงข้างเตียง ชุดของเราสองคนกระจัดกระจายปนกันมั่วไปหมด ช่างมัน เอาไอ้นี่พันๆ ไปก่อนก็ได้
“อ๊ะ..” ทันทีที่ก้าวขาลงแตะพื้น ตัวผมเซถลาจนคว้าหัวเตียงไว้แทบไม่ทัน
ราวกับคนไม่เคยรู้จักวิธีเดิน ขาของผมทั้งสองข้างสั่นระริกไร้เรี่ยวแรง ผ่านไปซักพักผมเริ่มยืนได้อย่างมั่นคง ผละจากริมเตียงเพื่อเดินเข้าห้องน้ำชำระกายก่อนจะต้องช็อคจนตัวแข็งเมื่อแต่ละย่างก้าวนอกจากความเจ็บจี๊ดแล้ว ผมยังสัมผัสได้ถึงของเหลวเย็บเฉียบที่ไหลรินลงมาตามเรียวขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือน้ำอะไร และไหลออกมาจากตรงไหน
แว่วเสียงหัวเราะขบขันจากอู๋ซันเสิ่ง แม่งเอ้ย คุณชายเซี่ยคนนี้ขอหยาบหน่อยเถอะ ผมหลงกลเจ้านั่นเข้าเต็มๆ ซะแล้ว
♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛
กว่าผมกับเจ้าสามจะจัดการตัวเองจนเสร็จ ย้ายตัวเองลงมารื้อครัวหาอะไรใส่ท้องได้เวลาก็ล่วงเลยเข้าบ่ายสองกว่าแล้ว ในบ้านตอนนี้นอกจากพวกผมมีแต่เจ้ใหญ่ภรรยาพี่อีฉยง สอบถามได้ความว่าคณะลงกรวยออกเดินทางไปตั้งแต่ช่วงสายแล้ว ส่วนพี่ใหญ่พาเด็กๆ ทั้งสองออกไปเดินเที่ยวชมงานฮาโลวีนในตัวเมือง
ผมย้ายตัวเองมานั่งจ่อมตรงโซฟาหน้าโทรทัศน์ เปลี่ยนช่องไปเรื่อยเพราะผมไม่ได้กะจะดูอะไรแค่อยากหาที่นั่งสบายๆ ถนอมร่างกายเท่านั้น แต่ไม่วายมีตัวก่อกวน เจ้าสามที่ดูมีสภาพดีกว่าผมหน่อยเพราะอย่างน้อยเจ้านั่นก็ไม่เดินกะเผลก ในมือถือจานเค้กฟักทองทิ้งตัวลงนั่งเบียดผม
“บ้านตั้งกว้าง จะมานั่งเบียดฉันให้ได้อะไรขึ้นมา”
“บ่นอีกละ นี่ฉันเป็นห่วงแกหรอกนะเว้ย กลัวเสี่ยวเหลียนน้อยจะช้ำใจเพราะเสียสาว”
“บิดาแกสิ พูดมาได้ไม่อายปาก เจ้ใหญ่ยังอยู่ในบ้านแกไม่กลัวเขามาได้ยินเข้าจะช็อคตายรึไง”
อู๋ซันเสิ่งยักไหล่ไม่ยี่หระ ยื่นจานเค้กที่มีส้อมปักอยู่มาตรงหน้า ผมหันไปมองอีกฝ่ายงงๆ
“อะไร?”
“เค้กฟักทองไง โดนกดแล้วโง่ลงนะเนี่ย” ดูมันตอบ
“งั้นให้ฉันคว่ำเค้กใส่หน้าแกดีมั้ย ที่ฉันถามน่ะคือแกจะเอามันมาให้ฉันทำไม”
“เอามาให้เพิ่มระดับน้ำตาล เมื่อคืนเสียพลังงานไปเยอะ ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่แกครั้งแรกคงจะหนักน่าดูสินะ”
อะ ไอ้นิ้วทีนศพโลหิตนี่หนิ! จะพูดเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาทำซากด้วงศพอะไร คาดว่าตอนนี้หน้าผมคงกลายเป็นมะเขือเทศสุกไปแล้วอีกฝ่ายถึงได้หัวเราะชอบใจใหญ่ และก่อนที่ผมจะได้ยกจานเค้กทุ่มใส่หัวเจ้าสามสมใจ เสียงจอดรถหน้าบ้านและเสียงพูดคุยอันคุ้นเคยดึงความสนใจของเราสองคนไปจนหมด
“ลูกหมาตัวไหนมันปล่อยข่าวกัน กำหนดการณ์เลยรวนไม่เป็นท่าเลยฉิบ!!” เสียงเตี่ยผมสบถอย่างหงุดหงิด ก่อนจะได้ยินเสียงอาอู๋ตามมา
“เย็นก่อน เรื่องนี้ยังมีทางแก้ เจ้ารองแกมีแผนจะจัดการยังไง”
“ผมจะลองติดต่อคนวงในดู ความสัมพัมธ์ของเขากับผมไม่เลว คงพอจะล้วงข้อมูลมาได้บ้าง” อันนี้ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเสียงใคร ก็เล่นได้ยินในระยะกระซิบมาทั้งคืนขนาดนั้นจะจำไม่ได้ก็แปลกแล้ว
เงาร่างของคนสามคนเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นที่พวกผมนั่งกันอยู่ เตี่ยผมดูจะหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นนั่นยิ่งย่นเข้าไปอีกเมื่อเตี่ยขมวดคิ้วจนจะผูกเงื่อนตายอยู่แล้ว อีกสองคนดูใจเย็นกว่ามากโดยเฉพาะร่างสูงในชุดคอดจีนสีเข้ม นัยน์ตาลุ่มลึกหลังกรอบแว่นสงบนิ่ง แต่ผมรู้ดีว่ามันแฝงคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่เอาไว้
เราสองคนลุกขึ้นเดินเข้าไปหาทั้งสาม เจ้าสามรีบเอ่ยปากถามทันที
“เตี่ย เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ”
“พ่อแกแห่กันมาตั้งด่านเข้มงวดเอาวันนี้น่ะสิ เห็นว่าจับได้ว่ามีคนยัดวัตถุโบราณในฟักทองแล้วขนไปปล่อยนอกชายแดนเลยต้องตรวจค้นสัมพาระคนเข้าออกทุกซอกมุม เราเลยต้องหยุดรออยู่ที่เมืองหน้าด่าน พรุ่งนี้เจ้ารองจะไปเจรจาขอผ่านทางจากคนรู้จัก พวกแกเองก็ต้องไปด้วย”
ไหงงั้นอ่ะ?! ผมเพิ่งจะมีเรื่องกับพี่สองมาเองนะ เจ้าสามเองก็ดูจะขัดใจไม่ใช่น้อย แน่ล่ะตัวต้นคิดเลยนี่คงจะกลัวโดนเอาคืนจากเจ้าทุกข์สินะ คิดแล้วสายตาเจ้ากรรมเลื่อนไปมองร่างสูงที่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนี้ก็เงียบมาตลอด พบว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะสนใจมองมาทางนี้ด้วยซ้ำ สายตาใต้กรอบแว่นนั่นมองออกไปนอกหน้าต่าง ทำราวกับว่าพวกเราที่ยืนอยู่ตรงนี้นั้นไร้ตัวตน ก่อนจะขยับตัวหันกลับมาเมื่ออู๋เหลาโก่วพูดจบ
“ไม่ต้องหรอกครับ เอาเจ้าสองคนนี้ไปก็ไร้ประโยชน์เปล่าๆ ผมไปคนเดียวยังได้เรื่องกว่า” สีหน้าตอนนี้ว่าเย็นชาแล้ว น้ำเสียงกลับเย็นเยียบยิ่งกว่า
พูดจบไม่รอให้ใครทักท้วงใดๆ องค์ฮ่องเต้อู๋เออร์ไป๋ก็เดินผ่านหน้าพวกผมสองคนขึ้นห้องไปทันที ไม่แม้แต่จะหันมาเหลือบแลด้วยหางตาเลยแม้แต่น้อย
ผมว่ามันแหม่งๆ นะ อู๋ซันเสิ่งเองก็คงจะรู้สึกได้เช่นเดียวกันหลังจากนั้นถึงได้ลากผมออกมาที่ลานบ้าน กระซิบกระซาบกับผม
“แกว่าพี่รองจงใจเมินเราสองคนป่าววะ?”
“ถ้าฉันมีตาสองข้างเหมือนกันแกก็คงตามนั้นแหละ”
“เวรแล้วไง พี่รองเวลางอนง้อยากยิ่งกว่าหักคอบ๊ะจ่างมือเปล่า แถมใครที่ทำให้พี่รองไม่ชอบใจมีจุดจบไม่ดีซักราย แกกับฉันคงต้องร่วมมือกันอีกรอบแล้วละนะเสี่ยวเหลียน”
เจ้าสามตบบ่าปลอบใจผมปุๆ นี่มันวันซวยอะไรของผมกันวะ นอกจากจะโดนยิงประตูรับฮาโลวีนแล้วยังต้องมาง้อเจ้าตัวอีก ได้ข่าวว่าคนที่โดนกดมันตู(กับคนข้างๆ)ไม่ใช่เรอะ!!!???
Tbc.
290 days left… ก่อนเราจะพบกันที่ฉางไป๋ซาน
Pairing: อู๋เออร์ไป๋ x อู๋ซันเสิ่ง x เซี่ยเหลียนหวน
Rate: PG
หมายเหตุ เป็นตอนต่อจากฟิค Threesome Halloween ค่ะ
จิ๊บๆ
เช้าแล้ว....ไม่สิ เที่ยงแล้วต่างหาก
ผมตื่นขึ้นมาได้ซักพักนึงแล้วแต่ยังไม่มีแม้แต่แรงจะขยับตัวไปเข้าห้องน้ำ เหลือบมองยังตัวการที่นอนน้ำลายยืดย้อยอยู่ข้างๆ แล้วพาลอยากจะสะกิดปลุกด้วยฝ่าเท้าซักที
ช่างเป็นเรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่งของผมที่หลงคำล่อลวง นึกสนุกไปตามแผนการแกล้งพี่เออร์ไป๋ของเจ้างี่เง่าซันเสิ่งนี่ เพียงเพราะตอนนั้นผมเกิดอยากรู้ว่าถ้าร่างสูงเจ้าระเบียบคนนั้นยามเมามายจะมีสภาพอย่างไร ถึงได้เผลอตกปากรับคำเข้าร่วมขบวนการมอมเหล้าพี่สองจนเรื่องมาจบลงที่เตียงกับอาการปวดสะโพกขั้นรุนแรงแบบนี้
ใครจะไปคิดกันล่ะว่า บัณฑิตหน้าตายที่ไม่เคยมีข่าวคาวกับหญิงสาวนางใด ยามอยู่บนเตียงจะเร่าร้อนได้ขนาดนี้ อู๋เออร์ไป๋ยามปกติคือเสือหลับ ถึงแม้จะแผ่อำนาจกดดันแต่ยังพอต่อรองกันได้ ทว่าเมื่อคืนอีกฝ่ายราวกับกลายร่างเป็นพยัคฆ์ร้ายล่าเหยื่อ กรงเล็บและเขี้ยวแหลมฝังจมลงในเนื้อของเหยื่อตัวน้อย ฉีกกระชากกัดกินอย่างดุดันและไม่รู้จักพอ กว่าพี่สองจะกินจนพอใจยอมปล่อยให้เขาทั้งสองพักผ่อนได้แสงตะวันก็มาเยือนขอบฟ้าเสียแล้ว แถมกว่าเขาจะตื่นตะวันก็ตรงหัวพอดี
ให้ตายเถอะ แบบนี้ก็ไปไม่ทันเวลาออกเดินทางแล้วน่ะสิ ไหนจะเสี่ยวฮัวลูกชายเขาอีก ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง แต่คิดอีกทีเตี่ยคงพาไปส่งกลับที่บ้านใหญ่เรียบร้อยก่อนเดินทางไปพบลามะตามกำหนดการณ์ของวันนี้แล้วล่ะ
จะว่าไป..คนข้างๆ ผมนี่ก็เป็นหนึ่งในคณะเดินทางครั้งนี้ด้วยนี่นา
“ฮ้าววว... อืม... แจ๊บๆ” ดูมัน นอกจากจะยังไม่ตื่นแล้วยังทำน่าเกลียด หาวเสียงดังเคี้ยวน้ำลายแจ๊บๆ ดูทุเรศสายตาเป็นที่สุด
เนื่องจากผมเป็นคนดี ทนเห็นเพื่อนรักนอนหลับไม่รู้เรื่องในขณะที่คนอื่นออกไปกอบโกยความรวยกันได้ คุณชายเซี่ยคนนี้เลยสงเคราะห์ปลุกให้ตื่นด้วยการใช้เท้าสะกิด ‘เบาๆ’ ที่เอวสอบเต็มแรง!
โครม!!
“โอ๊ยยยยย ทำเชี่ยอะไรของแกวะ เจ้าลูกเต่าเหลียนหวน!”
อา ผมว่าผมออกแรงแค่นิดเดียวเองนะ เพราะสะโพกยังเจ็บอยู่ แค่จะขยับตัวผมก็ปวดร้าวไปหมด แต่สงสัยอีกฝ่ายจะอยู่ชิดริมเตียงมากไปหน่อย พอโดนผมใช้เท้ายันเข้าเลยกลิ้งตกเตียงไปทันที แอบสงสารหน่อยๆ เพราะผมคิดว่าสวัสดิภาพร่างกายของเจ้านั่นคงไม่ได้ดีไปกว่าผมนักหรอก
“ปลุกแกไง นี่มันจะบ่ายแล้ว แกจะไม่ตามไปคว่ำกรวยกับพวกผู้ใหญ่แล้วรึไง”
“สภาพนี้จะไปให้บ๊ะจ่างมันแดกหัวเอารึไง ช่างมัน แค่ชวดกรวยแฟบๆ ไปกรวยเดียวไม่สะเทือนขนหน้าแข้งพี่สามคนนี้หรอก”
อู๋ซันเสิ่งค่อยๆ คืบคลานขึ้นมานอนแผ่บนเตียงตามเดิม สองมือสอดรองใต้หมอนเอ่ยตอบอย่างไม่ยี่หระ ร่างเพรียวที่มีกล้ามเนื้อสมส่วนนั่นประดับไปด้วยรอยจ้ำแดงมากมายตั้งแต่แผ่นอกตึงแน่น พาดผ่านหน้าท้องเป็นลอนสวย และผมคิดว่าภายใต้ผ้าห่มที่เจ้าตัวดึงมาปิดท่อนล่างนั่นจะต้องมีรอยจูบอีกไม่น้อยแน่ๆ
ผมพลันรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่าตอนนี้ตัวเองคงมีรอยเสือกัดไปทั่วตัวไม่ต่างกัน เลยต้องตวาดใส่อีกฝ่ายเรื่องเมื่อคืนกลบเกลื่อนปื้นแดงบนหน้า
“แล้วทีนี้จะเอาไงต่อ อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องกลายเป็นเมียพี่สองไปซะงั้น ช่างคิดอะไรได้บรรเจิดจริงๆ ฉันไม่น่าไว้ใจความคิดแกเลย”
“อ้าว ไหงโทษกันงี้ แกเองก็นึกสนุกด้วยนี่หว่า ใครมันจะไปคิดล่ะว่าพี่รองจะเคี้ยวยากอย่างนี้ ปกติเห็นเอาแต่อ่านหนังสือกับเฝ้าร้านน้ำชา หรือรำมวยแล้วมันจะช่วยเพิ่มพลังลมปราณวะ?”
ท้ายประโยคเหมือนอีกฝ่ายจะพูดกับตัวเอง แต่ผมแอบได้ยินนะ แอบขำอยู่ด้วยเนี่ย
จ๊อกกก…
เสียงปริศนาดังขึ้น พวกเรามองหน้ากันเงียบๆ ก่อนจะระเบิดหัวเราะ จะว่าไปนอกจากของกินเล่นในงานปาร์ตี้ผมก็ไม่ได้แตะอะไรอีกเลย ถึงขนมหวานที่พี่เออร์ไป๋ ‘ป้อน’ ให้จะชวนให้อิ่มไปทั้งอาทิตย์ แต่ตอนนี้พวกผมคงต้องลุกไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปหาอะไรใส่ท้องประทังชีวิตกันแล้วล่ะ
ผมเอื้อมคว้าได้ผ้าคลุมชุดแดรกคูล่าตรงข้างเตียง ชุดของเราสองคนกระจัดกระจายปนกันมั่วไปหมด ช่างมัน เอาไอ้นี่พันๆ ไปก่อนก็ได้
“อ๊ะ..” ทันทีที่ก้าวขาลงแตะพื้น ตัวผมเซถลาจนคว้าหัวเตียงไว้แทบไม่ทัน
ราวกับคนไม่เคยรู้จักวิธีเดิน ขาของผมทั้งสองข้างสั่นระริกไร้เรี่ยวแรง ผ่านไปซักพักผมเริ่มยืนได้อย่างมั่นคง ผละจากริมเตียงเพื่อเดินเข้าห้องน้ำชำระกายก่อนจะต้องช็อคจนตัวแข็งเมื่อแต่ละย่างก้าวนอกจากความเจ็บจี๊ดแล้ว ผมยังสัมผัสได้ถึงของเหลวเย็บเฉียบที่ไหลรินลงมาตามเรียวขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือน้ำอะไร และไหลออกมาจากตรงไหน
แว่วเสียงหัวเราะขบขันจากอู๋ซันเสิ่ง แม่งเอ้ย คุณชายเซี่ยคนนี้ขอหยาบหน่อยเถอะ ผมหลงกลเจ้านั่นเข้าเต็มๆ ซะแล้ว
♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛♛
กว่าผมกับเจ้าสามจะจัดการตัวเองจนเสร็จ ย้ายตัวเองลงมารื้อครัวหาอะไรใส่ท้องได้เวลาก็ล่วงเลยเข้าบ่ายสองกว่าแล้ว ในบ้านตอนนี้นอกจากพวกผมมีแต่เจ้ใหญ่ภรรยาพี่อีฉยง สอบถามได้ความว่าคณะลงกรวยออกเดินทางไปตั้งแต่ช่วงสายแล้ว ส่วนพี่ใหญ่พาเด็กๆ ทั้งสองออกไปเดินเที่ยวชมงานฮาโลวีนในตัวเมือง
ผมย้ายตัวเองมานั่งจ่อมตรงโซฟาหน้าโทรทัศน์ เปลี่ยนช่องไปเรื่อยเพราะผมไม่ได้กะจะดูอะไรแค่อยากหาที่นั่งสบายๆ ถนอมร่างกายเท่านั้น แต่ไม่วายมีตัวก่อกวน เจ้าสามที่ดูมีสภาพดีกว่าผมหน่อยเพราะอย่างน้อยเจ้านั่นก็ไม่เดินกะเผลก ในมือถือจานเค้กฟักทองทิ้งตัวลงนั่งเบียดผม
“บ้านตั้งกว้าง จะมานั่งเบียดฉันให้ได้อะไรขึ้นมา”
“บ่นอีกละ นี่ฉันเป็นห่วงแกหรอกนะเว้ย กลัวเสี่ยวเหลียนน้อยจะช้ำใจเพราะเสียสาว”
“บิดาแกสิ พูดมาได้ไม่อายปาก เจ้ใหญ่ยังอยู่ในบ้านแกไม่กลัวเขามาได้ยินเข้าจะช็อคตายรึไง”
อู๋ซันเสิ่งยักไหล่ไม่ยี่หระ ยื่นจานเค้กที่มีส้อมปักอยู่มาตรงหน้า ผมหันไปมองอีกฝ่ายงงๆ
“อะไร?”
“เค้กฟักทองไง โดนกดแล้วโง่ลงนะเนี่ย” ดูมันตอบ
“งั้นให้ฉันคว่ำเค้กใส่หน้าแกดีมั้ย ที่ฉันถามน่ะคือแกจะเอามันมาให้ฉันทำไม”
“เอามาให้เพิ่มระดับน้ำตาล เมื่อคืนเสียพลังงานไปเยอะ ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่แกครั้งแรกคงจะหนักน่าดูสินะ”
อะ ไอ้นิ้วทีนศพโลหิตนี่หนิ! จะพูดเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาทำซากด้วงศพอะไร คาดว่าตอนนี้หน้าผมคงกลายเป็นมะเขือเทศสุกไปแล้วอีกฝ่ายถึงได้หัวเราะชอบใจใหญ่ และก่อนที่ผมจะได้ยกจานเค้กทุ่มใส่หัวเจ้าสามสมใจ เสียงจอดรถหน้าบ้านและเสียงพูดคุยอันคุ้นเคยดึงความสนใจของเราสองคนไปจนหมด
“ลูกหมาตัวไหนมันปล่อยข่าวกัน กำหนดการณ์เลยรวนไม่เป็นท่าเลยฉิบ!!” เสียงเตี่ยผมสบถอย่างหงุดหงิด ก่อนจะได้ยินเสียงอาอู๋ตามมา
“เย็นก่อน เรื่องนี้ยังมีทางแก้ เจ้ารองแกมีแผนจะจัดการยังไง”
“ผมจะลองติดต่อคนวงในดู ความสัมพัมธ์ของเขากับผมไม่เลว คงพอจะล้วงข้อมูลมาได้บ้าง” อันนี้ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเสียงใคร ก็เล่นได้ยินในระยะกระซิบมาทั้งคืนขนาดนั้นจะจำไม่ได้ก็แปลกแล้ว
เงาร่างของคนสามคนเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นที่พวกผมนั่งกันอยู่ เตี่ยผมดูจะหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นนั่นยิ่งย่นเข้าไปอีกเมื่อเตี่ยขมวดคิ้วจนจะผูกเงื่อนตายอยู่แล้ว อีกสองคนดูใจเย็นกว่ามากโดยเฉพาะร่างสูงในชุดคอดจีนสีเข้ม นัยน์ตาลุ่มลึกหลังกรอบแว่นสงบนิ่ง แต่ผมรู้ดีว่ามันแฝงคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่เอาไว้
เราสองคนลุกขึ้นเดินเข้าไปหาทั้งสาม เจ้าสามรีบเอ่ยปากถามทันที
“เตี่ย เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ”
“พ่อแกแห่กันมาตั้งด่านเข้มงวดเอาวันนี้น่ะสิ เห็นว่าจับได้ว่ามีคนยัดวัตถุโบราณในฟักทองแล้วขนไปปล่อยนอกชายแดนเลยต้องตรวจค้นสัมพาระคนเข้าออกทุกซอกมุม เราเลยต้องหยุดรออยู่ที่เมืองหน้าด่าน พรุ่งนี้เจ้ารองจะไปเจรจาขอผ่านทางจากคนรู้จัก พวกแกเองก็ต้องไปด้วย”
ไหงงั้นอ่ะ?! ผมเพิ่งจะมีเรื่องกับพี่สองมาเองนะ เจ้าสามเองก็ดูจะขัดใจไม่ใช่น้อย แน่ล่ะตัวต้นคิดเลยนี่คงจะกลัวโดนเอาคืนจากเจ้าทุกข์สินะ คิดแล้วสายตาเจ้ากรรมเลื่อนไปมองร่างสูงที่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนี้ก็เงียบมาตลอด พบว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะสนใจมองมาทางนี้ด้วยซ้ำ สายตาใต้กรอบแว่นนั่นมองออกไปนอกหน้าต่าง ทำราวกับว่าพวกเราที่ยืนอยู่ตรงนี้นั้นไร้ตัวตน ก่อนจะขยับตัวหันกลับมาเมื่ออู๋เหลาโก่วพูดจบ
“ไม่ต้องหรอกครับ เอาเจ้าสองคนนี้ไปก็ไร้ประโยชน์เปล่าๆ ผมไปคนเดียวยังได้เรื่องกว่า” สีหน้าตอนนี้ว่าเย็นชาแล้ว น้ำเสียงกลับเย็นเยียบยิ่งกว่า
พูดจบไม่รอให้ใครทักท้วงใดๆ องค์ฮ่องเต้อู๋เออร์ไป๋ก็เดินผ่านหน้าพวกผมสองคนขึ้นห้องไปทันที ไม่แม้แต่จะหันมาเหลือบแลด้วยหางตาเลยแม้แต่น้อย
ผมว่ามันแหม่งๆ นะ อู๋ซันเสิ่งเองก็คงจะรู้สึกได้เช่นเดียวกันหลังจากนั้นถึงได้ลากผมออกมาที่ลานบ้าน กระซิบกระซาบกับผม
“แกว่าพี่รองจงใจเมินเราสองคนป่าววะ?”
“ถ้าฉันมีตาสองข้างเหมือนกันแกก็คงตามนั้นแหละ”
“เวรแล้วไง พี่รองเวลางอนง้อยากยิ่งกว่าหักคอบ๊ะจ่างมือเปล่า แถมใครที่ทำให้พี่รองไม่ชอบใจมีจุดจบไม่ดีซักราย แกกับฉันคงต้องร่วมมือกันอีกรอบแล้วละนะเสี่ยวเหลียน”
เจ้าสามตบบ่าปลอบใจผมปุๆ นี่มันวันซวยอะไรของผมกันวะ นอกจากจะโดนยิงประตูรับฮาโลวีนแล้วยังต้องมาง้อเจ้าตัวอีก ได้ข่าวว่าคนที่โดนกดมันตู(กับคนข้างๆ)ไม่ใช่เรอะ!!!???
Tbc.
290 days left… ก่อนเราจะพบกันที่ฉางไป๋ซาน
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3951
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [SF] #dmbjdaily (เมิน) ความผิดใคร? Part1 [อารองxอาสามxอาเซี่ย]
อยากรู้ตอนง้อจังเลย...
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3972
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: [SF] #dmbjdaily (เมิน) ความผิดใคร? Part1 [อารองxอาสามxอาเซี่ย]
กรีดร้องงงงงง ตามมาเกาะประตูหน้าต่างบ้านตรกูลอู๋ อยากรู้ว่าจะง้อยังไงที่สุดเลยค่ะ!! อาสามทั้งสองสู้ๆ นะคะ!!
Re: [SF] #dmbjdaily (เมิน) ความผิดใคร? Part1 [อารองxอาสามxอาเซี่ย]
กรี๊ดดดดด เราพลาดฟิคนี้ไปได้ยังงัยยยยยย
เอื้อออออออออ รอตอนต่อนะคะะะะะ
เอื้อออออออออ รอตอนต่อนะคะะะะะ
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 3953
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [SF] #dmbjdaily (เมิน) ความผิดใคร? Part1 [อารองxอาสามxอาเซี่ย]
นั่นสิคะ งอนอะไร คนโดนกดไม่ใช่พี่นะค---!!!
gaaraclub- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 81
Points : 3562
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily (เมิน) เมิน...โหยวผิง [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (เมิน) เมื่ออู๋เสียไม่สนใจเสี่ยวเกอ! [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (เมิน) โทรศัพท์สีชมพู [ฮัวเสีย]
» [OS] เมิน #dmbjdaily (ผิงเสีย)
» [OS] #DMBJdaily (ฝัน): หวน
» [OS] #dmbjdaily (เมิน) เมื่ออู๋เสียไม่สนใจเสี่ยวเกอ! [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (เมิน) โทรศัพท์สีชมพู [ฮัวเสีย]
» [OS] เมิน #dmbjdaily (ผิงเสีย)
» [OS] #DMBJdaily (ฝัน): หวน
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth