Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

+4
Rozenkreuz
yakusoku
poypoy
kakujo
8 posters

Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by kakujo Fri 14 Aug 2015, 12:50

สัมผัสแปลกประหลาดเรียกให้เขาตื่นจากฝัน นัยน์ตาคู่สวยมองท้องฟ้าที่พร่างพราวไปด้วยดวงดาวด้วยความงุนงง ในหัวครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ว่าตัวเองอยู่ไหน

เขาหันซ้ายหันขวา รอบข้างค่อนข้างเงียบ มีเพียงเสียงคุยจุ้กจิ้กของคนที่นั่งอยู่รอบกองไฟ

กว่าที่หัวสมองของนายน้อยสามอย่างเขาจะแล่นแก๊กว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ร่างกายก็ร้องบอกว่า เขาปวดปัสสาวะมากเหลือเกิน

คิดได้แล้วก็ลุกขึ้นแล้วเดินหลบมุมไป





สิบปีผ่านมาแล้ว ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือมันช้า แต่สำหรับเขามันยาวนานจนไม่อยากจะพูดถึง เขาผ่านอะไรมามากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

แต่ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว

เขาสำนึกบุญคุณของทุกคนที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้เสมอ อาสาม พานจื่อ หรือใครๆ ก็ตาม เขารำลึกถึงทุกคนตลอดเวลา

เขากับพวกนายอ้วนรวมทีมเพื่อมาหาเสี่ยวเกอที่บานประตูสำริด ไม่รู้ว่าเสี่ยวฮัวไปเอาข่าวมาจากไหน แล้วก็ไม่รู้ว่าไปนัดกับกับนายแว่นดำได้ยังไง ถึงพากันยกโขยงตามเขามาด้วย

เดินทางอย่างยากลำบาก เขาไม่อยากจะเอ่ยถึงมัน แต่ในที่สุดก็มาถึงบานประตูสำริด

ทุกอย่างเป็นไปตามที่พวกเขาคาดไว้ รวมถึงความทรงจำของเสี่ยวเกอที่ขาดหายไปด้วย เพียงแต่ว่ามันไม่ได้หายไปจนหมด มีหลายอย่างที่หมอนั่นพยายามที่จะรั้งไว้ เสี่ยวเกอพูดคำออกมาหลายคำตอนที่เจอหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็น กิเลน ดาบโลหะสีดำ ศพโลหิต ตระกูลจาง แต่คำสุดท้ายที่หมอนั่นพูดออกมาคือคำที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้ยิน

หมอนั่นพูดว่า 'หังโจว'

ตอนนั่นทุกสายตาหันมามองผม ผมได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง แต่สิ่งที่ร่ำร้องอยู่ในหัวใจไม่ใช่คำว่าเสียใจแน่ๆ





จริงๆ แล้วเขาต้องเข้าไปอยู่หลังบานประตู รับผลัดต่อจากเสี่ยวเกอ แต่นายอ้วนกลับรั้งเขาไว้ บอกว่า ผลัดของเขามันคือผลัดที่เสี่ยวเกอเข้าไปอยู่แทนแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ของเขา หน้าที่ที่สำคัญตอนนี้คือต้องไปหาว่าใครในเก้าตระกูลคือผลัดต่อไปต่างหาก

เขาก็ได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ และนายอ้วนก็ฉวยโอกาสนั่นมัดมือชกพาพวกเขาออกมา

ตอนนั้นในหัวก็คิดแต่ว่า ถ้าผลัดต่อไปเป็นของตระกูลจางหรือตระกูลเซี่ยจะทำยังไง

แต่จะคิดอะไรให้มันมากมาย ยึดถือตามคติของนายอ้วนว่า เดี๋ยวค่อยคิดละกัน เพราะฉะนั้นพวกเขากำลังเดินทางกลับไปตั้งหลักที่หัวโจว





คิดนู่นคิดนี่เพลิน เขาก็ปล่อยทุกข์จนเสร็จ มือหนาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แต่ยังไม่ทันจะเสร็จดีก็มีมือมาจับที่หัวไหล่

เขาหันไปมองก็เห็นเมินโหยวผิงยืนอยู่ในระยะประชิด

ตกใจมันก็ตกใจอยู่ แต่ว่าก็งงที่หมอนั่นมาอยู่ตรงนี้เหมือนกัน

หลังจากพูดคำว่าหังโจวแล้วหมอนี่ก็เงียบกริบราวกับเป็นใบ้ ไม่พูดไม่จาอะไรอีกเลย

เขาตั้งท่าจะเอ่ยปากถามหมอนั่นก็เลื่อนมือมาปิดปากเขาไว้ เขาขมวดคิ้ว แต่ยังไม่ทันจะได้สงสัยอะไรไปมากกว่านี้ มืออีกข้างที่ว่างของคนตัวสูงก็ตะปบหมับเข้าที่กลางลำตัวของเขา

ตำแหน่งที่เขายังไม่ได้รูดซิปนั่นแหละ!

อยากจะเอ่ยปากร้องลั่นแต่หมอนั่นก็ปิดปาดเขาซะแน่น เลยได้แต่ดิ้นขัดขืนพร้อมกับส่งเสียงอู้อี้ นัยน์ตานิ่งยังไม่ฉายแววอะไรแม้ว่ามือข้างที่ไม่ได้ปิดปากเขาจะเริ่มขยับ

ร่างของเขากระตุก

แม้จะอายุอานามขนาดนี้แล้ว แต่เขาก็ยังฟิตปึ๋งปั๋ง พอมาออกเดินทางแบบนี้ เรื่องอะไรที่เคยจัดการด้วยตัวเองก็ไม่ได้ทำ ไม่มีโอกาสและไม่มีอารมณ์

เพราะฉะนั้นพอถูกกระตุ้นนิดเดียวความรู้สึกมันก็พลุ่งพล่านไปหมด

"นายทำบ้าอะไร" เขาดึงมือหมอนั่นออกมาได้นิดหน่อย และเลือกที่จะเอ่ยถามเบาๆ มากกว่าตะโกน เขาไม่อยากให้ลูกน้องมาเห็นสภาพนี้ สภาพที่เขาหมดการ์ดอย่างสิ้นเชิง

เมินโหยวผิงไม่พูดอะไร มือข้างที่ขยับก็ยังคงขยับเหมือนเดิม

เขาเกร็งไปทั้งตัว แข้งขาอ่อนไปหมด ยิ่งพอหมอนั่นเร่งจังหวะเขาก็แทบจะหมดแรงลงไปกองที่พื้น แม้จะรู้ว่ามันน่าอายแต่เขาก็ทำได้แค่เกาะไอคนบ้าที่อยู่ดีๆ มาทำอะไรก็ไม่รู้ จะขัดขืนก็ทำไม่ได้ ร่างกายไม่ตอบสนองต่อสมองเลย

เขากัดริมฝีปากแน่น พยายามข่มเสียงให้อยู่แค่ในลำคอ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อคนที่อยู่ข้างหลังงับหูเขาเบาๆ

"อึ้ก เสี่ยวเกอ หยุดนะ!" เขาเริ่มโวยวาย แม้ไม่อยากจะเสียงดัง แต่จะปล่อยให้หมอนี่ทำแบบนี้ได้ที่ไหน

คนที่เห็นว่าเขาเริ่มโวยวายยังคงมีสีหน้าแบบเดิม มีเพียงแต่มือที่ขยับรุนแรงมากขึ้น

"หยุดนะ!" คำห้ามไม่เป็นผล เพราะยิ่งเขาขัดขืนมากเท่าไร หมอนี่ก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น

ร่างทั้งร่างของเขากระตุก พร้อมกับมือหนาที่หยุดขยับ เขาหายใจหอบ แม้จะรู้สึกดีที่ได้ปลดปล่อยออกไป แต่มันก็ไม่ควรจะเป็นเวลานี้ โดยเฉพาะคนที่ทำเป็นหมอนี่

ผมตวัดสายตาไปมองทั้งๆ ที่ใบหน้าแดงก่ำและยังหายใจระรัว นัยน์ตาคมก้มลงมองมือตัวเองที่เปรอะเปื้อนไปหมด

ถามว่าเขาอายมั้ย ตอบเลยว่าอายมาก

"นายทำบ้าอะไรของนาย!" นายเมินคนนั้นก็ยังไม่พูด มีเพียงสายตาที่มองนิ่งมา

ทั้งคู่มองสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คนตัวสูงกว่าจะฉวยโอกาสตอนที่เขาเผลอจับเขาขึ้นพาดบ่า

"เห้ย!" เขาโวยวาย แต่หมอนั่นก็ยังคงนิ่งเฉย เดินฉับๆ เข้าไปในป่าลึก

"ปล่อยนะเว้ย!! ไอบ้าเมินโหยวผิง!!"







หมอนั่นแบกเขาเข้ามาค่อนข้างลึก ห่างไกลจากที่ตั้งแคมป์ค่อนข้างมาก บริเวณนั้นเต็มไปด้วยมุมหลืบของซอกหินมากมาย เขาถูกวางลงบนพื้นในมุมอับมุมหนึ่ง

"ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!" เขาไม่รู้เหมือนกันว่าถามประโยคนี้มากี่รอบแล้ว แต่เพราะไม่รู้จะพูดยังไง เลยยังเลือกถามประโยคเดิมอยู่

คนที่แบกเขามายืนนิ่งอยู่เหนือร่างของเขา นัยน์ตาที่มองมาแม้จะนิ่งสนิทแต่ก็ฉายไปด้วยแววแปลกประหลาดที่ทำให้เขาเลิกโวยวาย ร่างสูงทรุดตัวลง

"ฉันจำอะไรไม่ได้เลย" ประโยคแสนประหลาดที่ออกมาจากปากคนตรงหน้ายิ่งทำให้นายน้อยสามงงหนักกว่าเดิม

"ฉันรู้แล้วว่านายจำอะไรไม่ได้ นี่ต้องการจะพูดเรื่องแค่นี้ต้องพาฉันมาไกลขนาดนี้เลยหรอ แล้วต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ!" เขาพูดพร้อมกับบุ้ยสายตาไปที่ซิปกางเกงตัวเองที่ยังรูดไม่เรียบร้อย คนหน้านิ่งก้มลงมองตาม จังหวะนั้นแหละเขาถึงเริ่มรู้สึกอาย

มือแกร่งเลื่อนไปตั้งท่าจะจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แต่คนที่นั่งคร่อมเขาอยู่กลับไม่ยอม มือหนาตวัดฉับคว้ามือของเขาไว้

"ปล่อยฉันเสี่ยวเกอ นายทำบ้าอะไรของนาย ไม่พูดไม่จาแล้วก็ทำอะไรพิลึกพิลึก นายไม่อาย แต่ฉันอายนะ!"

"ฉันจำอะไรไม่ได้ จำนายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นายชื่ออะไร นายเป็นใคร ฉันจำไม่ได้เลย" เสียงเรียบที่ออกมาจากปากคนตรงหน้าทำให้คนขี้โวยวายเงียบกริบ

หัวใจเหมือนจะแตกเป็นส่วนๆ

หลังจากหมอนี่ทำแบบนั้นกับเขา สิ่งที่ทำคือการบอกว่าจำเขาไม่ได้อย่างนั้นหรอ นายมันไม่ใช่คนแล้วจางฉี่หลิง

"ฉันรู้อยู่แล้วเรื่องนี้ จะมาพูดย้ำอะไรนักหนา"

"แต่ฉันจำทุกอย่างที่เป็นตัวนายได้"

"ห๊ะ?" เขาทวนเสียงสูง คนตัวใหญ่ยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาจับใบหน้าของเขา นิ้วที่ยาวกว่าคนทั่วไปเกลี่ยแก้มเขาแผ่วเบา

"จำนัยน์ตาของนายได้ จำใบหน้าของนายได้ จำจมูกของนายได้ จำเสียงของนายได้ จำได้ทุกอย่าง แม้จะจำไม่ได้ว่านายชื่ออะไร แต่ส่วนลึกของความทรงจำกลับมีภาพของนายอยู่" นัยน์ตากลมโตกระพริบปริบๆ

เสี่ยวเกอมองท่าทีของเขาแล้วยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ จมูกโด่งเสียดสีกับปลายจมูกของเขา เขากลืนน้ำลายลงคอ

"และที่สุดของความต้องการ...คือฉันต้องการนาย"

"ห๊าาาาา" เขาร้องลั่นโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น คำพูดของหมอนั่นทำให้เขาตกใจแทบสิ้นสติ

"นายพูดบ้าอะไรของนายเนี่ย ไข้ขึ้นหรอเสี่ยวเกอ!" ตอนนี้เขาเขินมาก เขินจนไม่รู้จะทำตัวยังไง เลยได้แต่ส่งเสียงโวยวาย

นายเมินก็ยังเป็นนายเมิน พูดเยอะๆ ได้ไม่นาน และเลือกกระทำแทนคำพูดทุกที

เพราะฉะนั้นใบหน้าคมคายจึงแนบเข้ามาใกล้ ริมฝีปากอุ่นไล้แก้มเขาแผ่วเบาแต่เรียกร้อง เขาหลับตาปี๋ ยิ่งเมื่อสัมผัสอุ่นนั้นไล่ต่ำลงไปอยู่ที่มุมปากแถมยังย้ำๆ หลายครั้งเขาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก

นายน้อยสามอายุสามสิบปลายๆ แล้วก็จริง แต่ยังเวอร์จิ้นนะ!

"ไม่เอานะเสี่ยวเกอ หยุด" เขาเอ่ยปากห้าม และเหมือนคนตรงหน้าจะรอจังหวะนี้อยู่แล้ว ริมฝีปากหนาขยับขึ้นมาปิดปากคนพูดมาก ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามา

อู๋เสียช็อคไปแล้ว ยิ่งสัมผัสเร่งเร้ามากเท่าไร เขาก็รู้สึกเหมือนจะตัวแข็งเป็นหิน ในหัวขาวโพลนไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่น้อย รู้เพียงแต่ว่าสะดุ้งทุกครั้งที่ริมฝีปากอุ่นแนบลงมา

เมินโหยวผิงเลื่อนริมฝีปากลงมาต่ำ แนบสัมผัสลงไปทุกที่ที่ตัวเองทำได้ ต้นคอ เนินอก หน้าท้อง บั้นเอว สะโพก ต้นขา หัวเข่า แล้วก็ไล่กลับขึ้นไป

"อึก..." เขาเผลอส่งเสียงออกมาเมื่อสัมผัสอุ่นกำลังกลืนกินตัวเขา ลิ้นร้อนที่สัมผัสไล้ไปทั่วทำให้ขนทั้งร่างของเขาลุกเกรียว

"เสี่ยว....เกอ" เขาพึมพำพำเสียงแผ่ว ความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนดึงรั้งสติของเขาให้ลอยไกลออกไป ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหายไปหมดแล้ว เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน และอยู่ในสถานการณ์อะไร

เสียงพูดคุยที่แว่วเข้ามาทำให้เขาหลุดจากภวังค์ ไฟฉายฉายผ่านเส้นผมเสี่ยวเกอไป นัยน์ตาสองคู่หันไปมอง ร่างสูงใหญ่ของลูกน้องเขาสองคนกำลังออกมาเดินตรวจตรา เขาเม้มริมฝีปากแน่นกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไป

แต่ดูเหมือนว่า....เมินโหยวผิง จะไม่เข้าใจเขาเท่าไร

นิ้วแกร่งที่สอดแทรกเข้ามาในร่างกายทำให้เขาเกือบเผลอร้องลั่นออกมา นัยน์ตากลมโตตวัดกลับมามองก็เห็นนัยน์ตาคมมองนิ่งมาที่เขา...นัยน์ตาที่เหมือนจะไร้อารมณ์ แต่มองดีๆ จะเห็นรอยยิ้มขำซ่อนอยู่ภายใน

อยากจะตะโกนด่าอะไรออกไปสักคำ แต่หมอนั่นก็เพิ่มนิ้วที่สองเข้ามา!

"เจ็บ...นะ" เขาพูดเสียงเบา หมอนั่นเพียงแต่ขยับรอยยิ้มบางเบารับและขยับนิ้วทั้งสอง พอนิ้วเริ่มขยับความเจ็บปวดบางส่วนก็หายไป เหลือเพียงแต่ความรู้สึกเคืองเล็กน้อยกับความรู้สึกดีแบบที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน

นายน้อยสามหลับตาแน่น สัมผัสอุ่นนั้นดีอย่างที่เขาไม่เคยคาดคิดจนเกือบจะร้องครางออกมาตั้งหลายครั้ง แต่ลูกน้องเขาสองคนก็ไม่รู้ติดใจอะไร ถึงตรวจตราแถวนี้ไม่เลิก

"หยุดก่อนเสี่ยวเกอ...ฉันไม่ไหวแล้ว" เขาพยายามเค้นคำพูดออกมา

แต่ก็เหมือนเดิม หมอนี่เคยฟังเขาที่ไหน ไม่เลย! เพราะหมอนั่นดันเพิ่มนิ้วที่สาม

คราวนี้เจ็บจริงๆ เจ็บมากจนเกือบจะร้องลั่น คนตัวใหญ่เหมือนรู้ว่าเขาจะร้อง ริมฝีปากอุ่นจึงแนบลงมาดูดกลืนเสียงของเขาไปจนหมด

"เหมือนได้ยินเสียงแปลกๆ นะ" เสียงลูกน้องดังขึ้นในระยะเกือบจะเหนือหัว เขาหลับตาปี๋ พยายามไม่ส่งเสียงอะไรออกมา แต่ก็ทำได้ลำบาก เพราะคนขี้แกล้งยังไม่ยอมหยุดขยับมือ

"ฉันก็ว่างั้นแหละ" ลูกน้องอีกคนพูดพร้อมกับเปิดไฟฉายช่วยส่อง แสงไฟสว่างวูบวาบไปมาในระยะค่อนข้างใกล้

เมินโหยวผิงถอนริมฝีปากออกไปพร้อมกับสัมผัสทั้งหมด เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่ก็โล่งอกอยู่ได้ไม่นาน เพราะสัมผัสอุ่นบางอย่างก็มาคลอเคลียอยู่ไม่ไกล พอตวัดสายตาลงไปมองเขาก็แทบจะร้องว๊าก

ไม่ทันจะให้โวยวายอะไร จางฉี่หลิงก็กระแทกเข้ามา

เขาอ้าปากร้องลั่น จังหวะเดียวกันมือหนาก็ฉกวูบเข้ามาปิดปากเขาไว้แน่น

"ฉันว่าพวกเราหูแว่วว่ะ ไม่เห็นมีอะไรเลย ไปเหอะ"

"ฉันก็ว่างั้นแหละ อยู่แถวนี้นานไปแล้ว" พูดจบแสงไฟฉายก็ดับวูบลงพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ห่างออกไป หลังจากฟังจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ มือหนาก็ปล่อยริมฝีปากเขา

แต่ไม่ได้หยุดขยับหรอกนะ

"เมิน โหยว ผิง นี่ มัน ไม่ ตลก นะ" เขาเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก เจ็บไปหมด เจ็บจนอยากจะร้องไห้

"ขอโทษ ไม่แกล้งแล้ว" คนที่คร่อมเขาอยู่พูดด้วยน้ำเสียงติดตลกแบบที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ใบหน้าคมคายก้มลงมาใกล้ แล้วแนบริมฝีปากลงบนหน้าผากเขาแผ่วเบา

สัมผัสร้อนรุ่มที่มีก่อนหน้านี้เหมือนจะหายไป เหลือแต่สัมผัสอ่อนโยนและแผ่วเบา ความเจ็บปวดเหมือนจะค่อยๆ บรรเทาลงไป เหลือเพียงแต่ความรู้สึกดีที่ล้นจนจะทะลัก

อู๋เสียไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาขยับสะโพกตามสัญชาตญาณไปตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีจังหวะของทั้งสองก็เข้ากันจนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกแล้ว

นัยน์ตากลมโตหลุบต่ำเมื่อความร้อนแรงค่อยๆ เข้ามาแทรกซึมความอ่อนโยนอย่างช้าๆ เสียงหอบหายใจถี่ทั้งของเขาและของหมอนั่นยิ่งเร่งให้จังหวะเปลี่ยนไป

ความรู้สึกในตัวเขากำลังมาบีบอัดอยู่ที่จุดๆ เดียว มันถูกเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว ในหัวมีแต่สัมผัสของมืออุ่นและเสียงหอบหายใจของคนตรงหน้าเท่านั้น

"จาง...ฉี่....หลิง...." เขาพึมพำเสียงเบา

ภาพในหัวกำลังวิ่งพล่านไปหมด จนในที่สุดทุกอย่างก็แตกสลายกลายเป็นขาวโพลน

จังหวะที่ภาพทุกอย่างเลือนหาย เขารู้สึกถึงสัมผัสของริมฝีปากอุ่นแนบลงมาที่แก้ม พร้อมกับเสียงแผ่วเบาที่แหบพร่า

"อู๋..เสีย"







นายน้อยสามถอนหายใจออกมายาวเหยียด กว่าจะสำนึกตัวได้ว่าเมื่อครู่ทำอะไรลงไป ทุกอย่างก็จบลงแล้ว ปวดระบมไปทั้งร่างกาย พรุ่งนี้มีหวังเดินไม่ไหวแหงๆ

คิดแล้วก็อยากจะหันไปด่าตัวการ แต่พอหันไปมองก็เห็นใบหน้าคมคายมองไปที่ไกลๆ นัยน์ตาคู่คมเหมือนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

พอเห็นท่าทีแบบนั้นเขาก็นึกด่าไม่ออก เลยทำแค่เอากำปั้นไปตีหน้าอกเปลือยเปล่าของอีกคนเบาๆ

"เป็นไง สบายใจแล้วสิ" ใบหน้าคมคายหันมามอง

"อู๋เสีย" คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม แต่คนเรียกเขาไม่พูดอะไร เพียงแต่มองมาอย่างจริงจัง

"อะไรของนาย เรียกทำไม"

"อู๋เสีย"

"เรียกทำ...." เขาหุบปากเมื่อเริ่มรู้สึกถึงความแปลกประหลาด นัยน์ตากลมกระพริบปริบๆ ก่อนจะเบิกกว้าง

"นายจำชื่อฉันได้แล้วหรอ!"

"อู๋เสีย หวังพั่งจื่อ เซี่ยอวี่ฮัว เฮยเสียจื่อ อู๋ซันเสิง เฉินเหวิ่นจิ่น" ชื่อพร้อมนามสกุลของหลายคนทำให้เขาอ้าปากกว้าง

"นายจำได้ตั้งแต่เมื่อไร"

"เมื่อกี้ ตอนมีอะไรกับนาย"

"ห๊ะ?!"

"ฉันค่อยๆ จำทุกอย่างได้ตอนที่มีอะไรกับนาย จำเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อนนี้ได้ทีละนิดทีละหน่อย" นายน้อยสามกระพริบตาปริบๆ

"ดูเหมือนว่าถ้านายอยากให้ฉันจำทุกอย่างได้ นายต้องเจ็บตัวหน่อยแล้วนะอู๋เสีย" พูดพร้อมกับขยับใบหน้ามาใกล้

"แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่เจ็บตัวหรอกมั้ง นายก็รู้สึกดีไม่ใช่หรอ" กำปั้นหนาฟาดเข้าที่หน้าคนพูด มาพูดทะลึ่งด้วยสีหน้านิ่งแบบนี้กวนประสาทยิ่งกว่าทุกที

"มันเจ็บเว้ย!!!!"


-----


เวลาเครียดๆ ชอบแต่งอะไรเรทๆ ค่ะ กลายเป็นด่วงบาปหนาไปแล้ว
จัดเรทฟิคไม่เป็น ไม่รู้จะให้เรทฟิคตัวเองยังไง แง
ตอนนี้เรื่องสิบปีมาแรงมากจริงๆ ค่ะ ฮาา เราตามเนต้าแค่ที่คุณ บ แปล กับ เดลี่กาววันนั้น (ที่ทำเอางานการไม่ได้ทำกันเลย)
ฮืออ ฟิคเรทเรื่องแรก (?) ยังไงก็...ฝากด้วยละกันนะคะ // กระโดดลงถังกาวหนีไป

kakujo
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 14
Points : 3317
Join date : 13/05/2015
ที่อยู่ : ก้นถังกาว

https://kakujo59.wordpress.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty Re: [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by poypoy Fri 14 Aug 2015, 13:22

ทำไปเรื่อยๆ เลยค่ะจางอากงจะได้จำเรื่องทุกอย่างได้แม่น 5555
poypoy
poypoy
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 105
Points : 3586
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านตระกูลอู๋ ใต้เตียงนายน้อยสาม

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty Re: [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Fri 14 Aug 2015, 17:47

อร๊ายยย งานนี้นายน้อนสะโพกร้าวแน่ค่า หุหุ
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3841
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty Re: [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Fri 14 Aug 2015, 19:24

มันช่วยกระตุ้นสมองได้สินะ อื้มๆ*พยักหน้าหงึกหงัก*
ความรู้ใหม่
อยากให้จำได้มากกว่านี้ก็ยอมสละชีพเอวและสะโพกเถอะอู๋เสีย ฟฟฟฟ
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3859
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty Re: [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Fri 14 Aug 2015, 23:31

นายนว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...
อิตาเมินคนร้ายกาจ ฟื้นฟูความทรงจำอะไรของแก
XYZ แล้วค่อยๆได้ความทรงจำคืนเนี่ยนะ ถถถถ
//เอออ แต่มันดีย์/โดนนายน้อยถีบ
...แค่ยกเดียวยังจำได้ถึงเหวินจิ่น
ถ้าทำกันหลายๆยกมิจำได้ยันแรกเกิดเลยเรอะ
//ทำเลยยยย เอาเลยยยย/โดนซัดตกเขา
แอบคิดนิดๆว่าจางอากงแกแกล้งความจำเสื่อมกะฟันนายน้อยรึเปล่า/อิด้วงจิตใจหยาบช้า
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3645
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty Re: [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by Luckey.B Mon 17 Aug 2015, 17:05

อุ๊ต่ะ วิธีฟื้นความทรงจำของพ่อเมินช่างงงง คริๆๆ
นายน้อยขางานนี้ก็คงไม่ต้องเดินกันแล้วหล่ะ
ให้เมินแบกกลับแทนแล้วกันนะ
งานนี้มีจำได้ยินชาติก่อนเลยไม๊ 5555
Luckey.B
Luckey.B
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 102
Points : 3317
Join date : 20/07/2015
ที่อยู่ : ใต้ถุนบ้านสกุลจาง ใต้ดินบ้านอาสาม

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty Re: [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by Nlm1122 Mon 17 Aug 2015, 20:12

เพื่อฟื้นความทรงจำเสี่ยวเกอนะคะนายน้อย =.,=
Nlm1122
Nlm1122
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 33
Points : 3230
Join date : 07/08/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18] Empty Re: [OS] You Are Mine [ผิงเสีย] [NC-18]

ตั้งหัวข้อ by MildLove Thu 17 Sep 2015, 07:12

เพื่อเสี่ยวเกอ.. นายน้อยทำได้ เราเชื่อแบบนี้ค่ะ =.,=
MildLove
MildLove
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 19
Points : 3268
Join date : 17/06/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ