Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
+4
MinMin
Naitear
justpn04
momin
8 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
Title : Promise
Paring : จางฉี่หลิง x อู๋เสีย
Author : TANK!!~
Rate : PG
A/N : ฟิคป่วง ที่อาจจะสปอยเล่ม 10
“ห๊ะ!? ว่าไงนะ?...”
ผมถามเสียงสูง ก่อนจะยกมือขึ้นเขี่ยหูเผื่อว่าตัวเองจะมีขี้หูเยอะเกินไป จนฟังสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ผิดไป
“นายได้ยินไม่ผิดหรอก...” น้ำเสียงนิ่งเรียบกับใบหน้าที่นิ่งเฉยของเขา ทำให้ผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้เขากำลังพูดเล่นหรือจริงกันแน่
“หมายความว่าไง?...” ผมถามอีกรอบ ไม่ได้ถามเพราะอยากจะกวนหรือถ่วงเวลาอะไรทั้งนั้น แต่มันเป็นคำถามของคนที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหนและควรจะเดินต่อไปทางไหนดี
“ฉันจะขอแยกกับพวกนาย จากนี้ไป...” ดวงตาสีดำสนิทของเขาที่จ้องมานั้นทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องที่ได้ยินนั้น ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยสักนิด
เมินโหยวผิง หรือจางฉี่หลิง เจ้าของผู้มีนิ้วมือและปมอดีตที่แสนประหลาด กำลังพูดว่าตัวเองจะจากไปกับผมเสมือนว่ากำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ อันที่จริง ผมไม่ค่อยจะแปลกใจเพราะเขามักจะหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าวบ่อยๆ ในยามที่ลงกรวยด้วยกัน เพราะอย่างไรหมอนี่ก็ถูกผมตั้งฉายาให้ว่า นักล่องหนมืออาชีพ แต่ทุกครั้งที่นักล่องหนคนนี้หายตัวไป ผมจะรู้สึกอยู่ทุกครั้งว่าอย่างไรก็ต้องได้พบกันอีกครั้งแน่ๆ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกันเลยสักนิด
ผมมีความรู้สึกว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก “ตลอดไป”
“ทำไมล่ะ?...” ผมถาม รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในห้องที่มีออกซิเจนอย่างจำกัด อากาศที่ใช้หายใจกำลังลดลงไปเรื่อยๆ จนสมองเริ่มไม่สั่งการ “นายยังไม่รู้อดีตของตัวเองทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอ?...”
“พอแล้วละ...” เมินโหยวผิงตอบเสียงนิ่ง
“แต่ว่า....” ผมอยากจะเถียงหรือหาเหตุผลอะไรมาพูด อยากจะถามเขาเหลือเกินว่าสำหรับเขาแล้ว มันยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปมากกว่า “ผม” อีกเหรอ แต่ก็ถูกเขายกมือเป็นสัญญาณว่าให้เงียบ
“สืบต่อไปก็เท่านั้น...ฉันไม่สนอะไรอีกแล้ว...” ดวงตาของเมินโหยวผิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เป็นสีแดงเพราะพระอาทิตย์ตก ดวงตาที่เรียบเฉยเหมือนวันแรกที่ได้พบกัน แต่เพราะเราผ่านอะไรด้วยกันมามาก มันทำให้ผมรู้ว่า เขากำลังคิดหนักอยู่
“ทำไมอยู่ๆ ถึงเปลี่ยนใจง่ายๆ แบบนี้ล่ะ?...”
“เรื่องบางเรื่อง ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอก...เพราะต่อให้จะหาสักเท่าไหร่ มันก็ไม่เจออยู่ดี...” คำพูดยืดยาวของเขาค่อยๆ ไหลผ่านหูผมอย่างเชื่องช้า แต่ดูสมองจะไม่ค่อยจับใจความได้สักเท่าไหร่
เมื่อก่อนผมกับนายอ้วนเคยคิดกันเล่นๆ ว่าจะทำอย่างไรให้หมอนี่ง้างปากพูดบ่อยๆ ทั้งแกล้ง ทั้งแหย่ ทั้งโกรธ ทั้งโมโหก็แล้ว เมินโหยวผิงก็ยังถามคำตอบคำเหมือนเดิม ทำให้พวกผมปลงกับการจะเอาดอกพิกุลออกจากปากหมอนี่ แต่ไม่คิดเลยว่าการจะได้ยินเขาพูดประโยคยาวๆ นอกจากตอนที่ต้องอธิบายเวลาที่ลงดินแล้ว ยังมาเป็นตอนนี้
ตอนที่เขาบอกว่ากำลังจะจากไป
“อู๋เสีย...” เมินโหยวผิงเดินเข้ามาใกล้ผม และเป็นตอนนั้นเองที่ผมเห็นว่ากระเป๋าเป้และดาบดำของเขาถูกเก็บไว้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะไป
“อะไร?...” ผมเสียงสั่น ทั้งที่ในใจอยากจะด่าจะว่าเขาให้หายแค้นที่ตัดสินใจอะไรเอาเองแบบนี้ แต่คอของผมกลับรู้สึกแห้งผากและตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก
เมินโหยวผิงเดินมาหยุดตรงหน้าผม เราทั้งคู่ต่างจ้องตากันอยู่เนิ่นนาน ไม่รู้ว่ามันนานเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะหยุดเวลานี้ไว้ หยุดเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาจากไป
"ทุกสิ่งเหล่านี้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันทบทวนดูความเกี่ยวโยงของฉันกับโลกใบนี้ ดูเหมือนเท่าที่เจอ ก็มีแต่นาย..."
มือของเขาเอื้อมขึ้นมาสัมผัสที่ใบหน้าของผม ผมยกมือทาบกับมือของเขาไว้ก่อนจะหลับตาลงเมื่อเห็นใบหน้านั้นโน้มเข้ามาใกล้ สัมผัสของลมหายใจอุ่นร้อนที่กำลังเป่ารดอยู่นั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเหมือนเมื่อก่อนเลย ริมฝีปากที่แตะกันมันทั้งร้อน ทั้งแสบ ราวกับกำลังถูกแผดเผา แต่ผมก็ไม่คิดที่จะผละตัวออกสักนิด ต่อให้รู้ว่ามันเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหนก็ตาม
ผมไม่รู้ว่าตัวเองถูกช่วงชิงลมหายใจไปนานแค่ไหนเหมือนกัน จนกระทั่งใบหน้าของเขาผละออกไปแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ยอมลืมตา ผมรู้ดีว่าหากเมินโหยวผิงตัดสินใจเรื่องไหนไปแล้ว เขาจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด
สัมผัสอุ่นร้อนถูกประทับที่หน้าผากของผม เรื่อยลงไปข้างแก้ม ปลายจมูก และสิ้นสุดที่ริมฝีปากอีกครั้ง ผมหลับตาปล่อยให้เขาได้ทำตามใจชอบอยู่อย่างนั้น เพราะต่างก็รู้ดีว่า นี่คือครั้งสุดท้ายที่จะได้สัมผัสไออุ่นของกันและกัน
แต่ในขณะที่เมินโหยวผิงกำลังจะผละจูบออกจากผมนั้น เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยของเขาลอดผ่านสายลมมากระทบกับโสตประสาทของผม
“หาฉันให้เจอ...อู๋เสีย...”
หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงใบไม้แห้งที่ถูกเหยียบอย่างสม่ำเสมอดังออกไปไกลเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเงียบหายไป ผมไม่กล้าลืมตาขึ้นมามอง เพราะไม่ต้องการเห็นแผ่นหลังของเขาที่กำลังกลืนหายไปในความมืดมิด แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งที่หลับตาอยู่ผมก็สามารถสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้นที่กำลังไหลรินอยู่ข้างแก้ม
น้ำตาแห่งความเสียใจ
เฮือก!!!
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะเสียงกรนลั่นสนั่นของนายอ้วนที่นอนอยู่อีกฝากของเต้นท์ มองดูนาฬิกาพรายน้ำที่ตอนนี้เกือบจะตีสามแล้ว ผมได้ยินเสียงเขี่ยกองไฟจากข้างนอกคงเป็นพานจื่อที่เปลี่ยนเวรกับนายอ้วนแน่ๆ
ผมไม่รู้ว่าหลังจากวันนั้นมันผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะผมไม่อยากจะนับวันเวลา ไม่อยากจะรู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนกับการที่ต้องกอดตัวเองอยู่เพียง ‘ลำพัง’
ทั้งที่เพิ่งจะนอนไปได้ไม่ถึงสามชั่วโมง แต่ผมก็รู้ดีกว่าตัวเองคงนอนไม่หลับแล้ว เพราะฝันนั้นแท้ๆ ทั้งที่ถ้าเป็นแค่การอยู่บ้านปกติผมจะไม่ฝันถึงมันเลย แต่พอเป็นยามที่ลงกรวยที่ไร เหตุการณ์วันนั้นก็จะคอยตามมาหลอกหลอนผมตลอด แม้แต่ในความฝัน
หลังจากที่เมินโหยวผิงจากไป ผม นายอ้วนและพานจื่อ ก็ยังติดต่อคบค้ากันอยู่เรื่อยมา บ้างไปกินข้าว บ้างไปดื่มด้วยกัน หรือบางทีหากมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ พวกเราก็จะรวมหัวกันคว่ำกรวยเหมือนอย่างวันนี้
หากถามว่าทำไมผมถึงยังคว่ำกรวยต่อ ทั้งที่ทางบ้านหรือร้านผมเองก็ไม่ได้ขัดสนอะไรมากขนาดนั้น มันอาจจะเป็นเพราะเลือดของโจรขุดสุสานที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของผมก็ได้ที่เป็นตัวเร่งเร้าให้สัญชาตญาณดิบทำงาน แต่ลึกๆ แล้วผมก็รู้ดีว่า สาเหตุที่ผมยอมลำบากมาลงดินก็เป็นเพราะความหวังเพียงหนึ่งเดียว ที่จะได้เจอกับคนคนนั้น คนที่ผมคิดถึงสุดหัวใจ
เพราะการพบกันครั้งแรกของเรา ก็เป็นตอนที่มาคว่ำกรวยด้วยกัน
ผมได้ยินเสียงละเมอถึงหยุ่นไฉของนายอ้วนที่นอนอยู่ไม่ไกล ซ้ำยังพลิกตัวเกาเป้าเกาตูดไปมา ท่าทางน่าตลก ผมหัวเราะออกมาเสียงเบา แต่ผมก็รู้ดีว่าที่ผมหัวเราะนั้นไม่ใช่เพราะท่าทางของนายอ้วน แต่เป็นการหัวเราะสมเพชตัวเองที่ตอนนี้ใบหน้าเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา
“บ้าเอ๊ย! นายนี่มันจะเล่นซ่อนแอบเก่งไปไหนว่ะเสี่ยวเกอ ทำไมฉันหายังไงก็ไม่เจอนายสักที...หรือจะต้องให้ฉันตะโกนว่ายอมแพ้ก่อน นายถึงจะยอมออกมา?...”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ผมรู้ดีว่าเขาคงไม่มีวันได้ยิน แต่ผมก็ยังอยากจะระบายมันออกมาบ้าง ไม่อย่างนั้นผมอาจจะเป็นบ้าเข้าสักวัน แต่ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดหรือทรมานมากแค่ไหน ผมก็ต้องหาเขาให้เจอให้ได้
เพราะมันคือ “สัญญา” ชั่วชีวิตของพวกเรา
Promise [END]
มาป่วงๆ และจบอย่างป่วงๆ เพราะความเครียดสะสมจากการเตรียมสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์แท้ ฮ่าๆๆๆๆ
อย่าเพิ่งปาร้องเท้าใส่เค้าเลยนะ ^^
Paring : จางฉี่หลิง x อู๋เสีย
Author : TANK!!~
Rate : PG
A/N : ฟิคป่วง ที่อาจจะสปอยเล่ม 10
“ห๊ะ!? ว่าไงนะ?...”
ผมถามเสียงสูง ก่อนจะยกมือขึ้นเขี่ยหูเผื่อว่าตัวเองจะมีขี้หูเยอะเกินไป จนฟังสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ผิดไป
“นายได้ยินไม่ผิดหรอก...” น้ำเสียงนิ่งเรียบกับใบหน้าที่นิ่งเฉยของเขา ทำให้ผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้เขากำลังพูดเล่นหรือจริงกันแน่
“หมายความว่าไง?...” ผมถามอีกรอบ ไม่ได้ถามเพราะอยากจะกวนหรือถ่วงเวลาอะไรทั้งนั้น แต่มันเป็นคำถามของคนที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหนและควรจะเดินต่อไปทางไหนดี
“ฉันจะขอแยกกับพวกนาย จากนี้ไป...” ดวงตาสีดำสนิทของเขาที่จ้องมานั้นทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องที่ได้ยินนั้น ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยสักนิด
เมินโหยวผิง หรือจางฉี่หลิง เจ้าของผู้มีนิ้วมือและปมอดีตที่แสนประหลาด กำลังพูดว่าตัวเองจะจากไปกับผมเสมือนว่ากำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ อันที่จริง ผมไม่ค่อยจะแปลกใจเพราะเขามักจะหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าวบ่อยๆ ในยามที่ลงกรวยด้วยกัน เพราะอย่างไรหมอนี่ก็ถูกผมตั้งฉายาให้ว่า นักล่องหนมืออาชีพ แต่ทุกครั้งที่นักล่องหนคนนี้หายตัวไป ผมจะรู้สึกอยู่ทุกครั้งว่าอย่างไรก็ต้องได้พบกันอีกครั้งแน่ๆ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกันเลยสักนิด
ผมมีความรู้สึกว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก “ตลอดไป”
“ทำไมล่ะ?...” ผมถาม รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในห้องที่มีออกซิเจนอย่างจำกัด อากาศที่ใช้หายใจกำลังลดลงไปเรื่อยๆ จนสมองเริ่มไม่สั่งการ “นายยังไม่รู้อดีตของตัวเองทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอ?...”
“พอแล้วละ...” เมินโหยวผิงตอบเสียงนิ่ง
“แต่ว่า....” ผมอยากจะเถียงหรือหาเหตุผลอะไรมาพูด อยากจะถามเขาเหลือเกินว่าสำหรับเขาแล้ว มันยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปมากกว่า “ผม” อีกเหรอ แต่ก็ถูกเขายกมือเป็นสัญญาณว่าให้เงียบ
“สืบต่อไปก็เท่านั้น...ฉันไม่สนอะไรอีกแล้ว...” ดวงตาของเมินโหยวผิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เป็นสีแดงเพราะพระอาทิตย์ตก ดวงตาที่เรียบเฉยเหมือนวันแรกที่ได้พบกัน แต่เพราะเราผ่านอะไรด้วยกันมามาก มันทำให้ผมรู้ว่า เขากำลังคิดหนักอยู่
“ทำไมอยู่ๆ ถึงเปลี่ยนใจง่ายๆ แบบนี้ล่ะ?...”
“เรื่องบางเรื่อง ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอก...เพราะต่อให้จะหาสักเท่าไหร่ มันก็ไม่เจออยู่ดี...” คำพูดยืดยาวของเขาค่อยๆ ไหลผ่านหูผมอย่างเชื่องช้า แต่ดูสมองจะไม่ค่อยจับใจความได้สักเท่าไหร่
เมื่อก่อนผมกับนายอ้วนเคยคิดกันเล่นๆ ว่าจะทำอย่างไรให้หมอนี่ง้างปากพูดบ่อยๆ ทั้งแกล้ง ทั้งแหย่ ทั้งโกรธ ทั้งโมโหก็แล้ว เมินโหยวผิงก็ยังถามคำตอบคำเหมือนเดิม ทำให้พวกผมปลงกับการจะเอาดอกพิกุลออกจากปากหมอนี่ แต่ไม่คิดเลยว่าการจะได้ยินเขาพูดประโยคยาวๆ นอกจากตอนที่ต้องอธิบายเวลาที่ลงดินแล้ว ยังมาเป็นตอนนี้
ตอนที่เขาบอกว่ากำลังจะจากไป
“อู๋เสีย...” เมินโหยวผิงเดินเข้ามาใกล้ผม และเป็นตอนนั้นเองที่ผมเห็นว่ากระเป๋าเป้และดาบดำของเขาถูกเก็บไว้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะไป
“อะไร?...” ผมเสียงสั่น ทั้งที่ในใจอยากจะด่าจะว่าเขาให้หายแค้นที่ตัดสินใจอะไรเอาเองแบบนี้ แต่คอของผมกลับรู้สึกแห้งผากและตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก
เมินโหยวผิงเดินมาหยุดตรงหน้าผม เราทั้งคู่ต่างจ้องตากันอยู่เนิ่นนาน ไม่รู้ว่ามันนานเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะหยุดเวลานี้ไว้ หยุดเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาจากไป
"ทุกสิ่งเหล่านี้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันทบทวนดูความเกี่ยวโยงของฉันกับโลกใบนี้ ดูเหมือนเท่าที่เจอ ก็มีแต่นาย..."
มือของเขาเอื้อมขึ้นมาสัมผัสที่ใบหน้าของผม ผมยกมือทาบกับมือของเขาไว้ก่อนจะหลับตาลงเมื่อเห็นใบหน้านั้นโน้มเข้ามาใกล้ สัมผัสของลมหายใจอุ่นร้อนที่กำลังเป่ารดอยู่นั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเหมือนเมื่อก่อนเลย ริมฝีปากที่แตะกันมันทั้งร้อน ทั้งแสบ ราวกับกำลังถูกแผดเผา แต่ผมก็ไม่คิดที่จะผละตัวออกสักนิด ต่อให้รู้ว่ามันเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหนก็ตาม
ผมไม่รู้ว่าตัวเองถูกช่วงชิงลมหายใจไปนานแค่ไหนเหมือนกัน จนกระทั่งใบหน้าของเขาผละออกไปแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ยอมลืมตา ผมรู้ดีว่าหากเมินโหยวผิงตัดสินใจเรื่องไหนไปแล้ว เขาจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด
สัมผัสอุ่นร้อนถูกประทับที่หน้าผากของผม เรื่อยลงไปข้างแก้ม ปลายจมูก และสิ้นสุดที่ริมฝีปากอีกครั้ง ผมหลับตาปล่อยให้เขาได้ทำตามใจชอบอยู่อย่างนั้น เพราะต่างก็รู้ดีว่า นี่คือครั้งสุดท้ายที่จะได้สัมผัสไออุ่นของกันและกัน
แต่ในขณะที่เมินโหยวผิงกำลังจะผละจูบออกจากผมนั้น เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยของเขาลอดผ่านสายลมมากระทบกับโสตประสาทของผม
“หาฉันให้เจอ...อู๋เสีย...”
หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงใบไม้แห้งที่ถูกเหยียบอย่างสม่ำเสมอดังออกไปไกลเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเงียบหายไป ผมไม่กล้าลืมตาขึ้นมามอง เพราะไม่ต้องการเห็นแผ่นหลังของเขาที่กำลังกลืนหายไปในความมืดมิด แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งที่หลับตาอยู่ผมก็สามารถสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้นที่กำลังไหลรินอยู่ข้างแก้ม
น้ำตาแห่งความเสียใจ
เฮือก!!!
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะเสียงกรนลั่นสนั่นของนายอ้วนที่นอนอยู่อีกฝากของเต้นท์ มองดูนาฬิกาพรายน้ำที่ตอนนี้เกือบจะตีสามแล้ว ผมได้ยินเสียงเขี่ยกองไฟจากข้างนอกคงเป็นพานจื่อที่เปลี่ยนเวรกับนายอ้วนแน่ๆ
ผมไม่รู้ว่าหลังจากวันนั้นมันผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะผมไม่อยากจะนับวันเวลา ไม่อยากจะรู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนกับการที่ต้องกอดตัวเองอยู่เพียง ‘ลำพัง’
ทั้งที่เพิ่งจะนอนไปได้ไม่ถึงสามชั่วโมง แต่ผมก็รู้ดีกว่าตัวเองคงนอนไม่หลับแล้ว เพราะฝันนั้นแท้ๆ ทั้งที่ถ้าเป็นแค่การอยู่บ้านปกติผมจะไม่ฝันถึงมันเลย แต่พอเป็นยามที่ลงกรวยที่ไร เหตุการณ์วันนั้นก็จะคอยตามมาหลอกหลอนผมตลอด แม้แต่ในความฝัน
หลังจากที่เมินโหยวผิงจากไป ผม นายอ้วนและพานจื่อ ก็ยังติดต่อคบค้ากันอยู่เรื่อยมา บ้างไปกินข้าว บ้างไปดื่มด้วยกัน หรือบางทีหากมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ พวกเราก็จะรวมหัวกันคว่ำกรวยเหมือนอย่างวันนี้
หากถามว่าทำไมผมถึงยังคว่ำกรวยต่อ ทั้งที่ทางบ้านหรือร้านผมเองก็ไม่ได้ขัดสนอะไรมากขนาดนั้น มันอาจจะเป็นเพราะเลือดของโจรขุดสุสานที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของผมก็ได้ที่เป็นตัวเร่งเร้าให้สัญชาตญาณดิบทำงาน แต่ลึกๆ แล้วผมก็รู้ดีว่า สาเหตุที่ผมยอมลำบากมาลงดินก็เป็นเพราะความหวังเพียงหนึ่งเดียว ที่จะได้เจอกับคนคนนั้น คนที่ผมคิดถึงสุดหัวใจ
เพราะการพบกันครั้งแรกของเรา ก็เป็นตอนที่มาคว่ำกรวยด้วยกัน
ผมได้ยินเสียงละเมอถึงหยุ่นไฉของนายอ้วนที่นอนอยู่ไม่ไกล ซ้ำยังพลิกตัวเกาเป้าเกาตูดไปมา ท่าทางน่าตลก ผมหัวเราะออกมาเสียงเบา แต่ผมก็รู้ดีว่าที่ผมหัวเราะนั้นไม่ใช่เพราะท่าทางของนายอ้วน แต่เป็นการหัวเราะสมเพชตัวเองที่ตอนนี้ใบหน้าเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา
“บ้าเอ๊ย! นายนี่มันจะเล่นซ่อนแอบเก่งไปไหนว่ะเสี่ยวเกอ ทำไมฉันหายังไงก็ไม่เจอนายสักที...หรือจะต้องให้ฉันตะโกนว่ายอมแพ้ก่อน นายถึงจะยอมออกมา?...”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ผมรู้ดีว่าเขาคงไม่มีวันได้ยิน แต่ผมก็ยังอยากจะระบายมันออกมาบ้าง ไม่อย่างนั้นผมอาจจะเป็นบ้าเข้าสักวัน แต่ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดหรือทรมานมากแค่ไหน ผมก็ต้องหาเขาให้เจอให้ได้
เพราะมันคือ “สัญญา” ชั่วชีวิตของพวกเรา
Promise [END]
มาป่วงๆ และจบอย่างป่วงๆ เพราะความเครียดสะสมจากการเตรียมสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์แท้ ฮ่าๆๆๆๆ
อย่าเพิ่งปาร้องเท้าใส่เค้าเลยนะ ^^
momin- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 12
Points : 3635
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
ฮืออ นายน้อยยยย
เสี่ยวเกอนี่มันน่ามาตีจริง ๆ ทิ้งนายน้อยตลอดเลย T___T
ชอบตรงสัญญาชั่วชีวิตจังเลยค่ะ
เหมือนกับว่าทั้งสองคนถูกผูกไว้ด้วยกันตลอดชีวิต
ถึงจะยังหากันไม่เจอก็เถอะ แต่ยังไงก็ต้องมีสักวันล่ะน่า
(กำลังจะพิมพ์ทิ้งท้ายว่า "รอติดตามต่อนะคะ" แต่ลืมไปว่าเป็น one shot 55555555)
เอาเป็นว่ารอติดตามเรื่องต่อ ๆ ไปนะค้าา
เสี่ยวเกอนี่มันน่ามาตีจริง ๆ ทิ้งนายน้อยตลอดเลย T___T
ชอบตรงสัญญาชั่วชีวิตจังเลยค่ะ
เหมือนกับว่าทั้งสองคนถูกผูกไว้ด้วยกันตลอดชีวิต
ถึงจะยังหากันไม่เจอก็เถอะ แต่ยังไงก็ต้องมีสักวันล่ะน่า
(กำลังจะพิมพ์ทิ้งท้ายว่า "รอติดตามต่อนะคะ" แต่ลืมไปว่าเป็น one shot 55555555)
เอาเป็นว่ารอติดตามเรื่องต่อ ๆ ไปนะค้าา
Re: [OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
แงงงงงงงงงง TTwTT นั่นคือ GoodBye Kiss ใช่มั้ยคะเสี่ยวเกออ //จับตัวเสี่ยวเกอเขย่าๆ....กร๊อบบบ
รู้สึกเหมือนเป็นสัญญาทางใจของทั้งสองคนมากค่ะ เชื่อมใจเข้าไว้ด้วยกัน อิอิ
ขอบคุณสำหรับวันชอตดีๆเรื่องนี้นะคะ ;; w ;; //ปาดน้ำตา โค้งๆ
รู้สึกเหมือนเป็นสัญญาทางใจของทั้งสองคนมากค่ะ เชื่อมใจเข้าไว้ด้วยกัน อิอิ
ขอบคุณสำหรับวันชอตดีๆเรื่องนี้นะคะ ;; w ;; //ปาดน้ำตา โค้งๆ
Naitear- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 232
Points : 3903
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว
Re: [OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
แนะนำให้นายน้อยลองไปตะโกนคำว่า "ยอมแพ้" หน้าประตูสำริดสักหลายๆครั้งนะคะ เผื่อตาคนข้างในจะยอมเปิดประตูออกมาสักที
สัญญาชั่วชีวิตของพวกนายทำให้ใคนหลายคนเจ็บปวดนะ รู้มั้ยยยยยยยยย (คนอ่านนี่แหละที่เจ็บ ฮืออออ)
ถ้าอยากให้คนอื่นหาเจอก็ไปซ่อนในที่ที่ไปหาง่ายๆหน่อยสิคะ นายเมินโหยวผิง!!!
สัญญาชั่วชีวิตของพวกนายทำให้ใคนหลายคนเจ็บปวดนะ รู้มั้ยยยยยยยยย (คนอ่านนี่แหละที่เจ็บ ฮืออออ)
ถ้าอยากให้คนอื่นหาเจอก็ไปซ่อนในที่ที่ไปหาง่ายๆหน่อยสิคะ นายเมินโหยวผิง!!!
MinMin- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 222
Points : 3990
Join date : 28/10/2014
Re: [OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
ห๊ะ เห๊ เย้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เพิ่งเห็นว่าเมนท์ไม่ติด!!!
ชอบคำนี้มากเลยค่ะ สัญญาชั่วชีวิต ในอีกแง่หนึ่ง มันคือข้อผูกมัดที่มีค่ายิ่งกว่าคำสาบานในงานแต่งงานซะอีก!//ด้วงมโน
ชอบคำนี้มากเลยค่ะ สัญญาชั่วชีวิต ในอีกแง่หนึ่ง มันคือข้อผูกมัดที่มีค่ายิ่งกว่าคำสาบานในงานแต่งงานซะอีก!//ด้วงมโน
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 4089
Join date : 27/10/2014
Age : 29
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
เสี่ยวเกอใจร้ายยิ่งนักกกกกกก T_T
gaaraclub- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 81
Points : 3698
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋
Re: [OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
เสี่ยวเกอ ทำไมนายทำแบบนี้หว๊าาา!!!
ที่จริงนายก็อยากให้เขามาตามหานายใช่ไหมล่ะ
คำสัญญานิ ช่วยทำให้มันเป็นจริงหน่อยสิ
ที่จริงนายก็อยากให้เขามาตามหานายใช่ไหมล่ะ
คำสัญญานิ ช่วยทำให้มันเป็นจริงหน่อยสิ
ryu77- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3687
Join date : 01/11/2014
Re: [OS] Promise [จางฉี่หลิง x อู๋เสีย]
อ่านแล้วอยากถีบอู๋เสียให้เสี่ยวฮัว
ฮือ เสี่ยวเกอใจร้าย
ฮือ เสี่ยวเกอใจร้าย
kuramajoy- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 206
Points : 3918
Join date : 27/10/2014
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily 20 days left (Promise) Ten years Promise (อู๋เสีย implied ผิงเสีย)
» [OS] 'เกาลัด' (ผิงเสีย :: จางฉี่หลิง,อู๋เสีย)
» [OS] #dmbjdaily (น้องชาย) That day [จางฉี่หลิง+อู๋เสีย]
» [OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) That night [จางฉี่หลิง+อู๋เสีย]
» [Fic]#dmbjdaily 20 days left (Promise)(AU) Forgotten Promise (ผิงเสีย)
» [OS] 'เกาลัด' (ผิงเสีย :: จางฉี่หลิง,อู๋เสีย)
» [OS] #dmbjdaily (น้องชาย) That day [จางฉี่หลิง+อู๋เสีย]
» [OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) That night [จางฉี่หลิง+อู๋เสีย]
» [Fic]#dmbjdaily 20 days left (Promise)(AU) Forgotten Promise (ผิงเสีย)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth