Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS]Meteor[end] NC18[ฮัวเฮย]
5 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS]Meteor[end] NC18[ฮัวเฮย]
Meteor
Fic บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
คู่ เสี่ยวฮัว x เฮยเสียจื่อ
NC 18
ทำตามรีเควสของคุณเทียร์ที่อยากได้โมเม้หวาน ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งด้วง
คำเตือนคำผิดเยอะมาก ผิดคาแรกเตอร์ มโนล้านเปอร์เซ็นต์
วันฮาโลวัน...สมัยก่อนมันเป็นวันรำลึกถึงพิธีกรรม ทว่าในสมัยนี้มันกลับถูกดว้ยการละเล่นและงานรื่นเริง
มันก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่งที่ผมต้องทำงานเท่านั้น เซี่ยอวี้ฮัวงคือผู้นำคนปัจจุบันมีงานการมากมายที่รอให้ผมต้องจัดการ ผมนั่งอ่าเนอกสารในห้องทำงานทาวเฮาร์ตนเอง รู้สึกว่ายังเหลือกองงานอีกมาก
“คุณชายจะพักสักหน่อยไหมครับ” คนคุ้มกันที่ยืนเคียงข้างผมเอ่ยถามผม ในมือขงเขาถือถาดเหยือกน้ำหวานสีสวย ผมส่ายหน้าก่อนที่จะโบกมือไล่เขา ตอนนี้อยู่ในบ้านผมไม่ต้องการคนคุ้มกัน ผมเอนตัวลงกับพนักพิงของเก้าอี้รู้สึกว่าปวดหลังเล็กน้อย ในจังหวะที่ผมกำลังว่าจะลุกยืดเส้นยืดสายดีไหม เสียงข้อความในโทรศัพย์ดังขึ้นพาให้ผมเอื้อมมือไปหยิบมัน กดเปิดฝาจอมือถือสีชมพูน่ารักก่นที่จะเผลอคีล่ยิ้มเมื่อเห็นว่าใครส่งมา
‘เสี่ยวฮัวนายคงไมไ่ด้ทำงานอยู่หรอกใช่ไหม ขอโทษนะปีนี้ที่ได้อยู่ด้วย’
ถ้อยคำอ่อนหวานของเทียนเจินพาให้ผมหัวเราะ เขาทำให้ผมอารมร์ดีได้เสมอ สิบปีที่ยาวนานได้จบลงแล้ว มือที่เคยจางหายไปของนายน้อยสามได้หวนคืนอีกครั้ง ตอนนี้พวกเขากำลังเที่ยวรอบโลก
‘ไม่เป็นไรขอแค่นายยังเดินได้ก็พอแล้ว’ ผมกดข้อความตอบเขาแม้ว่าเขาจะเป็นรักครั้งแรก เป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดทว่าเมื่อเห็นเขายิ้มความเจ็บปวดใดๆผมก็ยอมได้ อีกอย่าง....ผมก็ไม่ได้เจ็บปวดเหงาหงอยเพราะพอผมคิดถึงนายน้อยสามทีไรก็พลันเจอตัวยุ่งวุ่นวายทุกครั้ง
‘นี่ๆ คุณชายกลัวผีไหมเอ่ย’ ข้อความจากคนที่ผมอยากถีบยอดหน้าที่สุดเด้งเตือนขึ้นบนมือถือ นายบ้าหรือไงคนคว่ำกรวยเช่นเราถ้ากลัวผีคงไม่ได้ทำงานทำการกันแล้ว ผมเหวี่ยงโทรศัพย์มือถือลงกับโซฟาในห้องทำงาน รู้สึกเหมือนเอกสารตรงหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เสียงกระพริบจากมือถือดังขึ้นอีกครั้ง ผมไม่สนใจนั่งตรวเจอกสารต่อไป หากแต่เจ้านั่นก็ยังไม่ยอมแพ้ เสียงข้อความดังรัวกระพริบ น่ารำคาญจนผมต้องลุกขึ้น
คิดว่าจะกดปิดมือถือทิ้งดีหรือดทรไปต่อว่าเจ้าคนรำคาญคนัน้นดี ผมยกมือถือฝาพับสีชมพูขึ้นมากดไล่ข้อความที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ
‘ไงคุณชายทำงานอยู่ละสิ’
‘นี่ๆเบื่ออยู่ใช่ไหมละ ‘
‘คิดถึงฉันไหม -3- จุ๊บๆ’
‘อย่าทำงานหนักเกินไปเดี๋ยวจะปวดหลังไม่มี ฉะกับก้นของผมน๊า’
‘เงียบแบบนี้แสดงว่าบ้าทำงานอยู่แน่เลย ‘
‘คุณชาย จุ๊บๆ คิดถึงน๊า’
‘นี่คุณชาย วันนี้ฮาโลวันนะหยุดทำงานบ้างเถอะนะ ‘
‘ถ้ายังทำงานอยู่อีกจะดดนผีหลอกน๊า แบร่ แบร่ ‘
น่ารำคาญโครตๆ เซี่ยอวี้ฮัวรู้สึกว่าตัวเองได้ทำผิพพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่มอบโทรศัพย์ให้กับเจ้าจอมจุ้น แถมยังสอนวิธีส่งข้อความให้กับมัน ข้อความบ้าบอคอแตกไร้สาระถึงได้ถูกส่งมาเป็นชุดแบบนี้
‘น่ารำคาญ’ ผมกดข้อความส่งไปไม่กี่นาทีมือถือก็ัดงระรัวจนต้องปิด เห็นยังข้อความเหมือนหมอนั่นจะชวนกินข้าว ช่างเถอะ....ยังไงเสียหมอนั่นก็มีคนให้ไปด้วยตั้งเยอะอยู่แล้ว ผมลงนั่งยังโต๊ะตัวเดิมเอนหลังพิงเก้าอี้รู้สึกยังมีงานมากมายที่ยังจัดการไม่เหมด เข็มนาฬิกาหมุนวนไปเรื่อย เพราะผมปิดเครื่องไปแล้วจึงไม่มีเสียงน่ารำคาญของโทรศัพย์ดังขึ้นมาอีก
“คุณชายจะรับอะไรไหมครับ”บอดี้การด์ข้างอนกห้องอินเตอร์โฟนโทรศัพย์เครื่องภายในเอ่ยถาม ผมเหลือบมองเวลาจัดการเอกสารเพียงครู่เดียวกลับล่วงเลยเวลามาถึงช่วงหัวค่ำเสียแล้ว ผมเท้าคางกับโต๊ะไม้พลางนึกถึงมือถือของตนเอง
ผมหยิบมือถือบานพับที่วางอยู่ึข้นมาเปิดเครื่องข้อความนับสิบเด้งขึ้นพร้อมกันจนแทบแบตหมด ผมเลื่อนกดดูข้อความล่าสุดก่อนที่จะเผลอคีล่ยิ้ม
‘เอาแต่ทำงานไม่กินข้าวระวังผีจะไปหลอกนะ ‘
“เตรียมอาหารชุดใหญ่ให้ที สำหรับสองที่” ผมกดปุ่มอินเตอร์โฟนปิดลงคิดว่าแม่บ้านคงจะจัดการให้ พร้อมัท้งสั่งพวกบอดี้การด์ให้ดูแลนอกรอบทาวเฮาร์
หมอนั่นกำลังจะมา...
ผมเอนตัวพิงลงกับเบาะหนักทำงานรู้สึกมุมปากกระตุกขึ้นเมื่อถึงผีที่กำลังจะมาหลอก คิดจะแกล้งเซี่ยอวี้ฮัวก็ต้องเตรียมใจเอาไว้ ...จะลงโทษยังไงดีนะ ...
อาแค่คิดก็รู้สึกจะเผลอยิ้มไปเสียแล้ว..
ผมหยิบนาฬิกาพกออกมามองเวลา มันเป็นเวลาสองทุ่มของวันที่ 31 อีกไม่นานก็จะหมดวัน ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม่ลืมที่จะหยิบมือถือสีชมพูไปยังห้องน้ำก่อนที่จะอาบน้ำเปลี่ยนชุด รู้สึกหนาวเล้กน้อยจนต้องสวมเสื้อคลุม
ช่วงนี้เริ่มเข้าเดือนพฤศจิกายน ลมหนาวกำลังพัดมาเป็นช่วงเวลาที่น่านอนที่สุด ผมหยิบเอาของประจำตัวเหน็บไว้ที่กระเป๋ากางเกง ล้มตัวลงบนเตียงก่อนที่ซุกตัวลงในผ้าห่มหลับตาคลายความเหนื่อยล้าทั้งที่ยังไม่ปิดไฟ
ตึก...ตึก.. เสียงเข็มนาฬิกาในห้องร้องจวบจนถึงเวลาสามทุ่ม หูได้ยินเสียงราวกับมีอะไรระเบิดที่ฝั่งซ้าย หลอดไฟนีออนในห้องพลันดับลง แสงสว่างถูกริดรอนไปจากบ้าน ผมขมวดคิ้วรู้สึกว่าอยากจะจับตีผีตัวนั้นให้ตาย
เสียงโทรศัพย์ดังขึ้นระรัวผมหยิบมันกดขึ้นรับก่อนที่จะขมวดคิ้ว
“คุณชายเก้าครับ มีคนพังเบรกเกอร์..”
ให้ตายน่าจับตีก้นเสียให้เข็ด
“ไม่เป็นไร พวกนายไม่ต้องทำอะไร” ผมควบคุมลูกน้องให้อยู่ในความสงบ ได้ยินเสียงก็อกแก๊กดังมาจากข้างหลัง จำได้ว่ามุมข้างหลังต่อจากเตียงคือหน้าต่างบานโต
“หึหึ” เสียงหัวเราะใสดังขึ้น เสียงของเสื้อผ้าเสียดสีกับกระจกก่อนที่จะสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังปีนหน้าต่างลงมา ผมตัดสายโทรศัพย์ทิ้งพับมือถือลงในกระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะคลี่ยิ้มเมื่อเงานั้นเข้ามาใกล้
ท่ามกลางความมืดมิด เขาแทบจะกลืนเป้นหนึ่งเดียวกับมัน มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบา โดยไม่รู้ตัวสัมผัสเย็นก็แตะลงที่ปลายแก้มของผม คลอเคลียราวกับถูกใจก่อนที่จะได้ยินเสียงอันคุ้นเคย
“trick or treat”
“หึ” ผมหัวเราะพลันคว้าเอามือข้างนั้น ผีที่มาหลอกผมดูเหมือนจะตกใจไปวูบหนึ่งเขาพลิกตัวหมายจะหนี ผมล้วงเอากระบอกพลองกดต่กมัน แสร้งทำเป็นปล่อยมืออันหนาวเหน็บนั้นก่อนที่จะย่อตัวใช้พลองกวาดพื้น ..ได้ยินเสียงดังตุ๊บพร้อมกับเสียงล้มของข้างของตามมา
“โอ๊ย..อย่าแกล้งสิ” เสียงโอดโอยอันคุ้นเคยดังขึ้น เสียงมือถือของผมดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับแสงสว่างที่เข้าครอบงำบ้านของผมอีกครา ขับไล่ยังความมืดมิดเผยให้เห็นร่างของผู้ปกรุก
เฮยเสียจื่อ นายแว่นดำนั่งพิงชั้นวางของที่ล้มลงขวาง ข้าวของบนชั้นวางร่วงหล่นใส่ร่างของเขา ใบหน้าดูดีนั้นแลบลิ้นใส่ผมราวกับน้อยใจ เรือนร่างสวมส่วนสูงโปร่งอยู่ในชุดเชิ๊ตสีดำ คลุมด้วยผ้าคลุมสีดำสนิท บนใบหน้าประดับด้วยแว่นดำหนา อ้าปากที่มีเขี้ยวปลอมเล้กๆติดเอาไว้ดูน่ารักน่าชัง
“คุณชายใจร้ายที่สุด” แวมไพร์เสียท่าร้อวโอดครวน ปัดฝุ่นตามตัวก่อนที่จะยืนขึ้นเดินเริงร่า สยายผ้าคลุมหมุนตัวหนึ่งรอบโชว์ให้คนเบื้องหน้าดู
“เป็นไงคุณชายฮัว ฉันเหมาะกับบทนี้ไหม” เฮยเสียจื่อเริงร่าเสียจนน่าหมั่นไส้ เขาอ้าปากแลบลิ้น ผมเอื้อมมือไปดีดหน้าผากคนจอมเกเรหนึ่งที อดไม่ไหวที่จะจับมือของเขา
“ทำไมไม่ใส่ถุงมือ” ตอนนี้เข้าสู่ช่วงลมหนาวแม้จะไม่หนาวมากแต่ในยามค่ำคืนแถมเขายังอยู่ข้างนอนมานาน สัมผัสได้จากปลายนิ้วที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
“ก็แบบว่ามันลืมอ๊ะ” คำตอบที่น่าจับตีก้นเสียให้เข็ด นอกจากจะพังเบรดเกอร์ผมไปหนึ่งตัวยังทำข้าวของเสียหาย ผมเหลือบไปมองยังหน้าต่างของห้องนอนย มันปรากฎร่องรอยของการถูกงัด สรุปวันนี้เจ้าผีทำลายข้าวของในบ้านผมตามอำเภอใจ
“คุณชายยังไม่ตอบผมเลย ว่าจะยอมให้ผมหลอกหรือให้ขนมผม” เห็นผมนิ่งไปเขาจึงทักท้วงผมอีกครา นายแว่นกำแก้มป่องได้น่าหมั่นไส้จนผมหยิบไม้พลองขึ้นมากระแทกท้องน้อยให้แวมไพร์ตัวดีล้มลงไปกองกับพื้นตามเดิม
“นายหลอกฉันไมได้หรอก” ผมคีล่ยิ้ม รู้สึกว่าความเงียบเหงาที่ผ่านมาัท้งวันถูกเขาเป่ากระจุยด้วยเวลาไม่กี่นาที … เฮยเสียจื่อแลบลิ้นใส่ผม ราวกับไม่ยอมแพ้ แวมไพร์ตัวดีคลานขึ้นมาแยกเขี้ยวดูแล้วน่าเอาพลองกระทุ้งให้ขจุกอีกรอบ
“เดี๋ยวคุณชาย เขาห้ามทำร้ายร่างกายนะ” เจ้าแวมไพร์จำเป้นกระโดดหนีผมบนเตียงก่อนที่จะวิ่งไปรอบห้อง ราวกับกลัวว่าผมจะเอาพลองกระทุ้งท้องเขาอีกรอบ
“มีกฎนั้นด้วยหรือ ?” ผมเอียงคอกระชับไม้พลองในมือแน่น เฮยเสียจื่อยิ้มแห้งก่อนที่จะยกมือสองข้าง จีบปากจีบคอ
“ยอมแพ้แล้ว ยอมแพ้ ไม่หลอกคุณชายแล้วก็ได้ อย่าทำร้ายแวมไพร์น่าสงสารตัวนี้อีกเลย” นายแว่นถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก อ้าปากดึงเอาเขี้ยวปลอมเล้กในปาดรวบไว้กับชุดคลุมแวมไพร์วางกองไว้มุมห้องเหลือเพียงเสื้อเชิ๊ตสีดำและกางเกงสเลดสีเดียวกัน เท้าเปลือยเปล่าของเขาเดินเข้ามาหาผม
“นายไม่ใส่ถุงมือกับรองเท้ามานานแค่ไหน จะเล่นก็ได้หรอกแต่เคยบอกแล้วไงห้ามทำอะไรเสี่ยง” ผมดถเจ้าคนไม่รักตัวเอง ชอบหาเรื่องมาให้อยู่เรื่อย นิสัยรักสนุกจมลืมนึกถึงอัตรายของเขาพาให้ผมต้องถอนหายใจวันละหลายรอบ ถ้าไม่ติดว่าเขาติดรักอิสระผมคงจับล่ามไว้ที่เตียงตลอด 24 ชั่วโมงให้เข็ด
“แหมใส่รองเท้าปีนขอบหน้าต่างมันไม่ถนักนี่ แถมเข้าห้องคุณชายใส่รองเท้าได้ไง” เฮยเสียจื่อบิดตัวได้แร่ดยิ่งกว่ากระเทยแท้ เห็นสภาพทุเรสทุรังลูกตาผมก็เอาไม้พลองฟาดไปที่เขาอีกรอบ
“แว๊ก อย่าทำร้ายร่างกายสิ คุณชายนี่โครตเอสเลย” น้ำเสียงร่าเริงต่อรอง เขากระโดดหลบไม้พลองผมได้ทันก่อนที่จะเดินวนเข้ามาใกล้
“มีอะไร” ผมเหลือบมองเรือนร่างของคนน่าจับตี ใบหน้าดูดียิ้มพรายก่อนที่จะเอียงคอ ยามที่เรือนร่างของเขาเข้ามาจนเกือบจะแนบชิดผมได้กลิ่นกายหอมกรุ่น กลิ่นที่ราวกับยาเสพติดมันมอมเมาทุกครั้งที่ได้สัมผัส คล้ายกับนิโคติน
“ก็แหม แค่คิดว่าคุณชายใจร้ายจังเลย วันพิเศษทั้งทีเอาแต่เมินฉัน ส่งข้อความไปกี่ครั้งก็ไม่ตอบกลับเลย สนแต่งานฉันก็อยากเรียกร้องขอความสนใจมั่งสิ” เรียวแขนของเขาคล้องมาที่คอของผม เฮยเสียจื่อตัวสูงกว่าผมเล็กน้อย นัยน์ตาสีสวยใต้กรอบแว่นพาให้ผมดึงแว่นของเขาออก มองยังขนตางามงอนเข้าคู่กับนัยน์ตาสีแปลก
ผมชอบนัยน์ตาเรียวคมของเขาเหลือเกิน ..แต่จะไม่มีวันบอกหรอก
“แย๊ก!” นายแว่นร้องราวกับหมูถูกเชือด เจ้าตัวหลับตาปี้ก้มหน้าลงซุกไซร้คอของผมราวกับงูที่ชอบพัวพันรัดคน “คุณชายใจร้าย ก็รู้อยู่ว่าตาฉันแพ้แสงยังจะแกล้งกันอีก คนใจร้ายขี้แกล้ง”
เจ้างูตัวร้ายทำปากยื่นดุแล้วน่าถีบเป็นที่สุด ผมตบกัวมนไปหนึ่วทีไม่วายแถมด้วยการดึงใบหุได้รูปอีกครั้ง ก่อนที่จะปิดสวิชของไฟนีออนกลางห้อง ทิ้งไว้เพียงโคมไฟบนหัวเตียง
“โอ๊ยๆ อย่าแกล้งสิ ทำไมถึงเอาแต่แกล้งฉันกันละ”
ก็นายมันน่าแกล้งยังไงละ..
“นายมันกวนตีน ยียวนกวนประสาทก็สมควรโดนแล้ว” พอได้ยินผมพูดเฮยเสียจื่อก็ทรุกตัวลงไปนั่งพับเพียบเสแสร้งร่ไห้ ท่าทางราวกับนางเอกผู้น่าสงสารที่โดนแม่เลี้ยงใจร้ายรังแก
“ซิกใช้ซี่ ฉันมันดอกไม้ริมทางที่คุณชายฮัวเด็ดแล้วทอดทิ้ง พอได้จนหนำใจก็ไม่สนใจ บอกมานะจะนอกใจฉันไปหาใหม่ใช่ไหม!”
“เพ้อเจ้อ” ผมถีบมันไปอีกสองครั้ง เฮยเสียจื่อกลิ้งตัวหลบลถกขึ้นมายืนแลบลิ้นใส่ผมได้น่าถีบสุดๆ
“แหมคุณชายอ๊ะ ไม่คิดจะเลี้ยงขนมให้ผมมั่งเลยหรือ ถึงจะหลอกไม่สำเร็จแต่ผมก็ทำแล้วนะ” ผมหัวเราะกับคำพูดของเขา มองยังใบหน้าซีดขาวตัดด้วยสีดำดูโดดเด่น
สวย...
เฮยเสียจื่อชอบชมว่าผมเหมือนนางฟ้า เทพธิดา สวยงามยิ่งกว่าอิสตรีทั้งโลก แต่ผมเองว่าเขานั่นละที่สวย ไม่ใช่สวยเหมือนอิสตรี แต่เป็นความงดงามที่ราวกับอัญมณี ... ใต้กรอบแว่นสีดำที่บดบังนั้นซุกซ่อนความงดงามของอัฯมณีเลอค่าที่มีเพียงผมที่ได้เห็นมัน
“ก็ได้ ไหนๆนายก็มาแล้ว” ผมหยิบโทรศัพยืโทรบอกแม่บ้านให้นำอาหารเข้ามาท่ามกลางเสียงหัวเราะขงจ้าตัวแสบ
“ว่าแล้วคุณชายใจดีออก ไม่มีทางทิ้งผมได้หรอก” เจ้าตัวดีเดินวนไปรอบห้องพลางหัวเราะ ราวกับนกรู้ว่าถ้าหยุดอยู่กับที่โดนผมเอาไม้พลองกระทุ้งแน่
“ก็นั่นสินะ เป้นของทำพิเศษเืพ่อนายเลยนะ” ผมคีล่ยิ้มร้ายกาจ เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้างูที่เลื้อยเล่นรอบห้องก็หยุดเดืน ทำสีหน้าราวกับเจอเรื่องร้ายมาทั้งชีวิต
“คุณชายยิ่มแบบนี้ ฉันว่า ตอนนี้ขอกลับบ้านเลบได้ไหม” ไม่ว่าเปล่าร่างโปร่งเกาะหน้าต่างบานเดิมเหมือนจะรีบหนีกลับบ้าน
มาทำลายบ้านคนอื่นขนาดนี้คิดว่าจะปล่อยให้กลับไปได้หรือไร
ผมคว้าหลังคอของเจ้างูที่กำลังจะหนีลากลงมาที่พื้นห้อง เหวี่ยงลงบนเตียงนุ่ม เจ้างูทำหน้าซีกเซียวคลานบนเตียง ผมขยับตัวลงไปคร่อมมันใช้ไม้พลองกดลงที่ลำคอ เฮยเสียจื่อไอออกมาหนึ่งทีก่อนที่จะขยับตัวอย่างยากลำบาก
“คุณชาย จะให้มีเซ้กสือย่างเร่าร้อนนะได้ sm ก็ได้แต่ทำไมเหมือนฉันได้กลิ่นของหวานเลยละ”
“คิดมากไปเอง” ผมเหยียดยยิ้มสดใส พาให้คนใต้ร่างเคลิบเคลิ้ม เฮยเสียจื่อชอบใบหน้าของผมเป็นที่สุด ยามที่ผมคลี่ยิ้มหวานหยดย้อยเขาจะหยุดอยู่กับที่ราวกับลุ่มหลง ..
เป้นครั้งแรกที่ผมคิดว่าหน้าตาตัวเองมีประโบชน์เหลือเกิน อย่างน้อยมันก็ทำให้จับเจ้างูได้ตัวหนึ่งอย่างดิ้นไม่หลุด
ผมเอื้อมมือไปยังหัวเตียงคว้าเอาของเล่นที่เตรียมไว้เพื่อเขาึข้นมา คว้าข้อมือเย็นเฉียบคล้องลงกับลสัมผัสของโลหะ
“เอ๋” เฮยเสียจื่อสะดุ้งยามที่ผิวกายแตะกับความเยือกเย็นของโลหะกว่าจะรู้ตัวมือของเขาทั้งสองข้างก็ถูกรั้งขึ้นหัวเตียง
แกร๊ก! เสียงกุยแจลงล็อก เสียดสีกับโซ่ของมันดังขึ้นในห้องเงียบสงบ เฮยเสียจื่อยิ้มแห้งเมื่อเงยหน้าขึ้นมองมือตนเอง
“คุณชายเก้ารสนิยมเปลี่ยนไปนะ”นายแว่นทำปากยื่น บิดตัวอยู่บนผ้าปูที่นอนสีแดงสด ตัดเข้ากับสีผิวของเขา ผมเอื้อมมือไปปลดกระดุมท่ามลางสายตาเย้ายวนที่ปรายตามองข7้นมาหาผม ริมฝีปากบางเลียปากตัวเอง ราวกับรอคอย…
“วันนี้จะกี่รอบดีดีละ หรือจะให้ฉันขึ้นไปขยับตัวอยู่บนตักนายก็ได้นะ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะของพวกเราสองคน ผมละมือจากเจ้างูที่เย้ายวนเดินไปเปิดประตูรับอาหาร แม่บ้านรู้หน้าที่ดีเมื่อยกเค้กฟักทองก้อนโตให้ผมเธอก้ปิดประตูรีบจากไปในแทบจะทันที
“คุณชายเก้าวันนี้จะฆ่าผมสินะครับ” เสียงหวานประท้วงเมื่อเห็นผมถือเค้กฟักทองสองชั้น
ผมเหยีดยยิ้มเย็นชา เฮยเสียจื่อเกลียดของหวานเป็นที่สุก แค่เค้กชิ้นเดียวก็ทำให้เขาพะอืดพะอมจนฟุบคาโตะ แต่นี่เป้นเค้กราวสามปอนส์
“นายมาหลอกเพื่อขอขนมฉันไม่ใช่หรือ” ผมวางเค้กไว้ข้างเตียง นอกจากเค้กก้อนโตแม่บ้านยังนำลูกอมรูปค้างคาวใส่ตระกร้ามาวางไว้อย่างรู้งาน
“ฉันก็พูดเล่นไปงั้นละ คุณชายอย่าถือสา” เจ้างูตัวโตทำหน้าซีด มือของมันขยับแต่อนิจจากุญฐแจมือที่มันถูกล่ามเอาไว้นั้นแน่หนาเกินไป ต่อให้เป็นเสี่ยวเกอผู้มากพลังก้ยังต้องใช้เวลา
“ไม่ได้ ฉันเป็นคนทำจริงจัง ไม่เลี้ยงนายให้อดยากแน่ นายเพิ่งจะบอกว่าฉันไม่ใช่สนใจนายมิใช่หรือ ?”ผมแกล้งมันรู้ดีว่ามันเกลียดของหวานที่สุด มือหยิบเอาลูกอมรูปค้างคาวขึ้นมาเข้าปากตัวเอง ลิ้นช่มเลียรสหวานในปากเสีนจนลูกละลายไปบางส่วนผมจึงโน้มตัวจูบยังริมฝีปากช่างจ้อของคนเบื้องล่าง ลิ้นหวานพัวพันหาความรุ่มร้อนในปากของเจ้างู บังคับดันเอาลูกอมรสหวานเข้าปากเฮยเสียจื่อ
นายแว่นดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ตัวผม เห็นท่าทีขัดขืนน่ารักแบบนี้ผมจึงเลียไปตามโพรงปากมอบย้อนยังตัวตนของเขาให้หวานล้ำ ป้อนลูกอมรสหวานก่อนที่จะละริมฝีปากทอดทิ้งหยาดหยดน้ำใสเป็นสาย
“อร่อยไหมละ” ผ้าเลียริมฝีปากตัวเองรู้สึกถึงความหวานหอมในลำคอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมก็ได้อมลูกอมชนิดนี้มาก่อนกลับไม่รู้สึกว่ามันหวาดได้ถึงเพียงนี้
หรือเพราะอมผ่านปากนายแว่นกันนะ...
“อืออ...” นายแว่นครางเขาทำท่าเหมือนอยากจะคายมันออกแต่เมื่อเห็นสายตาดุของผมก็ยินยอมอมต่อไปอย่างโดยดี ใบหน้าขาวซุกลงกับหมอนนุ่มท่าทางเหมือนทรมานเหลือแสน
น้อยๆหน่อยอย่าโอเวอร์แอดติ้ง..นี่มันแค่ลูกอมเม็ดเดียว
“คุณชายเก้า กินเค้กไม่ไหวนะ” เจ้างูตัวร้ายขอต่อรอง นัยน์ตาสีสวยช้อนขึ้นราวกับจะออดอ้อนเห็นท่าทีของเขาแล้วผมก้ใจอ่อน คลี่รอยยิ้มปีศาจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“ก็ได้ งั้นฉันจะกินเอง” ผมเอื้อมทือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีดำสนิทของเขาออก ก่อนที่จะลูบไล้ยังลำคอระหง ลากไล้มายังไหปลาร้าได้รุป เรื่อยลงมายังเนินอกที่เริ่มชูชันเคล้นคลึงเพียงครู่เดียวหัวนมของเขากลับแข็งเป็นไต ผมกลั่นแกล้งโดนมิยอมแตะต้องมันลากไปไปสู่ท้องน้อย นิ้วชี้วนเวียนก่อนที่จะปลดเข็มขัดอย่างเชื้องช้า แตะลงยังเป้ากางเกงที่เริ่มนูนขึ้น
“มักมาก” ผมต่อว่าเขาแต่นายแว่นกลับยิ้ม บิดตัวราวกับเชื้อเชิญ ดูเขาสิ....นายเป็นซะแบบนี้แล้วฉันจะปล่อยไปได้ยังไง เจ้างูตัวร้ายที่เชิญชวนผมให้บ้าคลั่งตลอดเวลา
Fic บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
คู่ เสี่ยวฮัว x เฮยเสียจื่อ
NC 18
ทำตามรีเควสของคุณเทียร์ที่อยากได้โมเม้หวาน ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งด้วง
คำเตือนคำผิดเยอะมาก ผิดคาแรกเตอร์ มโนล้านเปอร์เซ็นต์
วันฮาโลวัน...สมัยก่อนมันเป็นวันรำลึกถึงพิธีกรรม ทว่าในสมัยนี้มันกลับถูกดว้ยการละเล่นและงานรื่นเริง
มันก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่งที่ผมต้องทำงานเท่านั้น เซี่ยอวี้ฮัวงคือผู้นำคนปัจจุบันมีงานการมากมายที่รอให้ผมต้องจัดการ ผมนั่งอ่าเนอกสารในห้องทำงานทาวเฮาร์ตนเอง รู้สึกว่ายังเหลือกองงานอีกมาก
“คุณชายจะพักสักหน่อยไหมครับ” คนคุ้มกันที่ยืนเคียงข้างผมเอ่ยถามผม ในมือขงเขาถือถาดเหยือกน้ำหวานสีสวย ผมส่ายหน้าก่อนที่จะโบกมือไล่เขา ตอนนี้อยู่ในบ้านผมไม่ต้องการคนคุ้มกัน ผมเอนตัวลงกับพนักพิงของเก้าอี้รู้สึกว่าปวดหลังเล็กน้อย ในจังหวะที่ผมกำลังว่าจะลุกยืดเส้นยืดสายดีไหม เสียงข้อความในโทรศัพย์ดังขึ้นพาให้ผมเอื้อมมือไปหยิบมัน กดเปิดฝาจอมือถือสีชมพูน่ารักก่นที่จะเผลอคีล่ยิ้มเมื่อเห็นว่าใครส่งมา
‘เสี่ยวฮัวนายคงไมไ่ด้ทำงานอยู่หรอกใช่ไหม ขอโทษนะปีนี้ที่ได้อยู่ด้วย’
ถ้อยคำอ่อนหวานของเทียนเจินพาให้ผมหัวเราะ เขาทำให้ผมอารมร์ดีได้เสมอ สิบปีที่ยาวนานได้จบลงแล้ว มือที่เคยจางหายไปของนายน้อยสามได้หวนคืนอีกครั้ง ตอนนี้พวกเขากำลังเที่ยวรอบโลก
‘ไม่เป็นไรขอแค่นายยังเดินได้ก็พอแล้ว’ ผมกดข้อความตอบเขาแม้ว่าเขาจะเป็นรักครั้งแรก เป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดทว่าเมื่อเห็นเขายิ้มความเจ็บปวดใดๆผมก็ยอมได้ อีกอย่าง....ผมก็ไม่ได้เจ็บปวดเหงาหงอยเพราะพอผมคิดถึงนายน้อยสามทีไรก็พลันเจอตัวยุ่งวุ่นวายทุกครั้ง
‘นี่ๆ คุณชายกลัวผีไหมเอ่ย’ ข้อความจากคนที่ผมอยากถีบยอดหน้าที่สุดเด้งเตือนขึ้นบนมือถือ นายบ้าหรือไงคนคว่ำกรวยเช่นเราถ้ากลัวผีคงไม่ได้ทำงานทำการกันแล้ว ผมเหวี่ยงโทรศัพย์มือถือลงกับโซฟาในห้องทำงาน รู้สึกเหมือนเอกสารตรงหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เสียงกระพริบจากมือถือดังขึ้นอีกครั้ง ผมไม่สนใจนั่งตรวเจอกสารต่อไป หากแต่เจ้านั่นก็ยังไม่ยอมแพ้ เสียงข้อความดังรัวกระพริบ น่ารำคาญจนผมต้องลุกขึ้น
คิดว่าจะกดปิดมือถือทิ้งดีหรือดทรไปต่อว่าเจ้าคนรำคาญคนัน้นดี ผมยกมือถือฝาพับสีชมพูขึ้นมากดไล่ข้อความที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ
‘ไงคุณชายทำงานอยู่ละสิ’
‘นี่ๆเบื่ออยู่ใช่ไหมละ ‘
‘คิดถึงฉันไหม -3- จุ๊บๆ’
‘อย่าทำงานหนักเกินไปเดี๋ยวจะปวดหลังไม่มี ฉะกับก้นของผมน๊า’
‘เงียบแบบนี้แสดงว่าบ้าทำงานอยู่แน่เลย ‘
‘คุณชาย จุ๊บๆ คิดถึงน๊า’
‘นี่คุณชาย วันนี้ฮาโลวันนะหยุดทำงานบ้างเถอะนะ ‘
‘ถ้ายังทำงานอยู่อีกจะดดนผีหลอกน๊า แบร่ แบร่ ‘
น่ารำคาญโครตๆ เซี่ยอวี้ฮัวรู้สึกว่าตัวเองได้ทำผิพพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่มอบโทรศัพย์ให้กับเจ้าจอมจุ้น แถมยังสอนวิธีส่งข้อความให้กับมัน ข้อความบ้าบอคอแตกไร้สาระถึงได้ถูกส่งมาเป็นชุดแบบนี้
‘น่ารำคาญ’ ผมกดข้อความส่งไปไม่กี่นาทีมือถือก็ัดงระรัวจนต้องปิด เห็นยังข้อความเหมือนหมอนั่นจะชวนกินข้าว ช่างเถอะ....ยังไงเสียหมอนั่นก็มีคนให้ไปด้วยตั้งเยอะอยู่แล้ว ผมลงนั่งยังโต๊ะตัวเดิมเอนหลังพิงเก้าอี้รู้สึกยังมีงานมากมายที่ยังจัดการไม่เหมด เข็มนาฬิกาหมุนวนไปเรื่อย เพราะผมปิดเครื่องไปแล้วจึงไม่มีเสียงน่ารำคาญของโทรศัพย์ดังขึ้นมาอีก
“คุณชายจะรับอะไรไหมครับ”บอดี้การด์ข้างอนกห้องอินเตอร์โฟนโทรศัพย์เครื่องภายในเอ่ยถาม ผมเหลือบมองเวลาจัดการเอกสารเพียงครู่เดียวกลับล่วงเลยเวลามาถึงช่วงหัวค่ำเสียแล้ว ผมเท้าคางกับโต๊ะไม้พลางนึกถึงมือถือของตนเอง
ผมหยิบมือถือบานพับที่วางอยู่ึข้นมาเปิดเครื่องข้อความนับสิบเด้งขึ้นพร้อมกันจนแทบแบตหมด ผมเลื่อนกดดูข้อความล่าสุดก่อนที่จะเผลอคีล่ยิ้ม
‘เอาแต่ทำงานไม่กินข้าวระวังผีจะไปหลอกนะ ‘
“เตรียมอาหารชุดใหญ่ให้ที สำหรับสองที่” ผมกดปุ่มอินเตอร์โฟนปิดลงคิดว่าแม่บ้านคงจะจัดการให้ พร้อมัท้งสั่งพวกบอดี้การด์ให้ดูแลนอกรอบทาวเฮาร์
หมอนั่นกำลังจะมา...
ผมเอนตัวพิงลงกับเบาะหนักทำงานรู้สึกมุมปากกระตุกขึ้นเมื่อถึงผีที่กำลังจะมาหลอก คิดจะแกล้งเซี่ยอวี้ฮัวก็ต้องเตรียมใจเอาไว้ ...จะลงโทษยังไงดีนะ ...
อาแค่คิดก็รู้สึกจะเผลอยิ้มไปเสียแล้ว..
ผมหยิบนาฬิกาพกออกมามองเวลา มันเป็นเวลาสองทุ่มของวันที่ 31 อีกไม่นานก็จะหมดวัน ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม่ลืมที่จะหยิบมือถือสีชมพูไปยังห้องน้ำก่อนที่จะอาบน้ำเปลี่ยนชุด รู้สึกหนาวเล้กน้อยจนต้องสวมเสื้อคลุม
ช่วงนี้เริ่มเข้าเดือนพฤศจิกายน ลมหนาวกำลังพัดมาเป็นช่วงเวลาที่น่านอนที่สุด ผมหยิบเอาของประจำตัวเหน็บไว้ที่กระเป๋ากางเกง ล้มตัวลงบนเตียงก่อนที่ซุกตัวลงในผ้าห่มหลับตาคลายความเหนื่อยล้าทั้งที่ยังไม่ปิดไฟ
ตึก...ตึก.. เสียงเข็มนาฬิกาในห้องร้องจวบจนถึงเวลาสามทุ่ม หูได้ยินเสียงราวกับมีอะไรระเบิดที่ฝั่งซ้าย หลอดไฟนีออนในห้องพลันดับลง แสงสว่างถูกริดรอนไปจากบ้าน ผมขมวดคิ้วรู้สึกว่าอยากจะจับตีผีตัวนั้นให้ตาย
เสียงโทรศัพย์ดังขึ้นระรัวผมหยิบมันกดขึ้นรับก่อนที่จะขมวดคิ้ว
“คุณชายเก้าครับ มีคนพังเบรกเกอร์..”
ให้ตายน่าจับตีก้นเสียให้เข็ด
“ไม่เป็นไร พวกนายไม่ต้องทำอะไร” ผมควบคุมลูกน้องให้อยู่ในความสงบ ได้ยินเสียงก็อกแก๊กดังมาจากข้างหลัง จำได้ว่ามุมข้างหลังต่อจากเตียงคือหน้าต่างบานโต
“หึหึ” เสียงหัวเราะใสดังขึ้น เสียงของเสื้อผ้าเสียดสีกับกระจกก่อนที่จะสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังปีนหน้าต่างลงมา ผมตัดสายโทรศัพย์ทิ้งพับมือถือลงในกระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะคลี่ยิ้มเมื่อเงานั้นเข้ามาใกล้
ท่ามกลางความมืดมิด เขาแทบจะกลืนเป้นหนึ่งเดียวกับมัน มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบา โดยไม่รู้ตัวสัมผัสเย็นก็แตะลงที่ปลายแก้มของผม คลอเคลียราวกับถูกใจก่อนที่จะได้ยินเสียงอันคุ้นเคย
“trick or treat”
“หึ” ผมหัวเราะพลันคว้าเอามือข้างนั้น ผีที่มาหลอกผมดูเหมือนจะตกใจไปวูบหนึ่งเขาพลิกตัวหมายจะหนี ผมล้วงเอากระบอกพลองกดต่กมัน แสร้งทำเป็นปล่อยมืออันหนาวเหน็บนั้นก่อนที่จะย่อตัวใช้พลองกวาดพื้น ..ได้ยินเสียงดังตุ๊บพร้อมกับเสียงล้มของข้างของตามมา
“โอ๊ย..อย่าแกล้งสิ” เสียงโอดโอยอันคุ้นเคยดังขึ้น เสียงมือถือของผมดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับแสงสว่างที่เข้าครอบงำบ้านของผมอีกครา ขับไล่ยังความมืดมิดเผยให้เห็นร่างของผู้ปกรุก
เฮยเสียจื่อ นายแว่นดำนั่งพิงชั้นวางของที่ล้มลงขวาง ข้าวของบนชั้นวางร่วงหล่นใส่ร่างของเขา ใบหน้าดูดีนั้นแลบลิ้นใส่ผมราวกับน้อยใจ เรือนร่างสวมส่วนสูงโปร่งอยู่ในชุดเชิ๊ตสีดำ คลุมด้วยผ้าคลุมสีดำสนิท บนใบหน้าประดับด้วยแว่นดำหนา อ้าปากที่มีเขี้ยวปลอมเล้กๆติดเอาไว้ดูน่ารักน่าชัง
“คุณชายใจร้ายที่สุด” แวมไพร์เสียท่าร้อวโอดครวน ปัดฝุ่นตามตัวก่อนที่จะยืนขึ้นเดินเริงร่า สยายผ้าคลุมหมุนตัวหนึ่งรอบโชว์ให้คนเบื้องหน้าดู
“เป็นไงคุณชายฮัว ฉันเหมาะกับบทนี้ไหม” เฮยเสียจื่อเริงร่าเสียจนน่าหมั่นไส้ เขาอ้าปากแลบลิ้น ผมเอื้อมมือไปดีดหน้าผากคนจอมเกเรหนึ่งที อดไม่ไหวที่จะจับมือของเขา
“ทำไมไม่ใส่ถุงมือ” ตอนนี้เข้าสู่ช่วงลมหนาวแม้จะไม่หนาวมากแต่ในยามค่ำคืนแถมเขายังอยู่ข้างนอนมานาน สัมผัสได้จากปลายนิ้วที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
“ก็แบบว่ามันลืมอ๊ะ” คำตอบที่น่าจับตีก้นเสียให้เข็ด นอกจากจะพังเบรดเกอร์ผมไปหนึ่งตัวยังทำข้าวของเสียหาย ผมเหลือบไปมองยังหน้าต่างของห้องนอนย มันปรากฎร่องรอยของการถูกงัด สรุปวันนี้เจ้าผีทำลายข้าวของในบ้านผมตามอำเภอใจ
“คุณชายยังไม่ตอบผมเลย ว่าจะยอมให้ผมหลอกหรือให้ขนมผม” เห็นผมนิ่งไปเขาจึงทักท้วงผมอีกครา นายแว่นกำแก้มป่องได้น่าหมั่นไส้จนผมหยิบไม้พลองขึ้นมากระแทกท้องน้อยให้แวมไพร์ตัวดีล้มลงไปกองกับพื้นตามเดิม
“นายหลอกฉันไมได้หรอก” ผมคีล่ยิ้ม รู้สึกว่าความเงียบเหงาที่ผ่านมาัท้งวันถูกเขาเป่ากระจุยด้วยเวลาไม่กี่นาที … เฮยเสียจื่อแลบลิ้นใส่ผม ราวกับไม่ยอมแพ้ แวมไพร์ตัวดีคลานขึ้นมาแยกเขี้ยวดูแล้วน่าเอาพลองกระทุ้งให้ขจุกอีกรอบ
“เดี๋ยวคุณชาย เขาห้ามทำร้ายร่างกายนะ” เจ้าแวมไพร์จำเป้นกระโดดหนีผมบนเตียงก่อนที่จะวิ่งไปรอบห้อง ราวกับกลัวว่าผมจะเอาพลองกระทุ้งท้องเขาอีกรอบ
“มีกฎนั้นด้วยหรือ ?” ผมเอียงคอกระชับไม้พลองในมือแน่น เฮยเสียจื่อยิ้มแห้งก่อนที่จะยกมือสองข้าง จีบปากจีบคอ
“ยอมแพ้แล้ว ยอมแพ้ ไม่หลอกคุณชายแล้วก็ได้ อย่าทำร้ายแวมไพร์น่าสงสารตัวนี้อีกเลย” นายแว่นถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก อ้าปากดึงเอาเขี้ยวปลอมเล้กในปาดรวบไว้กับชุดคลุมแวมไพร์วางกองไว้มุมห้องเหลือเพียงเสื้อเชิ๊ตสีดำและกางเกงสเลดสีเดียวกัน เท้าเปลือยเปล่าของเขาเดินเข้ามาหาผม
“นายไม่ใส่ถุงมือกับรองเท้ามานานแค่ไหน จะเล่นก็ได้หรอกแต่เคยบอกแล้วไงห้ามทำอะไรเสี่ยง” ผมดถเจ้าคนไม่รักตัวเอง ชอบหาเรื่องมาให้อยู่เรื่อย นิสัยรักสนุกจมลืมนึกถึงอัตรายของเขาพาให้ผมต้องถอนหายใจวันละหลายรอบ ถ้าไม่ติดว่าเขาติดรักอิสระผมคงจับล่ามไว้ที่เตียงตลอด 24 ชั่วโมงให้เข็ด
“แหมใส่รองเท้าปีนขอบหน้าต่างมันไม่ถนักนี่ แถมเข้าห้องคุณชายใส่รองเท้าได้ไง” เฮยเสียจื่อบิดตัวได้แร่ดยิ่งกว่ากระเทยแท้ เห็นสภาพทุเรสทุรังลูกตาผมก็เอาไม้พลองฟาดไปที่เขาอีกรอบ
“แว๊ก อย่าทำร้ายร่างกายสิ คุณชายนี่โครตเอสเลย” น้ำเสียงร่าเริงต่อรอง เขากระโดดหลบไม้พลองผมได้ทันก่อนที่จะเดินวนเข้ามาใกล้
“มีอะไร” ผมเหลือบมองเรือนร่างของคนน่าจับตี ใบหน้าดูดียิ้มพรายก่อนที่จะเอียงคอ ยามที่เรือนร่างของเขาเข้ามาจนเกือบจะแนบชิดผมได้กลิ่นกายหอมกรุ่น กลิ่นที่ราวกับยาเสพติดมันมอมเมาทุกครั้งที่ได้สัมผัส คล้ายกับนิโคติน
“ก็แหม แค่คิดว่าคุณชายใจร้ายจังเลย วันพิเศษทั้งทีเอาแต่เมินฉัน ส่งข้อความไปกี่ครั้งก็ไม่ตอบกลับเลย สนแต่งานฉันก็อยากเรียกร้องขอความสนใจมั่งสิ” เรียวแขนของเขาคล้องมาที่คอของผม เฮยเสียจื่อตัวสูงกว่าผมเล็กน้อย นัยน์ตาสีสวยใต้กรอบแว่นพาให้ผมดึงแว่นของเขาออก มองยังขนตางามงอนเข้าคู่กับนัยน์ตาสีแปลก
ผมชอบนัยน์ตาเรียวคมของเขาเหลือเกิน ..แต่จะไม่มีวันบอกหรอก
“แย๊ก!” นายแว่นร้องราวกับหมูถูกเชือด เจ้าตัวหลับตาปี้ก้มหน้าลงซุกไซร้คอของผมราวกับงูที่ชอบพัวพันรัดคน “คุณชายใจร้าย ก็รู้อยู่ว่าตาฉันแพ้แสงยังจะแกล้งกันอีก คนใจร้ายขี้แกล้ง”
เจ้างูตัวร้ายทำปากยื่นดุแล้วน่าถีบเป็นที่สุด ผมตบกัวมนไปหนึ่วทีไม่วายแถมด้วยการดึงใบหุได้รูปอีกครั้ง ก่อนที่จะปิดสวิชของไฟนีออนกลางห้อง ทิ้งไว้เพียงโคมไฟบนหัวเตียง
“โอ๊ยๆ อย่าแกล้งสิ ทำไมถึงเอาแต่แกล้งฉันกันละ”
ก็นายมันน่าแกล้งยังไงละ..
“นายมันกวนตีน ยียวนกวนประสาทก็สมควรโดนแล้ว” พอได้ยินผมพูดเฮยเสียจื่อก็ทรุกตัวลงไปนั่งพับเพียบเสแสร้งร่ไห้ ท่าทางราวกับนางเอกผู้น่าสงสารที่โดนแม่เลี้ยงใจร้ายรังแก
“ซิกใช้ซี่ ฉันมันดอกไม้ริมทางที่คุณชายฮัวเด็ดแล้วทอดทิ้ง พอได้จนหนำใจก็ไม่สนใจ บอกมานะจะนอกใจฉันไปหาใหม่ใช่ไหม!”
“เพ้อเจ้อ” ผมถีบมันไปอีกสองครั้ง เฮยเสียจื่อกลิ้งตัวหลบลถกขึ้นมายืนแลบลิ้นใส่ผมได้น่าถีบสุดๆ
“แหมคุณชายอ๊ะ ไม่คิดจะเลี้ยงขนมให้ผมมั่งเลยหรือ ถึงจะหลอกไม่สำเร็จแต่ผมก็ทำแล้วนะ” ผมหัวเราะกับคำพูดของเขา มองยังใบหน้าซีดขาวตัดด้วยสีดำดูโดดเด่น
สวย...
เฮยเสียจื่อชอบชมว่าผมเหมือนนางฟ้า เทพธิดา สวยงามยิ่งกว่าอิสตรีทั้งโลก แต่ผมเองว่าเขานั่นละที่สวย ไม่ใช่สวยเหมือนอิสตรี แต่เป็นความงดงามที่ราวกับอัญมณี ... ใต้กรอบแว่นสีดำที่บดบังนั้นซุกซ่อนความงดงามของอัฯมณีเลอค่าที่มีเพียงผมที่ได้เห็นมัน
“ก็ได้ ไหนๆนายก็มาแล้ว” ผมหยิบโทรศัพยืโทรบอกแม่บ้านให้นำอาหารเข้ามาท่ามกลางเสียงหัวเราะขงจ้าตัวแสบ
“ว่าแล้วคุณชายใจดีออก ไม่มีทางทิ้งผมได้หรอก” เจ้าตัวดีเดินวนไปรอบห้องพลางหัวเราะ ราวกับนกรู้ว่าถ้าหยุดอยู่กับที่โดนผมเอาไม้พลองกระทุ้งแน่
“ก็นั่นสินะ เป้นของทำพิเศษเืพ่อนายเลยนะ” ผมคีล่ยิ้มร้ายกาจ เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้างูที่เลื้อยเล่นรอบห้องก็หยุดเดืน ทำสีหน้าราวกับเจอเรื่องร้ายมาทั้งชีวิต
“คุณชายยิ่มแบบนี้ ฉันว่า ตอนนี้ขอกลับบ้านเลบได้ไหม” ไม่ว่าเปล่าร่างโปร่งเกาะหน้าต่างบานเดิมเหมือนจะรีบหนีกลับบ้าน
มาทำลายบ้านคนอื่นขนาดนี้คิดว่าจะปล่อยให้กลับไปได้หรือไร
ผมคว้าหลังคอของเจ้างูที่กำลังจะหนีลากลงมาที่พื้นห้อง เหวี่ยงลงบนเตียงนุ่ม เจ้างูทำหน้าซีกเซียวคลานบนเตียง ผมขยับตัวลงไปคร่อมมันใช้ไม้พลองกดลงที่ลำคอ เฮยเสียจื่อไอออกมาหนึ่งทีก่อนที่จะขยับตัวอย่างยากลำบาก
“คุณชาย จะให้มีเซ้กสือย่างเร่าร้อนนะได้ sm ก็ได้แต่ทำไมเหมือนฉันได้กลิ่นของหวานเลยละ”
“คิดมากไปเอง” ผมเหยียดยยิ้มสดใส พาให้คนใต้ร่างเคลิบเคลิ้ม เฮยเสียจื่อชอบใบหน้าของผมเป็นที่สุด ยามที่ผมคลี่ยิ้มหวานหยดย้อยเขาจะหยุดอยู่กับที่ราวกับลุ่มหลง ..
เป้นครั้งแรกที่ผมคิดว่าหน้าตาตัวเองมีประโบชน์เหลือเกิน อย่างน้อยมันก็ทำให้จับเจ้างูได้ตัวหนึ่งอย่างดิ้นไม่หลุด
ผมเอื้อมมือไปยังหัวเตียงคว้าเอาของเล่นที่เตรียมไว้เพื่อเขาึข้นมา คว้าข้อมือเย็นเฉียบคล้องลงกับลสัมผัสของโลหะ
“เอ๋” เฮยเสียจื่อสะดุ้งยามที่ผิวกายแตะกับความเยือกเย็นของโลหะกว่าจะรู้ตัวมือของเขาทั้งสองข้างก็ถูกรั้งขึ้นหัวเตียง
แกร๊ก! เสียงกุยแจลงล็อก เสียดสีกับโซ่ของมันดังขึ้นในห้องเงียบสงบ เฮยเสียจื่อยิ้มแห้งเมื่อเงยหน้าขึ้นมองมือตนเอง
“คุณชายเก้ารสนิยมเปลี่ยนไปนะ”นายแว่นทำปากยื่น บิดตัวอยู่บนผ้าปูที่นอนสีแดงสด ตัดเข้ากับสีผิวของเขา ผมเอื้อมมือไปปลดกระดุมท่ามลางสายตาเย้ายวนที่ปรายตามองข7้นมาหาผม ริมฝีปากบางเลียปากตัวเอง ราวกับรอคอย…
“วันนี้จะกี่รอบดีดีละ หรือจะให้ฉันขึ้นไปขยับตัวอยู่บนตักนายก็ได้นะ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะของพวกเราสองคน ผมละมือจากเจ้างูที่เย้ายวนเดินไปเปิดประตูรับอาหาร แม่บ้านรู้หน้าที่ดีเมื่อยกเค้กฟักทองก้อนโตให้ผมเธอก้ปิดประตูรีบจากไปในแทบจะทันที
“คุณชายเก้าวันนี้จะฆ่าผมสินะครับ” เสียงหวานประท้วงเมื่อเห็นผมถือเค้กฟักทองสองชั้น
ผมเหยีดยยิ้มเย็นชา เฮยเสียจื่อเกลียดของหวานเป็นที่สุก แค่เค้กชิ้นเดียวก็ทำให้เขาพะอืดพะอมจนฟุบคาโตะ แต่นี่เป้นเค้กราวสามปอนส์
“นายมาหลอกเพื่อขอขนมฉันไม่ใช่หรือ” ผมวางเค้กไว้ข้างเตียง นอกจากเค้กก้อนโตแม่บ้านยังนำลูกอมรูปค้างคาวใส่ตระกร้ามาวางไว้อย่างรู้งาน
“ฉันก็พูดเล่นไปงั้นละ คุณชายอย่าถือสา” เจ้างูตัวโตทำหน้าซีด มือของมันขยับแต่อนิจจากุญฐแจมือที่มันถูกล่ามเอาไว้นั้นแน่หนาเกินไป ต่อให้เป็นเสี่ยวเกอผู้มากพลังก้ยังต้องใช้เวลา
“ไม่ได้ ฉันเป็นคนทำจริงจัง ไม่เลี้ยงนายให้อดยากแน่ นายเพิ่งจะบอกว่าฉันไม่ใช่สนใจนายมิใช่หรือ ?”ผมแกล้งมันรู้ดีว่ามันเกลียดของหวานที่สุด มือหยิบเอาลูกอมรูปค้างคาวขึ้นมาเข้าปากตัวเอง ลิ้นช่มเลียรสหวานในปากเสีนจนลูกละลายไปบางส่วนผมจึงโน้มตัวจูบยังริมฝีปากช่างจ้อของคนเบื้องล่าง ลิ้นหวานพัวพันหาความรุ่มร้อนในปากของเจ้างู บังคับดันเอาลูกอมรสหวานเข้าปากเฮยเสียจื่อ
นายแว่นดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ตัวผม เห็นท่าทีขัดขืนน่ารักแบบนี้ผมจึงเลียไปตามโพรงปากมอบย้อนยังตัวตนของเขาให้หวานล้ำ ป้อนลูกอมรสหวานก่อนที่จะละริมฝีปากทอดทิ้งหยาดหยดน้ำใสเป็นสาย
“อร่อยไหมละ” ผ้าเลียริมฝีปากตัวเองรู้สึกถึงความหวานหอมในลำคอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมก็ได้อมลูกอมชนิดนี้มาก่อนกลับไม่รู้สึกว่ามันหวาดได้ถึงเพียงนี้
หรือเพราะอมผ่านปากนายแว่นกันนะ...
“อืออ...” นายแว่นครางเขาทำท่าเหมือนอยากจะคายมันออกแต่เมื่อเห็นสายตาดุของผมก็ยินยอมอมต่อไปอย่างโดยดี ใบหน้าขาวซุกลงกับหมอนนุ่มท่าทางเหมือนทรมานเหลือแสน
น้อยๆหน่อยอย่าโอเวอร์แอดติ้ง..นี่มันแค่ลูกอมเม็ดเดียว
“คุณชายเก้า กินเค้กไม่ไหวนะ” เจ้างูตัวร้ายขอต่อรอง นัยน์ตาสีสวยช้อนขึ้นราวกับจะออดอ้อนเห็นท่าทีของเขาแล้วผมก้ใจอ่อน คลี่รอยยิ้มปีศาจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“ก็ได้ งั้นฉันจะกินเอง” ผมเอื้อมทือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีดำสนิทของเขาออก ก่อนที่จะลูบไล้ยังลำคอระหง ลากไล้มายังไหปลาร้าได้รุป เรื่อยลงมายังเนินอกที่เริ่มชูชันเคล้นคลึงเพียงครู่เดียวหัวนมของเขากลับแข็งเป็นไต ผมกลั่นแกล้งโดนมิยอมแตะต้องมันลากไปไปสู่ท้องน้อย นิ้วชี้วนเวียนก่อนที่จะปลดเข็มขัดอย่างเชื้องช้า แตะลงยังเป้ากางเกงที่เริ่มนูนขึ้น
“มักมาก” ผมต่อว่าเขาแต่นายแว่นกลับยิ้ม บิดตัวราวกับเชื้อเชิญ ดูเขาสิ....นายเป็นซะแบบนี้แล้วฉันจะปล่อยไปได้ยังไง เจ้างูตัวร้ายที่เชิญชวนผมให้บ้าคลั่งตลอดเวลา
แก้ไขล่าสุดโดย kuramajoy เมื่อ Fri 31 Oct 2014, 21:12, ทั้งหมด 1 ครั้ง
kuramajoy- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 206
Points : 3780
Join date : 27/10/2014
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth