Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[fic] Unreal 1 [ฮัวเฮย] nc18

Go down

unreal - [fic] Unreal 1 [ฮัวเฮย] nc18 Empty [fic] Unreal 1 [ฮัวเฮย] nc18

ตั้งหัวข้อ by kuramajoy Fri 19 Dec 2014, 19:37

Unreal

ความรู้สึกแรกที่ได้พานพบคงเป็น...ความงดงามที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจ

เขาคือความสวยงามในยามที่โลกใบนี้ของผมยังเห็นแสงสว่างแจ่มชัด ไร้ยังม่านหมอกสีดำ

แสงสีมากมายผ่านตาไปราวกับภาพมายาที่พร่ามัว ความมืดเริ่มกัดกินสายตาของผมทีละน้อย ถึงแม้ทุกสิ่งจะราวกับอยู่ในความฝันแต่ผมก็ยังคงมองเห็นสีสันของมัน

"ดูสิ นางเอกวันนี้สวยใช่ไหม" ชายชราในหมู่บ้านคนหนึ่งพูดขึ้นเรียกร่างของผมในวัยเยาว์ให้เดินเข้าไปดูยังเวทีที่พวกเขากำลังรุมอยู่ บนเวทีที่ยกขึ้นเล็กน้อยปรากฏหญิงสาวงดงามในเครื่องทรงรุ่มร่าม พวกเขากำลังแสดงงิ้วกันอยู่ ผมพอจะมีความรู้ว่างิ้วนั้นใช้การแสดงโดยบุรุษเพศทั้งหมด เน้นการขับร้องและร่ายรำ

ท่ามกลางแสงสีมากมาย นางเอกงิ้ววันนี้คือบทคุณหนูผู้สูงศักดิ์ ใบหน้าน่ารัก ท่วงท่าอ่อนช้อยงดงาม การร่ายรำที่ดูแล้วไม่ต่างจากสตรีเพศ ความงดงามที่สะกดทุกสายตาของคนดูไปยังบนเวทีคือความสวยงามสุดท้ายที่ผมได้เห็นก่อนที่โลกใบนี้ของผมจะมืดมิดลง

หลังจากสูญเสียไปสิ่งหนึ่ง ผมกลับได้อีกสิ่งหนึ่ง

ตาของผมสู้แสงไม่ได้ ทำให้การมองเห็นลางเลือนเกิดจากการที่ม่านตาผิดปกติแถมเปอร์เซ็นต์การรักษายังต่ำดินเสียจนคิดว่าช่างมันเถอะ ปัญหาแค่นี้ไม่ทำให้ผมลำบากในการใช้ชีวิต แค่หาแว่นกันแดดสักอันก็เพียงพอ แถมมันยังทำให้ประสาทสัมผัสของผมไวขึ้นจากการที่มองไม่เห็นยังสีสัน  

ทั้งกลิ่น รส รูปสัมผัส ประสาทของผมตื่นตัวไวขึ้นทดแทนกับสิ่งที่สูญเสีย มันทำให้ผมเก่งกาจได้ในยามคว่ำกรวย ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่พวกเขาเรียกผมว่า เฮยเสียจื่อ เพราะแว่นกันแดดสีดำที่ผมใส่อยู่ประจำ

ท่ามกลางอันตราย กลิ่นควันบุหรี่ ตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ที่ผมไม่รับรู้ถึงสัมผัสของความอ่อนโยน ตั้งแต่เมื่อไรที่ผมลืมเลือนถึงแสงสว่าง นั่นสินะ ผมคงอยู่ในความมืดมิดมานานจนเกินไป แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา

เพราะโลกของผมมืดมิดตั้งแต่แรกแล้ว

วันนี้มีคนจ้างผม ดูเหมือนจะเป็นคุณชายแห่งตระกูลใหญ่ ผมเคยชินกับพวกเก้าตระกูลใหญ่ พวกเขาเป็นนักลงกรวยมืออาชีพ ผมเคยผ่านงานกับพวกเขามานับครั้งไม่ถ้วน ครานี้คือคุณชายตระกูลเชี่ย

"สวัสดี ต่อจากนี้เราคงได้ร่วมงานกัน" เสียงโทนสูงของผู้ชายเข้าโสตประสาทของผม ในนาทีแรกผมยังจำไม่ได้ว่าเขาคือใคร ต่อเมื่อได้สัมผัสมือนุ่มและกลิ่นหอมราวกับแป้งพอกของนักแสดงงิ้วผมจึงมั่นใจว่าเขาคือความงดงามครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นก่อนที่โลกใบนี้จะมืดมิดลง

ความรู้สึกต่อมา อาจจะแค่สนใจ...

การได้ลงกรวยร่วมกับเขามันเป็นอะไรที่สนุกสนาน คุณชายฮัวไม่ใช่พวกโลภหวังแต่สมบัติหรือกักขฬะเหมือนกับพวกที่ร่วมงานกับผม ผมนึกถึงท่วงท่าอ่อนช้อยงดงามที่อยู่บนเวทีการแสดงของเขา หลายครั้งที่ลงกรวยร่วมกันผมอดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่เขาทุกครั้ง คุณชายฮัวจะคลี่ยิ้มบางยามที่โดนผมล้อก่อนที่จะหยอกกลับตามประสา
จากการร่วมกันทำให้ผมเรียนรู้ว่าคุณชายฮัวนั้นเยือกเย็น แถมยังคุมสติของตนเองได้ดีแม้อยู่ท่ามกลางความเป็นความตาย

ทำไมกันนะ สักที่หนึ่งในจิตใจของผมคิดว่าอยากจะลองทำให้ภาพลักษณ์ของคุณชายแตกสลาย

วินาทีที่ได้สัมผัสต้องกันยามลงกรวย ผมรู้สึกได้ว่าในหัวใจของเขามีหลุมโพรงขนาดใหญ่ที่ไม่มีวันถมให้เต็ม

ความมืดมิดที่ผมมองเห็น แต่เขายังไม่รู้ตัว

อา ถ้าลองให้มันชัดเจนขึ้น ย้อมเขาด้วยสีดำ คงจะงดงามน่าดู

ความรู้สึกต่อมาคือความสนุกสนาน...

คุณชายฮัวเหมือนกับดอกไม้งดงามที่มีหนามแหลมคม ผมเป็นเพียงแมลงโง่เง่าที่รู้ทั้งรู้แต่ก็บินไปให้หนามตำ

จุดเริ่มต้นของพวกเราอยู่ที่ไหนกันนะ คงจะเป็นคืนนั้นกระมัง วันที่จิตใจของเขาบอบช้ำอย่างแสนสาหัสเพราะความรักครั้งแรก..

"สวัสดีคุณชายเก้า บังเอิญจังเลยนะ ไปเดทกับฉันสักหน่อยไหม"

ท่ามกลางถนนหลายสายในกรุงปักกิ่ง เราพบกันโดยบังเอิญในค่ำคืนที่มืดมิด คำยียวนถูกส่งไปดังเช่นทุกวันหากทว่าวันนี้เขากลับแปรเปลี่ยนไป ลมหายใจที่เคยสม่ำเสมอของเขาติดขัดเล็กน้อย กลิ่นน้ำหอมฉุนจมูก ประกอบกับร่างกายงดงาม ครั้นได้สัมผัสยังอุณหภูมิของมือมันกลับเย็น ชีพจรเต้นแรง อา..
เกิดอะไรขึ้นสินะ

นัยน์ตาของผมแพ้แสง ไม่อาจมองโลกใบนี้ท่ามกลางแสงสว่างอันสดใส ทุกอย่างของผมถูกปกคลุมด้วยโลกสีดำ

เสียดายที่ไม่เห็นสีสันบนใบหน้าของคุณชาย ใบหน้างดงามของคุณชายฮัวเจือปนไปด้วยความโศกเศร้า  ผมสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวัง เขากำลังแตกสลายอย่างเชื่องช้า ..สนุกจังเลย เสียดายเหลือเกินที่ไม่ได้มองใบหน้ายามสิ้นหวังของนาย

“นี่คุณชายเก้า ไปเที่ยวกันหน่อยนะ เดี๋ยวเลี้ยงข้าว” ร่างนั้นไม่ตอบสนอง เขาหยุดนิ่งราวกับกำลังสับสน

น่ารักจังเลย...

“นี่ สนใจผมหน่อยสิ” ผมเดินวนรอบตัวดอกไม้งาม รับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่แปรปรวน คุณชายเก้าเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะผ่อนลมหายใจ จากความสับสนที่ถาโถมมันกลับสงบลงแล้ว

แต่เป็นความสงบก่อนที่พายุจะมา

“ได้ ไปดื่มกันเถอะ”

“หึหึ” ผมหัวเราะ ชวนเขาสิบครั้งไม่เคยได้มาสักครั้ง ครานี้เขาคงอยากปลดปล่อยอารมณ์ถึงได้เลือกเศษแดนอย่างผม

คนอย่างคุณชายฮัวไม่มีทางไปนั่งดื่มในร้านของชนชั้นแบบผม เขาเลือกโรงแรมส่วนตัว ผมเหยียดยิ้มเมื่อเห็นห้องสูทที่ถูกจัดมา

“คุณชายเก้า หลังจากดื่มแล้วจะยอมขึ้นเตียงกับผมหรือ ถึงได้เลือกห้องนี้” มือแตะลงยังความนุ่มนวลของฟูกนิ่ม สัมผัสขนาดนี้ท่าทางคงเป็นคิงไซส์ ไม่แปลกที่นักธุรกิจหลายคนจะเปิดห้องเพื่อดื่มเพราะมันเป็นส่วนตัวและคุยธุระได้ดีกว่าการนั่งคุยกันในร้านอาหาร

“ไม่รอกันเลย” อดจะบ่นไมได้ เพียงแค่สำรวจห้องครู่เดียวก็ได้กลิ่นของวอดก้าแตะจมูก ดูท่าคุณชายคงจะเปิดดื่มนำไปแล้ว เขาต้องการจะดื่มกับผมหรือไม่ มาถึงตัวเองก็เอาแต่ซดอยู่ฝ่ายเดียว

เห็นเขาเป็นแบบนั้นผมจึงดื่มด้วย รู้สึกได้ถึงรสขมของแอลกอฮอล์ เหล้านั้นหากดื่มให้เป็นมันจะเป็นทาสเราหาใช่นายเรา ผมคิดว่าคุณชายเก้าก็รับรู้เรื่องนี้เช่นกันแต่ในเวลาที่เราอยากลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่คนฉลาดอย่างคุณชายฮัวก็ยินยอมให้มันเป็นฝ่ายนำ

“ปล่อยตัวแบบนี้จะดีหรือ” ผมเอื้อมมือไปลูบไล้ปลายนิ้วเย็นเฉียบ สัมผัสถึงความอ่อนนุ่มเบื้องหน้า ความงดงามครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นยังคงตราตรึงภายในความทรงจำ โดยไม่รู้ตัวหรือเป็นเราะความร้อนจากเครื่องดื่มทำให้ผมเผลอยื่นมือไปแตะพวงแก้มของเขา ก่อนที่จะคลี่ยิ้มเมื่อได้ยินเสียงของเขา

ท่าทางคงเมาได้ที่แล้ว ผมเขยิบเข้าไปใกล้เขาได้กลิ่นน้ำหอมคละเคล้าไปกับกลิ่นของรสสุรา

“คุณชายฮัวไปเจออะไรมาหรือ..” เขาเพิ่งออกมาจากงานประมูล หากไม่ได้ประมูลก็คงพบเจอคนที่ยากจะหักใจ

“เปล่า” คุณชายยังคงปากแข็งผมจึงต้องตะล่อมอีกนิด ทำไมกันนะผมถึงได้สนใจเขาขนาดนี้ เพราะกลิ่นหรือ หรือเพราะว่าเขาคือความงดงามครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็น
ผมพยายามเพ่งสายตามองเขาท่ามกลางกระจกสีดำของแว่นกันแดด เห็นยังเค้าลางอันงดงาม

มือของผมลูบไล้ใบหน้านั้น มันยังเป็นรูปไข่อยู่ จมูก ดวงตาได้รูป ใบหน้างดงามหยาดเยิ้มจับใจ เส้นผมซอยสั้นนุ่มราวกับแพรไหม ผมเลื่อนลงไปยังลำคอ

อา... เขามีลูกกระเดือก.. คอของเขาไม่ได้บอบบางมาก เมื่อเลื่อนลงไปยังไหล่ผมก็พบว่าคุณชายฮัวไม่ได้ผอมบางอย่างที่ใครคิด

"ฉันกลัวความรัก" เขาเอ่ยขึ้นมาไม่สนใจมือของผมที่ลากไล้ยังผิวกาย ผมเอียงคอยิ้ม เขาช่าง...ไม่ระวังเอาซะเลย

"คนที่กลัวที่จะรักใครอย่างคุณชายกลับรู้จักความรักเสียแล้ว" ผมหัวเราะ เขาที่หวาดกลัวที่จะรักกับใครสักคนกลับรู้ว่าตนเองมีความรัก อา ใบหน้ายามสิ้นหวังของเขามันเร้าอารมณ์เสียจนผมเผลอเลียริมฝีปาก รู้สึกว่าถ้าผลักอีกนิดเดียวคุณชายฮัวคงจะตกลงสู่ความมืดมิดอย่างถอนตัวเสียไม่ได้

ผมควรจะทำอย่างไรดีนะ

หัวใจข้างในกำลังสั่น เสียงปีศาจที่กระซิบในเงามืดพาให้สมองของผมลิงโลด..ปลายนิ้วสั่นไหวยามที่เอื้อมมือไปหาเขา

“นายล่ะ” เสียงที่ดังขึ้นพาให้มือที่กำลังเอื้อมไปหาหยุดชะงัก ผมหายใจรู้สึกตัวว่าเกือบไปแล้ว

อา ผมนี่นิสัยไม่ดีจริงๆ

“อะไรหรือคุณชายฮัว ถ้าเรื่องความรักล่ะก็ผมแจกจ่ายให้ไปทั่วไปหมด” ผมยักไหล่พลางโอบบ่าของเขา เขาตัวไม่เล็กอย่างที่คิด แย่ล่ะ แบบนี้ก็โอบในทีเดียวไม่ได้สิ โชคยังดีที่เขาเตี้ยกว่าผมอยู่เล็กน้อย

“นายรู้จักความรักงั้นหรือ” ร่างของเขากระตุกไหว ไหล่ที่ผมกำลังโอบอยู่สั่นไหว เรานั่งกันอยู่บนโซฟาผมจึงได้กลิ่นกายแป้งหอมจากเขา ฉุนจมูก ทั้งเครื่องน้ำหอม คล้ายจะซึมซาบลงไปในผิวหนังอ่อนนุ่มนี้

“รู้จักสิ” ผมหลับตาลงนึกถึงยังความงดงามครั้งสุดท้าย นิ้วไล่ไปยังเนคไทของเขา เกี่ยวกระหวัดดึงมันอย่างเชื่องช้า ปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตสีชมพูลงสองเม็ด นาบมือร้อนผ่าวลงบนผิวกายนุ่มเบื้องหน้า

“ผมรักคุณนะ คุณชายฮัว”

“หือ” คุณชายฮัวเลิกคิ้วมองดูผม “ฉันเป็นคนที่นายรักลำดับที่เท่าไรล่ะ นายก็บอกรักไปทั่ว นายมันใจง่าย ร่านยิ่งกว่าผู้หญิงขายตัว”

คำสารภาพปนกึ่งล้อเล่นของผมไม่ทำให้เขาประหลาดใจ อย่างไรเสียผมก็บอกรักคนทุกคนทั่วไปหมดอยู่แล้วเขาจึงไม่คิดว่ามันจริงจัง

ใช่ แบบนั้นก็ดี ผมไม่ต้องการให้เขารู้

“คำว่าร่านนั้นไม่ได้มีไว้ใช้กับผู้ชายนะครับ อย่างผมน่ะต้องเป็นเจ้าชู้ประตูดินสิคุณชาย” ผมหัวเราะทักท้วงเขาอย่างไม่จริงจังนัก เขยิบเข้าหาความหอมกรุ่นจนชิดใกล้ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจัดออกมาจากร่างของเขา

อา รู้สึกร้อนขึ้นมา มันอาจจะเป็นแค่พิษสุรา หรือเพราะกลิ่นหอมนี้ถึงได้ทำให้ผมเอื้อมมือไปดึงเนคไทของเขาออก กระชากชายเสื้อดึงริมฝีปากนั้นเข้ามาจูบ

“อือ” เริ่มแรกผมเป็นฝ่ายเริ่ม ริมฝีปากของเราแนบชิดกันผมสอดลิ้นเข้าหาความหวาน เกี่ยวพัวพันลิ้นของเขา ทั้งที่คิดว่าจะโดนเขาผลักออกหากแต่ลิ้นนุ่มกลับเข้ามาเกี่ยวพันผม เราสองคนดึงดูดกันและกันจวบจนหอบหายใจ ผมเป็นฝ่ายผละออกมาก่อนเลียยังริมฝีปากหวานฉ่ำของตนเอง

อา ท่าทางคุณชายฮัวจะไม่ได้ไม่ประสีประสา ...

“หึหึ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ คุณใช้ใบหน้าแบบนี้หลอกหญิงมากี่รายแล้วล่ะ” ผมหยอกเย้าพลางลูบไล้ใบหน้าสวยงามของเขา รู้สึกชอบยามที่ได้สัมผัสเขา ไม่ว่าจะใบหน้ารูปไข่ คอเรียว ไหล่กว้าง หรือแขนบาง ลากไล้ไปยังแผงอก ผมลองกดมันกลับแข็งกว่าที่คาด

กล้ามเนื้อไม่เลวเลยสำหรับคนผอมบางอย่างคุณชาย

“ไม่ปัดผมออกจะดีหรือ เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ด้วยนะครับ” ผมคร่อมทาบทับเขาที่นั่งบนโซฟา คุณชายกลับกระชากผมเข้ามาใกล้ โอบรัดรอบคอ จูบของเราดำเนินไปอีกครั้ง กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งกระจายทั่วปาก กลับกลายเป็นเขาที่เป็นฝ่ายรุกไล่ผมราวกับต้องการ ผมเอื้อมมือไปแกะเสื้อผ้าของเขาพร้อมกับที่เขาแกะเสื้อผ้าผมออก

เพียงจูบครู่เดียวเสื้อด้านบนของเราก็หายไปทั้งคู่ ผมเลียริมฝีปากรู้สึกเหมือนร่างกายรุ่มร้อน กับผู้หญิงผมเคยมานักต่อนักแต่กับผู้ชายนี่เป็นครั้งแรก

“คุณชายฮัว คุณเมาแล้วนะครับ” ได้กลิ่นเหล้าจากร่างกายของเขา แถมยังมือที่สั่นสะท้านยามที่สัมผัสผมพาให้รู้ว่า คุณชายฮัวเมาชนิดกู่ไม่กลับเสียแล้ว ผมท้วงยังมือที่ดึงผมเข้ามาชิดใกล้ จากที่คิดจะลวนลามเขากลั่นแกล้ง กลายเป็นโดนเขาลวนลามเสียเอง มือของคุณชายไล้สะเปะสะปะไปทั่วหน้าอกของผม นิ้วเรียวกดก่อนที่เสียงนุ่มนวลจะเอ่ยออกมา

“เล็ก...แบน”

คำพูดที่พาให้ผมหัวเราะออกมา ผมตีหน้าเขาเบาๆ ถูกเขาดึงขึ้นไปนั่งตัก ตัวผมหาได้บอบบางเหมือนสาวนั่งดริ้งค์ น้ำหนักนั้นพาให้คนเมาขมวดคิ้ว ผมเลยจงใจหย่อนก้นคร่อมทับเขาในสภาพล่อแหลม แลบลิ้นแกล้ง

“คุณชาย ท่าทางจะฟาดสาวนั่งดริ้งค์ประจำล่ะสิ” ผมลูบไล้ใบหน้าของเขา เขาไม่ขัดขืนมือที่ไล้ไปทั่วร่างกาย เอาเถิด เดี๋ยวเขาเจอตอก็รู้แล้วว่าไม่ได้จับสาวน้อยนุ่มนิ่มแต่กำลังจับผู้ชายแข็งกระด้าง

“ฮะ..ฮะ” ผมยิ้มแห้งเมื่อมือของคนเมากลับชำนาญเสียยิ่งกว่าที่คิดไว้ เขาจับมือผมกระชากลง ไหล่สัมผัสกับเนื้อหนังของโซฟา ก่อนที่เรียวขาจะถูกยกขึ้นแล้วกางเกงของผมก็ลอยไป

แม่ง คุณชายฮัว นี่นายเที่ยวหญิงบ่อยใช่ไหม

เป็นแบบนี้ผมจะยอมแพ้ได้อย่างไร ผมรั้งรอบคอเขาดึงลงมารับจูบ เราพัวพันกันอย่างไม่ยอมแพ้ มือของผมเอื้อมไปรูดซิบกางเกงของคนงาม ล้วงเข้าไปในกางเกงในสัมผัสกับแก่นกายที่ร้อนรุ่ม ยันตัวขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอน อ้าปากรองรับกับความใหญ่โตที่กระตุกอยู่ในโพรงปาก

นี่คือครั้งแรกที่ผมทำกับผู้ชายแต่ประสบการณ์สั่งสอนผมให้รู้ว่าควรจะทำตรงไหนเขาถึงจะรู้สึกดี ผมโลมเลียแท่งเนื้อร้อนผ่าว ดูดดึงยังปลายยอด กระตุ้นให้มันใหญ่ขึ้น
“อึก!” เสี่ยวฮัวกระชากศีรษะของผม กดริมฝีปากให้ตอบรับความใหญ่โต ให้ตายเถอะตัวก็ผอมบางแต่ไอ้นี่ใหญ่ชะมัด

จะว่าไปแล้ว เสี่ยวเกอก็ตัวเล็กผอมบางแต่ตรงนี้ก็ใหญ่เหมือนกัน...

ผมอ้าปากยินยอมให้สิ่งนั้นรุกรานเข้าสู้โพรงปากมากขึ้น ขบเม้มเบาๆที่แท่งเนื้อร้อน สัมผัสได้ถึงร่างกายของคุณชายฮัวที่กระตุก ได้กลิ่นของแป้งหอมผสานไปกับเหงื่อ อา เสียดายจังเลยที่ไม่ได้เงยมองใบหน้านั้นว่าเป็นอย่างไร คงจะกำลังขบเม้มริมฝีปากด้วยท่าทีเซ็กซี่ รู้สึกว่าแว่นตัวเองเกะกะ แต่จะถอดก็ไม่ได้เพราะตาของตนแพ้แสง

“อ๊ะ..อา” เสียงนุ่มนวลครางแผ่วเบากระตุ้นอารมณ์ของเราทั้งคู่ ผมกัดเบาๆที่ปลายยอด เลียรอบพันส่วนของความเป็นชาย ทว่าในจังหวะที่ร่างนั้นกระตุกจนกำลังจะขึ้นสวรรค์คุณชายฮัวกลับกระชากศีรษะของผมออกมา

การถูกจิกเส้นผมดึงออกมาไม่ใช่เรื่องดี ผมรู้สึกเจ็บหัวอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะถูกผลักลง กว่าจะตั้งตัวทันความรุ่มร้อนก็แทรกสอดเข้ามาในร่างกาย

“อึก!” ผมกัดริมฝีปากจนห้อเลือดเมื่อสัมผัสได้ถึงความเจ็บราวกับว่าร่างกายตัวเองจะฉีกขาด หอบหายใจผ่อนคลายตัวเอง ก่อนที่จะค่อนแคะเขา “หึหึ คุณชายฮัวนี่เป็นพวกใจร้ายกับคู่นอนสินะ เล่นเข้ามาแบบนี้เขาก็เจ็บหมดสิ”

ผมไม่แคร์ว่าตัวเองจะได้อยู่บนหรือล่าง ขอแค่สนุกก็เพียงพอ ไม่สิ... ผมเอื้อมมือไปแตะยังแผงอกชื้นเหงื่อ สูดดมยังกลิ่นหอมจากร่างกายของเขา
จะรับ หรือ รุก ก็ได้.. แค่ได้ทำกับเขาก็พอ..

ถึงจะเคยคิดว่าตัวเองจะได้เป็นฝ่ายรุกเร้าคุณชายฮัวก็ตาม..

“หึ ..หึ” ผมแค่นหัวเราะ มือแตะลงที่แว่นดำของตนเองกดไม่ให้มันเลื่อนหลุดไปตามการขับเคลื่อนที่เขาเป็นผู้นำ ความอึดอัดถาโถมเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหมือนลมหายใจติดขัดริมฝีปากกัดแน่นไม่ยินยอมให้เสียงเล็ดลอด

เจ็บ ทั้งข้างล่างทั้งข้างบน อา รู้สึกเหมือนจะเผลอกัดจนปากแตก

เอาเถอะ เทียบกับเจอผีแม่ย่าแค่นี้ยังจิ๊บๆ..

ผมหัวเราะท่ามกลางความเจ็บปวดจนน้ำตาเล็ด เอื้อมมือไปแตะยังผิวกายหอมกรุ่น ดูเหมือนคุณชายจะเมามายจนลืมเลือนไปเสียหมด การแทรกสอดหนักหน่วงดูแตกต่างกับภาพพจน์เบื้องหน้ามันทำให้ผมคลี่ยิ้ม

ในที่สุดผมก็ได้รู้จักอีกตัวตนหนึ่งของเขา

ความมืดมิดในใจเริ่มแผ่ขยายขึ้น ท่ามกลางบทรักเร่าร้อน ผมกอดรอบคอของเขาเป็นฝ่ายเขยิบสะโพกชิดใกล้  แนบลงกับความอึดอัดนั้น ร่วมรุ่มร้อนหลอมละลายไปกับเขา ผิวกายของเราเสียดสีกันและกัน

รู้สึกร้อน..ร้อนเสียจนจะตาย

ความเจ็บปวดคละเคล้าไปกับความสุขสม เราทั้งคู่กอดก่ายกันและกันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ยิ่งเขากระแทกลงมาแรงเท่าไร ผมก็ตอบกลับมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายก็จบที่จูบพัวพัน หยาดหยดของเราทั้งคู่ไหลรินผสมผสานกัน แลกของเหลวกันและกันไม่รู้กี่ครั้ง

เลอะเทอะไปหมดคงเป็นคำกล่าวที่ดี เพิ่งรู้ว่าการทำกับผู้ชายมันสูบพลังงานถึงเพียงนี้

จวบจนเกือบรุ่งสางคุณชายฮัวก็เป็นฝ่ายถอนตัวออกไปจนได้ เหมือนพึงพอใจเต็มอิ่ม ผมหัวเราะมองดูคนที่เพ้อเพราะเหล้าล้มตัวกอดก่ายผม อ้อมกอดนั้นอุ่นเสียจนต้องดึงมันออก

เพราะไม่เคยได้สัมผัสถึงไม่รู้ว่าต้องทำเยี่ยงไร สุดท้ายผมก็ผลักเขาออกไป ขยับแว่นบนใบหน้า ยกร่างกายที่ปวดร้าวขึ้น

เจ็บ...แต่พอทนได้..

อาบน้ำ แต่งตัว วนกลับมาดึงผ้าห่มให้คนงามบนเตียง ก่อนที่จะเปิดประตูห้อง ผมหยิบบุหรี่มาซองหนึ่งพร้อมกับไฟแช็ก คุณชายฮัวไม่ใช่คนสูบบุหรี่เพราะมันจะทำร้ายต่อความงามของเขา ผมจำมันได้ บุหรี่ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อที่นายน้อยชอบ ไฟแช็กอันนี้ก็เป็นของนายน้อยสาม

อา.... นายน้อยสามหนอ นายน้อยสาม คุณช่างเป็นคนเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์แถมชอบทำร้ายใครต่อใครโดยไม่รู้ตัว เมื่อนึกถึงใบหน้าน่ารักไร้เดียงสาผมก็รู้สึกว่าพอจะเข้าใจหัวอกของเจ้าแมวน้อยเสี่ยวเกอกับดอกไม้งามอย่างคุณชายฮัวเสียแล้ว

ถ้าถามว่าผมรู้สึกอย่างไรกับนายน้อยสามที่แย่งคนรอบตัวผมไปหมด คำตอบก็คือ ชอบ... ยังไงผมก็ชอบเขาอยู่ดี อยากจะไปแย่งด้วยเหมือนกันแต่เกรงใจสายตาแมวสุดๆ เกิดโดดตะปบเข้าทีคงได้กลายเป็นผีเฝ้าสุสาน

ขนาดผมยังไม่ไหว คุณชายฮัวคงยิ่งหมดสิทธิ์ อีกทั้งสายตาของนายน้อยที่มองตามแผ่นหลังของเจ้าแมว.... ไม่ว่ายังไงก็คือสายตาของสาวน้อยที่มีรักแรกอย่างมั่นคง..
หึ หึ หึ ผมหัวเราะ รู้สึกสมเพชในชะตากรรม จุดบุหรี่ขึ้นมายัดใส่ปากที่เต็มไปด้วยรสของน้ำกาม สูดเข้ากับรสขมของนิโคติน รู้สึกเหมือนสมองโล่งขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะขยับร่างกายที่บอบช้ำเหลียวมองยังประตูบานที่เพิ่งปิด รู้สึกเหมือนความมืดในร่างกายตนเองขยายมากขึ้น

อา ผมกำลังตกลงสู่เหว

แค่ขยับขาร่างกายก็แล่นประท้วงจนเซไปชนกับคนอื่น ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเราะ หัวเราะราวกับคนบ้า

เจ็บจริงด้วย ครั้งแรก ทั้งหัวใจและร่างกาย..

ผมกัดบุหรี่ก่อนที่จะแตะริมฝีปากของตัวเอง อา จริงด้วยมันแตกไปตอนที่ผมกัด...เสียดายจัง คงจะสูบไม่ได้สักพัก..

เลียริมฝีปากที่เต็มไปด้วยความหอมหวาน เพราะรสมันยังคงอยู่ผมจึงทรมานตนเองโดยการ สูบมวนที่สอง สาม สี่ ละลายรสหวานออกด้วยรสขมที่คุ้นเคย

ผมนี่...บ้าจริงๆด้วย..


TBC
kuramajoy
kuramajoy
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 206
Points : 3763
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ