Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[TRANS] การ์ด #เก้าสกุล ฉีเถียจุ่ย
4 posters
หน้า 1 จาก 1
[TRANS] การ์ด #เก้าสกุล ฉีเถียจุ่ย
หงายการ์ด #เก้าสกุล ตอน ฉีเถียจุ่ย
เทพทำนาย
ใช้หนึ่งปากเหล็กข้ามชุนชิว ใช้วิชาทำนายแสวงลิขิตฟ้า
งานวัดใกล้จบแล้ว ผู้คนบางตา นอกจากแผงร้านยอดนิยมอย่างการแสดงละครหนังสัตว์ ภาพวาดตะวันตก แผงอื่นๆ ต่างกำลังเก็บร้าน เพิงต่างๆ ถูกรื้อถอนจนร่อยหรอ
ศาลเจ้าเหล่าเฉิงเมี่ยวช่วงกลางถนน ยังคงธูปเทียนโชติช่วง คนเดินงานน้อยลง คนไหว้พระไหว้เจ้าก็เพิ่มขึ้น แผงดูดวงทำนายโชคชะตา หายไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงจำนวนน้อยนิดที่ยังอดทนเฝ้ารอ เห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ กิจการไม่เข้าเป้า หวังว่าในโค้งสุดท้ายของงาน จะเก็บตกได้อีกเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง บริเวณต้นถนนที่ผู้คนพลุกพล่านที่สุด มีเสียงคนดังขึ้นเซ็งแซ่ ผู้คนขบวนใหญ่ เดินแหวกฝูงชน บุรุษนอกเครื่องคนหนึ่ง เดินมุ่งมาทางศาลเจ้าเหล่าเฉิงเมี่ยว ท่ามกลางการอารักขาที่แน่นหนา
"ฝอเหยีย ฝอเหยีย ปีนี้ยังแจกข้าวสารอีกไหม พวกข้าไม่ได้กินข้าวสารหวานที่ท่านแจกจ่ายให้มานานแล้ว" ขอทานข้างถนนคนหนึ่ง ตะโกนถามไปยังชายนอกเครื่องแบบ
พ่อพระใหญ่จางถอดหมวกออก พูดกับขอทานคนนั้นว่า "เจ้าเพิ่งจะไปเป็นลูกจ้างร้านขายผ้าแล้วไม่ใช่รึ เหตุใดจึงมาขอทานอีก สัญชาติสุนัข อดขี้ไม่ได้สินะ"
"โธ่ ฝอเหยีย ท่านก็ไม่ใช่ไม่รู้ เป็นลูกจ้างเขาจะสุขสบายเท่าเป็นขอทานได้อย่างไร ข้าน้อยอยากนอนเมื่อไหร่ก็นอน อยากตื่นเมื่อไหร่ก็ตื่น อะไรสุขสบายก็ทำอย่างนั้น เฒ่าหวังขนเหลืองที่เพิ่งตายไปเมื่อสองปีก่อน อายุหนึ่งร้อยสองปี สุขสบายยิ่งกว่าฮ่องเต้สมัยก่อน อายุยืนยิ่งกว่าประธานาธิบดี" ขอทานกล่าว "แล้วอีกอย่าง ยังมีข้าวสารจากท่านแจกจ่ายให้มิใช่รึ หากวันนี้มีแจกอีก ท่านช่วยบอกพ่อครัวของท่านหน่อย เอาไปผัดกับน้ำตาลแล้วค่อยแจก พวกข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงหุง"
พ่อพระใหญ่จางยิ้มส่ายหน้า พูดกับคนข้างๆ ว่า "ถ้าเป็นสมัยแมนจู นี่ก็คือมาดของจอมยุทธ์ร่อนเร่ ต้องมีดีติดตัว ไม่กังวลเรื่องกินดื่ม จึงมีราศีเช่นนี้"
บัณฑิตคนข้างกายพูดว่า "บุคลากรที่ดี ฝอเหยียพึงรับไว้ใช้งาน ยามนี้เป็นยามใช้คน พวกเราไม่ถือสาชาติกำเนิด"
"มิต้องรีบร้อน ยังไม่ถึงเวลา" พ่อพระใหญ่จางกล่าว "คนพวกนี้เป็นแค่ตัวประกอบเล็กๆ คราวนี้ที่พาท่านมาพบ เขาคือหงส์มังกรที่แท้จริง"
"ท่านฉี่ซานพูดเสียข้าตื่นเต้นเลยทีเดียว" บัณฑิตยิ้ม ขยับแว่นตา "หวังว่าท่านฉี่ซาน จะไม่ได้ลำเอียง"
"ไม่หรอก ท่านไม่เคยได้ยินรึ 'ฝอเหยียบอกว่าดี ย่อมดีอย่างแน่นอน'" พ่อพระใหญ่จางหัวเราะ ขณะสนทนา พวกเขาก็เลี้ยวเข้ามาถึงบริเวณที่แผงร้านดูดวงชุกชุมที่สุด พ่อพระใหญ่จางตะโกนเรียก "เถียจุ่ย! เถียจุ่ย! รีบออกมา ข้าเอาสุราดีมาให้แล้ว"
บัณฑิตมองไปยังแผงหมอดูพวกนี้ รู้สึกงุนงง พูดกับพ่อพระว่า "คนงมงายพวกนี้..."
"อย่าเสียมารยาท" พ่อพระใหญ่จางเห็นว่าไม่มีคนขานรับ ก็ถามหมอดูคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ "พี่ชาย เถียจุ่ยล่ะ"
"ท่านหมายถึงฉีเถียจุ่ยรึ" หมอดูเห็นว่าพ่อพระใหญ่จางมีอำนาจบารมีที่ไม่ธรรมดา พูดอย่างยำเกรง "เมื่อครู่ยังอยู่ ไม่รู้หายตัวไปไหนแล้ว คงจะไปเข้าส้วมละมั้ง"
"แผงไหนเป็นของเขา เราจะไปรอตรงนั้น" จางฉี่ซานถาม หมอดูจึงชี้ไปแล้ว จางฉี่ซานนำชายผู้คล้ายบัณฑิตคนนั้นไปที่แผงนั่น บัณฑิตก็ถาม "ฝอเหยีย หรือว่าธุระของพวกเรา ต้องพึ่งพาหมอดูคนนี้ เขาก็คือหงส์มังกรแห่งฝูงชน"
จางฉี่ซานกำลังจะตอบ ทันใดนั้น เขาก็เห็นบนโต๊ะของฉีเถียจุ่ย มีกระดาษที่เขียนข้อความไว้แผ่นหนึ่ ทับด้วยตัวทับ คล้ายกับเพิ่งเขียนไว้ไม่นาน
จางฉี่ซานหยิบตัวทับออก ก็เห็นข้อความบนนั้น เป็นลายมือที่หวัดมาก เห็นได้ว่าเขียนอย่างรีบร้อน
ท่านฝอเหยีย ได้รับการชักจูงแล้ว แต่ติดที่คำสั่งบรรพชน ห้ามรับราชการ ห้ามเข้ากองทัพ ใช้หนึ่งปากเหล็กข้ามชุนชิว ใช้เทพทำนายแสวงลิขิตฟ้า เรื่องนี้เถียจุ่ยมิอาจร่วมหารือ หากบังคับขู่เข็ญ เถียจุ่ยจำจากฉางซา ไปแล้วมิหวนกลับ ขอให้ยุติเพียงเท่านี้ เพื่อวันข้างหน้ายังได้ร่ำสุราด้วยกัน
จางฉี่ซานกับบัณฑิตประสานสายตากัน แล้วจางฉี่ซานก็หัวเราะ "นั่นไงล่ะ ไอ้หนูนี่ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้ต้องมา?"
"เขาคือเทพทำนายงั้นรึ" บัณฑิตมองดูกระดาษ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
"ไม่ใช่เทพทำนาย เพียงแค่ช่างทำนายเท่านั้น" พ่อพระใหญ่จางถอนหายใจ มองฟ้าแล้วกล่าวว่า "เห็นที ตลอดเส้นทางของเรา มิอาจได้ประชากรหนุน ภัยอันตรายตลอดเส้นทางนี้ คนฉลาดต่างมองเห็นชัดเจนนานแล้ว"
บัณฑิตมองดูแผ่นกระดาษ อดส่ายหน้าไม่ได้ จางฉี่ซานมองไปยังสุราที่พวกผู้ติดตามหิ้วมา รับมาตั้งไว้บนโต๊ะ "ช่างเถอะ สุรานี่ดื่มไปก็ไร้รสชาติแล้ว ทิ้งไว้เถิด"
ทั้งสองคนหมุนตัวผละไป เหล่าซินแสหมอดูข้างๆ ต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครกล้าไปดูเหล้าขวดนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง ขอทานข้างทางคนเมื่อครู่ เดินมาถึงข้างแผง หยิบเหล้าขวดนั้นขึ้นเดินตัวเซมายังใต้กำแพงนอกศาลเจ้า ยื่นให้ขอทานคนหนึ่งในสี่ห้าคนตรงนั้น คนคนนั้นรับเหล้ามา รินใส่ชามของพวกขอทานทุกคน กลิ่นหอมฟุ้งออกมาทันที
"พี่แปด ท่านนี่คิดคำนวณได้แม่นยำราวตาเห็น ต้าฝอเหยียมีสายตาเป็นเลิศขนาดนั้น ยังไม่เห็นว่าท่านซ่อนตัวอยู่ที่นี่"
คนคนนั้นถอดหมวกไหมพรมขาดวิ่นลง ส่งคืนให้กับขอทานคนหนึ่ง แล้วพูดว่า "ใครบอกว่าเขาไม่เห็น" พูดพลางก็เขย่าขวดเหล้า "เขารู้ความตั้งใจของข้าแล้ว ไม่อยากฝืนใจเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าจะมีสุราดื่มกันหรือ"
ขอทานพวกนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ฉีเถียจุ่ยยืนขึ้น ตบฝุ่นตามตัว ผงกศีรษะให้กับทิศทางที่พ่อพระใหญ่จางจางไป ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง "นับแต่นี้คือหนทางมิหวนกลับ ฝอเหยีย แม้ข้าพอจะล่วงรู้บางอย่าง แต่ไร้กำลังกอบกู้ช่วยเหลือ โปรดอภัยให้กับโทษฐานที่ไม่พูดของข้าด้วยเถิด ขอให้โชคดี"
Talk:
ตอบรับข่าวสำคัญอย่างยังไม่เป็นทางการของแฟนด้อม ด้วยการปล่อยการ์ดปู่อีกหนึ่งใบ (มาจากเกมเช่นกันครับ) ตอนอ่านครั้งแรก นึกว่าเป็น "พบกันครั้งแรก" แต่ตอนแปลก็เพิ่งจับใจความได้ใหม่ ทั้งคู่น่าจะเคยเจอกันมาก่อนนั่นแหละ สรุปว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ
ตอกเรือรัวๆ
เทพทำนาย
ใช้หนึ่งปากเหล็กข้ามชุนชิว ใช้วิชาทำนายแสวงลิขิตฟ้า
งานวัดใกล้จบแล้ว ผู้คนบางตา นอกจากแผงร้านยอดนิยมอย่างการแสดงละครหนังสัตว์ ภาพวาดตะวันตก แผงอื่นๆ ต่างกำลังเก็บร้าน เพิงต่างๆ ถูกรื้อถอนจนร่อยหรอ
ศาลเจ้าเหล่าเฉิงเมี่ยวช่วงกลางถนน ยังคงธูปเทียนโชติช่วง คนเดินงานน้อยลง คนไหว้พระไหว้เจ้าก็เพิ่มขึ้น แผงดูดวงทำนายโชคชะตา หายไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงจำนวนน้อยนิดที่ยังอดทนเฝ้ารอ เห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ กิจการไม่เข้าเป้า หวังว่าในโค้งสุดท้ายของงาน จะเก็บตกได้อีกเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง บริเวณต้นถนนที่ผู้คนพลุกพล่านที่สุด มีเสียงคนดังขึ้นเซ็งแซ่ ผู้คนขบวนใหญ่ เดินแหวกฝูงชน บุรุษนอกเครื่องคนหนึ่ง เดินมุ่งมาทางศาลเจ้าเหล่าเฉิงเมี่ยว ท่ามกลางการอารักขาที่แน่นหนา
"ฝอเหยีย ฝอเหยีย ปีนี้ยังแจกข้าวสารอีกไหม พวกข้าไม่ได้กินข้าวสารหวานที่ท่านแจกจ่ายให้มานานแล้ว" ขอทานข้างถนนคนหนึ่ง ตะโกนถามไปยังชายนอกเครื่องแบบ
พ่อพระใหญ่จางถอดหมวกออก พูดกับขอทานคนนั้นว่า "เจ้าเพิ่งจะไปเป็นลูกจ้างร้านขายผ้าแล้วไม่ใช่รึ เหตุใดจึงมาขอทานอีก สัญชาติสุนัข อดขี้ไม่ได้สินะ"
"โธ่ ฝอเหยีย ท่านก็ไม่ใช่ไม่รู้ เป็นลูกจ้างเขาจะสุขสบายเท่าเป็นขอทานได้อย่างไร ข้าน้อยอยากนอนเมื่อไหร่ก็นอน อยากตื่นเมื่อไหร่ก็ตื่น อะไรสุขสบายก็ทำอย่างนั้น เฒ่าหวังขนเหลืองที่เพิ่งตายไปเมื่อสองปีก่อน อายุหนึ่งร้อยสองปี สุขสบายยิ่งกว่าฮ่องเต้สมัยก่อน อายุยืนยิ่งกว่าประธานาธิบดี" ขอทานกล่าว "แล้วอีกอย่าง ยังมีข้าวสารจากท่านแจกจ่ายให้มิใช่รึ หากวันนี้มีแจกอีก ท่านช่วยบอกพ่อครัวของท่านหน่อย เอาไปผัดกับน้ำตาลแล้วค่อยแจก พวกข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงหุง"
พ่อพระใหญ่จางยิ้มส่ายหน้า พูดกับคนข้างๆ ว่า "ถ้าเป็นสมัยแมนจู นี่ก็คือมาดของจอมยุทธ์ร่อนเร่ ต้องมีดีติดตัว ไม่กังวลเรื่องกินดื่ม จึงมีราศีเช่นนี้"
บัณฑิตคนข้างกายพูดว่า "บุคลากรที่ดี ฝอเหยียพึงรับไว้ใช้งาน ยามนี้เป็นยามใช้คน พวกเราไม่ถือสาชาติกำเนิด"
"มิต้องรีบร้อน ยังไม่ถึงเวลา" พ่อพระใหญ่จางกล่าว "คนพวกนี้เป็นแค่ตัวประกอบเล็กๆ คราวนี้ที่พาท่านมาพบ เขาคือหงส์มังกรที่แท้จริง"
"ท่านฉี่ซานพูดเสียข้าตื่นเต้นเลยทีเดียว" บัณฑิตยิ้ม ขยับแว่นตา "หวังว่าท่านฉี่ซาน จะไม่ได้ลำเอียง"
"ไม่หรอก ท่านไม่เคยได้ยินรึ 'ฝอเหยียบอกว่าดี ย่อมดีอย่างแน่นอน'" พ่อพระใหญ่จางหัวเราะ ขณะสนทนา พวกเขาก็เลี้ยวเข้ามาถึงบริเวณที่แผงร้านดูดวงชุกชุมที่สุด พ่อพระใหญ่จางตะโกนเรียก "เถียจุ่ย! เถียจุ่ย! รีบออกมา ข้าเอาสุราดีมาให้แล้ว"
บัณฑิตมองไปยังแผงหมอดูพวกนี้ รู้สึกงุนงง พูดกับพ่อพระว่า "คนงมงายพวกนี้..."
"อย่าเสียมารยาท" พ่อพระใหญ่จางเห็นว่าไม่มีคนขานรับ ก็ถามหมอดูคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ "พี่ชาย เถียจุ่ยล่ะ"
"ท่านหมายถึงฉีเถียจุ่ยรึ" หมอดูเห็นว่าพ่อพระใหญ่จางมีอำนาจบารมีที่ไม่ธรรมดา พูดอย่างยำเกรง "เมื่อครู่ยังอยู่ ไม่รู้หายตัวไปไหนแล้ว คงจะไปเข้าส้วมละมั้ง"
"แผงไหนเป็นของเขา เราจะไปรอตรงนั้น" จางฉี่ซานถาม หมอดูจึงชี้ไปแล้ว จางฉี่ซานนำชายผู้คล้ายบัณฑิตคนนั้นไปที่แผงนั่น บัณฑิตก็ถาม "ฝอเหยีย หรือว่าธุระของพวกเรา ต้องพึ่งพาหมอดูคนนี้ เขาก็คือหงส์มังกรแห่งฝูงชน"
จางฉี่ซานกำลังจะตอบ ทันใดนั้น เขาก็เห็นบนโต๊ะของฉีเถียจุ่ย มีกระดาษที่เขียนข้อความไว้แผ่นหนึ่ ทับด้วยตัวทับ คล้ายกับเพิ่งเขียนไว้ไม่นาน
จางฉี่ซานหยิบตัวทับออก ก็เห็นข้อความบนนั้น เป็นลายมือที่หวัดมาก เห็นได้ว่าเขียนอย่างรีบร้อน
ท่านฝอเหยีย ได้รับการชักจูงแล้ว แต่ติดที่คำสั่งบรรพชน ห้ามรับราชการ ห้ามเข้ากองทัพ ใช้หนึ่งปากเหล็กข้ามชุนชิว ใช้เทพทำนายแสวงลิขิตฟ้า เรื่องนี้เถียจุ่ยมิอาจร่วมหารือ หากบังคับขู่เข็ญ เถียจุ่ยจำจากฉางซา ไปแล้วมิหวนกลับ ขอให้ยุติเพียงเท่านี้ เพื่อวันข้างหน้ายังได้ร่ำสุราด้วยกัน
จางฉี่ซานกับบัณฑิตประสานสายตากัน แล้วจางฉี่ซานก็หัวเราะ "นั่นไงล่ะ ไอ้หนูนี่ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้ต้องมา?"
"เขาคือเทพทำนายงั้นรึ" บัณฑิตมองดูกระดาษ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
"ไม่ใช่เทพทำนาย เพียงแค่ช่างทำนายเท่านั้น" พ่อพระใหญ่จางถอนหายใจ มองฟ้าแล้วกล่าวว่า "เห็นที ตลอดเส้นทางของเรา มิอาจได้ประชากรหนุน ภัยอันตรายตลอดเส้นทางนี้ คนฉลาดต่างมองเห็นชัดเจนนานแล้ว"
บัณฑิตมองดูแผ่นกระดาษ อดส่ายหน้าไม่ได้ จางฉี่ซานมองไปยังสุราที่พวกผู้ติดตามหิ้วมา รับมาตั้งไว้บนโต๊ะ "ช่างเถอะ สุรานี่ดื่มไปก็ไร้รสชาติแล้ว ทิ้งไว้เถิด"
ทั้งสองคนหมุนตัวผละไป เหล่าซินแสหมอดูข้างๆ ต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครกล้าไปดูเหล้าขวดนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง ขอทานข้างทางคนเมื่อครู่ เดินมาถึงข้างแผง หยิบเหล้าขวดนั้นขึ้นเดินตัวเซมายังใต้กำแพงนอกศาลเจ้า ยื่นให้ขอทานคนหนึ่งในสี่ห้าคนตรงนั้น คนคนนั้นรับเหล้ามา รินใส่ชามของพวกขอทานทุกคน กลิ่นหอมฟุ้งออกมาทันที
"พี่แปด ท่านนี่คิดคำนวณได้แม่นยำราวตาเห็น ต้าฝอเหยียมีสายตาเป็นเลิศขนาดนั้น ยังไม่เห็นว่าท่านซ่อนตัวอยู่ที่นี่"
คนคนนั้นถอดหมวกไหมพรมขาดวิ่นลง ส่งคืนให้กับขอทานคนหนึ่ง แล้วพูดว่า "ใครบอกว่าเขาไม่เห็น" พูดพลางก็เขย่าขวดเหล้า "เขารู้ความตั้งใจของข้าแล้ว ไม่อยากฝืนใจเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าจะมีสุราดื่มกันหรือ"
ขอทานพวกนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ฉีเถียจุ่ยยืนขึ้น ตบฝุ่นตามตัว ผงกศีรษะให้กับทิศทางที่พ่อพระใหญ่จางจางไป ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง "นับแต่นี้คือหนทางมิหวนกลับ ฝอเหยีย แม้ข้าพอจะล่วงรู้บางอย่าง แต่ไร้กำลังกอบกู้ช่วยเหลือ โปรดอภัยให้กับโทษฐานที่ไม่พูดของข้าด้วยเถิด ขอให้โชคดี"
Talk:
ตอบรับข่าวสำคัญอย่างยังไม่เป็นทางการของแฟนด้อม ด้วยการปล่อยการ์ดปู่อีกหนึ่งใบ (มาจากเกมเช่นกันครับ) ตอนอ่านครั้งแรก นึกว่าเป็น "พบกันครั้งแรก" แต่ตอนแปลก็เพิ่งจับใจความได้ใหม่ ทั้งคู่น่าจะเคยเจอกันมาก่อนนั่นแหละ สรุปว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ
ตอกเรือรัวๆ
anurakbeer- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 184
Points : 3956
Join date : 27/10/2014
Re: [TRANS] การ์ด #เก้าสกุล ฉีเถียจุ่ย
อะไรคือมาตอกเรือรัวๆคะคบ. แง๕๕๕
ฮือ ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านนะคะฟฟฟฟฟ
ฮือ ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านนะคะฟฟฟฟฟ
Re: [TRANS] การ์ด #เก้าสกุล ฉีเถียจุ่ย
แอร๊ โมเอะปู่ฉี มีการปลอมตัวเป็นขอทานน้อยเพื่อหลอกฝอเหยีย แต่ก็ยังมิวายไปชวนเขาคุย แหม แหม จะหนีเขาแท้ๆ
ฝอเหยียเรียกเถียจุ่ยด้วย ไม่ไหวล้าวววววววววว
อะไรจะเอ็นดูเถียจุ่ยขนาดนั้น ไม่อยากฝืนใจ นึกว่าปู่จางจะเป็นคนโหดกว่านี้อีกค่ะ เพื่องานใหญ่ ต่อให้บังคับก็ต้องทำ แต่แบบ ยอมปล่อยให้ไปอ่ะ อื้ออออ หล่อมากกกกกก มาแบบนี้ก็ยิ่งกรี๊ดสิคะ ฝอเหยียท่านใจดีผิดคาด นึกภาพปู่จางยิ้มๆ แหงะ รอยยิ้มแบบนี้มันล่อลวงเด็กให้เดินตามต้อยๆได้ชัดๆ ร้ายกาจนัก
ว่าจะไม่ลงเรือเก้าสกุลแท้ๆ นี่หวิดๆจะก้าวขาลงอยู่รอมร่อละ 18 ช่างยั่วยวนใจยิ่งนัก
ช่วงนี้มีแต่ข่าวเก้าสกุลโบ้มๆ เลยยิ่งตื่นเต้นเป็นพิเศษ ขอบคุณสำหรับทรานส์ค่ะ
ฝอเหยียเรียกเถียจุ่ยด้วย ไม่ไหวล้าวววววววววว
อะไรจะเอ็นดูเถียจุ่ยขนาดนั้น ไม่อยากฝืนใจ นึกว่าปู่จางจะเป็นคนโหดกว่านี้อีกค่ะ เพื่องานใหญ่ ต่อให้บังคับก็ต้องทำ แต่แบบ ยอมปล่อยให้ไปอ่ะ อื้ออออ หล่อมากกกกกก มาแบบนี้ก็ยิ่งกรี๊ดสิคะ ฝอเหยียท่านใจดีผิดคาด นึกภาพปู่จางยิ้มๆ แหงะ รอยยิ้มแบบนี้มันล่อลวงเด็กให้เดินตามต้อยๆได้ชัดๆ ร้ายกาจนัก
ว่าจะไม่ลงเรือเก้าสกุลแท้ๆ นี่หวิดๆจะก้าวขาลงอยู่รอมร่อละ 18 ช่างยั่วยวนใจยิ่งนัก
ช่วงนี้มีแต่ข่าวเก้าสกุลโบ้มๆ เลยยิ่งตื่นเต้นเป็นพิเศษ ขอบคุณสำหรับทรานส์ค่ะ
Eli-kun- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 80
Points : 3458
Join date : 04/03/2015
Re: [TRANS] การ์ด #เก้าสกุล ฉีเถียจุ่ย
นายทัพผู้เก่งกล้าย่อมใฝ่หาบัณฑิตคู่กาย
พ่อพระใหญ่จะทำการณ์ใหญ่จึงต้องหาผู้ทำนายมาทำให้งานราบรื่น
แต่เพราะลิขิตฟ้าไม่อาจฝืน ฉีเถี่ยจุ่ยจึงไม่อาจร่วมงาน
เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำจะนำพาอันตรายมามากเพียงใด
ในอักษรที่เขียนไว้จึงบอกคำตอบของตนอย่างชัดเจน
และแม้รู้เช่นนั้น ฝอเหยียะก็ไม่อาจถอยกลับได้อีก
การหลีกหนีของมิตรที่ตามหานั้นเขาย่อมเข้าใจ
จึงส่งต่อเหล้าชั้นดีนั้นไว้ก็ด้วยความจริงใจที่มี
กระนั้นก็เปลี่ยนใจเถียจุ่ยมิได้สินะ
อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงคำติดปากของเหล่าหมอดูจริงแท้
"ลิขิตฟ้ามิอาจแพร่งพราย"
แต่การปลอมเป็นขอทานเช่นนี้เหนือความคาดหมายคนอ่านจริงๆ
ขอบคุณคุณเบียร์ที่แปลมาให้อ่านค่ะ
พ่อพระใหญ่จะทำการณ์ใหญ่จึงต้องหาผู้ทำนายมาทำให้งานราบรื่น
แต่เพราะลิขิตฟ้าไม่อาจฝืน ฉีเถี่ยจุ่ยจึงไม่อาจร่วมงาน
เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำจะนำพาอันตรายมามากเพียงใด
ในอักษรที่เขียนไว้จึงบอกคำตอบของตนอย่างชัดเจน
และแม้รู้เช่นนั้น ฝอเหยียะก็ไม่อาจถอยกลับได้อีก
การหลีกหนีของมิตรที่ตามหานั้นเขาย่อมเข้าใจ
จึงส่งต่อเหล้าชั้นดีนั้นไว้ก็ด้วยความจริงใจที่มี
กระนั้นก็เปลี่ยนใจเถียจุ่ยมิได้สินะ
อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงคำติดปากของเหล่าหมอดูจริงแท้
"ลิขิตฟ้ามิอาจแพร่งพราย"
แต่การปลอมเป็นขอทานเช่นนี้เหนือความคาดหมายคนอ่านจริงๆ
ขอบคุณคุณเบียร์ที่แปลมาให้อ่านค่ะ
arshura09- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 118
Points : 3166
Join date : 14/01/2016
Similar topics
» [TRANS] ฉีเถียจุ่ย
» [TRANS] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 3
» [TRANS] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 7 สองนิ้วสำรวจถ้ำ
» [Trans] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 8 โลงผียามย่ำค่ำ
» [TRANS] เรื่องเล่าปู่เก้าเซี่ย
» [TRANS] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 3
» [TRANS] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 7 สองนิ้วสำรวจถ้ำ
» [Trans] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 8 โลงผียามย่ำค่ำ
» [TRANS] เรื่องเล่าปู่เก้าเซี่ย
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth