Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[fic] สะใภ้ตระกูลอู๋ 1[ผิงเสีย/ฮัวเฮย]

3 posters

Go down

ฮัวเฮย - [fic] สะใภ้ตระกูลอู๋ 1[ผิงเสีย/ฮัวเฮย] Empty [fic] สะใภ้ตระกูลอู๋ 1[ผิงเสีย/ฮัวเฮย]

ตั้งหัวข้อ by kuramajoy Fri 19 Dec 2014, 19:41

บันทึกสะใภ้สกุลอู๋
AUfic บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
คู่ ผิงเสีย มีแว่นเล็กน้อยถึงปานกลางไม่มากไม่มายแต่บทเด่น (ห๊ะ)
(เกิดเพราะอยากแต่งอะไรเสื่อมๆ)


สวัสดีทุกคนครับ ผมอู๋เสีย นายน้อยสามแห่งตระกูลอู๋คือผู้ที่จดบันทึกเรื่องราวทั้งหมดในสมุดเล่มนี้ มีคนบอกว่าผมเป็นหนอนหนังสือนึกอะไรได้ก็เขียน เรื่องราวในบันทึกนี้คงเป็นเพียงแค่สมุดบันทึกการบ่นอันยาวเหยียดของผมเท่านั้น หากไม่มีใครสักคนหยิบมันขึ้นไปอ่าน  ซึ่งผมเองก็ไม่ต้องการให้ใครได้หยิบมันไปอ่านแน่
เพราะมันรวบรวมเอาเรื่องน่าอายและเรื่องที่ไม่อาจให้ผู้ใดได้ล่วงรู้เอาไว้มากมาย

ผมจะบ้าเขียนขึ้นมาทำไม นั่นสินะ บางครั้งผมก็คิดเช่นนั้นแต่หากไม่มีพื้นที่ให้ผมได้ระบายผมคงได้อกแตกตายเป็นแน่แท้

ผมคืออู๋เสีย นายน้อยสามแห่งตระกูลสาม ครอบครัวของผมประกอบด้วย พ่อซึ่งเป็นลูกชายคนโต อารอง และอาสาม อีกทั้งยังมีอาข้างบ้านที่ชอบมาเอ็นดูผม

ผมเป็นหลานคนเดียวที่ถูกตามใจมาตลอด เป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ดูมีอนาคตไกลแถมผู้เป็นอายังโอ๋สุดๆถึงขนาดเปิดร้านขายของเก่าให้ในหังโจว ถึงแม้ผมจะไม่ใช่หนุ่มน้อยหน้าตาดีแต่ด้วยคุณสมบัติ …พ่อรวย จบการศึกษาสูง มีกิจการเป็นของตนเอง ก็คงทำให้สาวๆหันมาแลผมได้ไม่ยาก

ทว่ามันกลับไม่มีเลย ใช่ครับ ไม่มีสาวคนใดมาเหลือบสายตามามองผมเลยสักนิด ทำไมกัน ผมเป็นลูกโทนหากผมไม่มีลูกหลานอีกผมคงทำให้ตระกูลอับอายขายหน้า เพราะอารองของผมนั้นคั่วทั้งอาสามและอาข้างบ้าน ..แค่กๆ ไม่สิ เพราะอาของผมทั้งสองคนนั้นไม่สะดวกใจที่จะหาสตรีมาเคียงคู่

สุดท้ายผมทนไม่ไหวจนต้องไปดื่มเหล้าร้องห่มร้องไห้ให้กับลูกน้องทั้งหลายของอาสาม …นั่นล่ะครับ จุดเริ่มต้นความซวยบัดซบสะโพกครากของผมมันเริ่มจากตรงนั้น…..
ผมเอาแต่บ่นว่าอยากได้เจ้าสาวมาตบแต่งเข้าตระกูลสักคน ผ่านไปเดือนเศษผมก็ได้มาจริงๆ …พ่อผู้บังเกิดเกล้าหาเจ้าสาวผู้งดงามมาให้ผม เขาผู้นั้นมีรูปร่างงดงาม ใบ
หน้าได้รูปสมบูรณ์แบบ นัยน์ตาคมสีดำสนิท เรือนผมซอยสั้นพลิ้วไหวราวกับขนแมว มองโดยรวมเขาสวยงามประหนึ่งศิลปะชั้นสูง ….

หา อะไรนะ ผมได้เจ้าสาวงามล้ำถึงเพียงนี้แล้วบอกว่าซวยได้อย่างไรหรือ …คุณครับมันจะไม่มีปัญหาเลย ถ้าเขาคนนั้น….ไม่ได้เป็นผู้ชาย!

เจ้าสาวของผมเป็นผู้ชาย….. สะใภ้ตระกูลอู๋กลับกลายเป็นผู้ชายที่แมนกว่าคนเป็นสามีทุกกระเบียดนิ้ว..

************************************************

ยามเช้าของผมมักจะเริ่มด้วยกาแฟสักถ้วย เสียงเอะอะของของพวกอาที่วิ่งเล่นไล่จับกัน กลิ่นหอมของดอกท้อในสวนหน้าบ้าน ก่อนที่จะจุดบุหรี่สูบสักมวน ทว่าในวันนี้ยามเช้าของผมเริ่มต้นด้วยประโยคสั่งตายของบิดาผู้ให้กำเนิด

“อู๋เสีย แกเองก็อายุอานามจะสามสิบแล้วคิดเรื่องแต่งงานบ้างหรือยัง” มันเป็นคำสั่งที่โคตรจะทำร้ายจิตใจของผมเหลือเกิน ผมจำได้ว่าในวันนั้นผมแทบล้มลงไปกระอักเลือด เขียนไดอิ้งเมจเซจว่าอยากมีเมีย

“โธ่ เตี่ยก็รู้ว่าใครจะมาสนใจผมกัน” ผมหยิบชาร้อนบนโต๊ะขึ้นมาจิบ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเอะอะตรงทางเดินพร้อมกับเค้าหน้าหล่อเหลาราวกับราชาของอารอง ว่าก็ว่าเถอะ ทั้งตระกูลนี้ผมคิดว่าอารองสมควรเป็นผู้นำตระกูลมากกว่าพ่อผมล้านล้านล้านเท่า

อีกทั้งอารองยังโคตรจะเป็นที่นิยมสำหรับสาวๆอีกต่างหาก ผมพลันรู้สึกว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรมขึ้นมา

“หืม “พ่อของผมกางหนังสือพิมพ์นั่งเท้าคางบนโต๊ะกินข้าว ผมเอียงคอมองรู้สึกอยากถามเหลือเกินว่าผมไปล่อลวงแม่มาอีท่าไหนถึงยอมตกลงปลงใจกับพ่อแถมก่อนตายยังทิ้งทรัพย์สมบัติไว้มากมาย

“จริงๆผมก็มีเล็งๆไว้คนหนึ่งนะครับ” ผมยกชาร้อนมาจิบอีกครั้งในใจนึกถึงอาหนิงคนสวย รุ่นน้องมหาลัยสวยสะคราญ เธอเป็นสาวเซ็กซี่รูปร่างดีเกินบรรยายแม้จะห้าวไปเสียหน่อย อีกคนก็เพื่อนสมัยเด็กชิ่วชิ่วน้อยผู้น่ารัก เธอสดใสอ่อนหวานราวกับดอกไม้แรกแย้ม ไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็งามจนเกินเอื้อมผมทั้งนั้น

“คงไม่ใช่เจ้าเด็กข้างบ้านอีกหรอกนะ” เสียงทุ้มของอาสามดังขึ้น เรือนร่างสูงโปร่งสมส่วนชายชาตรี ใบหน้าติดเค้าลางความน่ารักดูเป็นหนุ่มอารมณ์ดี นัยน์ตาเรียวมองมาที่ผม ดูจากสภาพที่ผมยังเปียกปอนบ่งบอกว่าเขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ

“ไม่ใช่เสี่ยวฮัวหรอกนะ ตอนนั้นผมยังเด็กนะ” ผมแยกเขี้ยวเงยหน้ามองอาสาม เสี่ยวฮัวคือเด็กหนุ่มอายุอ่อนกว่าผมถึงสองปี เป็นเพื่อนข้างบ้าน พวกเราเติบโตมาด้วยกัน ใครใช้ให้เขาในสมัยเด็กมีร่างกายอ่อนแอจนแม่ของเขาต้องตั้งชื่อเขาและเลี้ยงดูเหมือนเด็กผู้หญิงเป็นการแก้เคล็ดจนผมเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆ ผมในวัยเยาว์จึงได้ขอเขาแต่งงานจนเป็นเรื่องให้ล้อเลียนมาจนถึงทุกวันนี้

รักแรกของผมเป็นเด็กผู้ชาย ให้ตายยังไงก็ให้คนอื่นรู้ไม่ได้

โชคดีที่เสี่ยวฮัวเป็นคนรู้ความ พอเราเติบโตจนรู้เพศกันและกันเขาก็ไม่ได้เอ่ยทวงยังคำสัญญาแต่งงานแม้สักครั้ง ขืนเขาทวงสิผมได้วิ่งหนีแน่

“ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้นเตี่ยหาให้เอาไหม” พ่อผู้บังเกิดเกล้าเอ่ยขึ้นทั้งที่ตายังไม่ออกไปจากหน้าข่าวของหนังสือพิมพ์ มือใหญ่พับม้วนหนังสือพิมพ์ในมือก่อนที่จะวางลง เท้าคางมองผมอย่างจริงจัง “เซ็กซี่ ขี้เล่น ช่ำชองกับว่านอนสอนง่าย เรียบร้อย ติดจะเย็นชา แกชอบแบบไหน”

อุ ไฟกับน้ำแข็ง ให้ผมเลือกงั้นหรือ นี่เตี่ยจะหาให้จริงๆหรือ…

“อืม งั้นขอเรียบร้อยดีกว่าถึงผมจะชอบคนขี้เล่นแต่สะใภ้ควรจะเรียบร้อยน่ารักเข้าไว้สิครับ” ผมหยอกเย้าเตี่ยตัวเอง ตอนนั้นไม่คิดเลยว่าเขาจะไปหามาให้จริงๆแล้วก็ เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย ติดจะเย็นชาตามคำพูดทุกประการ

“งั้นอีกคนยกให้คุณชายฮัวแล้วกัน”

“หา…” อีกคนอะไร ยกให้เสี่ยวฮัว? นี่พ่อผมพูดยังกับเก็บลูกหมาได้สองคนแล้วเอามาแบ่งปันกันเลย นี่เขาจะหาเจ้าสาวให้ผมจริงหรือเปล่า ไม่ใช่ไปเก็บลูกหมาลูกแมวอะไรมาให้นะ

“แกเลือกแล้วไม่ใช่หรือ นี่ฉันให้โอกาสแกก่อนเลยนะ” เตี่ยของผมคลี่ยิ้มราวกับรอเห็นเรื่องสนุก รอยยิ้มสดใสน่ารักราวกับเด็กหนุ่ม “งั้นอู๋เสีย แกควรเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวนะ”

วันนั้นผมเดินออกจากบ้านด้วยอารมณ์มึนงง คิดว่าเตี่ยคงล้อเล่น เจ้าสาวทั้งคนนะไม่ใช่จะเสกได้เองเสียหน่อย ผมก็ลืมเลือนมันไป ทำงานจวบจนผ่านมาวันที่สี่เสด็จป๋าถึงได้บอกให้ผมหยุดงานไปลองเสื้อเป็นเพื่อนกับเขา

“เตี่ยจะทำอะไรเนี่ย” ผมคำรามออกมาในยามที่ถูกคนตัดเสื้อวัดตัวจนวุ่นวายไปเสียหมด

“ถามอะไรแปลกๆก็เตรียมตัวไงะ” บิดาบังเกิดเกล้าไม่สนใจผมสักนิดก่อนที่จะขับรถผมไปส่งที่ร้าน ผมทำงานของตัวเองพลางคิดในใจว่าเตี่ยคงจะให้ไปเป็นเพื่อนงานวันเกิดคนรู้จักอีกกระมัง ผมยังจำได้ดี เตี่ยชอบบ่นอยู่เสมอว่าผมชอบเอาผ้าขี้ริ้วมาห่อตัวอยู่เรื่อย

ผมกลับไปทำงานตนเอง บ่นใส่หวังเหมิงได้ไม่กี่ชั่วโมงอารองก็โทรหาผม ท่าทีโมโหราวกับใครพรากของสำคัญของตนเองไป

“แกรีบกลับมา ..เตี่ยแกสั่งแบบนี้แต่ฉันไม่อยากให้แกมาเลย เปลี่ยนใจแล้วแกรีบหนีไปซะ”

ถ้อยคำสุดซึนของอารองทำผมมึนงงไปหลายชั่วยามก่อนที่จะตัดสินใจว่ากลับบ้านไปดูก่อนค่อยว่ากัน ผมเรียกแท็กซี่ทิ้งงานให้กับเหวังเหมิง ได้ยินเสียงโอดครวญไล่หลังแต่ผมไม่สนใจครั้นมาถึงบ้านตัวเองก็แทบจะกลับขึ้นแท็กซี่ไปใหม่

พระเจ้าช่วย นี่มันบ้านผมงั้นหรือ....

ผมเงยหน้ามองบ้านไม้สามชั้นที่คุ้นเคยมาบัดนี้มันถูกตกแต่งด้วยผ้าผืนแดงเปล่งปลั่ง ผ้าไหมชั้นดีถูกพาดอยู่หน้าประตู ริบบิ้นตกแต่งอย่างดงาม ราวกับบ้านของผมกำลังจัดงานแต่งงานอยู่

หือ งานแต่ง...ใครกับใคร ....ผมนึกถึงคนที่ยังไม่ได้ออกเรือนไปก็เห็นจะมีแต่อารองกับอาสาม แต่อารองไม่ใช่ควบสองเอาคุณอาสกุลเซี่ยกับอาสามอยู่หรือ ?
“นายน้อยสามมาทำอะไรตรงนี้” เสียงเข้มของชายหน้าบากดังขึ้น ผมดันกลับไปมองพานจื่อคนสนิทของอาสามแล้วก็ต้องอ้าปากค้าง ปกติเขาจะสวมใส่เสื้อผ้าเรียบ
ง่ายออกแนวดิบเถื่อน มาวันนี้กลับใส่สูทเรียบร้อย แม้แต่ผมเผ้าที่ไม่เคยจะหวีกลับถูกรวบดูเป็นผู้เป็นคน

ผมเพิ่งรู้ว่าพานจื่อหล่อขนาดนี้ รู้งี้แอบเชียร์อาสามให้เป็นกิ๊กกับเขาก็ดีหรอก

“มานี่เถอะครับ” มือของพานจื่อรั้งผมไปท่าทีดูรีบร้อน ผมถูกเขาลากวิ่งไปด้วยกัน

“มีอะไรหรือพี่ ? บ้านเรากำลังจะจัดงานหรือ” พอพูดออกไปพานจื่อก็หันมาทำหน้าตาตกตะลึงใส่ผม

“นี่นายน้อยไม่รู้หรือครับ “ เขาถอนหายใจก่อนที่จะรีบดึงผมไปยังสวนหลังบ้าน ผลักเข้าไปยังประตูหลัง พอเข้าบ้านไปเตี่ยของผมที่แต่งชุดสูทเต็มยศก็ฉีกยิ้มกว้าง

“ทำอะไรอยู่ แกรีบไปเปลี่ยนเสื้อเข้าสิ เจ้าสาวมารอแล้วนะ”

เจ้าสาว ? ผมมัวแต่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก บิดาที่เคารพรักรอไม่ไหวจึงลากผมเปลี่ยนเครื่องทรงเสียเอง รู้ตัวอีกครั้งก็ถูกจับใส่ชุดแต่งงานแบบจีนสีแดงสด ชุดพวกนี้ผมไม่ค่อยมีโอกาสสัมผัสเท่าไร เตี่ยจับมือผมเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นโชคดีที่แขกเหรื่อของเรามีเพียงคนในครอบครัวและพานจื่อเท่านั้นผมจึงไม่ต้องโชว์ใบหน้าเหรอหราให้ใครเห็นจนขายหน้า

“เตี่ยนี่มันอะไร” ผมมองอารองที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์สุดๆ อาสามที่ทำหน้าบิดเบี้ยว ....ไม่เห็นอาเซี่ยที่เป็นแฝดคนละสกุลตัวติดกับอาสาม

พูดก็พูดเถอะ ผมเกือบว่าคุณย่ามีชู้ตอนที่เห็นคุณอาเซี่ยที่มีใบหน้าเหมือนกันยังกับแกะกับอาสาม แถมทั้งสองคนยังชอบคลุกคลีกัน ..

เก่งแค่ไหนก็โดนอารองจัดการหมด..

“ยังมาอะไรอีก ก็งานแต่งของแกไง” สิ้นเสียงของเตี่ยประตูห้องนั่งเล่นก็ถูกเปิดออก พ่อผมปล่อยมือผมก่อนที่จะรีบไปนั่งที่เก้าอี้ด้านหน้า

“เจ้าสาวมาแล้วครับ” พานจื่อเรียกความสนใจของผมให้หันกลับไป เจ้าสาวของผมอยู่ในชุดแต่งงานสวมมงกุฎโบราณ ผ้าคลุมหน้าสีแดงปกปิดความงดงามของเธอไว้จนหมด ผมมองรูปร่างของเจ้าสาวแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่สูงน่าดูแต่ก็ไม่ได้อ้วน ซ้ำร้ายยังดูไหล่หนา..ผมคงคิดไปเองว่าเธอไหล่หนาเพราะชุดมันรุ่มร่ามไปเสียหน่อย

มือขาวที่โผล่พ้นชุดแต่งงานถือจอกสุรามาด้วยกันสองจอก เธอเดินอย่างเชื่องช้ามาเคียงข้างผมยื่นให้ผมหนึ่งจอก ผมรู้ดีว่ามันคือพิธีการยกน้ำชาให้แก่ญาติ

“เดี๋ยว...เรายังไม่ได้เตรียมอะไร แล้วการไหว้ล่ะครับ ไหนจะเรื่องสินสอด” การแต่งงานนั้นไม่ใช่ว่าผมรักแล้วจะแต่งได้ตลอด มันมีขั้นตอนยุ่งยากมากมาย แต่สิ่งที่เตี่ยผมทำแค่เอาผ้าแดงมาผูกหน้าบ้านแต่งตัวเจ้าสาวเจ้าบ่าวยกน้ำชาเป็นอันจบ ข้ามขั้นตอนไปล้านแปด..

“เอาน่า แค่นี้ล่ะ เดี๋ยวแกแต่งใหม่ก็ได้” น้ำเสียงเตี่ยผมเร่งเร้า เจ้าสาวคนนั้นใช้มือที่มีสองนิ้วยาวผิดปกติจับผมเอาไว้ ชั่วเวลาที่ผมหันไปพิจารณานิ้วของเธอผมก็ถูกดึงให้คุกเข้าเสิร์ฟน้ำชาให้เตี่ยรับเรียบร้อย

เฮ้ย เดี๋ยว......นี่มันอะไรกัน ..แล้วไอ้แต่งงานใหม่นี่มันอะไร จะแต่งกันหลายครั้งหรือ

“เสร็จพิธีส่งตัวบ่าวสาวได้” เตี่ยผมไม่ออกข้อความให้ขัดขืน พานจื่อจับมือผมดึงไปอีกทาง ผมอยากจะสะบัดเขาแล้ววิ่งหนีแต่กลับทำไม่ได้ ถ้าผมหนีงานหญิงผู้นั้นต้องเสียหน้าอย่างมาก แม้ว่าการแต่งงานจะทำไม่ถูกต้องหลักการสักอย่างก็ตามที

นี่คืออะไร การคลุมถุงชน ?

การคลุมถุงชนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ผมไม่เคยคิดว่าจะเจอกับตนเอง อาจจะเพราะบ้านผมค่อนข้างเป็นพวกหัวสมัยใหม่ เลิกพิธีธรรมเนียมโบราณที่จะต้องแต่งกับผู้ที่เหมาะสมแล้วกระมัง

ใช้เวลาไม่กี่นาทีผมก้มานั่งเกร็งอยู่บนเตียงของห้องตัวเอง ห้องที่เคยเป็นห้องเก็บหนังสือสะสมไปด้วยฝุ่นพลันถูกเปลี่ยนเป็นเตียงโรยกลีบกุหลาบ แถมด้วยผ้าแพรสีแดงที่พันมั่วๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำส่งๆไปเช่นนั้น ผมเริ่มสงสารฝ่ายเจ้าสาวแล้วสิ เธอคงจะเสียเกียรติน่าดู

คิดแบบนั้นผมก็ยิ่งหนีไม่ได้ ขนาดเจ้าบ่าวยังหนีแล้วเธอจะเหลืออะไร ผมล่ะอยากรู้เสียจริงว่าหญิงใจเด็ดที่ถูกทำร้ายด้วยความลวกนี้จะเป็นผู้ใด

‘ปิ๊บ’ เสียงโทรศัพย์ดังขึ้น มันคือเสียงของข้อความ ผมล้วงกระเป๋าเปิดดูข้อความ ผู้ส่งคือเสี่ยวฮัว

‘เป็นยังไงบ้าง ทางนี้เองก็วุ่นวาย หวังว่านายคงจะโชคดีกว่าฉัน เจ้านี่น่ารำคาญสุดๆ’

อะไรน่ารำคาญ? ....ผมลองกดโทรหาเขาแต่เสี่ยวฮัวกลับไม่รับสาย ท่าทีจะพบเจอเรื่องยากลำบากอยู่จนรับโทรศัพท์ไม่ได้ ผมเลยกดส่งข้อความหาเขา

‘เอาไว้ค่อยคุยกันนะ วันนี้เตี่ยจับฉันแต่งงาน ไม่รู้เกิดบ้าอะไรขึ้นมา’

เสียงลูกปัดดังขึ้น พร้อมกับประตูห้องผมที่เปิดออกกว้าง ผมเงยหน้าขึ้นมองยังเจ้าสาวในชุดรุ่มร่ามถูกพามาส่ง อดไม่ได้ที่จะลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า เท้าเหยียบปลายชุดเจ้าสาว ดูท่าทุลักทุเลราวกับไม่เคยใส่ของแบบนี้มาก่อน

ด้วยความเป็นเจ้าบ่าวผมรีบตรงไปประคองเธอ ครั้นได้สัมผัสมือข้างนั้นผมกลับพบว่าเธอมีมือที่แข็งแกร่งและกร้านเสียจนไม่คิดว่าเป็นผู้หญิง ท่าทางเธอคงจะพบเจอความยากลำบากมามาก ผมเหลือบไปดูหน้าอกแบนราบของเธอ ไหล่กว้างผ่าเผยแล้วรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล เธอตัวใหญ่รูปร่างเหมือนชายแบบนี้คงเพราะทำงานมาอย่างหนัก ท่าทางจะเป้นแม่บ้านสุดแข็งแกร่งได้แน่ คิดได้แบบนั้นความรู้สึกสงสารเธอในใจผมก็พวยพุ่งขึ้น

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบ” ผมประคองเธอจนพามานั่งที่เตียงได้ รู้สึกตัวเองประหม่าจนไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี เจ้าสาวของผมครั้นได้นั่งลงเธอก็เอื้อมขึ้นแตะยังศีรษะตัวเอง รู้สึกจะพยายามถอด ผมนี่เป้นเจ้าบ่าวที่แย่เสียจริงให้เธอเป็รผู้จัดการทั้งที่มันเป็นหน้าที่ของผม ผมรีบเดินไปช่วยเธอถอดผ้าคลุมผ้า พริบตาที่ผ้าสีแดงนั้นละไปจากใบหน้าของเจ้าสาว สิ่งแรกที่ตราตรึงผมคือนัยน์ตาสีดำสนิทลึกล้ำราวกับห้วงของฟากฟ้ายามราตรี

พริบต่อมาคือความตกใจ ใบหน้าของเจ้าสาวนั้นรูปไข่หล่อเหลาราวกับเด็กหนุ่มรูปงามในนิตยสารดารา...ไม่เหมือนแล้วแต่ใช่เลยต่างหาก ผมถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เด็กหนุ่มผู้นั้นก็จัดแจงดึงเอาเสื้อผ้าที่คลุมตัวอยู่เหลือไว้เพียงเสื้อกล้ามกับกางเกงบ็อกเซอร์หนึ่งตัว

รูปร่างของเขาไม่เลวเอาเสียเลย เอาไปขายบนปกนิตยสารได้สบายๆ ไหล่กว้าง อกผายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงาม ผมมองความแข็งแกร่งนั้นด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่ว่าตรงไหนก็หาควาเมป็นผู้หญิงไม่ได้

เตี่ย.... เตี่ยทำอะไรลงไป เจ้าสาวคนแรกของผมคือหนุ่มน้อยรูปงาม!
TBC
kuramajoy
kuramajoy
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 206
Points : 3783
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเฮย - [fic] สะใภ้ตระกูลอู๋ 1[ผิงเสีย/ฮัวเฮย] Empty Re: [fic] สะใภ้ตระกูลอู๋ 1[ผิงเสีย/ฮัวเฮย]

ตั้งหัวข้อ by kame_kazuha Fri 19 Dec 2014, 20:31

กริ้วว รอตอนต่อนะ

เจ้าสาว 555 เป็นเจ้าสาวแค่วันเดียว วันถัดมาเป็น สะมีนะ ส่วนเจ้าบ่าวต้องเป็น...แทน
kame_kazuha
kame_kazuha
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 274
Points : 3757
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : สุสานสักที่

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเฮย - [fic] สะใภ้ตระกูลอู๋ 1[ผิงเสีย/ฮัวเฮย] Empty Re: [fic] สะใภ้ตระกูลอู๋ 1[ผิงเสีย/ฮัวเฮย]

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sat 27 Dec 2014, 21:46

O.O" จ๊ะ... ที่รัก เจ้าสาวเป็นหนุ่มรูปงามเชียวนะจ๊ะ (สะอึก)
จะจับกดหรือลูก.....

ว่าแต่....... พ่อคะ!!! พ่อใช้วิธีไหนงัดสุดหล่อมาเป็นเจ้าสาวได้ค๊า!!!!!!!!!!!
(ทำหน้าสะพรึงคุณป๋า)

แน่นอนนัก ป๋าช่างเด็ดดวง ว่าแต่ว่านะคะอู๋เสียคนงาม
คือง่าวันนี้เป็นเจ้าบ่าว พรุ่งนี้จะเป็นเจ้าสาวสะเองหรือเปล่าคะ
อุอิ.....
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3759
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ