Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] to find you [heavily implied ผิงเสีย]
3 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] to find you [heavily implied ผิงเสีย]
“TO FIND YOU”
เมินโหยวผิงไปแล้ว
“สิ้นสุดแล้ว”
“ฉันต้องกลับไปยังที่ที่ฉันควรไปแล้ว”
“..นับจากนี้สิบปี ถ้านายยังจำฉันได้ ให้นำสิ่งนี้มาที่นี่ ที่เปิดประตูสำริดบานนั้น นายอาจเจอฉันข้างใน”
.
.
.
คำพูดเหล่านั้นยังวนเวียนอยู่ในความคิดผมเสมอ แม้จะผ่านช่วงเวลานั้นมาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับผมมันยังเหมือนแผลสดที่ยังไม่แห้ง สะกิดเพียงนิดก็รู้สึกเจ็บแสบและใช้เวลาในการสมานมากขึ้น ผมพยายามไม่คิดถึงมัน ซึ่งผมคิดว่าผมทำได้ดีอย่างเช่นตอนนี้ ผมนั่งอยู่ริมทะเลสาบซีหู อยู่กับสิ่งรอบตัวอันเป็นปัจจุบันที่กำลังดำเนินไป ทั้งที่จริงแล้วหากผมมีสติและคิดได้ว่าชีวิตต้องเดินหน้าผมก็คงไม่มาอยู่ที่นี่ ผมไม่รู้ว่าตัวเองมาทำหน้าที่นั่งเหม่อลอยแทนคนบางคนตั้งแต่เมื่อไหร่ ─ อาจเป็นตั้งแต่ที่คนที่ทำหน้าที่นั้นไม่อยู่ ─ ผมได้แต่ขำเบาๆกับตัวเอง ตอนนั้นเองถึงสังเกตว่าภาพสะท้อนผืนน้ำนั้นช่างพร่ามัว ผมไม่ทันคิดอะไรด้วยซ้ำตอนรู้สึกเปียกที่แก้ม มันอาจเป็นหยาดฝนที่ปรอยลงมาจากก้อนเมฆครึ้มแลดูหนักอึ้งที่ลอยอ้อยอิ่งปกคลุมหังโจวอยู่
ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเสียงหัวเราะแหบแห้งของผมนั้น กลายเป็นเสียงสะอื้นตั้งแต่เมื่อไหร่
Lately life is like a dream
I watching it through a smoky screen
หลังจากเหตุการณ์ที่ฉางไป๋ซาน เมื่อกลับถึงหังโจว ผมเสียศูนย์ไปร่วมเดือน จนกระทั่งอารองมาหาและพูดคุยด้วย ผมจึงได้สติ ผมไม่ได้กลับไปเป็นเถ้าแก่น้อยที่ได้แต่นั่งตบยุงไปวันๆ อีกแล้ว ผมลงมือกอบกู้ธุรกิจของอาสามขึ้น สิ่งที่อาสามเริ่มต้นไว้ สิ่งที่พานจื่อและเสี่ยวฮัวได้จัดการสะสางไว้ให้ ผมจะไม่ยอมให้มันจบลงง่ายๆ คนเหล่านั้นเสียสละให้ผมมากมาย ความทรงจำและตัวตนของคนที่ผมรู้จัก ผมจะคงสิ่งเหล่านั้นไว้
แม้จะต้องเจ็บปวดกับการมองเห็นความทรงจำที่พาดผ่านที่รอบตัวที่ผมอยู่ก็ตาม
ตั้งแต่กลับมา ผมมีปัญหานอนไม่ค่อยหลับ ทั้งที่เหนื่อยจากการจัดการร้านของอาสามในแต่ละวัน ไม่ว่าจะข้าวของในร้านที่ไม่รู้ที่มาที่ไป บทจะเฮี้ยนอะไรขึ้นมาไหมผมก็ยังหวั่นๆ ไหนจะบัญชีที่ข้อมูลขาดๆ หายๆ จากการกวาดล้างครั้งใหญ่ ไหนจะเรื่องคนเก่าๆ ที่ยังเคียดแค้นอะไรก็ตามที่ผมไม่เข้าใจ ใครจะรู้ว่าอาสามก่อเรื่องสร้างราวอะไรไว้บ้าง ผมคนนึงแน่ๆ ล่ะที่ไม่อยากจะรู้ แต่จำต้องจัดการให้ได้ ผมมีเรื่องให้เจ็บตัวอยู่บ่อยๆ ซ้ำยังลามไปถึงหวังเหมิงด้วย เจ้าลูกจ้างหกร้อยหยวนที่บัดนี้ผมขึ้นเงินเดือนให้แล้วนั้นช่วยเหลือผมไว้หลายครั้ง ช่างน่าเศร้าที่ต่อให้พยายามเข้มแข็งเพียงไร ผมก็คืออู๋เสียที่ไม่ได้เรื่องสักครั้ง ─ อย่างเช่นการข่มตานอนผมยังทำไม่ได้เลย
ผมเคยโหยหาการนอนหลับ เผื่อว่าผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ผมจะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่มันเป็น แต่เป็นอย่างที่ผมอยากให้มันเป็น พ่อของผมเคยหัวเราะให้กับความคิดนั้น บอกว่าผมก็ยังเป็นผม เด็กชายอู๋เสียที่แสนจะไร้เดียงสา ─ ผมก็คิดแบบนั้น สุดท้ายผมเป็นแค่เด็กที่ไม่ยอมรับความจริง
Finding ways to sleep away
‘Til I can be with you someday
วันเวลาผ่านไปสอนให้ผมค้นพบว่าการนอนหลับ นอกจากจะไม่ตื่นมาพบกับสิ่งที่ผมต้องการแล้ว ยังทำให้ผมเจ็บปวดหนักเสียยิ่งกว่าเก่า.. ─ ผมฝัน
และในความฝัน ผมเห็น ‘เขา’
ผมเห็นเขาอยู่ที่ประตูบานนั้น เขาเรียกผม หากตัวผมกลับเหมือนอยู่ไกลแสนไกลเพราะต่อให้วิ่งเท่าไหร่ผมก็ไปไม่ถึงตัวเขา เสียงเรียกของเขานั้นแผ่วเบาหากชัดเจน ติดที่ผมไม่มีทีท่าว่าจะมีวัน ‘ไปถึง’ ตัวเขา
In the darkness you call my name
But only an echo came
ผมตามเสียงของเขาไป ผมวิ่งอย่างสุดกำลัง ตะโกนตอบเขา เรียกเขาจนสุดเสียง หากไม่มีสิ่งใดที่ผมทำนั้นสำเร็จสักอย่าง ผมกัดฝันฝืนวิ่งแค่ไหนก็เหมือนกับระยะห่างนั้นไม่ได้ลดน้อยลง ผมที่สั่งให้ตัวเองตะโกนออกไป กลับไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของตัวเอง ราวกับผมที่ดิ้นรนอยู่นั้น อยู่คนละมิติกับเขา มองเห็นเขา แต่ไม่มีวันได้อยู่กับเขา
ผมฝันซ้ำๆ กันเช่นนั้นหลายครั้ง พอตื่นผมก็นำมาขบคิด นิสัยคิดมากนี่แก้อย่างไรก็ไม่หาย เสี่ยวฮัวกับนายอ้วน..อาจรวมถึงหวังเหมิงด้วย พวกเขาได้แต่พากันถอนใจกับความกังวลเกินเหตุของผม ผมเคยสงสัยว่าคนอย่างเขา เหตุผลอะไรจะต้องมาเรียกหาผม จะขอความช่วยเหลือจากผมงั้นหรือ? ผมไม่คิดว่าเขาจะคาดหวังอะไรได้มากนักหรอก หรือเขาอาจเปลี่ยนไปแล้วและคิดว่าอาจใช้ผมเป็นตัวตายตัวแทนเพื่อถ่วงเวลาให้เขาหนีออกมาจากที่เลวร้ายแห่งนั้นได้ หรืออาจเกิดพบว่าเบื้องหลังประตูนั้นเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาถึงได้มาเรียกผมไปแท็กมือเปลี่ยนตัวกับเขางั้นหรือ? นี่ฟังดูมีเหตุผลทีเดียว อย่างไรเสีย คนที่ควรจะก้าวผ่านประตูนั้นไปก็เป็นผมแต่แรก
นั่นคือความฟุ้งซ่านไร้สาระที่คนอื่นๆ เรียก แต่เรื่องฟุ้งซ่านเรื่องหนึ่งที่ไม่ไร้สาระคืออีกความคิดหนึ่งที่ผมมักปัดทิ้งเสมอ เขาอาจไม่อยู่แล้ว
ผมเคยพูดเรื่องนี้กับนายอ้วน แน่นอนว่าต้องเป็นตอนที่ผมอับจนหนทางสุดๆ จนต้องพึ่งพาเขา ยอมรับเลยว่าความคิดแปลกๆ ของเขาเคยช่วยผมไว้หลายครั้ง แต่นั่นคือเรื่องใต้ดิน ไม่ใช่บนดินแบบนี้เสียหน่อย เขากลับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้วตบไหล่ผม เขาบอกว่า “แม้แต่เจ๊ใหญ่ของนายยังรอดมาได้ มีหรือเสี่ยวเกอจะทำไม่ได้ ข้อนั้นเสี่ยอ้วนว่าไม่ใช่แน่นอน นายน้อยสามวางใจได้” เขากระดกเหล้าอึกใหญ่แล้วพูดต่อว่า “เสี่ยวเกอนี่อิทธิฤทธิ์แรงจริงๆ เดี๋ยวนี้เขาถึงกับเข้าฝันมาส่งความคิดถึงได้เลยแหะ คงจะแวะมาเยี่ยม กลัวนายจะลืมเสียก่อน เลยต้องมาเรียกไว้ให้เห็นหน้าเห็นตาทุกวันไงล่ะ เทียนเจินเอ๋ย อย่าได้ไปนอกใจเขาล่ะ หมอนี่นี่มันร้ายกาจจริงๆ เสี่ยอ้วนขอคารวะ” คิดถึงพ่องสิ! แล้วยังจะนอกใจอะไรนั่นอีก ไอ้ห่าอ้วนนี่! แน่นอนว่าผมในตอนนั้นได้แต่เข่นเขี้ยวจิกกัดเขากลับไปเล็กน้อย ถึงในใจจะขึ้นถึงปู่ทวดเขาแล้วก็ตาม ภายหลังถึงได้มาแอบใส่เกลือลงไหเหล้าของเขาเป็นการแก้แค้น
นายอ้วนอาจพูดไปเรื่อยก็จริง แต่เขาก็ทำให้ผมคิดได้ว่าหลังจากที่ผมพยายามมากมายในความฝัน เมื่อผมตื่นขึ้น เหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ หากแต่สิ่งที่ยังเด่นชัดที่สุดในความรู้สึกของผมคือปณิธานอันแน่วแน่ของตัวเอง ผมจะต้องไปให้ถึงตัวเขา ผมจะกลับที่นั่นอีกครั้ง ไปทำตามสัญญานั้น ผมมีเวลาถึงหนึ่งสิบปีในการเตรียมตัว และผมจะเตรียมของขวัญไว้ให้เขาเพื่อต้อนรับกลับ ผมจะตามหาเขา ไม่ใช่ตัวเขาที่จากไปหลังประตูสำริด แต่เป็นอดีตที่เขาเคยมีนอกประตู
I'll smile through the pain
I'll search 'til I forget my name
To find you
ผมผ่านวันและคืนมาอย่างลำบาก การไต่เต้าขึ้นสู่ที่สูงไม่ง่าย ผมได้เรียนรู้แล้ว ผมที่ปกติจะหลีกเลี่ยงความทะเยอทะยานและความยุ่งยากเหล่านั้น ไม่ง่ายเลยที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายขนาดนี้ ─ แต่ผมก็ทำ เพื่อผลประโยชน์ทุกอย่างที่ผมจำเป็นต้องใช้ ทั้งเงินทอง อิทธิพลเส้นสาย รวมถึงพรรคพวก ผมเริ่มออกสืบอีกครั้ง ผมตามหาทุกเศษเสี้ยวของเขาอย่างไม่ลดละ ผมอยากจะรู้ทุกเรื่องราวและตัวตนของเขาให้ได้มากที่สุด หากแต่มันยากเหลือเกิน มีหลายครั้งที่วินาทีหนึ่งผมมองเห็นเขา หากเป็นแค่คนที่แต่งตัวคล้ายเขา หรือกระทั่งเสี้ยววินาทีที่ไม่เห็นตัวของเขา ราวกับว่าโลกนี้ไม่มีเขาอยู่จริงๆ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ผมคิดไปเอง มันทำให้ผมรู้สึกตัวเองเป็นคนเสียสติ
People say I’ve lost my mind
I’m starting to wonder if they’re right
จนกระทั่งพบเครื่องประดับรูปแมงป่องนั้น เสี่ยวฮัวใช้เส้นสายและเงินมากมายเพื่อที่จะขุดคุ้ยเรื่องราวเกี่ยวกับมัน ผมได้ข้อมูลมาและตามไปถึงเนปาล ใช้เบาะแสที่มีไปถึงมั่วถัวจนพบภาพภาพหนึ่ง ภาพที่ทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมพยายามมานั้นมีค่ามากแค่ไหน นอกจากภาพก็อปปี้ใบนั้น ผมถึงนึกขึ้นได้ว่าผมมีสิ่งที่ยืนยันการมีตัวตนของเขา ทั้งภาพถ่ายของผม เขาและนายอ้วน ลัญจกรผี และที่สำคัญที่สุดคือ.. ─ ตัวผมเอง
"ฉันทบทวนดูความเชื่อมโยงของฉันกับโลกใบนี้ ดูเหมือนเท่าที่เจอ ก็มีแต่นาย"
ผมจะยอมแพ้ไม่ได้ หากผมคือสิ่งเดียวที่จะพิสูจน์การมีตัวตนของเขาบนโลกใบนี้ หากผมไม่เชื่อในการมีอยู่ของเขา เขาก็คงไม่มีตัวตนอยู่จริงๆ อย่างที่ผมกลัวมาตลอดแน่ ผมห้ามถอดใจจากเขา ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไรก็ตาม
But my heart knows it can't be wrong
ผมจะตามหาทุกชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายของเขา ผมจะรู้จักเขาเพื่อที่จะบอกเล่าแก่ตัวของเขาเองเมื่อเขากลับมา เขาจะไม่ต้องรู้สึกถึงความอ้างว้างล่องลอยราวกับอยู่คนละมิติ เขาไม่ต้องเดียวดายอยู่ท่ามกลางผู้คน เขาไม่ต้องสงสัยกับการมีอยู่ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาจะมีตัวตนบนโลกใบนี้อย่างแท้จริง ผมจะเป็นผู้จดจำทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับเขา ผมจะสอนทุกสิ่งทุกอย่างแก่เขา จนกว่าเขาจะรู้จักตัวเอง
I’m coming back to you
And your face is constant in my mind
สิบปีของผมที่ได้มาจากการสูญเสียเขาไป ผมจะไม่ทำให้มันสูญเปล่า ผมจะต้องไปตามนัดของเขาแน่นอน
สำหรับผมตอนนี้น่ะ สิบปี ไม่ได้นานขนาดนั้นหรอก ผมนี่แหละจะพาเขากลับบ้านเอง
.
.
.
ผมเอื้อมมือรับวิทยุสื่อสารจากหยาเจ่ หมุนหาคลื่นแล้วออกคำสั่ง “..บีบแตรรถบอกเถ้าแก่พานของพวกแกซะว่าพวกเราจะไปกันแล้ว”
“ออกเดินทางได้ ฤดูร้อนนี้ พวกเราจะไปที่ที่เย็นสบายกว่าที่นี่กัน”
.
.
.
Wait for me, baby
------------
สวัสดีค่า (_ _)
ก่อนอื่นขอขอบคุณแรงบันดาลใจก่อนนะคะ
ขอบคุณเพลงประกอบ (หรือเรียกว่าเพลงโครงเรื่องไปเลยก็คงไม่ผิด) "TO FIND YOU" โดย Lea Michele ค่ะ
และก็ส่วนที่เป็นสีเทาก็เป็นส่วนที่คัดลอกมาจากหนังสือทั้งสิ้น (ยกเว้นส่วนท้ายที่มาจากตอนพิเศษ "สิบปีแล้ว") กราบขอบคุณคุณเบียร์และท่านประมุขค่ะ
ที่เหลือก็เป็นการถ่ายทอดมโนของเราลงไปแทรกในงานคุณภาพทั้งสามชิ้น
เป็นการเขียนนิยายครั้งแรกของเราเลยค่ะ ถึงแม้จะเป็นนิยายสั้นๆ มีต้นทุนต่ำถึงต่ำมากก็ตาม /หัวเราะแห้ง
ตั้งใจจะเขียนเรื่องอื่นด้วยค่ะ ประกอบเป็นรวมฟิกวันช็อท ตั้งชื่อธีมให้แล้วเรียบร้อย แต่ไอเดียยังไม่มาเลยซักอัน /ยิ้มค้างอย่างเสียสติ
อ่า ทำไมตอนเขียนพร่ำเพ้อแบบนี้มันถึงไหลออกมาง่ายกว่าการแต่งเรื่องเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้นะ orz
ขอพอแค่นี้ก่อน แล้วพบกันในโอกาสหน้าค่ะ
ขอบคุณค่า~^^
♡♡
แก้ไขล่าสุดโดย ballo0ns เมื่อ Wed 11 Mar 2015, 00:53, ทั้งหมด 1 ครั้ง (Reason for editing : แก้คำผิด)
ballo0ns- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 40
Points : 3464
Join date : 01/01/2015
Re: [OS] to find you [heavily implied ผิงเสีย]
อู๋เสียผู้ตามผู้ชายกลับบ้านจนเคยตัว
วอนคุณป๋าตบเขาให้ดับดิ้นทีเถอะคะ
วอนคุณป๋าตบเขาให้ดับดิ้นทีเถอะคะ
faliona01- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 261
Points : 3758
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ
Re: [OS] to find you [heavily implied ผิงเสีย]
อ่านแล้วชอบมากกกกกกกก
ฟิคก็ดี เนื้อเพลงก็เข้า คือมันดีงามมากค่ะ T///T
อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความเสียสูญของนายน้อยหลังกลับมาคราวนั้น
ต้องแบกรับในสิ่งที่คนที่จากไปเหลือไว้ให้ ต้องรับความกดดันที่ไม่เคยเจอให้ได้
ตอนนายน้อยฝันนี่ดูรวดร้าวมาก มองเห็น ได้ยินเสียง แต่สัมผัสไม่ได้
แต่คือแอบตลกนายน้อย อะไรคือการที่เสี่ยวเกอจะเรียกไปแท็กมือเปลี่ยนตัวคะ 555
และที่เราชอบมากคือการที่นายน้อยบอกว่าจะไม่ยอมแพ้ถ้าตัวเองเป็นสิ่งเดียวที่พิสูจน์ตัวตนของเสี่ยวเกอได้ คือมันพีคมาก เพราะเสี่ยวเกอก็พูดเองว่านายน้อยเป็นสิ่งเชื่อมโยงเดียว แล้วถ้ากระทั่งนายน้อยยังถอดใจตัวตนของเสี่ยวเกอก็คงจะหายไปจริงๆ
แล้วตรงที่จะรู้จักเพื่อบอกเล่าเรื่องราวนั่นอีก คือต่อให้เสี่ยวเกอออกมาแล้วจำอะไรไม่ได้แต่นายน้อยก็พร้อมจะช่วย จะเป็นคนที่รู้จักอีกฝ่ายดียิ่งกว่าเจ้าตัว และจะถ่ายทอดทุกอย่างให้ จนกว่าเขาจะรู้จักตัวเอง
รู้สึกเราเม้นประหนึ่งเขียนเรียงความ ดึงหัวข้อย่อยๆมาแตกให้ยาวและวกวน(?)
ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆนะคะ อ่านอล้วปริ่มมาก หงุงงง
ปล. ฮืออออ เม้นยาวและวนมาก อ่านเข้าใจมั้ยคะ เราเขียนเองยังเมาเองเลย...
ฟิคก็ดี เนื้อเพลงก็เข้า คือมันดีงามมากค่ะ T///T
อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความเสียสูญของนายน้อยหลังกลับมาคราวนั้น
ต้องแบกรับในสิ่งที่คนที่จากไปเหลือไว้ให้ ต้องรับความกดดันที่ไม่เคยเจอให้ได้
ตอนนายน้อยฝันนี่ดูรวดร้าวมาก มองเห็น ได้ยินเสียง แต่สัมผัสไม่ได้
แต่คือแอบตลกนายน้อย อะไรคือการที่เสี่ยวเกอจะเรียกไปแท็กมือเปลี่ยนตัวคะ 555
และที่เราชอบมากคือการที่นายน้อยบอกว่าจะไม่ยอมแพ้ถ้าตัวเองเป็นสิ่งเดียวที่พิสูจน์ตัวตนของเสี่ยวเกอได้ คือมันพีคมาก เพราะเสี่ยวเกอก็พูดเองว่านายน้อยเป็นสิ่งเชื่อมโยงเดียว แล้วถ้ากระทั่งนายน้อยยังถอดใจตัวตนของเสี่ยวเกอก็คงจะหายไปจริงๆ
แล้วตรงที่จะรู้จักเพื่อบอกเล่าเรื่องราวนั่นอีก คือต่อให้เสี่ยวเกอออกมาแล้วจำอะไรไม่ได้แต่นายน้อยก็พร้อมจะช่วย จะเป็นคนที่รู้จักอีกฝ่ายดียิ่งกว่าเจ้าตัว และจะถ่ายทอดทุกอย่างให้ จนกว่าเขาจะรู้จักตัวเอง
รู้สึกเราเม้นประหนึ่งเขียนเรียงความ ดึงหัวข้อย่อยๆมาแตกให้ยาวและวกวน(?)
ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆนะคะ อ่านอล้วปริ่มมาก หงุงงง
ปล. ฮืออออ เม้นยาวและวนมาก อ่านเข้าใจมั้ยคะ เราเขียนเองยังเมาเองเลย...
28016- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 67
Points : 3510
Join date : 28/12/2014
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth