Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
5 posters
หน้า 1 จาก 1
[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
Lost Memories
fiction บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
Pairing เมินโหยวผิงxอู๋เสีย
Timeline หลังเล่มสิบที่เมินโหยวผิงเดินทางไปยังประตู สำริด ผ่านไป 2 ปี
...ฉันไม่รู้ว่านายเป็นใคร แต่ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันจะรู้…
ผมคิดว่าอาจจะมีการเข้าใจอะไรผิด...ไม่รู้จักผม แต่ถ้าผมเป็นอะไร เขาจะรู้ รู้อะไร? รู้ว่าผมกำลังจะตาย แล้วจะรีบมารับศพผมเหรอ เขาเป็นสัปเหร่อประจำตัวผมหรือไง
“นายเป็นใครกันแน่” ผมถาม
“ฉันไม่รู้”
ไอ้หมอนี่จะกวนประสาทผมหรือไง มีใครที่ไหนจำไม่ได้บ้างว่าตัวเองเป็นใคร!
ผมสบถในใจ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าคนที่จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครนั่งหัวโด่อยู่นี่คนหนึ่ง ถ้าจะมีอีกสักคนสองคนก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
“นายความจำเสื่อมเหรอ”
แทนคำตอบ เขาถามผมกลับว่า
“ฉันเป็นใคร”
โอเค ผมเข้าใจชัดเจน ขอบคุณสำหรับการตอบไม่ตรงคำถาม
“ฉันจำนายไม่ได้” ผมบอกเขาตามตรง “ฉันตกเขา ความจำเสื่อม เพราะฉะนั้นถ้านายคิดว่าฉันรู้จักนาย รอฉันได้ความทรงจำกลับมาก่อน ถึงตอนนั้นฉันจะบอกว่านายเป็นใคร เป็นคนยังไง ทำอะไรไว้บ้าง”
เขาไม่มีปฏิกิริยากับคำพูดของผมจนน่ากังวลว่าเขาเข้าใจภาษาที่ผมพูดหรือเปล่า แต่เมื่อกี้ผมคิดว่าเขาพูดภาษาจีน...ถึงแม้จะพูดกันคนละเรื่องก็ตาม
ผมลุกขึ้นยืน เรื่องนี้พักเอาไว้ก่อน ที่สำคัญคือผมควรหาทางออกจากสถานที่แห่งนี้ก่อนที่พวกมนุษย์กลายพันธุ์จับพวกเราเปลี่ยนเป็นพวกเดียวกับมัน ผมส่องไฟหาทางไปต่อ เลือกที่จะเดินไปคนละทางกับที่หมอนั่นยืนอยู่
ผนังสองข้างเป็นหินสีดำ ยิ่งเดินไปทางก็ยิ่งแคบลง เพดานที่แต่เดิมสูงเลยหัวผมนิดเดียว ตอนนี้ต่ำลงมาจนผมต้องก้มตัวเดิน ทว่าเดินไปได้อีกสักพักก็เหลือพื้นที่เพียงแค่คลานได้เท่านั้น ผมอยู่ในท่านั้นนานเท่าไรไม่รู้เมื่อเห็นปลายทางข้างหน้า จึงรีบเร่งความเร็ว พ้นทางแคบนั้นก็พบว่ามาตัวเองโผล่มาในห้องสีเหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก ผนังรอบห้องเป็นอิฐ และตรงกลางมีโลงอีกแล้ว
ผมรู้สึกเข็ดขยาดกับโลง เมื่อออกมาได้ก็ส่องหาทางไปต่อ ไม่คิดจะเปิดดูอีกต่อไป ไอ้หมอนั่นตามผมมาด้วย แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นโจรขุดสุสาน ส่วนผมเป็นคนธรรมดาที่ความจำเสื่อมอยู่ เมื่อวานคุณหนิงยังบอกว่าอาจต้องปะทะกับพวกเขาอยู่เลย แต่จะว่าไปยัยนั่นเองก็หักหลังผมหน้าด้านๆเหมือนกัน...แล้วอย่างนี้ผมจะเชื่ออะไรได้บ้าง
ผมรู้สึกระแวงขึ้นมาทันที หันไปมองไอ้หนุ่มที่ยืนจ้องโลงศพ อย่าบอกนะว่าเขาจะเปิด ถ้าอย่างนั้นผมควรวิ่งหนีไม่ก็ใช้ไฟฉายฟาดหัวเขาให้สลบก่อนจะก่อเรื่อง
“อย่าแตะต้องมันเลยดีกว่า” ผมบอก ตอนนั้นเอง สีหน้าของเขาขมวดยุ่ง มองตามพบว่าโลงนี้มีความผิดปกติ ผมส่องไฟฉายสำรวจให้แน่ใจอีกครั้ง แล้วก็เห็นฝาโลงเคลื่อนจากตำแหน่งที่มันควรจะเป็น ทำให้โลงอยู่ในสภาพแง้มเปิดอยู่
เชี่ย!
ไอ้หนุ่มข้างๆผมขยับตัว ผมเห็นอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจากข้างในโลง ลักษณะคล้ายนิ้วมือคนวางตรงขอบโลง ได้ยินเสียงบางอย่างขยับเคลื่อนไหวอยู่ข้างใน หมอนั่นก้าวไปข้างหน้า ดันตัวผมหลบไปอยู่ข้างหลัง การกระทำนี้ทำให้ผมรู้สึกดีกับเขาขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่วางใจนัก เขาอาจจะเหมือนคุณหนิง เมื่อจวนตัวก็ผลักผมเป็นโล่แทน
เสียงครืนดังอยู่ครู่หนึ่ง แล้วฝาโลงก็เลื่อนตกลงมาดังโครม ผมคิดว่าข้างในโลงอาจจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์สักตัวที่แอบหาที่หลบงีบหลับ แต่สิ่งที่โผล่ออกมากลับเป็นมนุษย์สีดำ...หมอนี่ผมดำ ชุดดำ แม้แต่แว่นที่ใส่ก็ยังดำ ในที่มืดแต่ใส่แว่นดำ...จะมองเห็นได้ยังไง ท่าจะบ้า
มนุษย์ชุดดำพลิกตัวออกมาจากโลง เหยีบลงพื้นแล้วบิดตัวไปมาท่าทางเหมือนออกกำลังกายหลังตื่นนอนตอนเช้า ผมไม่คิดว่าจะมีใครบ้าพอมานอนหลับในโลงแบบนี้ อาจจะยกเว้นแดร็กคิวล่าผีดูดเลือด ส่วนหมอนี่ดูยังไงก็มนุษย์...แต่ผมต้องยอมรับว่ารอบๆตัวเขามีบรรยากาศแปลกๆ คล้ายกับบอกว่าเขาไม่ใช่คนปกติ เพราะฉะนั้นการนอนในโลงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับหมอนี่
เขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็เห็นว่าในห้องนอนส่วนตัวสุดพิลึกของเขามีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ด้วย เขามองผมครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะออกมา
“มาเอาของเหรอ นายน้อย”
ได้การล่ะ! หมอนี่รู้จักผม! ผมไม่รู้ว่า “นายน้อย” ที่เขาเรียกหมายถึงผมจริงๆหรือไม่ แต่ผมคุ้นเคยกับการถูกเรียกแบบนี้ ในเมื่อความทรงจำของผมพึ่งไม่ได้ ผมก็จะพึ่งพาความรู้สึกกับลางสังหรณ์ของตัวเองแทน อีกอย่างหมอนี่ถามว่าผมมาเอาของเหรอ แสดงว่าเขาน่าจะรู้เกี่ยวกับของที่ผมตามหาเพื่อเปิดประตู
ระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าควรถามอะไรเป็นคำถามแรก ผมก็ได้ยินเขาพูดว่า
“นายมาได้ยังไงน่ะ”
น้ำเสียงของเขายังคงเจือเสียงหัวเราะ แต่ท่าทางการยืนกลับทำให้รู้สึกถึงการเตรียมพร้อม เขาจ้องมองไอ้หนุ่มข้างๆผม ซึ่งหมอนั่นก็จ้องกลับเช่นกัน ท่าทางเหมือนเคยมีเรื่องบางอย่างกันมาก่อน หรือว่าจริงๆแล้วพวกเราทั้งสามคนเคยเป็นแดร็กคิวล่านอนในโลงที่สุสานนี้เหมือนกัน แล้วเกิดเหตุการณ์บางอย่างเช่นผมทำกุญแจเปิดประตูเข้ามาที่นี่หายไป จึงต้องออกไปตามหาที่ฉางไป๋ซาน แล้วดันตกเขาเสียความทรงจำ ระหว่างนี้ไอ้หนุ่มข้างๆผมก็รู้สึกเป็นห่วงว่าสหายที่เห็นหน้าค่าตากันบ่อยๆหายไปไหน เลยออกตามหา แต่ก็เกิดเหตุให้ความจำเสื่อมเหมือนกัน จากนั้นโชคชะตาก็พาให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง...ผมควรจะเอาพล็อตนี้ไปเขียนเป็นนิยาย อาจจะขายได้
“นายเป็นใคร” ผมเลือกคำถามนี้เป็นคำถามแรก นายแว่นดำหันกลับมามองผม ถามกลับด้วยเสียงกวนประสาท
“คุณเป็นใครเหรอ นายน้อย”
“ฉันตกเขา ความจำเสื่อม” ผมบอก “ถ้านายรู้อะไรเกี่ยวกับฉันก็บอกมาเถอะ”
“ลืมแม้กระทั่งคนที่อยู่ข้างๆตัวคุณด้วยเหรอ”
ผมขมวดคิ้ว หันไปมองไอ้หนุ่มข้างๆ ถึงจะจำไม่ได้แต่ก็รู้สึกได้ว่าเขาไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดา เพียงแต่ความสัมพันธ์ของเราอยู่ในระดับไหน เป็นยังไง ผมตอบไม่ได้
“คุณเรียกเขาว่าเสี่ยวเกอ” นายเว่นดำพูดต่อเมื่อผมไม่ตอบ “ตามที่ผมรู้ ตอนนี้เขาไม่ควรอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่าคนที่อยู่ข้างๆคุณตรงนี้ไม่ใช่เสี่ยวเกอตัวจริง” เขาเดินตรงมาหาพวกเรา “แล้วคุณเป็นตัวจริงหรือเปล่า นายน้อย”
“ฉันความจำเสื่อมอยู่ จะไปรู้ได้ยังไงว่าตัวจริงตัวปลอมที่นายว่ามันคืออะไร” ผมไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ คนที่จำอะไรไม่ได้อย่างผม...จะมีอะไรที่สามารถยืนยันตัวตนได้บ้าง
“มีคนบอกให้ผมเฝ้าของอยู่ที่นี่” เขาพูดต่อ
“ของสิ่งนั้นคืออะไร” ผมล้วงหยิบกระดาษที่เขียนด้วยลายมือออกมา ทั้งนายแว่นดำและไอ้หนุ่มนั่นหันกลับมามอง แล้วก็เป็นนายแว่นดำที่หัวเราะขึ้นมา ตอนแรกผมไม่เข้าใจ แต่เมื่อคิดว่าเขาใส่แว่นดำอยู่อาจจะมองไม่เห็น เลยหัวเราะเยาะผมที่ทำอะไรไม่คิด ผมเก็บกระดาษแผ่นนั้นเข้าที่เดิม “สิ่งนั้นอยู่กับนายใช่มั้ย”
“นายน้อย คุณไม่รู้จริงๆหรือ”
“เออสิ!” ความอดทนของผมเริ่มหมดลง “ถ้านายรู้อะไรก็รีบๆบอกมาได้แล้ว”
“คุณชายเก้ารอบเอวกี่นิ้ว”
ผมจ้องเขาเขม็ง คำถามบ้าอะไรผมไม่รู้ คุณชายเก้าที่เขาพูดถึงเป็นใครก็จำไม่ได้ แต่ถึงจำได้ ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะโรคจิตถึงขนาดสอบถามคนอื่นว่ารอบเอวของคุณเท่าไหร่
“ฉันบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าฉันความจำเสื่อม”
นายแว่นดำพยักหน้า จุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างสบายอารมณ์ “คุณกลับไปเถอะ”
คุยกันมาตั้งนาน ไม่บอกอะไรผมสักอย่างแล้วก็ไล่ผมกลับ ให้มันได้อย่างนี้สิ!
“อย่างน้อยนายก็น่าจะบอกสักหน่อยว่าฉันเป็นใครกันแน่”
“ชื่อของคุณคือ อู๋เสีย ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ผมแนะนำให้คุณกลับหังโจว ที่นั่นมีคนรอคุณอยู่” จากนั้นเขาก็หันไปทางคนข้างๆผม ผมคิดว่าดวงตาใต้แว่นดำกำลังมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า ท่าทางไม่น่าไว้ใจอย่างบอกไม่ถูก เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อยู่ๆคนที่ถูกจ้องก็ขยับตัว
วินาทีต่อมา ทั้งนายแว่นดำและไอ้หนุ่มนี่หันไปทางขวา ผมเพิ่งเห็นว่าตรงนั้นมีประตู มันถูกเปิดออกแล้วคุณหนิงก็วิ่งเข้ามา ข้างหลังเธอมีลูกน้องอีกสี่คน เธอสังเกตเห็นผม นายแว่นดำ กับไอ้หนุ่มโจรขุดสุสาน ก็ชักปืนขึ้นมาทันที
เพียงเท่านั้น ผมถูกถีบกระเด็น ถลาลงไปนอนกับพื้น กระสุนปืนเฉี่ยวผ่านหัวของผมไปนิดเดียว หากไอ้หนุ่มนั่นไม่ถีบ ผมคงโดนกระสุนเจาะหัวไปแล้ว ถึงตอนนี้ผมโกรธคุณหนิงมาก อีห่านี่เอาผมเป็นโล่ไม่พอ จะฆ่าผมอีก ทั้งที่เมื่อวานยังทำเหมือนเป็นพวกเดียวกับผมอยู่เลย พวกผู้หญิงสวยนี่มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ
ผมลุกขึ้น นายแว่นดำบอกให้ผมหาที่หลบ ส่วนตัวเองก็ตรงเข้าไปหาคุณหนิง ผมแอบเชียร์ในใจให้เขาจัดการยัยนั่นที แต่เขาคนเดียวรับมือคนห้าคน ดูน่าจะเสียเปรียบไม่น้อย ผมหันไปมองคนข้างๆ ไอ้หนุ่มนี่ยืนนิ่งเฉยเป็นท่อนไม้ เหมือนไม่คิดจะทำอะไรเลยนอกจากถีบผม เห็นคนถูกรุมก็ไม่คิดจะเข้าไปช่วย ไอ้หมอนี่จะใจจืดใจดำไปแล้ว
ไอ้บ้าเมินโหยวผิง! ไอ้เรือพ่วงน่าเบื่อ!
“แย่แล้ว”
อยู่ๆไอ้คนที่ผมด่าในใจก็พูดขึ้นมา สีหน้าเขาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ผมยังไม่เข้าใจว่าอะไรแย่ ตอนนั้นเองสายตาของผมเห็นเส้นสายสีแดงๆพุ่งเข้ามาจากทางประตู ผมรู้สึกเหมือนเดจาวู เส้นสีแดงนั้นพุ่งตรงไปหาคนหนึ่ง แล้วไอ้หมอนั่นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงผิวหนังหลอมละลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์
ผมได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เมินโหยวผิงผลักผม “วิ่ง”
ไม่ต้องรอให้เขาสั่ง ผมก็วิ่งแล้ว พุ่งไปยังทางเดิมที่เข้ามา คลานเข่ากลับไปด้วยความเร็วชนิดที่ขามาเทียบไม่ติด ลืมอาการปวดกล้ามเนื้อที่เคยมีจนหมดสิ้น เมื่อเพดานเริ่มสูงขึ้น ผมก็เปลี่ยนเป็นยืนก้มตัวแล้ววิ่งด้วยความเร็วเท่าที่จะวิ่งได้ เมินโหวผิงตามผมมาติดๆ ก่อนจะวิ่งนำหน้า ดึงวัตถุยาวๆที่สะพายอยู่ข้างหลังออกมา มันเป็นดาบสีดำ ผมกำลังสงสัยว่าเขาชักดาบออกมาทำไม แต่ไม่ต้องถามคำตอบก็ปรากฏเมื่อข้างหน้ามีไอ้มนุษย์กลายพันธุ์โผล่หน้าออกมา เมินโหยวผิงตวัดดาบฉับทีเดียวตัดคอมันกระเด็นขาดจากตัว โหดฉิบ! ผมเผลอจับคอตัวเอง เขาคงไม่บ้าเลือดหันมาตัดคอผมด้วยใช่มั้ย
เส้นทางที่พวกเราวิ่งเป็นทางตรงที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง เขาบอกให้ผมหยุด ผมทำตามอย่างว่าง่าย มองเขาใช้สองนิ้วที่ยาวผิดปกติลูบไปตามผนังก่อนจะกดลงไป ผนังตรงนั้นยุบตัวลง กลายเป็นช่องขนาดพอให้คนตะแคงตัวเดินไปได้
เขาทำมือให้ผมเข้าไปก่อน เส้นทางนี้เป็นทางตรงไม่มีทางแยก แม้จะต้องตะแคงตัวเดิน แต่เมื่อเทียบกับการคลานเข่าเมื่อสักครู่ถือว่าดีกว่ามาก ผมรู้สึกได้ถึงอากาศที่เปลี่ยนแปลง กลิ่นเหม็นสาปค่อยๆจางหายไป เส้นทางข้างหน้ามีแสงอย่างอื่นนอกจากไฟฉายของผม
ผมเดินเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปลายสุดของเส้นทางนี้เป็นแสงสว่าง เมื่อออกมาก็พบว่าตัวเองอยู่ตรงหน้าผา ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน แสงสว่างฉาบทั่วท้องฟ้าเป็นสีทอง ผมสูดอากาศบริสุทธิ์ไร้กลิ่นสาปสาง ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง เมินโหยวผิงตามออกมา เขาเก็บดาบสะพายหลังเหมือนเดิม แล้วนั่งลงข้างๆผม เงยหน้ามองท้องฟ้า
พวกเราไม่ได้พูดกัน ใช้ความเงียบแทนการสื่อสาร เมื่อรู้สึกว่าออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย เรี่ยวแรงที่เคยมีก็หายไปหมด ผมหลับไปอย่างรวดเร็ว
MinMin- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 222
Points : 3857
Join date : 28/10/2014
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
สะใจตรงนายน้อยด่าอาหนิงว่า อีห่านี่
นายแว่นคะ มาถามรอบเอวคุณชายฮัวเนี่ยนะ หลุดขรรมเลยอ่ะค่า
นายแว่นคะ มาถามรอบเอวคุณชายฮัวเนี่ยนะ หลุดขรรมเลยอ่ะค่า
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3844
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
ความจำเสื่อมยังไม่วายจะมโน...มโนไกลกว่าตอนความจำยังไม่เสื่อมด้วย 55555
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3648
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
อ่านบรรทัดแรกๆที่คุยกันแล้วได้ผลสรุปว่าต่างฝ่ายต่างความจำเสื่อมนี่หลุดหัวเราะไปพักใหญ่เลยค่ะ โอย...
ต่างคนต่างลืม ไม่รู้จะสงสารหรืออะไรดี 5555
ต่างคนต่างลืม ไม่รู้จะสงสารหรืออะไรดี 5555
mama moosap- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3433
Join date : 29/03/2015
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
มันเหมือนจะดราม่านะ ต่างคนต่างจำกันไม่ได้
แต่ทำไมอ่านแล้วขำ ถถถถถถ คุยกันนี่นึกหน้ามึนทั้งคู่ 555555
แต่ทำไมอ่านแล้วขำ ถถถถถถ คุยกันนี่นึกหน้ามึนทั้งคู่ 555555
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3862
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Similar topics
» Lost Memories [ผิงเสีย] Lost Stories + ลิงค์สั่งจองฟิคค่ะ
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter12
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter13
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Epilogue
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter12
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter13
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Epilogue
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth