Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS](จางฉี่ซานxอู๋เหลาโก่ว) งอน
3 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS](จางฉี่ซานxอู๋เหลาโก่ว) งอน
(จางฉี่ซานxอู๋เหลาโก่ว)
มือกระชับกระเป๋าข้างตัว ขายาวก้าวเร็วๆอยู่ภายในตรอกแห่งนี้เพื่อที่จะได้ออกไปให้ไว แต่ก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นใครบางคนที่คุ้นเคยหลบๆซ่อนๆอยู่มุมเสาหลักถนน
หมาห้า เจ้ามาทำอะไรแถวนี้นะ
ลองเดินตามไปหน่อยก็แล้วกัน อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปไหน และทำอะไร
อีกด้านหนึ่ง
รู้สึกเหมือนมีคนตามมา....
ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน… แต่หันหลังกลับไปก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากความมืดที่รายล้อมรอบตัวลงมาเรื่อยๆ จะใครก็ช่างเถิด จะลองดีกับฉันหรือ? อู๋เหลาโก่วหลบเข้าซอกแคบๆถนนอย่างรวดเร็ว คิดเอาไว้ว่าถ้าไอ้คนที่เดินตามเขามามาถึงนี่มันจะต้องกลับบ้านไปไม่ครบ32
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าดังก้องไปทั่วทางเดิน เสียงนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงเมื่อเลยซอกที่อู๋เหลาโก่วยืนอยู่ไปนิดหน่อย อีกคนที่ไม่มองให้ดีเสียก่อนและไม่นึกเอะใจ พุ่งตัวออกไปหวังล็อกคอแล้วจับเขาทุ่มที่พื้น
ฟุ่บ พรึ่บ!
“อะ...โอ๊ย” แต่ดูเหมือนความเร็วที่ใช้จะยังไม่พอ แขนยังไม่ทันจะถึงตัวอีกคนก็โดนใครคนนั้นจับแขนพลิกกลับไปด้านหลังแล้วดึงตัวเขาไปด้านหลัง
“เจ้าช้าไปนะ”
“ทะ...ท่าน!” คนโดนจับได้ร้องเสียงหลง เมื่อรู้ว่าคนที่จับแขนตนเองอยู่คือใคร อู๋เหลาโก่วถูกพลิกตัวกลับมา แขนอีกข้างถูกปล่อยเป็นอิสระ เมื่อสบตากับเจ้าของเสียงทุ้มเท่านั้นจากใบหน้าตกใจก็เปลี่ยนเป็นง้ำงอแทน
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“แล้วท่านมาทำอะไร?” อู๋เหลาโก่วไม่ได้ตอบคำถาม แต่ย้อนถามกลับไปเสียงสะบัดเล็กน้อยบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์เมื่อเจอคนที่ไม่อยากเจอเข้า
“....” เมื่อเห็นกิริยาของคนตรงหน้า มุมปากกลับมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ ปากแดงๆนั่นแทบจะคว่ำอยู่แล้ว
“ยิ้มอะไรของท่าน!” จางฉี่ซานนึกขำอีกคนที่หน้าง้ำหน้างอ ส่ายหน้าเบาๆพร้อมถอนหายใจ ก่อนจะคว้าเอามือนั่นมาจับแล้วออกแรงดึงให้เดินตามมา
“เจ้าไม่ควรจะมาแถวนี้ในเวลาแบบนี้”
“ปล่อยมือข้าเลยนะ! นี่ พ่อพระ!” อู๋เหลาโก่วแหวใส่อีกคนที่เดินกึ่งลากกึ่งจูงเขาไป ทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงมือออกแต่ดูเหมือนว่าคนที่เหนื่อยจะมีแต่ตัวเอง
จนสุดท้ายก็ต้องเดินตามคนตัวสูงในเครื่องแบบที่เดินนำอยู่ตรงหน้าเขา
---------------------------------------
“ซันชุ่นติง! ถ้าเจ้าหนีข้าอีกวันหลังข้าจะไม่ใจดีกับเจ้าแล้วนะ”
เสียงพูดปนหอบหน่อยๆที่ดังมาจากหลังบ้านตระกูลอู๋เรียกความสนใจของผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี จางฉี่ซานถอดหมวกก่อนจะวางไว้ในตัวบ้าน ร่างสูงสมส่วนในชุดเครื่องแบบเดินตามเสียงของคนและหมาไปจนถึงที่
ภาพตรงหน้าคือผู้ชายเรือนผมสีน้ำตาลกำลังกอดรัดเจ้าหมาตัวโตตรงหน้าตัวเอง มือข้างหนึ่งถือสายยาง อีกข้างหนึ่งใช้กอดรัดเจ้าตัวโตนั่นไว้ บนตัวของมันมีฟองอยู่เต็มไปหมด ได้ยินเสียงบ่นหมาตัวเองไปแต่มือนั่นก็คอยสางขนด้วยความตั้งใจไล่ฟองออกไปจากลำตัวของมัน
และดูเหมือนว่าเจ้าหมาตัวโตนั่นจะรู้ว่าตัวของมันสะอาดแล้ว มันดิ้นจากอ้อมแขนของเจ้าของ สะบัดจนน้ำกระเด็นเซ็นซ่านไปทั่วบริเวณนั้น ส่งผลให้เจ้าของมันยอมปล่อยเสียโดยดี มือยกขึ้นป้องใบหน้าจากละอองน้ำก่อนจะแหวเสียงดังตามหลังเจ้าหมานั่นไป ขางฉี่ซานยิ้มมุมปากอย่างขัน ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจะยังไม่รู้ตัวว่ามีแขกมาเยือนที่บ้าน
“ไม่อยากมาหาน้ำให้ข้ากินหน่อยหรือ”
ใบหน้านั่นหันขวับมาทางเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนร่างคนตรงหน้าจะเดินเร็วๆเข้ามา เขาสวมกางเกงขายาว ขากางเกงถูกพับขึ้นไปเล็กน้อย กับเสื้อกล้ามสีเดียวกันกับสีผม ที่ตอนนี้มันเปียกลู่ไปจนแนบกับลำตัวของเจ้าตัว
“พ่อพระ! ท่านมาทำอะไรที่บ้านข้า!” จางฉี่ซานละสายตาออกจากร่างตรงหน้า พลางคิดในใจว่ามันน่านักที่ปล่อยตัวเองให้เปียกเช่นนี้
“เข้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน”
“ไม่ไป ท่านมาทำอะไร? งานการท่านไม่มีทำหรืออย่างไร ทีเมื่อก่อนเห็นไม่ค่อยว่าง” อู๋เหลาโก่วแหวใส่คนที่หน้านิ่งที่ยืนตรงหน้าอย่างไม่เกรง เขารู้ดีว่าคนคนนี้ไม่สะทกสะท้านอะไรหรอก
“ถ้าเจ้าไม่ไปข้าจะพาเจ้าไปเปลี่ยนเอง จะเอาแบบนั้นไหม” เสียงนิ่งๆเอ่ยขึ้นมาอย่าไม่สะทกสะท้าน แต่กลับทำให้คนหน้างอสะดุ้งหน้าแดงเรื่อหลบสายตาอีกคนในทันที
“ไอ้คนบ้า!” จางฉี่ซานมองตามคนที่ตั้งใจเดินเบียดเขาเข้าบ้านไปเร็วๆ ส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ก่อนจะมีคนเอาน้ำมารินให้ พลางคิดไปถึงคนด้านบนที่ยังคงไม่หายโกรธเคืองเขาสักที
ช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมางานเขาหนักเหลือเกิน ไม่มีเวลาแม้แต่จะพูดคุยกับใครทั้งนั้น แม้แต่กับคนรัก นอกจากไม่มีเวลาแล้วยังต้องออกราชการไปนอกเมือง ไปที่อื่น จึงหาโอกาสพบหน้าใครไม่ได้เลย จนย่ำค่ำวันนั้น ถ้าเขาไม่บอกให้ลูกน้องกลับไปรอที่รถและเขาจะตามไปทีหลัง เขาจะไม่มีวันได้พบกับเหตุการณ์เช่นนั้นเลย
ที่เขาเจอหมาห้าวันนั้นก็เพราะว่าเจ้าตัวแอบตามไปดู อู๋เหลาโก่วคงรู้ว่าเขาจะกลับวันนี้ จึงมาด้วยตนเอง ไม่พกมาด้วยแม้แต่ซันชุ่นติงที่เจ้าตัวมักจะเอาไปด้วยไม่ว่าจะไปที่ใดก็ตาม
แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ง่าย เมื่อคนรักโกรธเคืองถึงกับไม่ยอมพูดคุยด้วยหลังจากวันนั้น จึงต้องมาเองถึงที่นี่ และตอนนี้เขาก็รอนานจนเกินไปแล้ว พยักหน้าให้คนใช้ในบ้านว่าไม่ต้องไปตาม เดี๋ยวเขาขึ้นไปเอง
เสียงเคาะประตูห้องเรียกสติของคนที่นั่งอยู่บนเตียง
“บอกเขากลับไปเลย! บอกว่าข้าไม่ว่าง นอนหลับไปแล้วหรืออะไรก็ได้”
อู๋เหลาโก่วตะโกนออกไปให้คนด้านนอกได้ยิน แต่เสียงเคาะของประตูก็ยังดังขึ้นอีก พูดไม่รู้เรื่องหรือเจ้าพวกนี้
“ข้าบอกแล้วไงว่า… พ่อพระ!...อะ...ออกไปเลยนะ!”
เมื่อเปิดประตูออกไปกะจะเอ็ดคนใช้เสียหน่อย แต่คนที่เคาะไม่ใช่คนในบ้าน จะปิดประตูก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อมือใหญ่คว้าหมับก่อนจะดันแล้วแทรกตัวเข้ามา ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องด้วย แขนแข็งแรงคว้าหมับที่ข้อมืออีกคนก่อนจะดึงเข้ามาหาตัว
“ท่าน!...ปล่อยข้า! ข้าไม่อยากพบหน้าท่าน….อื้อ..” คางถูกจับให้เงยหน้าขึ้นก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะทาบทับลงมา เอวถูกดึงรั้งเข้าไปใกล้อีก มือใหญ่ข้างหนึ่งจับใบหน้าอีกคนไว้ก่อนลิ้นร้อนจะสอดพรวดเข้าในโพรงปากหวาน รู้สึกได้ถึงกำปั้นทุบหนักๆที่ไหล่ทั้งสองข้าง จางฉี่ซานเอียงหน้าไปอีกด้านมือเลื่อนลงไปโอบเอวคนในอ้อมกอดไว้แน่น กวาดลิ้นไปทั่วจนอีกคนอ้าปากยอมให้ตนเองรุกรานได้ตามใจชอบ มือที่ทุบเปลี่ยนมาจับก่อนจะขย้ำดึง
จางฉี่ซานค่อยๆละริมปากออก สบดวงตาสั่นไหวของคนตรงหน้า ริมฝีปากที่ยังคลอเคลียไล่กดจูบเบาๆที่ริมฝีปากแดงจัด ก่อนจะเลื่อนมาที่มุมปากไล่ลงที่สัมผัสที่คอขาวแผ่วเบา คนตรงหน้าก็เอียงคอให้น้อยๆอย่างง่ายดาย
“ทะ...ท่าน...อึ๊...” มือเลื่อนมาที่ไหล่หนาที่ยังอยู่ในเครื่องแบบจางฉี่ซานละใบหน้าออกมาจากซอกคอนั่นอย่างนึกเสียดายเล็กน้อย เขาลุกขึ้นก่อนจะจับจูงมืออีกคนให้เดินตาม
“เก็บของใช้ส่วนตัวของเจ้า วันนี้ไปค้างกับข้า”
“ไม่เอา….” อู๋เหลาโก่วเม้มปากหน้าแดงแจ๋ ดึงข้อมือออกจากมือใหญ่ “ถ้าข้าไปไม่มีใครดูแลหมา...”
“ถ้าเจ้าไม่ไป”
“....”
“งั้นคืนนี้ข้าจะค้างที่นี่”
……
“แฮ่ก….อือ...อื๊อ...พะ...พอแล้ว” อู๋เหลาโก่ววาดแขนกอดคออีกคนแน่น ใบหน้าหงายเชิดครางเสียงสะอื้นเมื่ออีกคนกระแทกกระทั้นเข้ามาอีก มือใหญ่บีบเค้นสะโพกที่นั่งอยู่บนตักของตนเอง เขาตบสะโพกโจนจ้วงเข้าออกช่องทางแดงช้ำนั่นรัวก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปด้านในทุกหยาดหยด รั้งใบหน้าชื้นเหงื่อให้ก้มลงมารับจูบ ก่อนจะผละริมฝีปากออก ถอดกายออกจากตัวอีกคนกอดจะวาดแขนรั้งตัวเข้ามากอดแนบอก ริมฝีปากกดจูบหนักๆที่ขมับอีกคนอย่างหวงแหน
“หายโกรธข้าหรือยัง”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ มือใหญาก็จับคางคนในอ้อมอกให้เงยหน้าสบตา แต่ดูเหมือนว่าจะเขาคิดผิดเสียแล้ว สายตาหวานฉ่ำที่มองสบตากลับมา ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน แก้มขาวทั้งสองข้างตรงหน้าขึ้นริ้วแดงไปหมด ก่อนกำปั้นหนักๆจะทุบลงบนอก
“ข้ายอมขนาดนี้ ท่านยังไม่รู้อีกรึไง...”
ปลายนิ้วยกขึ้นแตะแก้มอีกคนแผ่วเบาก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะก้มลงมาจูบหน้าผาก หมาน้อยตัวนี้ทำให้เขาใจเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ดึงตัวอีกคนออกก่อนจะล้มตัวลงนอนไม่ลืมที่จะคว้าร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าเข้ามากอดไว้แนบอก “อย่าโกรธเคืองข้านักเลย...”
“ข้าออกไปทำงาน ใช่ว่าจะไม่คิดถึงเจ้าเสียเมื่อไหร่ อยากกลับมาหาใจแทบขาดแต่ภาระหน้าที่ที่ละทิ้งมิได้ก็สำคัญเช่นกัน เจ้ารู้ดีไม่ใช่หรือ” รู้สึกว่าคนในอ้อมกอดขยับตัวเข้ามาหาอีก
“นอนเถิด คืนนี้ข้าจะไม่กวนเจ้าแล้ว” ประโยคกำกวมนั่นทำให้คนในอ้อมกอดมุดใบหน้าแดงซ่านเข้าที่อกแข็งแรงตรงหน้า ก่อนที่อู๋เหล่าโก่วจะสัมผัสได้ถึงแผ่นอกแข็งแรงที่กระเพื่อมตามแรงหายใจคงที่ เขาคงหลับไปแล้ว
ร่างเปลือยเปล่าขยับลุกขึ้นมาเล็กน้อย ช่วงสะโพกรู้สึกขัดไปหมด ปลายนิ้วลูบไปตามโครงหน้าหล่อเหลาของคนรัก
“ข้ารักท่านนะ”
อู๋เหลาโก่วโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากของอีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนจะซุกตัวเข้าหาแผ่นอกแข็งแรงเหมือนเดิม ก่อนเขาจะหลับตามไปอีกคน
-----------------------------------------------------------------
มาแบบเรทๆ........ //ตบแก้มตัวเอง
ไม่อยากจะตั้งชื่อว่างอน ดูแปลกๆแต่จะให้ตั้งว่าเคือง...ก็ดูป่วงยิ่งกว่า ....
เอาเป็นว่าไม่ได้งอนแบบมุ้งมิ้งกุ๊งกิ๊งเกินจริงมากมายแน่นอนค่ะ ฮือ
T _____ T.
มือกระชับกระเป๋าข้างตัว ขายาวก้าวเร็วๆอยู่ภายในตรอกแห่งนี้เพื่อที่จะได้ออกไปให้ไว แต่ก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นใครบางคนที่คุ้นเคยหลบๆซ่อนๆอยู่มุมเสาหลักถนน
หมาห้า เจ้ามาทำอะไรแถวนี้นะ
ลองเดินตามไปหน่อยก็แล้วกัน อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปไหน และทำอะไร
อีกด้านหนึ่ง
รู้สึกเหมือนมีคนตามมา....
ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน… แต่หันหลังกลับไปก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากความมืดที่รายล้อมรอบตัวลงมาเรื่อยๆ จะใครก็ช่างเถิด จะลองดีกับฉันหรือ? อู๋เหลาโก่วหลบเข้าซอกแคบๆถนนอย่างรวดเร็ว คิดเอาไว้ว่าถ้าไอ้คนที่เดินตามเขามามาถึงนี่มันจะต้องกลับบ้านไปไม่ครบ32
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าดังก้องไปทั่วทางเดิน เสียงนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงเมื่อเลยซอกที่อู๋เหลาโก่วยืนอยู่ไปนิดหน่อย อีกคนที่ไม่มองให้ดีเสียก่อนและไม่นึกเอะใจ พุ่งตัวออกไปหวังล็อกคอแล้วจับเขาทุ่มที่พื้น
ฟุ่บ พรึ่บ!
“อะ...โอ๊ย” แต่ดูเหมือนความเร็วที่ใช้จะยังไม่พอ แขนยังไม่ทันจะถึงตัวอีกคนก็โดนใครคนนั้นจับแขนพลิกกลับไปด้านหลังแล้วดึงตัวเขาไปด้านหลัง
“เจ้าช้าไปนะ”
“ทะ...ท่าน!” คนโดนจับได้ร้องเสียงหลง เมื่อรู้ว่าคนที่จับแขนตนเองอยู่คือใคร อู๋เหลาโก่วถูกพลิกตัวกลับมา แขนอีกข้างถูกปล่อยเป็นอิสระ เมื่อสบตากับเจ้าของเสียงทุ้มเท่านั้นจากใบหน้าตกใจก็เปลี่ยนเป็นง้ำงอแทน
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“แล้วท่านมาทำอะไร?” อู๋เหลาโก่วไม่ได้ตอบคำถาม แต่ย้อนถามกลับไปเสียงสะบัดเล็กน้อยบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์เมื่อเจอคนที่ไม่อยากเจอเข้า
“....” เมื่อเห็นกิริยาของคนตรงหน้า มุมปากกลับมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ ปากแดงๆนั่นแทบจะคว่ำอยู่แล้ว
“ยิ้มอะไรของท่าน!” จางฉี่ซานนึกขำอีกคนที่หน้าง้ำหน้างอ ส่ายหน้าเบาๆพร้อมถอนหายใจ ก่อนจะคว้าเอามือนั่นมาจับแล้วออกแรงดึงให้เดินตามมา
“เจ้าไม่ควรจะมาแถวนี้ในเวลาแบบนี้”
“ปล่อยมือข้าเลยนะ! นี่ พ่อพระ!” อู๋เหลาโก่วแหวใส่อีกคนที่เดินกึ่งลากกึ่งจูงเขาไป ทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงมือออกแต่ดูเหมือนว่าคนที่เหนื่อยจะมีแต่ตัวเอง
จนสุดท้ายก็ต้องเดินตามคนตัวสูงในเครื่องแบบที่เดินนำอยู่ตรงหน้าเขา
---------------------------------------
“ซันชุ่นติง! ถ้าเจ้าหนีข้าอีกวันหลังข้าจะไม่ใจดีกับเจ้าแล้วนะ”
เสียงพูดปนหอบหน่อยๆที่ดังมาจากหลังบ้านตระกูลอู๋เรียกความสนใจของผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี จางฉี่ซานถอดหมวกก่อนจะวางไว้ในตัวบ้าน ร่างสูงสมส่วนในชุดเครื่องแบบเดินตามเสียงของคนและหมาไปจนถึงที่
ภาพตรงหน้าคือผู้ชายเรือนผมสีน้ำตาลกำลังกอดรัดเจ้าหมาตัวโตตรงหน้าตัวเอง มือข้างหนึ่งถือสายยาง อีกข้างหนึ่งใช้กอดรัดเจ้าตัวโตนั่นไว้ บนตัวของมันมีฟองอยู่เต็มไปหมด ได้ยินเสียงบ่นหมาตัวเองไปแต่มือนั่นก็คอยสางขนด้วยความตั้งใจไล่ฟองออกไปจากลำตัวของมัน
และดูเหมือนว่าเจ้าหมาตัวโตนั่นจะรู้ว่าตัวของมันสะอาดแล้ว มันดิ้นจากอ้อมแขนของเจ้าของ สะบัดจนน้ำกระเด็นเซ็นซ่านไปทั่วบริเวณนั้น ส่งผลให้เจ้าของมันยอมปล่อยเสียโดยดี มือยกขึ้นป้องใบหน้าจากละอองน้ำก่อนจะแหวเสียงดังตามหลังเจ้าหมานั่นไป ขางฉี่ซานยิ้มมุมปากอย่างขัน ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจะยังไม่รู้ตัวว่ามีแขกมาเยือนที่บ้าน
“ไม่อยากมาหาน้ำให้ข้ากินหน่อยหรือ”
ใบหน้านั่นหันขวับมาทางเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนร่างคนตรงหน้าจะเดินเร็วๆเข้ามา เขาสวมกางเกงขายาว ขากางเกงถูกพับขึ้นไปเล็กน้อย กับเสื้อกล้ามสีเดียวกันกับสีผม ที่ตอนนี้มันเปียกลู่ไปจนแนบกับลำตัวของเจ้าตัว
“พ่อพระ! ท่านมาทำอะไรที่บ้านข้า!” จางฉี่ซานละสายตาออกจากร่างตรงหน้า พลางคิดในใจว่ามันน่านักที่ปล่อยตัวเองให้เปียกเช่นนี้
“เข้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน”
“ไม่ไป ท่านมาทำอะไร? งานการท่านไม่มีทำหรืออย่างไร ทีเมื่อก่อนเห็นไม่ค่อยว่าง” อู๋เหลาโก่วแหวใส่คนที่หน้านิ่งที่ยืนตรงหน้าอย่างไม่เกรง เขารู้ดีว่าคนคนนี้ไม่สะทกสะท้านอะไรหรอก
“ถ้าเจ้าไม่ไปข้าจะพาเจ้าไปเปลี่ยนเอง จะเอาแบบนั้นไหม” เสียงนิ่งๆเอ่ยขึ้นมาอย่าไม่สะทกสะท้าน แต่กลับทำให้คนหน้างอสะดุ้งหน้าแดงเรื่อหลบสายตาอีกคนในทันที
“ไอ้คนบ้า!” จางฉี่ซานมองตามคนที่ตั้งใจเดินเบียดเขาเข้าบ้านไปเร็วๆ ส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ก่อนจะมีคนเอาน้ำมารินให้ พลางคิดไปถึงคนด้านบนที่ยังคงไม่หายโกรธเคืองเขาสักที
ช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมางานเขาหนักเหลือเกิน ไม่มีเวลาแม้แต่จะพูดคุยกับใครทั้งนั้น แม้แต่กับคนรัก นอกจากไม่มีเวลาแล้วยังต้องออกราชการไปนอกเมือง ไปที่อื่น จึงหาโอกาสพบหน้าใครไม่ได้เลย จนย่ำค่ำวันนั้น ถ้าเขาไม่บอกให้ลูกน้องกลับไปรอที่รถและเขาจะตามไปทีหลัง เขาจะไม่มีวันได้พบกับเหตุการณ์เช่นนั้นเลย
ที่เขาเจอหมาห้าวันนั้นก็เพราะว่าเจ้าตัวแอบตามไปดู อู๋เหลาโก่วคงรู้ว่าเขาจะกลับวันนี้ จึงมาด้วยตนเอง ไม่พกมาด้วยแม้แต่ซันชุ่นติงที่เจ้าตัวมักจะเอาไปด้วยไม่ว่าจะไปที่ใดก็ตาม
แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ง่าย เมื่อคนรักโกรธเคืองถึงกับไม่ยอมพูดคุยด้วยหลังจากวันนั้น จึงต้องมาเองถึงที่นี่ และตอนนี้เขาก็รอนานจนเกินไปแล้ว พยักหน้าให้คนใช้ในบ้านว่าไม่ต้องไปตาม เดี๋ยวเขาขึ้นไปเอง
เสียงเคาะประตูห้องเรียกสติของคนที่นั่งอยู่บนเตียง
“บอกเขากลับไปเลย! บอกว่าข้าไม่ว่าง นอนหลับไปแล้วหรืออะไรก็ได้”
อู๋เหลาโก่วตะโกนออกไปให้คนด้านนอกได้ยิน แต่เสียงเคาะของประตูก็ยังดังขึ้นอีก พูดไม่รู้เรื่องหรือเจ้าพวกนี้
“ข้าบอกแล้วไงว่า… พ่อพระ!...อะ...ออกไปเลยนะ!”
เมื่อเปิดประตูออกไปกะจะเอ็ดคนใช้เสียหน่อย แต่คนที่เคาะไม่ใช่คนในบ้าน จะปิดประตูก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อมือใหญ่คว้าหมับก่อนจะดันแล้วแทรกตัวเข้ามา ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องด้วย แขนแข็งแรงคว้าหมับที่ข้อมืออีกคนก่อนจะดึงเข้ามาหาตัว
“ท่าน!...ปล่อยข้า! ข้าไม่อยากพบหน้าท่าน….อื้อ..” คางถูกจับให้เงยหน้าขึ้นก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะทาบทับลงมา เอวถูกดึงรั้งเข้าไปใกล้อีก มือใหญ่ข้างหนึ่งจับใบหน้าอีกคนไว้ก่อนลิ้นร้อนจะสอดพรวดเข้าในโพรงปากหวาน รู้สึกได้ถึงกำปั้นทุบหนักๆที่ไหล่ทั้งสองข้าง จางฉี่ซานเอียงหน้าไปอีกด้านมือเลื่อนลงไปโอบเอวคนในอ้อมกอดไว้แน่น กวาดลิ้นไปทั่วจนอีกคนอ้าปากยอมให้ตนเองรุกรานได้ตามใจชอบ มือที่ทุบเปลี่ยนมาจับก่อนจะขย้ำดึง
จางฉี่ซานค่อยๆละริมปากออก สบดวงตาสั่นไหวของคนตรงหน้า ริมฝีปากที่ยังคลอเคลียไล่กดจูบเบาๆที่ริมฝีปากแดงจัด ก่อนจะเลื่อนมาที่มุมปากไล่ลงที่สัมผัสที่คอขาวแผ่วเบา คนตรงหน้าก็เอียงคอให้น้อยๆอย่างง่ายดาย
“ทะ...ท่าน...อึ๊...” มือเลื่อนมาที่ไหล่หนาที่ยังอยู่ในเครื่องแบบจางฉี่ซานละใบหน้าออกมาจากซอกคอนั่นอย่างนึกเสียดายเล็กน้อย เขาลุกขึ้นก่อนจะจับจูงมืออีกคนให้เดินตาม
“เก็บของใช้ส่วนตัวของเจ้า วันนี้ไปค้างกับข้า”
“ไม่เอา….” อู๋เหลาโก่วเม้มปากหน้าแดงแจ๋ ดึงข้อมือออกจากมือใหญ่ “ถ้าข้าไปไม่มีใครดูแลหมา...”
“ถ้าเจ้าไม่ไป”
“....”
“งั้นคืนนี้ข้าจะค้างที่นี่”
……
“แฮ่ก….อือ...อื๊อ...พะ...พอแล้ว” อู๋เหลาโก่ววาดแขนกอดคออีกคนแน่น ใบหน้าหงายเชิดครางเสียงสะอื้นเมื่ออีกคนกระแทกกระทั้นเข้ามาอีก มือใหญ่บีบเค้นสะโพกที่นั่งอยู่บนตักของตนเอง เขาตบสะโพกโจนจ้วงเข้าออกช่องทางแดงช้ำนั่นรัวก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปด้านในทุกหยาดหยด รั้งใบหน้าชื้นเหงื่อให้ก้มลงมารับจูบ ก่อนจะผละริมฝีปากออก ถอดกายออกจากตัวอีกคนกอดจะวาดแขนรั้งตัวเข้ามากอดแนบอก ริมฝีปากกดจูบหนักๆที่ขมับอีกคนอย่างหวงแหน
“หายโกรธข้าหรือยัง”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ มือใหญาก็จับคางคนในอ้อมอกให้เงยหน้าสบตา แต่ดูเหมือนว่าจะเขาคิดผิดเสียแล้ว สายตาหวานฉ่ำที่มองสบตากลับมา ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน แก้มขาวทั้งสองข้างตรงหน้าขึ้นริ้วแดงไปหมด ก่อนกำปั้นหนักๆจะทุบลงบนอก
“ข้ายอมขนาดนี้ ท่านยังไม่รู้อีกรึไง...”
ปลายนิ้วยกขึ้นแตะแก้มอีกคนแผ่วเบาก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะก้มลงมาจูบหน้าผาก หมาน้อยตัวนี้ทำให้เขาใจเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ดึงตัวอีกคนออกก่อนจะล้มตัวลงนอนไม่ลืมที่จะคว้าร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าเข้ามากอดไว้แนบอก “อย่าโกรธเคืองข้านักเลย...”
“ข้าออกไปทำงาน ใช่ว่าจะไม่คิดถึงเจ้าเสียเมื่อไหร่ อยากกลับมาหาใจแทบขาดแต่ภาระหน้าที่ที่ละทิ้งมิได้ก็สำคัญเช่นกัน เจ้ารู้ดีไม่ใช่หรือ” รู้สึกว่าคนในอ้อมกอดขยับตัวเข้ามาหาอีก
“นอนเถิด คืนนี้ข้าจะไม่กวนเจ้าแล้ว” ประโยคกำกวมนั่นทำให้คนในอ้อมกอดมุดใบหน้าแดงซ่านเข้าที่อกแข็งแรงตรงหน้า ก่อนที่อู๋เหล่าโก่วจะสัมผัสได้ถึงแผ่นอกแข็งแรงที่กระเพื่อมตามแรงหายใจคงที่ เขาคงหลับไปแล้ว
ร่างเปลือยเปล่าขยับลุกขึ้นมาเล็กน้อย ช่วงสะโพกรู้สึกขัดไปหมด ปลายนิ้วลูบไปตามโครงหน้าหล่อเหลาของคนรัก
“ข้ารักท่านนะ”
อู๋เหลาโก่วโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากของอีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนจะซุกตัวเข้าหาแผ่นอกแข็งแรงเหมือนเดิม ก่อนเขาจะหลับตามไปอีกคน
-----------------------------------------------------------------
มาแบบเรทๆ........ //ตบแก้มตัวเอง
ไม่อยากจะตั้งชื่อว่างอน ดูแปลกๆแต่จะให้ตั้งว่าเคือง...ก็ดูป่วงยิ่งกว่า ....
เอาเป็นว่าไม่ได้งอนแบบมุ้งมิ้งกุ๊งกิ๊งเกินจริงมากมายแน่นอนค่ะ ฮือ
T _____ T.
แก้ไขล่าสุดโดย sudarat689 เมื่อ Wed 23 Sep 2015, 01:08, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Re: [OS](จางฉี่ซานxอู๋เหลาโก่ว) งอน
แค่กกกกกกกกกกก จางอู๋รุ่นปู่ช่างดีงามมมมมม / สำลักเลือด
ปู่จางจะฟิตไปไหมคะ ปู่อู๋น่ารักมุ้งมิ้งโฮก อ่านแล้วกุมแก้มเบาๆ เขินนนนนนนนนนนนน
ปู่จางจะฟิตไปไหมคะ ปู่อู๋น่ารักมุ้งมิ้งโฮก อ่านแล้วกุมแก้มเบาๆ เขินนนนนนนนนนนนน
Re: [OS](จางฉี่ซานxอู๋เหลาโก่ว) งอน
ฟินค่าาา รุ่นปู่นี่น่ารักจริงๆ
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3801
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth