Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
+7
gustoon
MinMin
Shiaeri
Naitear
Duke_of_Florence
SilverCloud
sinnerdarker
11 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
[OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wishes may Stronger than One [ผิงเสีย]
-ฮันนีมูนเซ็ท-
[OS] #dmbjdaily (กิเลน) 張麒麟 -จางฉี่หลิง- [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t585-topic
[Drabble] #dmbjdaily (ผ้าพันแผล) Scar Inside [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t603-topic
[OS] #dmbjdaily (โทรศัพท์มือถือ) Call my Name [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t599-topic
[OS] #dmbjdaily (น้ำตา) I will made your tear fade away [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t659-topic
[OS] จากนี้ชั่วนิรันดร์ [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t729-topic
[OS] #dmbjdaily (under the Mistletoe) Good Enough [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t803-topic
"อีกไม่กี่นาทีก็จะขึ้นปีใหม่แล้วสินะ….” ผมเอ่ยพึมพำ พรูลมหายใจที่ขาวมัวเพราะความหนาวออกมา ก่อนจะขยับตัวไปใกล้จางฉี่หลิงและกระชับผ้าห่มผืนหนาให้แนบชิดกว่าเดิม
ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่บนระเบียงดาดฟ้า มองดวงดาวที่วิบไหวบนผืนผ้ากำมะหยี่สีนิล เสียงครื้นเครงและแสงสปอร์ตไลท์ที่ส่องขึ้นฟ้าทำให้แสงจากดวงดาวริบหรี่ไปบ้าง แต่เพราะบ้านของผมอยู่ไกลจากสถานที่จัดงาน แม้ดวงดาราน้อยนิด ก็ยังสงบพอให้รื่นรมย์ไปกับมัน
วันนี้เป็นวันสิ้นปี และอีกไม่นานก็จะขึ้นวันปีใหม่ พวกเพื่อนของผมชวนผมไปงานนับถอยหลังของหังโจว เสี่ยวฮัวเองก็ชวนไปปักกิ่ง แต่ผมเกลียดความวุ่นวาย สุดท้ายจึงปฏิเสธพวกเขาไปและเพียงแค่หอบผ้าห่มมานั่งดูท้องฟ้าพร้อมกับจิบชาอุ่นๆ รอนับถอยหลังสู่ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงไปพร้อมกับจางฉี่หลิง
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้นับถอยหลังสู่ปีใหม่ด้วยกัน แต่ผมคิดว่ามันคงไม่สำคัญอะไรเท่าไหร่นัก ผมก็แค่อยากอยู่กับเขาเท่าที่เวลาอำนวย..ก็เท่านั้น
ผมเบิกตาเล็กน้อยเมื่อเขากระชับอ้อมแขนกอดผม ขยับให้เข้าไปใกล้กว่าเก่า ยกมือขึ้นแนบแก้มผมแล้วพึมพำแผ่วเบา “แก้มนายเย็น”
“แก้มนายก็เย็น” ผมว่าพลางแตะแก้มเขากลับ หัวเราะนิดหน่อย จางฉี่หลิงใส่ใจผมมาก ดูแลจนผมเองบางครั้งยังชักจะเขิน แต่ยามที่เคยชินแล้ว กลับรู้สึกว่าน่ารักดี “อากาศหนาวๆ ทำให้รู้สึกดี นายไม่คิดแบบนั้นหรือ?”
“นายจะไม่สบาย”
“แต่นายก็ดูแลฉันอยู่ดี” ผมกล่าวบอกเขา เห็นสีหน้าไม่พอใจกึ่งหงุดหงิดของจางฉี่หลิง เขาคงไม่อยากให้ผมล้มหมอนนอนเสื่อซักเท่าไหร่
“แค่นี้ฉันไม่ป่วยหรอกน่า ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ผมกล่าวบอกเขา ยกชาขึ้นมาจิบ “อีกอย่างแค่จิบชาหน่อยก็อุ่นขึ้นแล้ว วันสิ้นปีทั้งปี จิบชาตากลมหนาวนับถอยหลังหน่อยจะเป็นไรไป”
จางฉี่หลิงไม่ได้ตอบอะไรผม เขาพรูลมหายใจ กลับไปนั่งนิ่งเหม่อมองท้องฟ้าตามเดิม ความจริงเจ้าตัวก็คงไม่ได้เห็นความสำคัญของการนับถอยหลังอะไรนี่นักหรอก ก็แค่ตามผมขึ้นมาเท่านั้น
เราต่างพอใจจจะทำทุกสิ่งตราบที่ได้อยู่ด้วยกัน
ผมหรี่ตาลงเล็กน้อย แหงนเงยหน้ามองท้องฟ้า ปล่อยให้ลมหนาวพัดกรูผ่าน ก่อนจะพึมพำขึ้น “นี่ ฉี่หลิง ปีหน้านายหวังอะไรรึเปล่า?”
“หวัง?”
“เช่น หวังว่าจะได้ไปเที่ยวไกลๆ ได้เงินใช้ร้อยล้าน หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายอะไรตลอดปี” ผมบอกเขาไป รู้ว่าที่พูดมาย่อมไม่ใช่สิ่งที่จางฉี่หลิงคาดหวัง เขาไม่ใช่คนที่จะหวังกับอะไรที่ไร้สาระ ทั้งอย่างนั้น ผมก็ปรารถนาที่จะรู้…และเข้าใจ “ว่าไง นายหวังอะไรหรือเปล่า?”
ผมกล่าวสำทับ ก่อนจะหันไปมองอย่างคาดหวังคำตอบ
จางฉี่หลิงนิ่งไป เขาหลุบนัยน์ตาลง คล้ายกับครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ริมฝีปากเปิดขึ้นเล็กน้อยคล้ายจะพูดอะไร แต่สุดท้าย ชายหนุ่มกลับส่ายหัวไปมา ตอบผมเสียงเรียบ "ฉันไม่หวังอะไร"
“ไม่แม้ซักอย่าง?” ผมถามย้ำ
“ไม่มี” เขาส่ายหัวไปมา
พอได้ยินเช่นนั้น ไม่รู้เหตุใด จึงคล้ายจำเรื่องราวหนึ่งได้
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ไปทิเบต ผมมีโอกาสได้พบกับคนที่เคยรู้จักจางฉี่หลิง พระทิเบตท่านนั้นเล่าเรื่องราวหลายอย่างให้ฟัง กล่าวว่าคนคนนี้เป็นคนขาด เป็นคนไม่มี
เขาไม่มีความปรารถนา
ไม่มีแรงขับเคลื่อนของชีวิต ไม่มีสิ่งที่ต้องการ ไม่มีจุดหมาย ไม่เข้าใจความเศร้า ความยินดี ความเจ็บปวด เป็นก้อนหิน
ไม่มีจิตใจ
ตอนที่ได้ยินเช่นนั้นผมนึกต่อต้านในใจ เพราะทราบดีว่ามนุษย์ย่อมไม่มีทางลืมเลือนความปรารถนาได้โดยง่าย มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน ความโลภ รัก โกรธ หลง เป็นพื้นฐานชีวิตที่ยากจะสลัดหลุด ต่อให้สุดท้ายจะสร้างเกราะแข็งแกร่งขึ้น ผมก็รู้ดีว่าลึกลงไปสิ่งอันจริงแท้ดั้งเดิมของมนุษย์ทุกคนย่อมยังดำรงอยู่
เหนือสิ่งอื่นใด ผมรู้ว่าจางฉี่หลิงย่อมมีความปรารถนา มีความรู้สึก เขาปกป้องพวกเราได้ความต้องการของตน มีจุดมุ่งหมายที่จะทำตามหน้าที่ของตน ..มีความดื้อด้านอันบริสุทธิ์ในแบบของเขา และที่สุดแล้ว เขาก็ยังปรารถนาจะพบมารดาของตน และเจ็บปวดยามที่นางจากไป นั่นเป็นสิ่งที่ยืนยันได้มากกว่าอะไรทั้งหมดถึงหัวใจของเขา
ผมจึงมั่นใจว่าจางฉี่หลิงเป็นมนุษย์
แต่แม้เป็นเช่นนั้น เขาก็ยังขาดหลายสิ่งหลายอย่าง จางฉี่หลิงแทบไม่รักตัวเอง ไม่สนใจใคร อยู่บนโลกโดยที่ไม่คิดเดินมาเกี่ยวโยงด้วย เขาเพียงเฝ้าดูมันอย่างไร้ความรู้สึก และทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองควรทำเท่านั้น
เพราะอย่างนั้น ผมจึงพยายาม เกี่ยวเกาะตัวตนไว้กับเขา รักเขาในส่วนที่เขาไม่ยอมรักตัวเอง และพยายามสอนหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ให้ แน่นอนว่าแม้จะโดยเชื่องช้า แต่เขาก็ค่อยๆ เข้าใจ นายใบ้จางคนที่ดูลึกลับคนนั้น กลายเป็นเด็กน้อยที่กำลังเรียนรู้โลกใบนี้ ..เป็นหลักฐานว่าเขากำลังค่อยๆ ก้าวย่าง เหยียบยืนบนโลกใบนี้อย่างแท้จริง
และผมดีใจ
เขาเปลี่ยนไปแล้ว เปี่ยมล้นด้วยชีวิตจิตใจ ค่อยๆ กลายเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตชีวา กลมกลืนไปกับผู้คน
แต่ทั้งอย่างนั้น..เขาก็ยังบอกว่าตนไม่หวังสิ่งใด ทำให้ผมรู้สึกเศร้าไปบ้าง เพราะเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ตนทำไปอาจไม่ได้ผลอย่างที่ตั้งใจไว้
พอคิดมาถึงตรงนี้ ผมก็สะบัดหัวไปมา บอกตัวเองให้นึกย้อนไปวันนั้นที่มอบชื่อใหม่ให้จางฉี่หลิง วันที่เขาบอกว่าผมสำคัญ บอกว่าจะถือทุกสิ่งที่ผมมอบให้เป็นสิ่งสำคัญ นึกถึงวันที่เขาขอให้ผมเรียกด้วยชื่อ
นึกถึงวันที่เขากลับมาพร้อมกับผ้าคลุมเจ้าสาวผืนนั้น
พอย้อนไปถึงจุดนั้นผมก็รู้สึกว่าใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมา อดจะรู้สึกถึงความเย็นของแหวนหยกที่นิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองไม่ได้
แต่แม้ตนจะรู้สึกดีขึ้น ผมก็มีเรื่องที่ต้องบอกกับเขา
"..ฉี่หลิง" ผมพึมพำขึ้น “ฉันว่านะ มนุษย์ทุกคนต้องมีสิ่งที่หวังและสิ่งที่ต้องการ นายลองคิดดูดีๆ ไหม ว่านายหวังอะไร อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ได้ อย่างตอนนี้ฉันก็กำลังหวังให้ขึ้นปีใหม่เร็วๆ จะได้ไปนอนเสียที ว่าไงล่ะ?”
ไม่ทันสิ้นคำถามของผม เขาก็ตอบฉะฉานโดยไม่คิด “ฉันไม่หวังอะไร”
“ทำไมล่ะ?” ผมอดถามออกไปไม่ได้
จางฉี่หลิงหยิบชาขึ้นมาจิบ กลอกนัยน์ตามองผม พรูลมหายใจ และเอ่ยตอบ "ความปรารถนาของฉันสัมฤทธิ์ผลไปนานแล้ว จึงไม่หวังสิ่งใด"
ผมนิ่งไปเล็กน้อย คิดไปถึงสิ่งที่อยู่หลังประตูสำริด คิดถึงเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อน ทุกสิ่งสิ้นสุดแล้ว หน้าที่ของเขาสิ้นสุดลงแล้ว และนั่นคือความปรารถนาของเขา “…นายไม่มีความหวังอะไรมากมายกว่าสิ่งนั้นหรือ?”
ผมถามเขาไปอีกครั้ง จ้องด้วยสีหน้าจริงจังเฝ้ารอและคาดหวัง แต่อีกฝ่ายกลับหลุบตาลง กล่าวออกมาอีกครั้ง
“นอกจากการได้อยู่ตรงนี้กับนาย ฉันก็ไม่หวังสิ่งใดอีก”
“ฉันว่านายไม่คว—หืม?” ผมอุทานกับตัวเอง เบิกตากว้าง หันไปมองคนข้างตัวอย่างไม่เชื่อหู “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ?”
“ฉันก็ไม่หวังสิ่งใดอีก”
“ไม่ใช่! ก่อนหน้านั้นสิ”
“นอกจากการได้อยู่ตรงนี้กับนาย ฉันก็ไม่หวังอะไรอีก” จางฉี่หลิงเอ่ยตอบผมอีกครั้ง ขยับมือมากุมกระชับแน่น ส่งความรู้สึกอุ่นวาบแผ่ซ่านไปทั้งดวงใจ
ความปรารถนาของเขาคือการได้อยู่กับผม…?
ผมไม่ได้คาดหวังว่านั่นจะเป็นความหวังของเขา
ไม่สิ..ผมอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ รู้มาเสมอว่าเขารักผม และอยากอยู่ด้วยกัน เขาเคยบอกผมแล้วว่าผมคือสิ่งสำคัญ เป็นคนที่อยากอยู่ด้วยตลอดไป ผมรู้อยู่แก่ใจ ..แต่ยามได้ยินเช่นนี้ ก็อดน้ำตารื้นเพราะความอิ่มเอิบไม่ได้
สิ่งที่เขาหวังคือการได้อยู่กับผม และมันสัมฤทธิ์ผลแล้ว ผลลัพธ์คือเราที่ต่างนั่งอยู่ที่นี่ ตรงนี้
ผมควรจะเขินจนบิดม้วน ทว่ายามนี้กลับรู้สึกถึงความยินดีที่เอ่อล้นในใจ ผมทราบดีเสมอมาว่าเขาเห็นผมสำคัญ แต่ถึงอย่างนั้น…ก็ดีใจ ดีใจเหลือเกิน..
“แล้วนายไม่หวังอะไรมากกว่านี้หรือ” ผมกล่าวเสียงพร่า กลั้นเสียงสะอื้นที่แล่นจุกขึ้นมา ขยับศีรษะเอนซบไหล่เขาและไม่ยอมมองหน้า หัวเราะแห้งกลบเกลื่อน “เช่นหวังให้ฉันทำอะไรให้? หวังว่าจะได้นอนดูดาวด้วยกัน?”
“ถ้าเป็นสิ่งที่นายต้องการ ฉันก็ยินดี” จางฉี่หลิงตอบผม พร้อมกับเอนศีรษะถ่ายน้ำหนักแนบกับของผม “แต่ฉันไม่หวังอะไรมากไปกว่าการอยู่ข้างนาย อู๋เสีย”
“…อย่ามาทำตัวเป็นพ่อพระแถวนี้น่า” ผมพึมพำเบา ยกมือไปบีบจมูกเขาเบาๆ ทั้งที่ไม่ได้มองหน้า น่าแปลกที่อีกฝ่ายไม่เลี่ยงหลบ ยอมให้ผมบีบแต่โดยดี
หลังจากนั้น รอบกายพวกเรามีแต่ความเงียบ ผมบีบกระชับมือของเขากลับคืนไป รู้สึกถึงผิวสัมผัสหยาบกร้านและความอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กัน
“นายไม่มีความหวัง..แต่ฉันมีความหวัง นายรู้อยู่แล้วใช่ไหม?”ผมเอ่ยขึ้นในที่สุด และสัมผัสได้ว่าศีรษะที่อิงแนบพิงกันอยู่นั้นเคลื่อนไหวตอบรับ
“ฉันหวังว่าปีนี้ร้านจะไม่ติดตัวแดง นายบอดดำจะไม่หาเรื่องลากฉันไปไหน หวังว่านายอ้วนจะหาแฟนใหม่ได้เสียที หวังว่าหวังเหมิงจะเลิกหลับเวลาเฝ้าร้าน” ผมหยุดไปเล็กน้อย และบีบมือเขาเบาๆ “…ฉันหวังว่าจะได้เดินเล่นกับนายบนถนนที่เต็มไปด้วยใบไม้ร่วงหล่น หวังจะได้ตื่นมาเจอหน้านายเป็นสิ่งแรกทุกวัน หวังจะได้กินข้าวเย็นกับนาย หวังจะเห็นนายมารับที่ร้าน หวังว่านายจะติดตามฉันเวลาไปจัดการเรื่องที่ฉางซา หวังว่าจะได้ไปฉางไป๋ซานกับนายอีกครั้ง…และคราวนี้ต้องกลับพร้อมกัน
…..ฉันหวังให้เราสร้างความทรงจำร่วมกันจนกว่าจะถึงเวลา”
ผมไม่ได้บอกว่า ‘ถึงเวลา’ นั้นหมายถึงอะไร แต่คิดว่าเขาเข้าใจ
“ฉันรู้” จางฉี่หลิงตอบผมกลับมา ตอนนี้เวลาเท่าไรแล้วไม่อาจรู้ได้ แต่ในเมื่อพลุยังไม่ถูกจุด ก็ยังไม่ขึ้นวันปีใหม่กระมัง
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สำคัญแล้ว
“…ไหนๆ แล้ว นายมาร่วมหวังไปกับฉันไหม?” ผมบอกเขา ขยับศีรษะออกแล้วมองใบหน้าของจางฉี่หลิง “เผื่อว่าความหวังของคนสองคนจะแข็งแกร่งทรงพลังกว่าของคนคนเดียว”
“ได้” เขาผงกหัวตอบผม “ฉันจะหวังไปด้วย”
ผมยิ้มพอใจ อดไม่ได้ที่จะขยับไปจูบแก้มของเขา ประจวบกับเสียงพลุที่ดังสนั่นและสีสันสดใสที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า กลายเป็นดอกไม้สีสันสดใสที่แผ่กระจายอยู่บนนภาสีราตรี
ปัง!
เสียงดอกไม้ไฟปะทุขึ้นฟ้าดังขึ้นดอกแล้วดอกเล่า กระจายตัวเป็นรูปลักษณ์อันงดงามหลากหลายมากสีสัน ผมดูเส้นแสงเหล่านั้นที่พุ่งขึ้นสู่ขุดสูงสุดแล้วจางหายไป ก่อนจะพึมพำแผ่วเบา “ดอกไม้ไฟปีนี้สวยดีนะ นายเคยเห็นมันหรือเปล่า”
“เคยเห็น แต่ไม่เคยสนใจ” จางฉี่หลิงกล่าวตอบ “แค่คิดว่ามันเสียงดังเกินไป”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“..สวยดีล่ะมัง” เขาพึมพำตอบผม ดวงตาจ้องมองดอกไม้ไฟ ในเนตรสีนิลคู่นั้น ส่องสะท้อนเส้นแสงที่ปะทุบนฟากฟ้าอย่างชัดเจน
และผมรู้สึกว่ามันงดงามกว่ามองโดยตรงบนท้องฟ้า
“จางฉี่หลิง สวัสดีปีใหม่ ปีนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ” ผมกล่าวบอกเขา หันหน้าไปหาและยิ้มกว้างให้
“สวัสดีปีใหม่ อู๋เสีย” จางฉี่หลิงตอบผมกลับมา แย้มรอยยิ้มที่หาดูได้ยาก
แต่อาจจะไม่ยากแล้วก็ได้ เพราะผมได้เห็นมันหลายครั้งแล้ว
คนส่วนใหญ่จะบอกว่าเถ้าแก่จางไม่ค่อยยิ้ม ชอบนั่งเหม่อ แต่ยามที่อยู่กับผม กิเลนตัวนี้จะเปี่ยมล้นด้วยชีวิตชีวาในแบบของเขา และมันเป็นความภาคภูมิใจของผม
ผมยิ้มบางเบา พรูลมหายใจ ก่อนจะว่าต่อ “จะปีไหนๆ ก็ฝากตัวด้วยแล้วกัน”
เถ้าแก่จางของผมไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงขยับศีรษะชนกับผมเบาๆ แล้วเราก็นั่งดูดอกไม้ไฟที่ปะทุขึ้นท้องฟ้ากันต่อไป
ปีนี้ ปีหน้า หรือปีไหนๆ เราก็จะร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ไปพร้อมกัน ฝากเนื้อฝากตัวเพื่อที่จะอยู่ร่วมกันอีกปีไปพร้อมกัน ทำเช่นนี้จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
นั่นเป็นความหวังของผม
ไม่สิ
เป็นความหวังของพวกเรา
-ฮันนีมูนเซ็ท-
[OS] #dmbjdaily (กิเลน) 張麒麟 -จางฉี่หลิง- [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t585-topic
[Drabble] #dmbjdaily (ผ้าพันแผล) Scar Inside [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t603-topic
[OS] #dmbjdaily (โทรศัพท์มือถือ) Call my Name [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t599-topic
[OS] #dmbjdaily (น้ำตา) I will made your tear fade away [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t659-topic
[OS] จากนี้ชั่วนิรันดร์ [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t729-topic
[OS] #dmbjdaily (under the Mistletoe) Good Enough [ผิงเสีย]
https://dmbjth.thai-forum.net/t803-topic
+++++++++++++++++++++
"อีกไม่กี่นาทีก็จะขึ้นปีใหม่แล้วสินะ….” ผมเอ่ยพึมพำ พรูลมหายใจที่ขาวมัวเพราะความหนาวออกมา ก่อนจะขยับตัวไปใกล้จางฉี่หลิงและกระชับผ้าห่มผืนหนาให้แนบชิดกว่าเดิม
ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่บนระเบียงดาดฟ้า มองดวงดาวที่วิบไหวบนผืนผ้ากำมะหยี่สีนิล เสียงครื้นเครงและแสงสปอร์ตไลท์ที่ส่องขึ้นฟ้าทำให้แสงจากดวงดาวริบหรี่ไปบ้าง แต่เพราะบ้านของผมอยู่ไกลจากสถานที่จัดงาน แม้ดวงดาราน้อยนิด ก็ยังสงบพอให้รื่นรมย์ไปกับมัน
วันนี้เป็นวันสิ้นปี และอีกไม่นานก็จะขึ้นวันปีใหม่ พวกเพื่อนของผมชวนผมไปงานนับถอยหลังของหังโจว เสี่ยวฮัวเองก็ชวนไปปักกิ่ง แต่ผมเกลียดความวุ่นวาย สุดท้ายจึงปฏิเสธพวกเขาไปและเพียงแค่หอบผ้าห่มมานั่งดูท้องฟ้าพร้อมกับจิบชาอุ่นๆ รอนับถอยหลังสู่ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงไปพร้อมกับจางฉี่หลิง
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้นับถอยหลังสู่ปีใหม่ด้วยกัน แต่ผมคิดว่ามันคงไม่สำคัญอะไรเท่าไหร่นัก ผมก็แค่อยากอยู่กับเขาเท่าที่เวลาอำนวย..ก็เท่านั้น
ผมเบิกตาเล็กน้อยเมื่อเขากระชับอ้อมแขนกอดผม ขยับให้เข้าไปใกล้กว่าเก่า ยกมือขึ้นแนบแก้มผมแล้วพึมพำแผ่วเบา “แก้มนายเย็น”
“แก้มนายก็เย็น” ผมว่าพลางแตะแก้มเขากลับ หัวเราะนิดหน่อย จางฉี่หลิงใส่ใจผมมาก ดูแลจนผมเองบางครั้งยังชักจะเขิน แต่ยามที่เคยชินแล้ว กลับรู้สึกว่าน่ารักดี “อากาศหนาวๆ ทำให้รู้สึกดี นายไม่คิดแบบนั้นหรือ?”
“นายจะไม่สบาย”
“แต่นายก็ดูแลฉันอยู่ดี” ผมกล่าวบอกเขา เห็นสีหน้าไม่พอใจกึ่งหงุดหงิดของจางฉี่หลิง เขาคงไม่อยากให้ผมล้มหมอนนอนเสื่อซักเท่าไหร่
“แค่นี้ฉันไม่ป่วยหรอกน่า ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ผมกล่าวบอกเขา ยกชาขึ้นมาจิบ “อีกอย่างแค่จิบชาหน่อยก็อุ่นขึ้นแล้ว วันสิ้นปีทั้งปี จิบชาตากลมหนาวนับถอยหลังหน่อยจะเป็นไรไป”
จางฉี่หลิงไม่ได้ตอบอะไรผม เขาพรูลมหายใจ กลับไปนั่งนิ่งเหม่อมองท้องฟ้าตามเดิม ความจริงเจ้าตัวก็คงไม่ได้เห็นความสำคัญของการนับถอยหลังอะไรนี่นักหรอก ก็แค่ตามผมขึ้นมาเท่านั้น
เราต่างพอใจจจะทำทุกสิ่งตราบที่ได้อยู่ด้วยกัน
ผมหรี่ตาลงเล็กน้อย แหงนเงยหน้ามองท้องฟ้า ปล่อยให้ลมหนาวพัดกรูผ่าน ก่อนจะพึมพำขึ้น “นี่ ฉี่หลิง ปีหน้านายหวังอะไรรึเปล่า?”
“หวัง?”
“เช่น หวังว่าจะได้ไปเที่ยวไกลๆ ได้เงินใช้ร้อยล้าน หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายอะไรตลอดปี” ผมบอกเขาไป รู้ว่าที่พูดมาย่อมไม่ใช่สิ่งที่จางฉี่หลิงคาดหวัง เขาไม่ใช่คนที่จะหวังกับอะไรที่ไร้สาระ ทั้งอย่างนั้น ผมก็ปรารถนาที่จะรู้…และเข้าใจ “ว่าไง นายหวังอะไรหรือเปล่า?”
ผมกล่าวสำทับ ก่อนจะหันไปมองอย่างคาดหวังคำตอบ
จางฉี่หลิงนิ่งไป เขาหลุบนัยน์ตาลง คล้ายกับครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ริมฝีปากเปิดขึ้นเล็กน้อยคล้ายจะพูดอะไร แต่สุดท้าย ชายหนุ่มกลับส่ายหัวไปมา ตอบผมเสียงเรียบ "ฉันไม่หวังอะไร"
“ไม่แม้ซักอย่าง?” ผมถามย้ำ
“ไม่มี” เขาส่ายหัวไปมา
พอได้ยินเช่นนั้น ไม่รู้เหตุใด จึงคล้ายจำเรื่องราวหนึ่งได้
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ไปทิเบต ผมมีโอกาสได้พบกับคนที่เคยรู้จักจางฉี่หลิง พระทิเบตท่านนั้นเล่าเรื่องราวหลายอย่างให้ฟัง กล่าวว่าคนคนนี้เป็นคนขาด เป็นคนไม่มี
เขาไม่มีความปรารถนา
ไม่มีแรงขับเคลื่อนของชีวิต ไม่มีสิ่งที่ต้องการ ไม่มีจุดหมาย ไม่เข้าใจความเศร้า ความยินดี ความเจ็บปวด เป็นก้อนหิน
ไม่มีจิตใจ
ตอนที่ได้ยินเช่นนั้นผมนึกต่อต้านในใจ เพราะทราบดีว่ามนุษย์ย่อมไม่มีทางลืมเลือนความปรารถนาได้โดยง่าย มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน ความโลภ รัก โกรธ หลง เป็นพื้นฐานชีวิตที่ยากจะสลัดหลุด ต่อให้สุดท้ายจะสร้างเกราะแข็งแกร่งขึ้น ผมก็รู้ดีว่าลึกลงไปสิ่งอันจริงแท้ดั้งเดิมของมนุษย์ทุกคนย่อมยังดำรงอยู่
เหนือสิ่งอื่นใด ผมรู้ว่าจางฉี่หลิงย่อมมีความปรารถนา มีความรู้สึก เขาปกป้องพวกเราได้ความต้องการของตน มีจุดมุ่งหมายที่จะทำตามหน้าที่ของตน ..มีความดื้อด้านอันบริสุทธิ์ในแบบของเขา และที่สุดแล้ว เขาก็ยังปรารถนาจะพบมารดาของตน และเจ็บปวดยามที่นางจากไป นั่นเป็นสิ่งที่ยืนยันได้มากกว่าอะไรทั้งหมดถึงหัวใจของเขา
ผมจึงมั่นใจว่าจางฉี่หลิงเป็นมนุษย์
แต่แม้เป็นเช่นนั้น เขาก็ยังขาดหลายสิ่งหลายอย่าง จางฉี่หลิงแทบไม่รักตัวเอง ไม่สนใจใคร อยู่บนโลกโดยที่ไม่คิดเดินมาเกี่ยวโยงด้วย เขาเพียงเฝ้าดูมันอย่างไร้ความรู้สึก และทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองควรทำเท่านั้น
เพราะอย่างนั้น ผมจึงพยายาม เกี่ยวเกาะตัวตนไว้กับเขา รักเขาในส่วนที่เขาไม่ยอมรักตัวเอง และพยายามสอนหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ให้ แน่นอนว่าแม้จะโดยเชื่องช้า แต่เขาก็ค่อยๆ เข้าใจ นายใบ้จางคนที่ดูลึกลับคนนั้น กลายเป็นเด็กน้อยที่กำลังเรียนรู้โลกใบนี้ ..เป็นหลักฐานว่าเขากำลังค่อยๆ ก้าวย่าง เหยียบยืนบนโลกใบนี้อย่างแท้จริง
และผมดีใจ
เขาเปลี่ยนไปแล้ว เปี่ยมล้นด้วยชีวิตจิตใจ ค่อยๆ กลายเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตชีวา กลมกลืนไปกับผู้คน
แต่ทั้งอย่างนั้น..เขาก็ยังบอกว่าตนไม่หวังสิ่งใด ทำให้ผมรู้สึกเศร้าไปบ้าง เพราะเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ตนทำไปอาจไม่ได้ผลอย่างที่ตั้งใจไว้
พอคิดมาถึงตรงนี้ ผมก็สะบัดหัวไปมา บอกตัวเองให้นึกย้อนไปวันนั้นที่มอบชื่อใหม่ให้จางฉี่หลิง วันที่เขาบอกว่าผมสำคัญ บอกว่าจะถือทุกสิ่งที่ผมมอบให้เป็นสิ่งสำคัญ นึกถึงวันที่เขาขอให้ผมเรียกด้วยชื่อ
นึกถึงวันที่เขากลับมาพร้อมกับผ้าคลุมเจ้าสาวผืนนั้น
พอย้อนไปถึงจุดนั้นผมก็รู้สึกว่าใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมา อดจะรู้สึกถึงความเย็นของแหวนหยกที่นิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองไม่ได้
แต่แม้ตนจะรู้สึกดีขึ้น ผมก็มีเรื่องที่ต้องบอกกับเขา
"..ฉี่หลิง" ผมพึมพำขึ้น “ฉันว่านะ มนุษย์ทุกคนต้องมีสิ่งที่หวังและสิ่งที่ต้องการ นายลองคิดดูดีๆ ไหม ว่านายหวังอะไร อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ได้ อย่างตอนนี้ฉันก็กำลังหวังให้ขึ้นปีใหม่เร็วๆ จะได้ไปนอนเสียที ว่าไงล่ะ?”
ไม่ทันสิ้นคำถามของผม เขาก็ตอบฉะฉานโดยไม่คิด “ฉันไม่หวังอะไร”
“ทำไมล่ะ?” ผมอดถามออกไปไม่ได้
จางฉี่หลิงหยิบชาขึ้นมาจิบ กลอกนัยน์ตามองผม พรูลมหายใจ และเอ่ยตอบ "ความปรารถนาของฉันสัมฤทธิ์ผลไปนานแล้ว จึงไม่หวังสิ่งใด"
ผมนิ่งไปเล็กน้อย คิดไปถึงสิ่งที่อยู่หลังประตูสำริด คิดถึงเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อน ทุกสิ่งสิ้นสุดแล้ว หน้าที่ของเขาสิ้นสุดลงแล้ว และนั่นคือความปรารถนาของเขา “…นายไม่มีความหวังอะไรมากมายกว่าสิ่งนั้นหรือ?”
ผมถามเขาไปอีกครั้ง จ้องด้วยสีหน้าจริงจังเฝ้ารอและคาดหวัง แต่อีกฝ่ายกลับหลุบตาลง กล่าวออกมาอีกครั้ง
“นอกจากการได้อยู่ตรงนี้กับนาย ฉันก็ไม่หวังสิ่งใดอีก”
“ฉันว่านายไม่คว—หืม?” ผมอุทานกับตัวเอง เบิกตากว้าง หันไปมองคนข้างตัวอย่างไม่เชื่อหู “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ?”
“ฉันก็ไม่หวังสิ่งใดอีก”
“ไม่ใช่! ก่อนหน้านั้นสิ”
“นอกจากการได้อยู่ตรงนี้กับนาย ฉันก็ไม่หวังอะไรอีก” จางฉี่หลิงเอ่ยตอบผมอีกครั้ง ขยับมือมากุมกระชับแน่น ส่งความรู้สึกอุ่นวาบแผ่ซ่านไปทั้งดวงใจ
ความปรารถนาของเขาคือการได้อยู่กับผม…?
ผมไม่ได้คาดหวังว่านั่นจะเป็นความหวังของเขา
ไม่สิ..ผมอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ รู้มาเสมอว่าเขารักผม และอยากอยู่ด้วยกัน เขาเคยบอกผมแล้วว่าผมคือสิ่งสำคัญ เป็นคนที่อยากอยู่ด้วยตลอดไป ผมรู้อยู่แก่ใจ ..แต่ยามได้ยินเช่นนี้ ก็อดน้ำตารื้นเพราะความอิ่มเอิบไม่ได้
สิ่งที่เขาหวังคือการได้อยู่กับผม และมันสัมฤทธิ์ผลแล้ว ผลลัพธ์คือเราที่ต่างนั่งอยู่ที่นี่ ตรงนี้
ผมควรจะเขินจนบิดม้วน ทว่ายามนี้กลับรู้สึกถึงความยินดีที่เอ่อล้นในใจ ผมทราบดีเสมอมาว่าเขาเห็นผมสำคัญ แต่ถึงอย่างนั้น…ก็ดีใจ ดีใจเหลือเกิน..
“แล้วนายไม่หวังอะไรมากกว่านี้หรือ” ผมกล่าวเสียงพร่า กลั้นเสียงสะอื้นที่แล่นจุกขึ้นมา ขยับศีรษะเอนซบไหล่เขาและไม่ยอมมองหน้า หัวเราะแห้งกลบเกลื่อน “เช่นหวังให้ฉันทำอะไรให้? หวังว่าจะได้นอนดูดาวด้วยกัน?”
“ถ้าเป็นสิ่งที่นายต้องการ ฉันก็ยินดี” จางฉี่หลิงตอบผม พร้อมกับเอนศีรษะถ่ายน้ำหนักแนบกับของผม “แต่ฉันไม่หวังอะไรมากไปกว่าการอยู่ข้างนาย อู๋เสีย”
“…อย่ามาทำตัวเป็นพ่อพระแถวนี้น่า” ผมพึมพำเบา ยกมือไปบีบจมูกเขาเบาๆ ทั้งที่ไม่ได้มองหน้า น่าแปลกที่อีกฝ่ายไม่เลี่ยงหลบ ยอมให้ผมบีบแต่โดยดี
หลังจากนั้น รอบกายพวกเรามีแต่ความเงียบ ผมบีบกระชับมือของเขากลับคืนไป รู้สึกถึงผิวสัมผัสหยาบกร้านและความอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กัน
“นายไม่มีความหวัง..แต่ฉันมีความหวัง นายรู้อยู่แล้วใช่ไหม?”ผมเอ่ยขึ้นในที่สุด และสัมผัสได้ว่าศีรษะที่อิงแนบพิงกันอยู่นั้นเคลื่อนไหวตอบรับ
“ฉันหวังว่าปีนี้ร้านจะไม่ติดตัวแดง นายบอดดำจะไม่หาเรื่องลากฉันไปไหน หวังว่านายอ้วนจะหาแฟนใหม่ได้เสียที หวังว่าหวังเหมิงจะเลิกหลับเวลาเฝ้าร้าน” ผมหยุดไปเล็กน้อย และบีบมือเขาเบาๆ “…ฉันหวังว่าจะได้เดินเล่นกับนายบนถนนที่เต็มไปด้วยใบไม้ร่วงหล่น หวังจะได้ตื่นมาเจอหน้านายเป็นสิ่งแรกทุกวัน หวังจะได้กินข้าวเย็นกับนาย หวังจะเห็นนายมารับที่ร้าน หวังว่านายจะติดตามฉันเวลาไปจัดการเรื่องที่ฉางซา หวังว่าจะได้ไปฉางไป๋ซานกับนายอีกครั้ง…และคราวนี้ต้องกลับพร้อมกัน
…..ฉันหวังให้เราสร้างความทรงจำร่วมกันจนกว่าจะถึงเวลา”
ผมไม่ได้บอกว่า ‘ถึงเวลา’ นั้นหมายถึงอะไร แต่คิดว่าเขาเข้าใจ
“ฉันรู้” จางฉี่หลิงตอบผมกลับมา ตอนนี้เวลาเท่าไรแล้วไม่อาจรู้ได้ แต่ในเมื่อพลุยังไม่ถูกจุด ก็ยังไม่ขึ้นวันปีใหม่กระมัง
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สำคัญแล้ว
“…ไหนๆ แล้ว นายมาร่วมหวังไปกับฉันไหม?” ผมบอกเขา ขยับศีรษะออกแล้วมองใบหน้าของจางฉี่หลิง “เผื่อว่าความหวังของคนสองคนจะแข็งแกร่งทรงพลังกว่าของคนคนเดียว”
“ได้” เขาผงกหัวตอบผม “ฉันจะหวังไปด้วย”
ผมยิ้มพอใจ อดไม่ได้ที่จะขยับไปจูบแก้มของเขา ประจวบกับเสียงพลุที่ดังสนั่นและสีสันสดใสที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า กลายเป็นดอกไม้สีสันสดใสที่แผ่กระจายอยู่บนนภาสีราตรี
ปัง!
เสียงดอกไม้ไฟปะทุขึ้นฟ้าดังขึ้นดอกแล้วดอกเล่า กระจายตัวเป็นรูปลักษณ์อันงดงามหลากหลายมากสีสัน ผมดูเส้นแสงเหล่านั้นที่พุ่งขึ้นสู่ขุดสูงสุดแล้วจางหายไป ก่อนจะพึมพำแผ่วเบา “ดอกไม้ไฟปีนี้สวยดีนะ นายเคยเห็นมันหรือเปล่า”
“เคยเห็น แต่ไม่เคยสนใจ” จางฉี่หลิงกล่าวตอบ “แค่คิดว่ามันเสียงดังเกินไป”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“..สวยดีล่ะมัง” เขาพึมพำตอบผม ดวงตาจ้องมองดอกไม้ไฟ ในเนตรสีนิลคู่นั้น ส่องสะท้อนเส้นแสงที่ปะทุบนฟากฟ้าอย่างชัดเจน
และผมรู้สึกว่ามันงดงามกว่ามองโดยตรงบนท้องฟ้า
“จางฉี่หลิง สวัสดีปีใหม่ ปีนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ” ผมกล่าวบอกเขา หันหน้าไปหาและยิ้มกว้างให้
“สวัสดีปีใหม่ อู๋เสีย” จางฉี่หลิงตอบผมกลับมา แย้มรอยยิ้มที่หาดูได้ยาก
แต่อาจจะไม่ยากแล้วก็ได้ เพราะผมได้เห็นมันหลายครั้งแล้ว
คนส่วนใหญ่จะบอกว่าเถ้าแก่จางไม่ค่อยยิ้ม ชอบนั่งเหม่อ แต่ยามที่อยู่กับผม กิเลนตัวนี้จะเปี่ยมล้นด้วยชีวิตชีวาในแบบของเขา และมันเป็นความภาคภูมิใจของผม
ผมยิ้มบางเบา พรูลมหายใจ ก่อนจะว่าต่อ “จะปีไหนๆ ก็ฝากตัวด้วยแล้วกัน”
เถ้าแก่จางของผมไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงขยับศีรษะชนกับผมเบาๆ แล้วเราก็นั่งดูดอกไม้ไฟที่ปะทุขึ้นท้องฟ้ากันต่อไป
ปีนี้ ปีหน้า หรือปีไหนๆ เราก็จะร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ไปพร้อมกัน ฝากเนื้อฝากตัวเพื่อที่จะอยู่ร่วมกันอีกปีไปพร้อมกัน ทำเช่นนี้จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
นั่นเป็นความหวังของผม
ไม่สิ
เป็นความหวังของพวกเรา
END
sinnerdarker- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 343
Points : 4046
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
หวานนนน เป็นการนั่งจิบชารอปีใหม่ที่อบอุ่นที่สุดในช่วงหนาวๆแบบนี้เลยค่ะ >///< ความพยายามของนายน้อยตลอดสิบปีไม่สูญเปล่า กิเลนตัวนี้ที่ได้มาในที่สุดก็มองเห็นสิ่งที่เชื่อมโยงตัวเองกับโลกนี้แล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีหลังจากนี้ก็ขอให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน มองฟ้ารับปีใหม่แบบนี้ไปตลอดนะคะ
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3932
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
เอื้อ ฟหกด่าสว กรีดร้องไม่เป็นภาษา กลิ้งไปกลิ้งมา สำลักความหวานตายไปแล้วลุกขึ้นมาใหม่ ^////^
โมเมนท์นั่งดูดาวต้อนรับปีใหม่กับแฟน ห่มผ้าห่มผืนเดียวกันเป็นอะไรที่ละมุนละไมสุดๆไปเลยค่ะ ยิ่งเข้ากับบรรยากาศช่วงนี้ด้วย เราชอบมากเลย >///<
เหมือนเสี่ยวเกอกำลังบอกว่าอู๋เสียคือคนที่สำคัญที่สุด พอได้อยู่กับอู๋เสียก็ไม่ปรารถนาอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้ บินไปฟินแลนด์ ไม่แปลกใจเลยที่อู๋เสียจะร้องไห้ ถ้าเราได้ยินคำนี้จากแฟนก็คงจะปลื้มจนน้ำตาไหลเหมือนกันละค่ะ
เสี่ยวเกอในเซ็ทฮันนีมูนนี่หวานทุกตอนเลย ยิ่งอ่านก็ยิ่งอิจฉาอู๋เสีย ไม่มีความหวังอะไร แต่พออู่เสียขอให้หวังก็หวังก็ได้ น่ารัก ตามใจแฟนสุดๆอ่ะ แม่ขา นู๋อยากได้ผู้ชายอย่างเสี่ยวเกอในฟิคนี้เป็นของขวัญปีใหม่สักคน แอร๊ยยย
ตอนนี้ในบรรดาเซ็ทฮันนีมูนทุกเรื่อง ชอบเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ เคยบอกแล้วใช่มั้ยคะว่าฟิคชุดนี้ช่างเลอค่า เขียนเรื่องโรแมนติกหวานๆแบบนี้ออกมาบ่อยๆนะคะ ^o^
โมเมนท์นั่งดูดาวต้อนรับปีใหม่กับแฟน ห่มผ้าห่มผืนเดียวกันเป็นอะไรที่ละมุนละไมสุดๆไปเลยค่ะ ยิ่งเข้ากับบรรยากาศช่วงนี้ด้วย เราชอบมากเลย >///<
เหมือนเสี่ยวเกอกำลังบอกว่าอู๋เสียคือคนที่สำคัญที่สุด พอได้อยู่กับอู๋เสียก็ไม่ปรารถนาอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้ บินไปฟินแลนด์ ไม่แปลกใจเลยที่อู๋เสียจะร้องไห้ ถ้าเราได้ยินคำนี้จากแฟนก็คงจะปลื้มจนน้ำตาไหลเหมือนกันละค่ะ
เสี่ยวเกอในเซ็ทฮันนีมูนนี่หวานทุกตอนเลย ยิ่งอ่านก็ยิ่งอิจฉาอู๋เสีย ไม่มีความหวังอะไร แต่พออู่เสียขอให้หวังก็หวังก็ได้ น่ารัก ตามใจแฟนสุดๆอ่ะ แม่ขา นู๋อยากได้ผู้ชายอย่างเสี่ยวเกอในฟิคนี้เป็นของขวัญปีใหม่สักคน แอร๊ยยย
ตอนนี้ในบรรดาเซ็ทฮันนีมูนทุกเรื่อง ชอบเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ เคยบอกแล้วใช่มั้ยคะว่าฟิคชุดนี้ช่างเลอค่า เขียนเรื่องโรแมนติกหวานๆแบบนี้ออกมาบ่อยๆนะคะ ^o^
Duke_of_Florence- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 113
Points : 3571
Join date : 31/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
หวานๆต้อนรับปีใหม่เลยค่ะ หงุงง /// v /// #น้ำตาลขึ้นจอ
ชอบประเด็นที่บอกว่านายเมินเป็นก้อนหิน ไม่มีความปรารถนาแต่พอมาอยู่กับนายน้อยก็เปลี่ยนไปจังเลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าในอดีตคราวพระในทิเบตคนนั้นคงจะเป็นช่วงที่เมินโหยวผิงยังมีแต่หน้าที่ที่ต้องทำ ยังไม่มีความหวัง ไม่มีความปรารถนาใดใด ไม่เหมือนกับหลังจากที่ได้เจอกับพวกนายน้อย ได้ปกป้องนายอ้วนกับอู๋เสีย ถ้าเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องทำแค่หน้าที่ คงไม่เข้าประตูสำริดแทนนายน้อยเป็นสิบปีได้หรอกค่ะ
และตอนนี้ //// -//// ฮือออ คงไม่มีความหวังไหนๆที่นายเมินจะหวังได้เท่ากับการอยู่กับนายน้อยอีกแล้วเนอะ คิดว่าช่วงเวลาดูดาวปีใหม่กับแฟนคงเป็นช่วงที่ล้ำค่ามากๆ ห่มผ้าห่มให้ บ่นด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าอู๋เสียจะไม่สบาย แต่ก็อยู่ตรงนั้น อยู่ด้วยกัน บอกว่านายคือความหวังของฉัน มองตากัน โอ๊ยตายตาย หวานจริงๆค่ะ แงงงง
แต่ที่ชอบที่สุดคงจะเป็น"นายมาร่วมหวังไปกับฉันไหม" หูยย ;//v//; ทรงพลังมากค่ะ ความหวังของคนสองคนจะแข็งแกร่งกว่าความหวังของคนคนเดียว แง ชอบค่ะ ชอบบบบ ต่อไปนี้ก็เค้าท์ดาวน์ปีใหม่ด้วยกันแบบนี้ทุกปีเนอะ แต่คราวหน้าเปลี่ยนเป็นเค้าท์ดาวน์แบบอื่นที่ร้อนๆบนเตียงกันก็ได้นะค--- #หมายถึงจิบชาดูทีวีบนเตียง ฟฟฟฟฟฟฟ
ขอบคุณสำหรับฟิคหวานๆค่ะคุณซิน <3
ชอบประเด็นที่บอกว่านายเมินเป็นก้อนหิน ไม่มีความปรารถนาแต่พอมาอยู่กับนายน้อยก็เปลี่ยนไปจังเลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าในอดีตคราวพระในทิเบตคนนั้นคงจะเป็นช่วงที่เมินโหยวผิงยังมีแต่หน้าที่ที่ต้องทำ ยังไม่มีความหวัง ไม่มีความปรารถนาใดใด ไม่เหมือนกับหลังจากที่ได้เจอกับพวกนายน้อย ได้ปกป้องนายอ้วนกับอู๋เสีย ถ้าเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องทำแค่หน้าที่ คงไม่เข้าประตูสำริดแทนนายน้อยเป็นสิบปีได้หรอกค่ะ
และตอนนี้ //// -//// ฮือออ คงไม่มีความหวังไหนๆที่นายเมินจะหวังได้เท่ากับการอยู่กับนายน้อยอีกแล้วเนอะ คิดว่าช่วงเวลาดูดาวปีใหม่กับแฟนคงเป็นช่วงที่ล้ำค่ามากๆ ห่มผ้าห่มให้ บ่นด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าอู๋เสียจะไม่สบาย แต่ก็อยู่ตรงนั้น อยู่ด้วยกัน บอกว่านายคือความหวังของฉัน มองตากัน โอ๊ยตายตาย หวานจริงๆค่ะ แงงงง
แต่ที่ชอบที่สุดคงจะเป็น"นายมาร่วมหวังไปกับฉันไหม" หูยย ;//v//; ทรงพลังมากค่ะ ความหวังของคนสองคนจะแข็งแกร่งกว่าความหวังของคนคนเดียว แง ชอบค่ะ ชอบบบบ ต่อไปนี้ก็เค้าท์ดาวน์ปีใหม่ด้วยกันแบบนี้ทุกปีเนอะ แต่คราวหน้าเปลี่ยนเป็นเค้าท์ดาวน์แบบอื่นที่ร้อนๆบนเตียงกันก็ได้นะค--- #หมายถึงจิบชาดูทีวีบนเตียง ฟฟฟฟฟฟฟ
ขอบคุณสำหรับฟิคหวานๆค่ะคุณซิน <3
Naitear- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 232
Points : 3748
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
ดกาสดาหกดาสวหกา อ่านฟิคพี่ซินแล้วเขินตลอดเลย
โอ้ยยยย ความหวังของเราอะไรกันเล่าาาา ฟกดาหก่ดาสหก่ดา /ตายไป กรุณามาเก็บศพด้วงด้วยค่ะ 555
ความหวังของสองคน หวังไปด้วยกัน
เหมือนใจสองดวงเชื่อมถึงกันเลย โอ้ยยย ตายตายตายตาย ///q///
สารภาพว่าตอนแรกที่นายน้อยบอกว่าอย่าเป็นพ่อพระไปหน่อยนี่คิดถึงเรื่องสกปรกไปแล้วค่ะ
//กราบ//
ขอบคุณสำหรับฟิคเคลือบน้ำตาลค่ะ QvQ//
โอ้ยยยย ความหวังของเราอะไรกันเล่าาาา ฟกดาหก่ดาสหก่ดา /ตายไป กรุณามาเก็บศพด้วงด้วยค่ะ 555
ความหวังของสองคน หวังไปด้วยกัน
เหมือนใจสองดวงเชื่อมถึงกันเลย โอ้ยยย ตายตายตายตาย ///q///
สารภาพว่าตอนแรกที่นายน้อยบอกว่าอย่าเป็นพ่อพระไปหน่อยนี่คิดถึงเรื่องสกปรกไปแล้วค่ะ
//กราบ//
ขอบคุณสำหรับฟิคเคลือบน้ำตาลค่ะ QvQ//
Shiaeri- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 135
Points : 3647
Join date : 10/11/2014
ที่อยู่ : หน้าประตูสำริด
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
เคาต์ดาวน์ด้วยกัน สวัสดีปีใหมก่ด้วยกัน อธิษฐานขอพรด้วยกัน สร้างความหวังร่วมกัน...
พวกนายจะหวานกันไปถึงไหนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ฟิคคุณซินอ่านติดๆกันแล้วรู้สึกว่าน้ำตาลในเลือดพุ่งมากๆค่ะ เสี่ยวเกอเปลี่ยนจากหินเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจสกิลจีบหนุ่ม(?)พุ่งทะลุสเกลจริงๆ
"…..ฉันหวังให้เราสร้างความทรงจำร่วมกันจนกว่าจะถึงเวลา"
อ่ะจ้ะ...คนอ่านก็หวังให้พวกนายอยู่ด้วยกันไปนานๆเลย อย่าจากกันไปนะ โฮกกกกกกกกก
พวกนายจะหวานกันไปถึงไหนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ฟิคคุณซินอ่านติดๆกันแล้วรู้สึกว่าน้ำตาลในเลือดพุ่งมากๆค่ะ เสี่ยวเกอเปลี่ยนจากหินเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจสกิลจีบหนุ่ม(?)พุ่งทะลุสเกลจริงๆ
"…..ฉันหวังให้เราสร้างความทรงจำร่วมกันจนกว่าจะถึงเวลา"
อ่ะจ้ะ...คนอ่านก็หวังให้พวกนายอยู่ด้วยกันไปนานๆเลย อย่าจากกันไปนะ โฮกกกกกกกกก
MinMin- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 222
Points : 3835
Join date : 28/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
จางฉี่หลิงนี่สมหวังอยู่ตลอดแล้ว
นายน้อยนี่หวังเยอะนะ55555
อยู่ด้วยกันไปนานๆนร้าา
นายน้อยนี่หวังเยอะนะ55555
อยู่ด้วยกันไปนานๆนร้าา
gustoon- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 104
Points : 3550
Join date : 22/11/2014
ที่อยู่ : ใต้เตียงนายน้อยอู๋
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
นายน้อยกับเสี่ยวเกอน่ารักมุ้งมิ้งเกินไปแล้ว เขินนนนนนนนนนนนน >///<
ความหวังของนายน้อยแอบฮานะ อะไรคือหวังให้ขึ้นปีใหม่เร็วๆจะได้ไปนอน 555
รู้สึกเหมือนกำลังโดนกองทัพมดบุกคอมเลยค่ะ หวานหยดเลยนะสองคนนี้
ด้วงก็หวังให้นายน้อยกับเสี่ยวเกออยู่ด้วยกันไปนานๆเหมือนกันค่ะ หงุงงง
ความหวังของนายน้อยแอบฮานะ อะไรคือหวังให้ขึ้นปีใหม่เร็วๆจะได้ไปนอน 555
รู้สึกเหมือนกำลังโดนกองทัพมดบุกคอมเลยค่ะ หวานหยดเลยนะสองคนนี้
ด้วงก็หวังให้นายน้อยกับเสี่ยวเกออยู่ด้วยกันไปนานๆเหมือนกันค่ะ หงุงงง
28016- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 67
Points : 3491
Join date : 28/12/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
เพิ่งรู้ความหมายยย อ่ะ อายยยยย อ๊ายยยย
Nepenthes- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 42
Points : 3438
Join date : 01/01/2015
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
“นอกจากการได้อยู่ตรงนี้กับนาย ฉันก็ไม่หวังอะไรอีก”
ประโยคนี้มีน้ำตาซึมค่ะ ขุ่นน้องซิน
เสี่ยวเกอของเราไม่ใช่ก้อนหินอีกต่อไปแล้ว นายน้อยของเราค่อย ๆ ทำให้ก้อนหินกลายเป็นมนุษย์ ซาบซึ้งยิ่งนัก
Yuwadee Wana- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 352
Points : 3820
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (Wish) Two Wish may Stronger than One [ผิงเสีย]
What doesn't kill you makes you stronger!!!!
//ด้วงน้อยพยายามปั๊มหัวใจตัวเองพร้อมกับร้องประโยคนี้ซ้ำๆ
โฮกกกกกกกก หวานจนหายใจไม่ออก เป็นลม ช็อค สำลักความหวานนนนน
โอ้ยยยย ซึ้งจนน้ำตาไหลพรากๆ //หายใจไม่ออกขึ้นไปอีก
ฮืออออ เสี่ยวเกอแม่ง ด้วงยอมตายเพื่อความรักของเสี่ยวเกอออออออ
//ด้วงน้อยพยายามปั๊มหัวใจตัวเองพร้อมกับร้องประโยคนี้ซ้ำๆ
โฮกกกกกกกก หวานจนหายใจไม่ออก เป็นลม ช็อค สำลักความหวานนนนน
โอ้ยยยย ซึ้งจนน้ำตาไหลพรากๆ //หายใจไม่ออกขึ้นไปอีก
ฮืออออ เสี่ยวเกอแม่ง ด้วงยอมตายเพื่อความรักของเสี่ยวเกอออออออ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3840
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth