Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[To my Secret] SB_Gray

2 posters

Go down

Secret - [To my Secret] SB_Gray Empty [To my Secret] SB_Gray

ตั้งหัวข้อ by sb-gray Sun 28 Dec 2014, 18:12

สวัสดีค่ะะะะ ขอรีเควสเลยนะคะ ///_\\\ จะเป็นฟิค แฟนอาร์ต วิดีโอ หรืออะไรก็ได้ตามสะดวกเลยค่ะ

1.สามพี่น้องอู๋เวลาอยู่ด้วยกัน (ขออารองหล่อๆ #ไม่รู้เลยว่าอวยใคร)
2.เรื่องของซื่ออากง ปู่เอ้อร์ และอาจารย์แม่
3.แก๊งสามเหลี่ยมเหล็กเล่นไพ่นกกระจอก
4.ปู่ย่าเก้าสกุลใหญ่แบบรั่วๆ (ไม่จำเป็นต้องครบเก้าคนก็ได้ค่ะ)
5.นายน้อยกับเสี่ยวเกอเวอร์ชั่นสลับนิสัย (อยากเห็นนายน้อยเงียบ เสี่ยวเกอรั่ว 555)

เสร็จแล้วค่ะ แฮ่ ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ Very Happy

sb-gray
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 5
Points : 3430
Join date : 25/12/2014
ที่อยู่ : เกาะตามเสื้อผ้านายน้อย

ขึ้นไปข้างบน Go down

Secret - [To my Secret] SB_Gray Empty Re: [To my Secret] SB_Gray

ตั้งหัวข้อ by Berry _ Mon 26 Jan 2015, 00:55

ส่งซีเครทค่า

ขออนุญาตเลทนิดนึงนะคะ พอดีทำงานวันหยุดด้วยก็เลยเพิ่งได้กลับมาจัดการ
จัดรีเควสแรกไปให้ค่ะ

"สามพี่น้องอู๋เวลาอยู่ด้วยกัน (ขออารองหล่อๆ #ไม่รู้เลยว่าอวยใคร)"





ไม่รู้อารองจะหล่อได้อย่างใจคุณซีเครทมั้ย แฮ่

ขอโทษในความช้าและกากของเราด้วยค่า /โขกหัวสามแสนรอบ









[OS] โต๊ะน้ำชาสามที่นั่ง ในบ้านตระกูลอู๋







“เอ้อร์ไป๋..ซานเซิ่น”

พี่ใหญ่เจ้าบ้านตระกูลอู๋คนล่าสุด เอ่ยชื่อน้องชายทั้งสองงเพราะความคิดถึงหลังจากมองดูรุปเมื่อครั้นยังเด็ก ตั้งแต่ที่เขากลับมาจากงานไกลบ้าน ก็ไม่ได้เห็นหน้าค่าตาน้องสิองคนนี้


คนเป็นพี่ก็คิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันสามพี่น้องบ้าง


“เสี่ยวเสียกลับมาจากโรงเรียนแล้วค่ะคุณ”

ภรรยาคนสวยของอี้ฉยงเอ่ยมาออกเสียงมาจากด้านหลังเขา เธอคงยืนอยู่ซักครู่หรนึ่งจึงได้เอ่ยทักทาย พร้อมเจ้าตัวแสบ เสี่ยวเสีย ดวงใจของเขา ภรรยา และคนทั้งตระกูลอู๋ นายน้อยสามผู้สดใส

“เสี่ยวเสียกลับมาแล้วเตี่ย” เสียงใสเอ่ยกับคนเป็นพ่อก่อนโผเข้ากอดอย่างคิดถึง แต่ไม่ยอมปล่อยเลย ภรรยาคนสวยของเขาจึงจำเป้นต้องดึงลูกชายตัวแสบออกไป และพาไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อน






“เสี่ยวซาน ออกมาได้แล้ว จะไปแอบอยู่ตรงนั้นทำไม”



พี่ใหญ่เอ่ยทักเสียงดังขึ้นนิดหน่อย เมื่อภรรยาพาลูกชายของเขาออกไป น้องชายคนเล็กที่เขาผู้เป็นพี่คิดถึงและเป็นห่วงก็ออกจากที่ซ่อนเดินช้า ๆ มาใกล้ ๆพี่ชายของตัวเอง ก่อนยิ้มให้ อี้ฉยงมองแล้ว ดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน





“นั่งก่อนสิ เสี่ยวซาน”
“อืม ฉันก็มาหาพี่ก็เพราะอยากให้พี่เชิญผมนั่งนี่แหละ อยากดื่มชาบ้านพี่ด้วย”





อี้ฉยงมองน้องชายคนเล็ก เขารู้ดี รู้ทันกัน เจ้าน้องตัวแสบคนนี้ทุกอย่าง อี้ฉยงเดินวนกลับไปที่ที่ชุดโต๊ะชาทีอยู่ชิดริมผนังเป็นมุมชายามค่อนค่ำที่ดี น้องชายคนเล็กของเขานั่งลงอีกฝั่งในขณะที่เขานั่งลงอีกฝั่งและกำลังจะรินชาให้น้องแต่กลับถูกห้าม
“มา ๆ ฉันรินเอง ๆ “




อี้ฉยงปล่อยมาจากกาชาที่ยังอุ่น ๆอยู่แม้วางทิ้งไว้ได้พักใหญ่ ซานเซิ่งรินชาที่ละแก้ว เลื่อนชาแก้วแรกมายังพี่ชายคนโตและเผื่อตัวเองอีกแก้ว






“เจ้าสาม เผื่อพี่รองของแกอีกซักแก้วสิ”


ไม่ทันเท่าไวความของเสียง ซานเซิ่งของพี่ชายทั้งสองก็รับรู้แล้วว่ามีผู้มาใหม่ พี่ชายคนโตอย่างอี้ฉยง หันไปหาตามเสียงที่ลอยมาจากอีกทางของคนใหม่ อี้ฉยงยิ้มรับน้องชายคนรองบาง ๆ น้องชายคนรองจอมจองระเบียบและเข้มงวด มาพร้อมกับขนมราคาแพงที่น้องคนรองชอบรับประท่านกับชาเจ้าประจำอยู่เสมอ เอ้อร์ไป๋เดินเข้ามาที่โต๊ะชุดนั้นและนั่งลงที่เก้าอี้ตัวสุดท้ายที่มีอยู่ในชุด เขานั่งลงอย่างสงบและ พร้อมพูดคุย โดยวางขนมเจ้าเดิมอยู่ใกล้ ๆเพียงเอื้อนมือหยิบถึงกันทุกคน





“สวัสดีพี่ใหญ่”



อี้ฉยงมองน้องคนรองและยิ้มกว้างขึ้นจากเมื่อครู่ เอ้อร์ไป๋เอียงตัวมองพี่คนโตอย่างไว้เชิงดูน่าตีน่าเตะสำหรับพี่ใหญ่แบบเขามาก จนอี้ฉยงต้องเอ่ยทักว่า นี่พี่ใหญ่ไม่ใช่ลูกค้ามากเรื่องที่แกเคยเจอที่โรงเตี๊ยม


หลังจากนั้นก็ถึงจะได้หัวเราะพร้อมกับซักครั้งบนโต๊ะชาชุด เก้าอี้ สามที่
สามพี่น้องตระกูลอู๋





“อืม วันนี้ลมหอบอะไรมาหาฉัน น้องชายสุดที่รักของฉันทั้งสองคน” อี้ฉยงเอ่ย พลางจิบชาที่อยู่ในมือจากน้องคนเล็ก และขนมแสนอร่อยจากน้องคนรองอีกมือหนึ่ง เขากินทีละอย่างอย่างตั้งใจ


ไม่ได้เจอกัน...เราสามคนพี่น้องแทบจะไม่ได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา นับได้ว่าเป็นเวลานานจริง ๆ เท่าที่อู๋อี้ฉยงคิด เขากลับจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาเจอพี่น้องที่เขารักทั้งสองคนครั้งล่าสุดเมื่อใด




เป็นความรู้สึกที่หวนคิดถึง เมื่อเขาได้เจอหนึ่งในคนในครอบครัวไม่กี่คนที่เขาสามารถพึ่งพิงหัวใจในยามอ่อนแอ หรือ อยากให้อีกฝั่งหนึ่งพึ่งพิงเช่นกัน อยากให้สองคนนี้มันคิดถึงเขาผู้พี่ซักเพียงนิด




“พี่ใหญ่อย่าทำหน้าแบบนั้น ขนมของฉันที่ซื้อมามันอร่อยมากจนพี่ต้องเบ้หน้าแบบนั้นเลยรึ” เอ้อร์ไป๋เอ่ยหยอกเย้าพี่ชายตามฉบับของตัวเอง บุคลิคมาดนิ่ง เจ้าระเบียบ แบบแผน รอบรู้ไปเสียทุกเรื่องของเอ้อร์ไป่เป็นสิ่งที่พี่แบบเขาจำได้ดี เจ้าเด็กคนนี้ใช้ความรู้ของตัวเองช่วยเขา และเจ้าน้องตัวแสบอย่างซานเซิ่นและครอบครัวตระกูลให้พ้นภัยและความเดือดร้อนมาหลายต่อหลายครั้ง




“พี่ใหญ่ก็... ชาบ้านพี่ก็รสชาติดี หรือพี่หยิบแก้วที่มันเคยใส่อะไรไปจิบ ชาเสียรสไปแล้วงั้นหรือ” ซานเซิ่นพูดแทรกเสริมขึ้นมา เอ้อรไป๋หันไปหาซานเซิ่นพร้อมยกยิ้มขำ แต่เจ้าสามกลับหัวเราะออกมาเสียงดัง จนน้ำตาไหล ไม่รู้นึกขำอะไรออกมานักหนา ซานเซิ่นขำจนเกือบตกเก้าอี้จากโต๊ะชุดนี้แต่ดีที่คว้าแขนพี่รองของตัวเองไว้ทัน


“นี่ ..”
น้องสองคนหันมาที่เขา ตามเสียงเรียกของพี่ใหญ่ ทั้งสองหยุดมือที่จะยกจิบชา ไว้แก้วลงบนโต๊ะ มองพี่ใหญ่อย่างอี้ฉยงอย่างตั้งใจ




“ฉันดีใจที่เป็นพี่ของพวกแก”


เป็นประโยคที่อยากจะพูดออกมานาน จากปากของคนเป็นพี่ มีน้อง น้องสองคนที่เป็นแค่เจ้าสองคนนี้ เอ้อร์ไป๋ และซานเซิ่น ถึงจะแสบสรรค์ จะเจ้าเล่ห์ หรือตัวทำไม่ดี



แต่มันก็เป็นน้องที่ดีที่สุดของ อู๋อี้ฉยงผู้นี้


เขาได้ดูแลน้องต่อจากผู้เป็นพ่อที่ลาลับโลกนี้ไปแล้ว แม้ไม่นาน และคิดว่าไม่ได้ดีกว่าผู้เป็นพ่อ แทบไม่ได้แม้ครึ่งแต่นั่นทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นพี่ใหญ่ที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นสองคนเติบโตไปและได้ทำในสิ่งที่ตนเอง อย่างที่พวกมันได้เคยเอ่ยไว้ตอนเด็ก ๆ



“อยู่ ๆ ก็อยากพูดไม่มีอะไรหรอกหน่า “ อู๋อี้ฉยงตัดบทก่อนชาในแก้ว ขนมในมือจะกร่อยไป

เอ้อร์ไป๋ก้มหน้าลง กินขนมที่เขานำมาเอง ซานเซิ่นยกน้ำจิบอย่างตั้งใจกว่าเดิม อี้ฉยงมองน้องสองคน แล้วจึงยกยิ้มออกมา




“มา ๆ พี่ใหญ่ ผมรินชาเติมให้”
“เอ้าพี่ใหญ่ ขนมห่อใหม่ นี่เจ้านี้ ฉันจำได้ว่าพี่ชอบ”









เอ้อร์ไป๋และซานเซิ่งหันกลับมาสนใจของในมือพี่ใหญ่ เอาอกเอาใจจนเกินไป แต่พี่ใหญ่อย่างเขาก็ยิ้มออก





“และ..ขอบใจที่มาหา” พี่คนโตเอ่ยออกมาเสียงบางเบา และยกชาแก้วที่ซานเซิ่นรินให้จิบบ้างสลับกับขนมชองเอ้อร์ไป๋อีกครั้ง มันทั้งสองอย่างกำลังจะหมด


ช่วงเวลาพี่น้องรวมกันที่ไม่ได้พบเจอมานาน





“พูดแบบนั้นได้ไงพี่ใหญ่ เพราะพี่ใหญ่แท้ ๆ ชากร่อยหมด ชาบ้านพี่รสดี ที่หนึ่งเลยนะ”
“ขนมที่ฉันซื้อมาก็จืดสนิทว่ะ”


น้องทั้งสองก่นว่าเขา แต่ก็มาพร้อมรอยยิ้ม











เขาเชื่อว่าน้องทั้งสองคงคิดไม่ต่างไปจากกัน เขารู้ดี เพราะนี่คือพี่น้องตระกูลอู๋
พวกเขารักใคร่ ต่างรู้ดี และแสดงออกมาในวีที่แตกต่างตามแบบฉบับของตัวเอง










“เล่นเอาฉันไม่อยากไปเสี่ยงตายคว่ำกรวยเลย พี่ชาย “ซานเซินเอ่ยออกมาตรง ๆ น้องคนเล็กกล่าวต่อว่า จริง ๆ วันนี้ตั้งใจจะมาลาพี่ชายคนโตที่ไม่ได้เจอนานไปคว่ำกรวยในที่ไกลแสนไกลที่หนึ่ง ไม่เชิงว่าจะไม่ได้กลับมาแต่หากมันอันตรายและท้าทายที่สุดเท่าที่อู๋ซานเซิ่นเคยนึกอยากไป มันทำให้เขานึกลองอยากเสี่ยง แต่หากว่าเขาเป็นหนี้ชีวิตพี่ใหญ่เขาของ ชีวิตนี้เป็นของตระกูลอู๋



“ฉันมาขอให้พี่ใหญ่อวยพรให้ฉันเดินทางไปในที่ไกลแสนไกล ไม่มีพรพ่อ ก็เอาพี่ใหญ่นี่แหละ อย่างน้อยก็คุ้มกะลาหัวฉันหน่อย”
“ที่จริงแกมา พี่ก็อยากจะบอกแกว่าไม่อยากให้ไป” อี้ฉยงเอ่ย เพราะเห็นน้องคนเล็กลุกจากโต๊ะไปแล้ว ตั้งใจจะมาแค่นี้จริง ๆเขาคิดว่าน้องคนเล็กคงตั้งใจไว้แบบนั้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอเอ้อร์ไป๋ด้วย น้องคนรองของอี้ฉยงคนนี้เจ้าซักเจ้าถาม พอได้ลองรู้ว่าซานเซิ่นจะไปคว่ำกรวยอีก ก็ยิงรัวคำถามแบบที่ซานเซิ่งต้องถอยกรูด ไม่อยากตอบซักคำถาม




“ฉันรู้ว่าแกเป็นห่วง เจ้ารอง...”
“เรียกพี่รองสิวะ บอกไม่เคยจำ”
“เจ้ารอง แกจะปล่อยแขนฉันมั้ย”
“ไม่ให้ไปโว้ย แกไม่เห็นรึไงว่าพี่ใหญ่เป็นห่วงแกแค่ไหน แกยังทำให้พี่ใหญ่ทุกข์ใจอีกด้วยที่ต้องมานั่งเป็นห่วงแก “



อี้ฉยงมองน้องสองคนเถียงกันอย่างเงียบ ๆ เอ้อร์ไป๋รู้ดีว่าเขาเป็นห่วงซานเซิ่นในเรื่องนี้จึงรั้งห้ามน้องคนเล็กแต่ซานเ:bjoเป็นคนดื้อ และอยากรู้อยากลองอยากเห็นอยากทำ เขาไม่เคยห้าม แต่หากมันอันตราย เอ้อร์ไป๋ดึงแขนน้องของเขาเอาไว้ ขนาดตัวที่สูงกว่า แม้จะไม่เพรียวเท่าซานเซิ่นแต่ก็รั้งเจ้าน้องแสบเอาไว้ได้นิ่งสนิท


“แกจะไม่ให้ฉันไปเรอะ เจ้ารอง”
“ก็บอกแล้วไงวะ พี่ใหญ่เขาจะต้องมานั่งทุกข์ เป็นห่วงแก แกจำคราวที่แล้วได้มั้ย ที่แกกลับมา ซมซาน บาดเจ็บไปทั้งตัว แผลพรุนไปหมด จนเลือดอาบตัว ถ้าไปโรงพยาบาลไม่ทันตอนนั้น...”
“ก็คิดว่าจะตายแล้วเหมือนกันตอนนั้นน่ะ แต่ก็คลานกลับมาหาพี่ก่อนไง อย่างน้อย ถ้าจะตายก็จะได้มาขอโทษ...”


ฟังน้องสองคนเถียงกัน จนหยุดอยู่ที่ประโยคของวานเซิ่น เขาไม่พูดต่อ แต่ก้มหน้าลง และเอ่ย

“ขอโทษ..”

เสียงขอโทษเบา ๆ เอ้อร์ไป๋นึกอึ้งไปจนปล่อยมือจากแขนซานเซิ่น

“แต่คราวนี้สัญญาแล้วว่าจากนี้ต่อให้ไปไกลสุดลูกหูลูกตา ฉันก็จะกลับมาหา..หาพี่ ทั้งสองคน”




เอ้อร์ไป๋เงยหน้ามองน้องของเขาด้วยความอึ้งและประหลาดใจ ด้วยความสูงและแรงของคนที่แข็งแรงและไม่เหนื่อยล้าเท่าคนที่วิ่งไปวิ่งมาแบบซานเซิ่น เออร์ไป๋ดึงตัวน้องชายเข้ามา


เขากอดน้องรอบคอน้องชายอย่างซานเซิ่นแนบแน่น




พี่ชายคนโต นั่งมองน้องสองคน ถึงจะทะเลาะ เถียงกันทุกครั้งที่เจอ แต่นี่คือครั้งแรกที่ได้เห็นอะไรแบบนี้

“แกจะไปกี่วัน”
“ไม่รู้”
“แกจะกลับเมื่อไหร่”
“ไม่รู้อีกเหมือนกัน”
“อย่าบาดเจ็บ”
“ไม่รับปากโว้ย”
“พี่ใหญ่เป็นห่วงแก”


เอ้อร์ไป๋ปล่อยกอดน้องชายและเสมองไปทางพี่ใหญ่ผลักหลังซานเซิ่นไปหาอี้ฉยง
น้องคนรองมองพี่ใหญ่ไล่ตามหลัง อี้ฉยงคิดในใจว่า เพราะก่อนหน้านี้เอ้อร์ไป๋สาละวนตามหาน้องชายที่หายหน้าไปเป็นชาติ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ พี่ใหญ่อย่างเขาเอ่ยอย่างคิดถึงว่าเจ้าสามหายหน้าไปนาน ไม่ติดกลับมา พาลนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เอ้อร์ไป๋หลุดออกมาเมื่อครู่ก้รู้สึกกังวล เอ้อร์ไป๋ไม่รอช้าที่จะตามหา อันที่จริงแล้ว เมื่อนานจนผิดสังเกต เอ้อร์ไป๋ก็ออกตามหาน้องของตัวเองล่วงหน้าไปก่อนแล้ว และอี้ฉยงก็ทำได้เพียงแค่รอผล เพราะน้องรองเขาเขาแค่บอกให้เขารอ ไม่ต้องทำอะไรเลย เขาจะเป็นคนทำทุกอย่างให้เองและทำใจให้สบายเท่านั้น




“เสี่ยวเอ้อร์กับพี่เป็นห่วงแก เสี่ยวซาน”


ซานเซิ่นพยักหน้ารับ
“พี่เชื่อว่า ที่วันนี้เรามารวมตัวมาเจอกันได้ ก็ด้วยใจที่ตรงกัน พี่คิดถึงพวกแก และเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันแบบนี้”

อี้ฉยงหยุดพูดไปครู่หนึ่ง และเอ่ยต่อ น้ำเสียงผิดรูปไปเล็กน้อย


“เวลาแบบนี้ เวลาพี่น้อง อยากให้มันอยู่ไปนาน ๆ “


อี้ฉยงยกมือโบกข้างหน้า เมื่อเห็นน้องรอง น้องสามของเขา ขมวดคิ้วเป็นเชิงถามแล้วว่าเป็นอะไร

เขาแค่คิดถึง แต่น้ำตาก็ดันออกมาให้เห็นเสียเอง

“อย่าลืม มาหาพี่ที่บ้านบ่อย ๆนอกจากพี่ก็มีเจ๊ใหญ่ของพวกแก และเสี่ยวเสียให้พวกแกได้พูดคุย”


“ครอบครัวของพวกแกอยู่ที่นี่ ฉันมีครอบครัวแล้วก็ใช่ว่าจะตัดขาด”


“ฉันยังเป็นพี่ชาย พี่ใหญ่ของพวกแกเสมอ”


หลังจากนั้นก็เป็นเวลาแห่งความเงียบซักพักใหญ่ เอ้อร์ไปทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม ซานเซิ่นยังยืนนิ่งตรงหน้าเขาที่เดิม


และสามคนพี่น้องก็ร่วมช่วงเวลาร่วมกันที่แตกต่างจากครั้งอื่น ๆเล็กน้อย
พวกเขาในวันนี้อาจจะต้องดื่มน้ำตาแทนชารสดีเสียแล้ว





“พี่ใหญ่นี้นา..”
“พี่ใหญ่อย่าร้องไห้เป่าปี่ยิ่งกว่าเสี่ยวเสียสิ เดี๋ยวมันได้ยินจะมาเป่าปี่ให้ฟังอีกคน”


ท่ามกลางเสียงเถียงระคนกัน แม้ไม่ได้เจอกัน อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันมานาน ก็ยังคงเป้นพี่น้องกันอยู่จนวันตาย สามพี่น้องตระกูลอู๋ที่รักใครกันจนไม่มีคำว่าจะแยกสายเลือดนี้ออกจากกันได้ ไม่ว่าอะไรก็จะช่วยเหลือกัน

"เฮ้อ..."
"อะไรเจ้าาสาม"
“คือว่านะ..พี่ใหญ่ เสี่ยวเสียมีพี่เลี้ยงมั้ย”


หลังจากประโยคนี้พี่สองคนก็หันมองหน้ากันแล้วก็เสหน้าไปอีกทาง เข้าใจกันเเล้ว


“แกจะไปเป็นพี่เลี้ยงเสี่ยวเสียรึไง ไม่ได้ให้อยู่กับแก ให้อยู่กับฉันเสียจะดีกว่า”
“เจ้ารอง ให้เสี่ยวเสียไปอยู่กับแก ก็ได้เป็นตาแก่หัวแข็งเจ้าระเบียบ”
“แกว่าฉันงั้นเรอะ”
“พี่ใหญ่ว่าไง ถ้าไม่ให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงเสี่ยวเสีย ก็จะไปคว่ำกรวยแล้วนะโว้ย กรวยอวบๆ แลกได้กับการให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงเสี่ยวเสีย ฉันจะเสี้ยมมันอย่างดี”
“แกพูดว่าเสี้ยมงั้นเรอะ เจ้าสาม”
“ก็ทำไมวะ”
“เอาหน่า ให้ก็ได้ ถ้าเสี่ยวซานจะไม่ไปคว่ำกรวยล่ะก็นะ แต่อย่าให้เสี่ยวเสียตากแดดตากลมมากจะไม่สบาย”
“พี่ใหญ่!”
“เสี่ยวเอ้อร์ เอาหน่า แกคงไม่อยากเห็นน้องแกปางตายแบบนั้นอีก รู้มั้ยเสี่ยวซานตอนนั้นฉันแทบจะบ้าตายตอนเห็นแกอ่บเลือดขนาดนั้น เสี่ยวเอ้อร์ก็แทบจะบ้าเหมือกนัน วิ่งวุ่นหาหมอที่เก่งที่สุดในแผ่นดินจีนมารักษาแกให้ไดจนหาย”
“เจ้ารอง แกเป็นห่วงฉันมากขนาดนั้นเลย ฉันล่ะประทับใจ”
“หุบปากไปเลยเจ้าสาม แกน่ะทำให้พี่ใหญ่เป็นห่วง ฉันก็เอง็เลยต้องวิ่งวุ่น”
“เอาหน่าเสี่ยวเอ้ร์ อย่าอ้างฉัน แกเองก้เป็นห่วงน้องจะบ้าตายเหมือนกัน รู้มั้ยเสี่ยวซานหลังจากนั้น พี่ใหญ่ของแกแค่บอกว่า ‘ใครกันที่มันทำเสี่ยวซาน’ พี่รองของแกก็วิ่งไปหาที่ทำแบบนั้นกับแก แล้วจัดการซะเรียบ”
“โว้ จริงรึพี่ใหญ่ ฉันล่ะรักพวกพี่จริง ๆ “
“ชวนคลื่อนไส้จริง ๆ “
“เจ้ารอง ! นี่พูดให้ซึ้งเว้ย”
พี่ใหญ่อย่างอี้ฉยงมองน้องสองและร่วมหัวเราะไปด้วยกัน



บทสนทนาที่ทำให้พี่น้องได้แนบแน่นยิ่งขึ้น มันเป็นแค่บทสนทนาธรรมดา แต่เปี่ยมด้วยพลัง










บางทีอู๋อี้ฉยงก็ชอบเวลาน้ำชา
ไม่ว่าจะน้ำชาช่วงไหนก็ตาม









จบ

------------------------------------------------------------

Berry _
Berry _
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 32
Points : 3543
Join date : 28/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ