Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
+3
meanato
yakusoku
sudarat689
7 posters
หน้า 1 จาก 1
[Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
[Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
25: ร่ำลา
“ธุระของนาย เสร็จแล้วหรือ”
“อืม” เขาพยักหน้า
“เสร็จสิ้นหมดทุกเรื่องแล้ว?”
เขาหันมามองผม “สิ้นสุดแล้ว”
“ฉันต้องกลับไปยังที่ที่ฉันควรไปแล้ว”
“นายควรไปที่ไหน ไกลไหม”
เขาพยักหน้า
“ฉันมาบอกลานาย” เขาพูด ก่อนที่แววตาเรียบเฉยนั้นจะมองผมตรงๆ “ทุกสิ่งเหล่านี้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันทบทวนดูความเกี่ยวโยงของฉันกับโลกใบนี้ ดูเหมือนเท่าที่เจอ ก็มีแต่นาย”
ผมหลบสายตาเขาหลังจากคำนั้นหลุดออกมา ไม่ใช่อาการขัดเขินแต่อย่างไร แต่ผมกำลังกลั้นความจุกความเสียใจเอาไว้ภายในใจ
“ไม่เป็นไรหรอก วันหลังนายยังโทรหาฉันได้ สังคมยุค...”
“ฉันจะไปฉางไป๋ซาน” เขากล่าวแทรกขึ้นมาขณะผมพูด “ฉันไปได้แค่ที่นั่นเท่านั้น ลาก่อน”
พูดจบ เขายืนขึ้น สะพายเป้แล้วเดินออกไป
นึกทบทวนถ้อยคำที่เขาพูดเมื่อครู่ ผมพลัดลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งไล่ตามอกไป
26 :มาครั้งที่2
ไล่ตามเขามาทางเครื่องบินขึ้นรถมาถึงเอ้อเต้าไป๋เหอ พอลงจากรถพลันใจเต้นแรงจนกระตุก เมื่อเห็นแผ่นหลังคุ้นเคยกับดาบโบราณ
“เมินโหยวผิง!” เขาหันมาแล้วเห็นผม สีหน้าแปลกใจและไม่ถามว่ามาทำไมหันหลังกลับแล้วเดินต่อ
ผมโกรธควันออกหูพลางคิดในใจ ห่านี่ คนอุตส่าห์ตามมาถึงนี่ ไม่ถามสักคำหรือ แล้วจึงเดินตามเขาไป
ไล่ตามมาถึงข้างเขา จึงตะโกนเสียงดังนิดหน่อยใส่ “นายไม่คิดจะมาฆ่าตัวตายใช่ไหม!”
เขาส่ายหน้าเหมือนระอา พร้อมกับชี้นิ้วไปข้างหน้า “ฉันจะไปตรงนั้น”
ผมเงยหน้า “นายจะขึ้นไป?”
เขาไม่ตอบ เดินน้ำหน้าผมไปแบบไม่หยุดพัก ตลอดทางพยายามถามเขาแต่กลับได้ความเงียบ ความโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แต่ก็ยอมปล่อยไป นึกในใจช่างหัวมัน
เมื่อเราถึงรถตู้ เมินโหยวผิงหันมองผม “นายจะตามฉันไปไม่ได้”
ผมองหน้าเขา “ถ้าฉันบอกไม่ให้นายไป นายจะฟังฉันไหม”
ผมถาม เขาส่ายหน้า แล้วผมก็โกรธ “ไอ้บ้านี่ งั้นนายไม่ต้องมาห้ามฉัน ฉันจะตามของฉันอย่างนี้”
ผมหันหน้าหนี เขาเงียบไปและผมยังรู้สึกได้ว่ามีสายตาของเขามองมาอยู่ รู้สึกตัวเองกำลังงอแงเหมือนเด็กๆ
หลังจากนั้นสองสามวันผมก็พักกับเขาที่ห้อง เรายังไม่พูดจากัน ผมยังหงุดหงิดอยู่และใช้เวลาพักออกไปซื้อเสบียงไว้
เที่ยงของอีกวัน ผมกับเมินโหยวผิงออกเดินทาง ขณะออกเขามองผม ผมก็มองเขาก่อนจะกล่าวว่า “วางใจเถอะ ฉันแค่ไปเพื่อนนาย” พูดจบก็เดินนำหน้าเขาหลายก้าว เพื่อนสงบจิตใจและควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น
27 :ภูเขาหิมะ
เมินโหยวผิงยืนอยู่บนภูเขาหิมะ
ยืนอยู่อย่างนี้เนิ่นนาน
หลังจากนั้นก็เดินเท้าและกางเต้นนอนกันราวสามวัน คืนนี้ ผมและเขานั่งข้างกองไฟ เป็นครั้งแรกที่เขาส่งสายตามาทางผมเงียบๆ ผมก็จ้องเขาเนิ่นนาน ส่วนเขาก็จ้องนิ่งๆอยู่อย่างนั้นจนผมทนไม่ไหวเสียเองหลบสายตาเขาไปและพูดเสียงตะกุกตะกักถาม
“บนตัวฉันมีอะไรหรือเปล่า ข้างหลังมีสัตว์ปะหลาดหรือ” เขาเงียบ ยังนั่งนิ่งเนิ่นนานจนผมใจหวิว ตัดใจหันหลังไปดูก็พบความว่างเปล่า ไอ้หมอนี่ชอบหลอกผมซะจริง หันหน้ากลับไปจะด่าสักยก
“อะ...นาย” จมูกจะชนกันอยู่แล้ว หมอนี่เล่นอะไรของมัน
“นายตั้งใจจะตายไปถึงเมื่อไหร่” ใกล้มากจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเขา
“เรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว” เขายื่นหน้ามาใกล้อีกคนสันจมูกของเราสัมผัสกัน “นะ...นายจะทำอะไร อย่าทำอะไรบ้าๆนะ”
ผมหน้าร้อนวูบวาบ หวังจะผลักเขาไปให้พ้น แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่สองมือนั่นรวบอยู่ที่เอวของผมซ้ำยังแน่นมากอีก
“ถ้านายจะตายฉันไปอีก พรุ่งนี้นายจะสลบ” เขาพูด “นายจะไม่เป็นไรหรอก”
จากนั้นริมฝีปากเย็นเฉียบของเขาก็กดทับเข้ามาที่ริมฝีปากของผม บรรยากาศข้างนอกหนาวเหน็บแต่ร่างกายผมร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ เราสองคนเข้าไปในเต้นทั้งที่ริมฝีปากแทบไม่ห่างกันเลยแม้สักนาที เสียงจ๊วบจาบบอกความรุนแรงและดิบเถื่อนของหมอนี่ เมื่อหลังผมสัมผัสที่นอนเขาก็ผละออกครู่หนึ่ง “ลาก่อน” และริมฝีปากนั้นก็ทาบทับลงมาอีกครา ก่อนสติผมจะดับวูบไป
พอผมตื่นขึ้นมา เขาก็หายไปแล้ว ไม่บอกลากันสักคำก็ไปเสียแล้ว
28: พายุหิมะ
ผมเจอพายุหิมะ ซ้ำยังเป็นสโนว์ไบลด์
หลังจากข่มจิตข่มใจแล้วเดินลุยหิมะจะกลับก็ดันเจอพายุหิมะลูกใหญ่ และตอนนี้ตาผมพร่ามองเป็นสีชมพูพร่าเลือนมาก
ผมจำได้ว่าเดินโซซัดโซเซก่อนจะกลิ้งหลุนๆลงมาที่ตีนเขาและตกลงไปในกิงหิมะ คิดว่าตัวเองคงจบชีวิตแน่แท้แล้ว รู้สึกเหมือนตัวลอยเพราะอะไรบางอย่าง ถูกดึง ความฝัน ผมลืมตาขึ้นมาค่อยๆปรับสายตา พบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างหองไป ถัดไปเป็นเมินโหยวผิง
เมินโหยวผิง!
พลันอารมณ์โกรธพลุ้งพล่าน”นายกลับมาทำไม”
“ได้ยินเสียงนายเรียกให้ช่วย”
ผมเบ้หน้า ก่อนจะถูกดึงตัวเข้าไปประกบจูบรุนแรง ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาเบียดกับปากของผมแรงมากเหมือนเขากำลังโกรธ ผมแน่นอ่งอยู่เพียงครู่ก็ยอมโอนอ่อนต่อสัมผัสของเขาแล้วเขาก็ผละออก ผมหน้าร้อนอีกครา แต่ไม่มีเวลามาขัดเขิน จ้องมองหน้าเขาตรงๆ
“อย่าทำให้ฉันลำบากนักเลย” เขาสีหน้าเรียบเฉย “นายจะตายอยู่ที่นี่ได้”
“ก็ได้ แล้วแต่นาย ถ้านายจะไปฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่ฉันอยากให้นายรู้ ถ้านายต้องการใครสักคนเดินเป็นเพื่อนจนสุดทางฉันจะไม่ปฏิเสธ”
จบ : กลับมายืนที่เดิม
เขาไม่พูดอะไรจากนั้น ยอมให้ผมตามต่อจนกระทั่งเราเจอบ่อน้ำพุร้อนที่เคยใช้พัก
เขารื้อของในกระเป๋าของเขาแล้วหยิบลัญจกรผีออกมาสองอันก่อนยื่นมันให้ผม
“จะใช้แค่อันเดียว จะให้นายไว้อันหนึ่ง” สายตาของเขาที่มองผมมีประกายความเศร้าเล็กน้อย
“ของสิ่งนี้มีไว้ทำอะไร”
“เปิดประตู”
ผมรับลัญจกรผีมา ใจหนึ่งดีใจใจหนึ่งอดกลั้นความเสียใจมหาศาล เขาพูดต่อ
“นำสิ่งที่มาที่ประตูอีกสิบปี ถ้านายจำฉันได้ เปิดประตูนายอาจเอจฉันอยู่ข้างใน”
ผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว พูดเสียงสั่น “สถานที่นั้น เป็นยังไง ทำไมนายต้องเข้าไปด้วย ไม่ไปไม่ได้หรือ”
“ฉันบอกไม่ได้” เขาเอื้อมมือมาปาดน้ำตาที่แก้มผม “ความลับของวงศ์ตระกูล สักวันนายจะรู้มันจากใครสักคน”
เขาเดินเข้ามาจูบที่หน้าผากของผมแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือมาบีบท้ายทอยของผม
แล้วผมก็หมดสติไป
----------------------------------------------
เพิ่งอ่านเล่มสิบจบค่ะ สารภาพตรงๆ เพิ่งมีเวลาจริงๆ
ชอบอู๋เสียกับเมินโหยวผิงตอนบทท้ายมากค่ะ ทั้งฟินทั้งเศร้า
ปมปริศนาก็ไม่คลายเลยค่ะ แต่รู้แน่แท้ว่าต้องมีภาคต่อ
สปอยล์อย่างหนักหน่วง เอาบทสนทนาที่ชอบมาเพิ่มเติมจินตนาการอันหื่นกาว
ของตัวเองค่ะ แฮ่ๆ
25: ร่ำลา
“ธุระของนาย เสร็จแล้วหรือ”
“อืม” เขาพยักหน้า
“เสร็จสิ้นหมดทุกเรื่องแล้ว?”
เขาหันมามองผม “สิ้นสุดแล้ว”
“ฉันต้องกลับไปยังที่ที่ฉันควรไปแล้ว”
“นายควรไปที่ไหน ไกลไหม”
เขาพยักหน้า
“ฉันมาบอกลานาย” เขาพูด ก่อนที่แววตาเรียบเฉยนั้นจะมองผมตรงๆ “ทุกสิ่งเหล่านี้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันทบทวนดูความเกี่ยวโยงของฉันกับโลกใบนี้ ดูเหมือนเท่าที่เจอ ก็มีแต่นาย”
ผมหลบสายตาเขาหลังจากคำนั้นหลุดออกมา ไม่ใช่อาการขัดเขินแต่อย่างไร แต่ผมกำลังกลั้นความจุกความเสียใจเอาไว้ภายในใจ
“ไม่เป็นไรหรอก วันหลังนายยังโทรหาฉันได้ สังคมยุค...”
“ฉันจะไปฉางไป๋ซาน” เขากล่าวแทรกขึ้นมาขณะผมพูด “ฉันไปได้แค่ที่นั่นเท่านั้น ลาก่อน”
พูดจบ เขายืนขึ้น สะพายเป้แล้วเดินออกไป
นึกทบทวนถ้อยคำที่เขาพูดเมื่อครู่ ผมพลัดลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งไล่ตามอกไป
26 :มาครั้งที่2
ไล่ตามเขามาทางเครื่องบินขึ้นรถมาถึงเอ้อเต้าไป๋เหอ พอลงจากรถพลันใจเต้นแรงจนกระตุก เมื่อเห็นแผ่นหลังคุ้นเคยกับดาบโบราณ
“เมินโหยวผิง!” เขาหันมาแล้วเห็นผม สีหน้าแปลกใจและไม่ถามว่ามาทำไมหันหลังกลับแล้วเดินต่อ
ผมโกรธควันออกหูพลางคิดในใจ ห่านี่ คนอุตส่าห์ตามมาถึงนี่ ไม่ถามสักคำหรือ แล้วจึงเดินตามเขาไป
ไล่ตามมาถึงข้างเขา จึงตะโกนเสียงดังนิดหน่อยใส่ “นายไม่คิดจะมาฆ่าตัวตายใช่ไหม!”
เขาส่ายหน้าเหมือนระอา พร้อมกับชี้นิ้วไปข้างหน้า “ฉันจะไปตรงนั้น”
ผมเงยหน้า “นายจะขึ้นไป?”
เขาไม่ตอบ เดินน้ำหน้าผมไปแบบไม่หยุดพัก ตลอดทางพยายามถามเขาแต่กลับได้ความเงียบ ความโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แต่ก็ยอมปล่อยไป นึกในใจช่างหัวมัน
เมื่อเราถึงรถตู้ เมินโหยวผิงหันมองผม “นายจะตามฉันไปไม่ได้”
ผมองหน้าเขา “ถ้าฉันบอกไม่ให้นายไป นายจะฟังฉันไหม”
ผมถาม เขาส่ายหน้า แล้วผมก็โกรธ “ไอ้บ้านี่ งั้นนายไม่ต้องมาห้ามฉัน ฉันจะตามของฉันอย่างนี้”
ผมหันหน้าหนี เขาเงียบไปและผมยังรู้สึกได้ว่ามีสายตาของเขามองมาอยู่ รู้สึกตัวเองกำลังงอแงเหมือนเด็กๆ
หลังจากนั้นสองสามวันผมก็พักกับเขาที่ห้อง เรายังไม่พูดจากัน ผมยังหงุดหงิดอยู่และใช้เวลาพักออกไปซื้อเสบียงไว้
เที่ยงของอีกวัน ผมกับเมินโหยวผิงออกเดินทาง ขณะออกเขามองผม ผมก็มองเขาก่อนจะกล่าวว่า “วางใจเถอะ ฉันแค่ไปเพื่อนนาย” พูดจบก็เดินนำหน้าเขาหลายก้าว เพื่อนสงบจิตใจและควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น
27 :ภูเขาหิมะ
เมินโหยวผิงยืนอยู่บนภูเขาหิมะ
ยืนอยู่อย่างนี้เนิ่นนาน
หลังจากนั้นก็เดินเท้าและกางเต้นนอนกันราวสามวัน คืนนี้ ผมและเขานั่งข้างกองไฟ เป็นครั้งแรกที่เขาส่งสายตามาทางผมเงียบๆ ผมก็จ้องเขาเนิ่นนาน ส่วนเขาก็จ้องนิ่งๆอยู่อย่างนั้นจนผมทนไม่ไหวเสียเองหลบสายตาเขาไปและพูดเสียงตะกุกตะกักถาม
“บนตัวฉันมีอะไรหรือเปล่า ข้างหลังมีสัตว์ปะหลาดหรือ” เขาเงียบ ยังนั่งนิ่งเนิ่นนานจนผมใจหวิว ตัดใจหันหลังไปดูก็พบความว่างเปล่า ไอ้หมอนี่ชอบหลอกผมซะจริง หันหน้ากลับไปจะด่าสักยก
“อะ...นาย” จมูกจะชนกันอยู่แล้ว หมอนี่เล่นอะไรของมัน
“นายตั้งใจจะตายไปถึงเมื่อไหร่” ใกล้มากจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเขา
“เรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว” เขายื่นหน้ามาใกล้อีกคนสันจมูกของเราสัมผัสกัน “นะ...นายจะทำอะไร อย่าทำอะไรบ้าๆนะ”
ผมหน้าร้อนวูบวาบ หวังจะผลักเขาไปให้พ้น แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่สองมือนั่นรวบอยู่ที่เอวของผมซ้ำยังแน่นมากอีก
“ถ้านายจะตายฉันไปอีก พรุ่งนี้นายจะสลบ” เขาพูด “นายจะไม่เป็นไรหรอก”
จากนั้นริมฝีปากเย็นเฉียบของเขาก็กดทับเข้ามาที่ริมฝีปากของผม บรรยากาศข้างนอกหนาวเหน็บแต่ร่างกายผมร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ เราสองคนเข้าไปในเต้นทั้งที่ริมฝีปากแทบไม่ห่างกันเลยแม้สักนาที เสียงจ๊วบจาบบอกความรุนแรงและดิบเถื่อนของหมอนี่ เมื่อหลังผมสัมผัสที่นอนเขาก็ผละออกครู่หนึ่ง “ลาก่อน” และริมฝีปากนั้นก็ทาบทับลงมาอีกครา ก่อนสติผมจะดับวูบไป
พอผมตื่นขึ้นมา เขาก็หายไปแล้ว ไม่บอกลากันสักคำก็ไปเสียแล้ว
28: พายุหิมะ
ผมเจอพายุหิมะ ซ้ำยังเป็นสโนว์ไบลด์
หลังจากข่มจิตข่มใจแล้วเดินลุยหิมะจะกลับก็ดันเจอพายุหิมะลูกใหญ่ และตอนนี้ตาผมพร่ามองเป็นสีชมพูพร่าเลือนมาก
ผมจำได้ว่าเดินโซซัดโซเซก่อนจะกลิ้งหลุนๆลงมาที่ตีนเขาและตกลงไปในกิงหิมะ คิดว่าตัวเองคงจบชีวิตแน่แท้แล้ว รู้สึกเหมือนตัวลอยเพราะอะไรบางอย่าง ถูกดึง ความฝัน ผมลืมตาขึ้นมาค่อยๆปรับสายตา พบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างหองไป ถัดไปเป็นเมินโหยวผิง
เมินโหยวผิง!
พลันอารมณ์โกรธพลุ้งพล่าน”นายกลับมาทำไม”
“ได้ยินเสียงนายเรียกให้ช่วย”
ผมเบ้หน้า ก่อนจะถูกดึงตัวเข้าไปประกบจูบรุนแรง ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาเบียดกับปากของผมแรงมากเหมือนเขากำลังโกรธ ผมแน่นอ่งอยู่เพียงครู่ก็ยอมโอนอ่อนต่อสัมผัสของเขาแล้วเขาก็ผละออก ผมหน้าร้อนอีกครา แต่ไม่มีเวลามาขัดเขิน จ้องมองหน้าเขาตรงๆ
“อย่าทำให้ฉันลำบากนักเลย” เขาสีหน้าเรียบเฉย “นายจะตายอยู่ที่นี่ได้”
“ก็ได้ แล้วแต่นาย ถ้านายจะไปฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่ฉันอยากให้นายรู้ ถ้านายต้องการใครสักคนเดินเป็นเพื่อนจนสุดทางฉันจะไม่ปฏิเสธ”
จบ : กลับมายืนที่เดิม
เขาไม่พูดอะไรจากนั้น ยอมให้ผมตามต่อจนกระทั่งเราเจอบ่อน้ำพุร้อนที่เคยใช้พัก
เขารื้อของในกระเป๋าของเขาแล้วหยิบลัญจกรผีออกมาสองอันก่อนยื่นมันให้ผม
“จะใช้แค่อันเดียว จะให้นายไว้อันหนึ่ง” สายตาของเขาที่มองผมมีประกายความเศร้าเล็กน้อย
“ของสิ่งนี้มีไว้ทำอะไร”
“เปิดประตู”
ผมรับลัญจกรผีมา ใจหนึ่งดีใจใจหนึ่งอดกลั้นความเสียใจมหาศาล เขาพูดต่อ
“นำสิ่งที่มาที่ประตูอีกสิบปี ถ้านายจำฉันได้ เปิดประตูนายอาจเอจฉันอยู่ข้างใน”
ผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว พูดเสียงสั่น “สถานที่นั้น เป็นยังไง ทำไมนายต้องเข้าไปด้วย ไม่ไปไม่ได้หรือ”
“ฉันบอกไม่ได้” เขาเอื้อมมือมาปาดน้ำตาที่แก้มผม “ความลับของวงศ์ตระกูล สักวันนายจะรู้มันจากใครสักคน”
เขาเดินเข้ามาจูบที่หน้าผากของผมแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือมาบีบท้ายทอยของผม
แล้วผมก็หมดสติไป
----------------------------------------------
เพิ่งอ่านเล่มสิบจบค่ะ สารภาพตรงๆ เพิ่งมีเวลาจริงๆ
ชอบอู๋เสียกับเมินโหยวผิงตอนบทท้ายมากค่ะ ทั้งฟินทั้งเศร้า
ปมปริศนาก็ไม่คลายเลยค่ะ แต่รู้แน่แท้ว่าต้องมีภาคต่อ
สปอยล์อย่างหนักหน่วง เอาบทสนทนาที่ชอบมาเพิ่มเติมจินตนาการอันหื่นกาว
ของตัวเองค่ะ แฮ่ๆ
Re: [Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
น้ำตาจะไหลจริงๆกับคำล่ำลาคะ//ปิดหน้า
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3845
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
//อีก5วันก็ครบสิบปีเเล้วค่ะ//ปิดหน้า
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3976
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: [Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
เราก็ชอบบทท้ายมากเหมือนกัน อ่านวนอยู่หลายทีเลย น้ำตาไหลพราก
Luckey.B- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 102
Points : 3321
Join date : 20/07/2015
ที่อยู่ : ใต้ถุนบ้านสกุลจาง ใต้ดินบ้านอาสาม
Re: [Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
อีกหกวัน ฮือ //ปิดหน้าด้วย
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3863
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
ไปส่งแล้ว
...และจะไปรับอย่างแน่นอน
เราจะต้องได้พบกัน อีกไม่นานนะ...//ยิ้มอ่อน
...และจะไปรับอย่างแน่นอน
เราจะต้องได้พบกัน อีกไม่นานนะ...//ยิ้มอ่อน
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3649
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [Drabble] [Spoil No.10] #dmbjdaily : ไปส่ง [ผิงเสีย]
ได้อ่านฉากนี้ย้อนไปย้อนมา แง้!!!
จางฉีหลิงงงงงงง ซึ้งกับมิตรภาพลูกผู้ชายมากกกก
//ในใจคิด นี่มันเกินกว่าคำว่ามิตรภาพพพพพพ
จางฉีหลิงงงงงงง ซึ้งกับมิตรภาพลูกผู้ชายมากกกก
//ในใจคิด นี่มันเกินกว่าคำว่ามิตรภาพพพพพพ
poypoy- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 105
Points : 3590
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านตระกูลอู๋ ใต้เตียงนายน้อยสาม
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily Happy Birthday to Wuxie (spoil ตอนพิเศษ 2015)
» [Drabble] #dmbjdaily (กด) [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (ฝน) ใต้ร่มคันเดียวกัน [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (Help) สิ่งที่อยากให้ช่วยคือ… [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (ฝัน) ค่ำคืนหนึ่งกลางฤดูหนาว [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (กด) [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (ฝน) ใต้ร่มคันเดียวกัน [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (Help) สิ่งที่อยากให้ช่วยคือ… [ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (ฝัน) ค่ำคืนหนึ่งกลางฤดูหนาว [ผิงเสีย]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth