Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[to my secret]iarladiel

3 posters

Go down

[to my secret]iarladiel Empty [to my secret]iarladiel

ตั้งหัวข้อ by iarladiel Thu 01 Jan 2015, 21:23

สวัสดีคุณซีเคร็ทค่ะ ฝากรีเควสของเราด้วยนะคะะ> <

1. ผิงเสีย: เดินเที่ยวด้วยกันในเมือช่วงเทศกาล (ปีใหม่ ตรุษจีน ตลาดนัด อะไรก็ได้ค่ะ ขอเป็นเดืนซื้อของด้วยกันนะคะ)
2. เฮยฮัว: ขอคนสวยยอมพี่แว่นสักครั้ง กิจวัตรประจำวันอะไรก็ได้ ขอบรรยากาศหวานๆหน่อยนะคะ^^
3. สามเหลี่ยมเหล็ก: เปลี่ยนจากไปคว่ำกรวย เป็นไปเที่ยวทะเลกันสักครั้งก็ดีนะคะ
4. จางอู๋: ขอเวอร์ชั่นหนีเที่ยวกันสองคนสบายๆ ขอปู่จางไม่ใส่ยูนิฟอร์มทหารนะคะ> <
5. สามพี่น้องสกุลอู๋ (เตี่ย อารอง อาสาม): สมัยวัยรุ่น อะไรยังไง ได้หมดค่ะ ขอสบายๆนะคะ

จบการรีเควสค่ะะะ สู้ๆนะคะะะ

iarladiel
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 5
Points : 3413
Join date : 01/12/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[to my secret]iarladiel Empty Re: [to my secret]iarladiel

ตั้งหัวข้อ by Narakas Sun 25 Jan 2015, 23:48

มาส่งซีเคร็ทแล้วค่าาาาาา ;w;
ขอโทษค่ะที่ส่งช้า แถมยังสั้นด้วย ไม่มีสาระอะไรเลย T-T
คือว่าไม่เคยเขียนคู่อื่นนอกจากallเสียเลยค่ะ (ขอโทษค่ะ แงงงง)
จะเขียนผิงเสียก็ไม่รู้จะต่อยอดยังไงให้มันยาวๆ ดี เลยเลือกหัวข้อนี้มาเขียนค่ะ

iarladiel พิมพ์ว่า:
3. สามเหลี่ยมเหล็ก: เปลี่ยนจากไปคว่ำกรวย เป็นไปเที่ยวทะเลกันสักครั้งก็ดีนะคะ

(แต่แอบมีผิงเสีย เฮยฮัวเล็กน้อยด้วยค่ะ .///. )
ฟิคนี้มโนทุกอย่างเลยค่ะ ไม่รู้อะไรสักอย่าง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไหหลำมีบังกะโลมั้ย อะไรยังไง
ไทม์ไลน์ก็มโนค่ะ ช่วงไหนไม่รู้ แง






ฤดูร้อนปีนี้ หังโจวร้อนกว่าทุกปี ตอนที่ผมกำลังโทรบอกนายอ้วนว่าจะไปขอหลบร้อนที่ปักกิ่งสักหน่อย นายอ้วนก็ตอบกลับมาว่า

“เทียนเจินเอ๋ยเทียนเจิน บ้านนายร้อนขึ้นแล้วบ้านฉันจะไม่ร้อนขึ้นบ้างหรือไง แล้วที่สำคัญ หน้าร้อนไม่ได้มีแค่วันสองวันก็หมดนะเฟ้ย!”

ผมบ่นอุบอิบ ถามว่างั้นทำยังไงดี หน้าร้อนปีนี้ควรจะไปหลบร้อนที่ไหน ไปฉางไป๋ซานซะเลยดีมั้ย

นายอ้วนตอบว่า “ฉางไป๋ซานเนี่ยนะ คิดได้ไง นายจะไปทัวร์ตำหนักนรกนั่นอีกรอบเรอะ เสี่ยอ้วนไม่ไปโว้ย” ผมถามเขาว่า ถ้าอย่างนั้นจะไปที่ไหน เขาพูดด้วยน้ำเสียงรื่นเริงกว่าปกติ “ร้อนๆ แบบนี้ก็ต้องไปเที่ยวทะเลสิ!”

จากนั้นนายอ้วนก็พล่ามยาวถึงโปรแกรมเที่ยวต่างๆ นานา ทั้งดำน้ำ ตกปลา กินอาหารทะเล ผมฟังดูน่าสนุก แต่ว่าตอนนี้อากาศมันร้อนจนทำให้ผมสมาธิสั้น ไม่มีความอดทนจะฟังเขาพล่ามเลยตัดสินใจให้เขาเลือกสถานที่และโปรแกรมเที่ยวดับร้อนตามสบาย แล้วให้เขาโทรกลับหาผมอีกทีเมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว

จนผมลงจากรถตู้นั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าความคิดนายอ้วนก็ไม่ค่อยต่างจากผมสักนิด!

"ความคิดนายก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันเลยนะ เกาะไหหลำเนี่ยนะ นายอยากว่ายน้ำกับผีแม่ย่าอีกรอบหรือไง!"

ผมพูดขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ท้องทะเลสีฟ้าใสสะท้อนแสงแดดยามกลางวันส่องแสงระยิบระยับเข้าตาจนต้องหรี่ตามอง นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศเดินขวักไขว่กันทั่วหาด บรรยากาศตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าคึกคักมาก แต่เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีตแล้วผมชักหวาดหวั่นกับทะเลที่นี่เหลือเกิน

นายอ้วนปลอบว่า "เอาเหอะน่า ทะเลที่ไหนจะสวยไปกว่าทะเลจีนใต้ของเกาะไหหลำล่ะ ครั้งก่อนฉันยังไม่ได้เที่ยวเลย แค่มาเที่ยวคงไม่ซวยขนาดดำน้ำเล่นแล้วเจอผีแม่ย่าหรอก!" นายอ้วนตบหลังผมจนแทบกระอัก แค่แบกกระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับหนึ่งอาทิตย์นี่ก็จะทำให้ไหล่ผมหลุดอยู่แล้ว รู้อย่างนี้น่าจะเอากระเป๋าลากมาดีกว่า

นายอ้วนบอกว่าเขาจองบังกะโลเอาไว้แล้ว แถมเป็นบังกะโลริมทะเลที่วิวดีเสียด้วย ตอนแรกผมรู้สึกไม่ค่อยชอบบังกะโลเท่าไหร่เพราะมันหลังเล็ก แต่พอนึกถึงราคาที่ถูกกว่าและเป็นส่วนตัวก็รู้สึกดีขึ้น

นายอ้วนเช็คอินที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งเพื่อรับกุญแจบังกะโลมาให้ผมกับเขาคนละดอก แต่บังเอิญเจอใครคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตายืนกดโทรศัพท์มือถืออยู่หน้าเคาท์เตอร์ เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีชมพู ข้างตัวมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ตั้งอยู่

"เสี่ยวฮัว?" ผมทักขึ้น เขาเงยหน้าจากโทรศัพท์แล้วหันมามองผม ทำหน้าตาประหลาดใจนิดหน่อยแล้วยิ้มให้

"อ้าว นายก็มาพักร้อนด้วย?"

"ไอ้ย่ะ โลกกลมจริงวุ้ย ดีๆ เดี๋ยวคืนนี้เราไปปิ้งย่างดื่มกินริมทะเลด้วยกันนะคุณชาย" นายอ้วนเริงร่าชวนเสี่ยวฮัวดื่มทันที แต่ผมชักสังหรณ์ใจไม่ดี สถานที่หลบร้อนมีตั้งหลายแห่งทำไมเสี่ยวฮัวเลือกมาที่ไหหลำเหมือนกันด้วย แถมวันเดียวกันอีกต่างหาก

"นายพักที่นี่หรอ?" ผมถาม

"ฉันพักที่บังกะโลริมชายหาดน่ะ" เขาชูกุญแจที่มีป้ายหมายเลขสิบสองให้ผมดู เหมือนกับของผมกับนายอ้วนมาก ผมก้มดูของตัวเอง หมายเลขของผมคือสิบเอ็ด

"โอ้โห...บังเอิญจังเลยเนอะ นายน้อยสาม" เสี่ยวฮัวมองแผ่นป้ายในมือผมแล้วพูดยิ้มๆ

ผมรู้สึกว่ามันจะบังเอิญเกินไปไหมเนี่ย

สุดท้ายเราสามคนก็เดินไปที่พักของตัวเองด้วยกัน เสี่ยวฮัวพูดว่าโชคดีที่ได้บังกะโลหลังสุดท้ายมา หน้าร้อนนี้คนหลบร้อนเยอะมาก ห้องพักโรงแรมถูกจองเต็มหมดแล้ว

เราแยกกันตรงหน้าบังกะโล นายอ้วนได้บังกะโลหมายเลขสิบซึ่งอยู่ห่างจากหลังของผมแค่ไม่กี่เมตร บริเวณหาดหน้าบังกะโลมีพื้นที่ว่างเหมาะแก่การก่อไฟปิ้งย่างริมทะเลจริงๆ แต่ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน แดดร้อนเปรี้ยงๆ จนผมไม่สามารถทนยืนชมความงามอยู่ด้านนอกได้ จึงรีบไขกุญแจเข้าไปเก็บสัมภาระในบังกะโล
ด้านในบังกะโลดูไม่กว้างแต่ก็ไม่แคบ มีเตียงหนึ่งหลัง ตู้เสื้อผ้าขนาดกลางหนึ่งตู้ โต๊ะกับเก้าอี้สองตัว และห้องน้ำห้องเล็ก เป็นที่พักแบบไม่เกินสองคน ผมรู้สึกโชคดีที่นายอ้วนจองไว้สองหลัง ถ้าต้องพักด้วยกันคงต้องมีใครคนหนึ่งนอนพื้นแน่ๆ เพราะขนาดตัวนายอ้วนก็กินไปเกือบครึ่งเตียงแล้ว

ผมเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า จัดของนิดหน่อย ขณะกำลังเพลินๆ ก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมด้วยเสียงเรียกจากเสี่ยวฮัวดังขึ้น พอผมเดินไปเปิดประตูก็ต้องชะงักค้าง เพราะหน้าประตูไม่ได้มีแค่เสี่ยวฮัวคนเดียว ด้านหลังของเสี่ยวฮัวที่ยืนหน้าบูดมีชายหนุ่มอีกสองคนยืนอยู่

"นายแว่นดำกับ...เสี่ยวเกอ? พวกนายมาได้ยังไงน่ะ" ผมถามงงๆ

"ว่าไงนายน้อยสาม พักร้อนไงล่ะพักร้อน" นายแว่นดำโบกมือทักทายผม

โอ้โฮเฮะ มันจะบังอิญเกินไปหน่อยหรือเปล่า

ผมทำเป็นพยักหน้าเข้าใจแล้วถามว่าพวกเขาพักที่ไหน เห็นเขาสองคนยังถือกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่ก็คิดว่าคงพักไม่ไกลจากแถวนี้

"อ่า ก็...จะพักที่นี่แหละนะ เพียงแต่ที่พักมันเต็มแล้วน่ะ" นายแว่นพูดยิ้มๆ มองไปทางเสี่ยวฮัว ผมยังงงๆ ไม่เข้าใจเขาเลยพูดต่อ "เราจะมาขอแชร์บังกะโลด้วยน่ะ"

หมายความว่าพวกเขาจะมาขอพักด้วย? อันที่จริงผมก็ไม่ได้ใจแคบขนาดไม่ให้คนรู้จักมาแชร์ที่พักด้วยหรอกนะ เพียงแต่ว่าบังกะโลหลังหนึ่งนอนได้แค่สองคนก็เต็มที่แล้ว แต่สามคนอึดอัดไปหน่อยไหม

"อย่าคิดมาก ผมแค่จะให้นายใบ้อยู่กับคุณ เดี๋ยวผมพักกับคุณชายเอง" นายแว่นอธิบาย แต่เสี่ยวฮัวกลับทำตาขวาง พูดขัดว่า "ใครบอกว่าฉันจะให้นายพักด้วย"

"โธ่ คุณชาย ยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอ?" เสียงนายแว่นฟังตัดพ้อ ผมว่าสองคนนี้ต้องมีลับลมคมในอะไรกันแน่ๆ

ขณะยืนเกาหัวมองทั้งสองคนพ่อแง่แม่งอนใส่กัน นายอ้วนก็ออกมาจากบ้านหลังข้างๆ เห็นสองคนที่มาใหม่ก็เข้ามาทักทายทันที

"อ้าว นายสองคนมาได้ไงเนี่ย ดีเลยๆ คืนนี้เราจะได้จัดปาร์ตี้ชุดใหญ่กัน! ว่าแต่พวกนายพักอยู่ที่ไหนล่ะ"

ผมบอกนายอ้วนว่าพวกเขามีปัญหาเรื่องที่พัก จะขอแชร์บังกะโลด้วย พออธิบายว่าเสี่ยวฮัวไม่ยอมให้นายแว่นพักด้วยนายอ้วนก็รู้ว่าสองคนนี้คงจะมีปัญหากัน ก็เลยเสนอให้เมินโหยวผิงพักกับเสี่ยวฮัว แล้วนายแว่นพักกับผม ลำพังนายอ้วนตัวคนเดียวก็กินพื้นที่เตียงไปได้ครึ่ง จึงไม่มีใครอยากนอนเบียดเขา

ว่าแต่ที่ตกลงกันไม่ได้นี่คือหมายถึงเรื่องนอนบนเตียงเดียวกันหรือยังไง

ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ แค่รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ถ้าจะนอนพักที่เดียวกับนายแว่นสองคน แต่ถ้าเลือกได้ผมเลือกนอนกับเสี่ยวเกอดีกว่า แต่ถึงผมจะไม่ได้พูดคัดค้านอะไรก็มีคนค้านแทน ทั้งเมินโหยวผิงและเสี่ยวฮัวพากันพร้อมใจพูดว่า "ไม่" พร้อมจ้องนายอ้วนเขม็ง

นายอ้วนเหงื่อตก รีบยื่นข้อเสนอใหม่ บอกให้เสี่ยวฮัวย้ายมานอนกับผม แล้วยกบังกะโลของเสี่ยวฮัวให้สองคนนั้นไป ผมฟังดูเข้าท่า เสี่ยวฮัวก็เห็นด้วยเลยตกลง แต่นายแว่นทำท่าจะโอดครวญ ส่วนนายเมินโหยวผิงดูนิ่งๆ แต่ผมเห็นเขาแอบพ่นลมหายใจเล็กน้อย

สุดท้ายนายอ้วนก็ไปติอต่อเรื่องมีคนมาพักเพิ่มกับรีสอร์ทเจ้าของบังกะโลให้ เสี่ยวฮัวย้ายข้าวของมาที่บังกะโลของผม เราแบ่งที่กันอย่างง่ายๆ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว แดดไม่แรงเท่าตอนกลางวัน แถมยังเปล่งแสงสีส้มอ่อนๆ กระทบผืนน้ำ ดูสวยงามได้อารมณ์โรแมนติก ผมเห็นนายอ้วนตั้งเตาถ่านอยู่บนหาดทราย ส่วนเมินโหยวผิงกับนายแว่นกำลังกางโต๊ะ เมื่อเห็นเราออกมานายอ้วนก็โบกมือเรียก

"เทียนเจิน ไปซื้อของให้หน่อยสิ"

นายอ้วนยื่นกระดาษแผ่นเล็กแล้วใช้ให้ผมไปซื้อของสดในตลาดใกล้ๆ มา ผมก็พยักหน้า คิดว่าไปเดินเล่นก็ดีเหมือนกัน ขณะกำลังเดินไปกับเสี่ยวฮัวนายแว่นพลันวิ่งตามมาบอกว่าขอไปด้วย เสี่ยวฮัวหน้าบูดบึ้งพูดขึ้นว่าไม่ไปแล้ว ให้ผมไปกับนายแว่นแทน ผมก็งงๆ กับสองคนนี้ สุดท้ายนายแว่นก็วิ่งตามเสี่ยวฮัวไป ผมก็ยืนมองอึ้งๆ นี่ตกลงผมต้องไปซื้อของคนเดียวงั้นเรอะ

ตอนนี้เองใครบางคนจับบ่าผม พอหันไปก็พบเมินโหยวผิงที่ใส่กางเกงตัวเดียวโชว์หุ่นท่อนบนยืนอยู่ ผมนึกในใจว่าไอ้หมอนี่ซ่อนรูปชะมัด แถมยังใส่หมวกแก๊ปแบบวัยรุ่นที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนก็ไม่รู้ ทำให้ดูเด็กลงไปอีก ผมทึ่งเล็กน้อยไม่คิดว่าเขาจะใส่อะไรแบบนี้ด้วย แต่ก็เหมาะดี เขาเดินมาข้างๆ ข้างผมเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจะไปกับผมด้วย ผมถอนหายใจแล้วเดินไปกับเขา แค่ข้ามถนนใหญ่เลียบชายหาดก็เจอตลาดสดที่มีคนเดินขวักไขว่กันเยอะแยะ

ผมเดินดูของกินไปไม่เท่าไหร่ผมก็รู้สึกอึดอัดเพราะคนเยอะ ขนาดผมใส่แค่เสื้อนอกมายังเหงื่อออกท่วม แถมแสงแดดสีส้มก็สะท้อนแยงตามาก ผมต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นบังแสง และตอนที่ผมหยุดซื้อปลาหมึกก็เพิ่งรู้ตัวว่าเมินโหยวผิงที่น่าจะเดินอยู่ข้างๆ กลับหายไปแล้ว

ผมชะเง้อมองหาเขาไปทั่ว แต่ว่าคนเยอะเกินไปแถมพวกนักท่องเที่ยวฝรั่งตัวสูงก็เพียบ ผมหันซ้ายขวาหน้าหลังอย่างเซ่อๆ แล้วใครบางคนก็คว้ามือผมไว้ เมินโหยวผิงนั่นเอง

“นายหายไปไหนมาเนี่ย” ผมถามฉุนๆ เวลานี้ยังจะใช้วิชาหายตัวอีก

“คนเยอะ จับมือไว้” เขาพูดแค่นั้นแล้วจับมือผมแน่นไม่ปล่อย ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

แต่ว่า...แสงแดดนี่มันแยงตาชะมัด

ผมคิดพลางหรี่ตามองทางเบื้องหน้า ทันใดนั้นเอง เมินโหยวผิงก็เอื้อมมือมาเบื้องหน้า วางอะไรบางอย่างบนหัวผมแล้วกดลง หมวกแก๊ปที่เขาใส่นั่นเอง

“ใส่ซะ”

ผมหันไปมองเขา เขาหันกลับไปทำหน้านิ่งๆ มองไปยังเบื้องหน้าไม่หันมามองผมสักนิด ทำราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมพึมพำว่าขอบใจเบาๆ แล้วเดินต่อไปพร้อมกับเมินโหยวผิง แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวจนมือชื้นเหงื่อแต่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะคลายแรงที่จับเอาไว้สักนิด

นั่นทำให้จู่ๆ ผมก็อมยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ





“ไปซะนานเลยนะ นี่ฉันก็นึกว่าพวกนายไปช่วยเขาเก็บตลาดซะอีก”

กลับมาถึงนายอ้วนก็แซวผมทันที ก็ใครจะไปรู้ว่าตลาดมันจะกว้างปานนั้น แถมคนก็เยอะฉิบ ผมเดินเพลินจนเกือบหลงไปรอบนึงโชคดีที่เมินโหยวผิงจำทางได้ ไม่อย่างนั้นคงไปโผล่ที่ถนนอีกด้านของชายหาดแล้ว

ผมยื่นถุงของสดที่ซื้อมาให้เขา พลางถามหาเสี่ยวฮัวกับนายแว่นเมื่อไม่เห็นพวกเขาที่หาด

“คงจะไปปรับความเข้าใจกันล่ะมั้ง เห็นเดินเง้างอนกันไปตรงโขดหินโน่น” นายอ้วนพูดส่ายหัวแล้วหันมามองผม หลุบมองต่ำแล้วพูดว่า “นายสองคนก็ใช่ย่อยนะ แต่ถ้าจะไปสวีทหวานแหววเลียบชายหาด ไม่ต้องเลยนะ มาช่วยฉันทำอาหารเลย”

ตอนนี้ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าผมกับเมินโหยวผิงยังจับมือกันแน่นอยู่ ผมรีบชักมือตัวเองกลับทันทีแล้วลุกลี้ลุกลนเข้าไปช่วยนายอ้วนอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

บ้าชะมัด จู่ๆ ก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาซะเฉยๆ ยิ่งเมินโหยวผิงเดินตามมาช่วยข้างๆ แล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ ยิ่งรู้สึกอยากหันไปถลึงตาใส่สักที แต่กลับไม่กล้ามองหน้าไอ้หมอนี่ซะงั้น

สงสัยจะตากแดดมากเกินไปล่ะมั้ง!

“หมวกก็ถอดได้แล้วมั้ง” นายอ้วนทักยิ้มๆ ผมตอบไปอย่างกระแทกเสียง “เออรู้แล้ว!”

หลังพระอาทิตย์ตกดิน อาหารเสร็จในเวลาเดียวกับตอนที่เสี่ยวฮัวเดินกลับมาที่หาดพร้อมกับนายแว่นดำ ไม่รู้ไปทำอะไรกันมานายแว่นถึงได้ยิ้มแป้นกว่าปกติ

“อู๋เสีย ฉันจะย้ายกลับไปนอนที่บังกะโลหลังเดิมนะ” เสี่ยวฮัวพูดขึ้น ผมร้องอ้าว แล้วนายแว่นก็พูดยิ้มๆ “เดี๋ยวให้นายใบ้ไปนอนกับคุณนะนายน้อย”

ผมงงๆ กับการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของพวกเขาเหลือเกิน กะอีแค่เรื่องที่นอนจะมากเรื่องทำไมกัน ตอนลงกรวยนอนเบียดกันกลางดินก็ทำมาแล้ว

ผมกำลังยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นดื่ม นายอ้วนที่ยกอาหารเดินมาพร้อมเมินโหยวผิงก็พูดขึ้นว่า

“โอ้ สามีภรรยาคืนดีกันแล้วสินะ”

พรวด!

ผมสำลักน้ำทันที ไอค่อกแค่กพลางหันไปมองนายอ้วน เชี่ยนี่แม่งล้อเล่นแรงเกินไปแล้ว!

แต่พอหันกลับไปมองเสี่ยวฮัวกับนายแว่นปรากฏว่า เสี่ยวฮัวหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยส่วนนายแว่นยิ้มกว้างแล้วยักไหล่เหมือนจะบอกว่า ก็ไม่เท่าไหร่หรอก

“เทียนเจินกินดีๆ ได้ไหม นายนี่สกปรกชิบ”

ก็เพราะใครกันล่ะ! ผมถลึงตาใส่เขา ยังไอไม่หยุด จนเมินโหยวผิงต้องเข้ามาตบหลังให้ โชคดีที่เขาออมแรงไม่อย่างนั้นผมคงไม่แค่หยุดไอแต่หยุดหายใจไปด้วยแน่ๆ

นายอ้วนยกอาหารมาวางบนโต๊ะ อาหารทะเลหลายอย่างส่งกลิ่นหอมฉุยเรียกเสียงท้องร้องได้ดี โดยเฉพาะกลิ่นหมึกย่าง ถึงผมจะเป็นคนช่วยนายอ้วนทำอาหารแต่ก็อดทึ่งไม่ได้จริงๆ เมื่อเห็นบรรดาอาหารของเขาวางรวมกันบนโต๊ะ

ผมกับเมินโหยวผิงนั่งกินเงียบๆ ไม่พูดอะไร ส่วนเสี่ยวฮัวพอชมว่าอาหารอร่อยนายอ้วนก็คุยโม้โอ้อวด เล่าประวัติชีวิตเก่าๆ ให้ฟัง ผมก็ฟังบ้างขัดเขาบ้าง เฮฮาท่ามกลางแสงเทียนที่ถูกจุดขึ้นบนโต๊ะ รู้สึกอบอุ่นไปอีกแบบ

ลมบกของที่นี่ค่อนข้างแรง สองทุ่มก็พัดเป่าเทียนจนดับ งานเลี้ยงต้องเลิกราก่อนที่ควร นายอ้วนบ่นอุบอิบเรื่องที่เขาเพิ่งเปิดเหล้าดื่มไปไม่กี่แก้ว ผมเลยตบบ่าเขาบอกให้เขาเอาไปเก็บ แล้วพรุ่งนี้ค่อยเปิดขวดให้เร็วหน่อย จากนั้นเราก็แยกย้ายกันเข้าบังกะโลของตัวเอง เสี่ยวฮัวเก็บของย้ายไปนอนกับนายแว่น ส่วนเมินโหยวผิงก็ย้ายมานอนกับผม

“นายจะอาบน้ำก่อนไหม?” ผมถามเมินโหยวผิง

“นายอาบก่อน”

เขาบอกอย่างนั้นผมจึงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ตอนอาบน้ำก็คิดเพลินๆ ว่าถ้าผมออกไปแล้วเขาจะยังอยู่ในห้องหรือเปล่า ยิ่งเขามีวิชาหายตัวขั้นเทพด้วย
แต่พอออกไปก็พบว่าเมินโหยวผิงยังอยู่ในห้อง นั่งอยู่บนเตียง พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็ลุกขึ้นเดินสวนเข้าห้องน้ำไป ผมรู้สึกไม่ชินเพราะเพิ่งเคยนอนห้องเดียวกับเมินโหยวผิงครั้งแรก

แล้วนี่ผมจะต้องนอนเตียงเดียวกับเขาจริงๆ หรอ...

เอาวะ แค่เตียงเดียวกันจะเป็นไรไป

ผมแต่งตัวเสร็จก็พุ่งลงเตียงฝั่งหนึ่ง นอนพลิกไปพลิกมาพยายามไม่คิดฟุ้งซ่าน ผมกับเมินโหยวผิงก็ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมาหลายกรวยแล้ว แค่นอนเตียงเดียวกันแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกน่า

แต่เหมือนผมจะเหนื่อยหรือไม่เตียงนี่ก็นุ่มสบายเกินไป ผมนอนกลิ้งไปมาสักพักก็เคลิ้มหลับ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ห่มผ้านอนแท้ๆ แต่คืนนั้นผมไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิด

แถมรู้สึกอุ่นดีเสียด้วย...





---แถม---

“ฉันยอมนอนเตียงเดียวกับนายไม่ได้แปลว่านายจะมาทำรุ่มร่ามได้นะ” เซี่ยอวี่ฮัวที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงพูดเสียงแข็ง ไม่รู้ว่าเขาตัดสินใจถูกหรือผิดที่ใจอ่อนยอมมาพักที่เดียวกับเฮยเสียจื่อที่กำลัง ‘แต๊ะอั๋ง’ เขาอยู่คนนี้

อันที่จริง จะเรียกว่าใจอ่อนหรือว่าแพ้ลูกตื๊อดีล่ะ เขาอุตส่าห์หนีมาถึงเกาะไหหลำโดยไม่บอกใครสักคน แต่เฮยเสียจื่อกลับตามเขามาได้ถึงที่พัก สถานการณ์แบบนี้คนอื่นคงต้องเรียกว่ากัดไม่ปล่อย แต่สำหรับอสรพิษเจ้าเล่ห์อย่างเฮยเสียจื่อ เซี่ยอวี่ฮัวเรียกว่า ‘รัดไม่ปล่อย’

“โธ่ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่วางมือเฉยๆ เอง” คนที่นอนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตัดพ้อน้อยใจ จนคุณชายแห่งสกุลเซี่ยอยากจะหันไปศอกใส่เหลือเกิน

“นายจะวางมือตรงไหนก็วางไป แต่อย่ามาวางบนเอวฉัน แล้วก็ถอยออกไปด้วย มันอึดอัด!” เซี่ยอวี่ฮัวพยายามใช้ไหล่ดันแผงอกคนที่นอนเบียดตัวชิดอยู่ด้านหลังให้ถอยไป แต่นอกจากมันจะไม่ขยับแล้วเจ้าของแผงอกนั้นยังเบียดตัวเข้ามามากกว่าเดิมอีกต่างหาก

เซี่ยอวี่ฮัวพลันยันตัวขึ้นหันมองคนที่นอนเบียดตน ในห้องที่มืดทึบมีเพียงแสงจันทร์สลัวทำให้เขาไม่สามารถเห็นสีหน้าคนที่กำลังยิ้มทะเล้นอยู่ได้

“ถ้านายยังรุ่มร่ามอีกฉันจะส่งนายไปนอนบนพื้น” เซี่ยอวี่ฮัวยื่นคำขาด

“แค่กอดเอง...”

“ไม่”

“ผมหนาวนะ”

“ผ้าห่มก็มี”

“ก็มันไม่หายหนาว”

“งั้นไปนอนในตู้เสื้อผ้า”

“โธ่...”

“หรือจะไปนอนข้างนอก” เซี่ยอวี่ฮัวยื่นคำขาดสุดท้าย อีกฝ่ายพลันเงียบไปทันที พร้อมกับถอยห่างออกไปนอนฝั่งตัวเอง

เซี่ยอวี่ฮัวล้มตัวนอนอีกครั้ง เหลือบมองคนอีกฟากของเตียงก่อนจะนอนตะแคงหันหลังให้แล้วหลับตา นอนฟังเสียงคลื่นลมและความเคลื่อนไหวของคนข้างๆ แต่ไม่นานก็เคลิ้ม

ในขณะนั้นเอง เซี่ยอวี่ฮัวก็พลันรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวบนเตียง คนข้างๆ เริ่มขยับเข้ามาใกล้อีกครั้ง เซี่ยอวี่ฮัวลืมตาโพลงแต่ยังคงนอนนิ่งราวกับจะรอดูว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร

เฮยเสียจื่อรั้งผ้าห่มของเซี่ยอวี่ฮัวขึ้นคลุมไหล่ เกลี่ยปลายผมของคนตรงหน้าเล่นเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ เมื่อร่างที่หันหลังให้ยังไม่มีปฏิกิริยาว่าจะหันมาศอกใส่ เขาก็ค่อยๆ เลื่อนมืองไปวางบนเอวของร่างเพรียว แล้วยิ้มออกมาบางๆ

วินาทีนั้นเซี่ยอวี่ฮัวแทบกลั้นลมหายใจ นิ่งรอต่อไปสักพักก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีก เขาแอบพ่นลมหายใจเบาๆ แล้วหลับตา คิดว่าจะยอมปล่อยคนขี้แต๊ะอั๋งไปสักครั้ง

แบบนี้ก็อุ่นดีเหมือนกันนะ


------------------------------------


มะ...มีแค่นี้ล่ะค่ะ....แค่นี้จริงๆ...
ตัดจบได้น่าเกลียดมาก แถม ooc ด้วย ขอโทษค่ะ T^T
เป็นการมโนที่มั่วมาก มั่วสุดๆ มาทะเลแต่ยังไม่ทันลงทะเลกันเลย //แย่มาก
ตอนแรกก็จะเขียนเที่ยวทะเลธรรมดา ไปๆ มาๆ ไม่รู้ยังไงเอาหัวข้ออื่นมายำรวมด้วย ฮือ ขอโทษค่ะ
สัญญาว่าจะส่งของขวัญพิเศษไถ่โทษย้อนหลังแน่ๆค่ะ
ขอโทษจริงๆค่าาาาาาา ;w;

Narakas
Narakas
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 263
Points : 3812
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทิเบต

ขึ้นไปข้างบน Go down

[to my secret]iarladiel Empty Re: [to my secret]iarladiel

ตั้งหัวข้อ by ด้วงผิงเสีย Tue 14 Feb 2017, 12:18

น่าร้ากกก ฮันนีมูนกันค่ะ
ด้วงผิงเสีย
ด้วงผิงเสีย
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 29
Points : 2656
Join date : 18/01/2017
Age : 36

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ