Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Drabble] #dmbjdaily 32 days left (Scar) Reason to remain, Reason to heal (ผิงเสีย)
3 posters
หน้า 1 จาก 1
[Drabble] #dmbjdaily 32 days left (Scar) Reason to remain, Reason to heal (ผิงเสีย)
ต่อเนื่องจาก [Drabble] Blindfold (ผิงเสีย)(R-18)
From every wound there is a scar.
Every scar tells a story,
a story that says "I SURVIVED". (Craig Scott)
ทุกบาดแผลที่เกิดขึ้น ล้วนมีรอยแผลเป็น
ทุกรอยแผลเป็นที่ปรากฏ ล้วนบอกเล่าเรื่องราวความเจ็บปวด
และเรื่องราวความเจ็บปวดนั้นแหละ ที่แสดงให้เห็นว่า
"เราผ่านพ้นมันมาได้แล้ว"
"ทำไมถึงมีรอยแผลเป็นเยอะขนาดนั้น..."
เป็นคำถามจากเสี่ยวเกอ ที่นั่งลูบเรียวแขนของเขาที่นอนเปลือยเปล่าคว่ำหน้าอยู่นเตียง ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ผ้าห่มคลุมปิดช่วงล่างเอาไว้
เมื่อคืน เขาเกือบนึกว่าตัวเองจะตายคาอกอีกฝ่ายเสียแล้ว ตั้งแต่ที่ผ้าปิดตาถูกปลด เสี่ยวเกอดูตั้งอกตั้งใจที่จะทำเหลือเกิน นับดูก็สี่ห้ารอบ จนเขาแทบไม่เหลืออะไรและเพลียจนลืมตาไม่ไหว จึงบอกให้หยุด
'ยังไม่ครบจำนวนแผลเป็นเลย...' อีกฝ่ายหน้าตอบมาด้วยคำพูดนั้นพร้อมใบหน้านิ่ง ดูจริงจังจนน่าหวาดหวั่น เขาแทบกรีดร้อง ก่อนจะยื่นคำขาดว่าถ้าดึงดันจะทำต่อก็เตรียมอดไปอีกนาน
อย่างน้อยๆก็ครึ่งเดือน จนกว่าร่างกายจะกลับมาเป็นปกติหลังผ่านสมรถูมิรักที่ดุเดือดขนาดนั้น
โชคดีที่อีกฝ่ายยอมฟังอุ้มเขาไปอาบน้ำ ชำระร่างกายแต่โดยดี ถึงจะมีตอดเล็กตอดน้อยจนเขารู้สึกว่าคงไม่มีรอยแผลเป็นไหนบนร่างกายเขาที่ไม่มีรอยจูบประทับ แต่ก็ไม่ล่วงเกินมากกว่านั้น
กว่าอีกฝ่ายจะพาเขามาถึงเตียง ตาก็เหลือบเห็นแสงทองส่องขอบฟ้ารำไร
"...ตามตัวคือแผลที่ได้จากการไปคว่ำกรวย ตรงที่แขน...ฉันกรีดตัวเอง ทุกครั้งที่ล้มเหลว ชีวิตบริสุทธิ์ที่สูญเสียไปด้วยน้ำมือของฉัน ฉันแทนมันด้วยหนึ่งรอยแผล เพื่อที่ฉันจะได้จดจำพวกเขาเอาไว้…”
เขารู้สึกถึงนิ้วมือที่ยาวเป็นพิเศษเลื่อนมาลูบที่คอ...ที่ซึ่งมีรอยแผลเป็นที่ใหญ่และเด่นชัดที่สุด
“ส่วนที่คอนี่...คงเป็นผลกรรมจากสิบเจ็ดรอยแผลนั่นตามสนองเอา...ฉันถูกคนลอบฆ่า…”
เขาพลิกหน้ามามอง สบกับนัยน์ตาสีดำที่เริ่มทอประกายวาบขัดกับใบหน้านิ่งสงบ ยกมือขึ้นลูบแขนอีกฝ่ายแล้วเอ่ยปลอบกลับ “มันผ่านไปแล้ว...และฉันยังมีชีวิตอยู่…”
อีกฝ่ายพยักหน้าเชื่องช้า สองมืออบอุ่นดึงผ้าห่มคลุมตัวเขาถึงไหล่ก่อนข้างหนึ่งจะเลื่อนขึ้นมาตบที่ศีรษะเขาเบาๆราวจะกล่อมนอน
“หลับเถอะ…”
ด้วยความอ่อนเพลีย...สติสัมปัชชัญญะของเขาได้ปิดตัวลง จมดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว…
- Heal the scar -
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเป็นเวลาเย็นย่ำแล้ว เหลือบมองนาฬิกาจึงได้รู้ว่าตัวเองหลับไปหนึ่งวันเต็มๆ
อู๋เสียยกมือตบหน้าผากตัวเองดังปุ...พลางสบถรัว…
“เป็นอะไร...อู๋เสีย…” พอดีกับที่จางฉี่หลิงเปิดประตูห้องเข้ามา
“เสี่ยวเกอ...ทำไมถึงไม่ปลุกฉัน…”
“เห็นนายเพลีย...เลยไม่อยากปลุก…”
“แล้วนี่…”
“ฉันบอกลูกจ้างนายให้แล้ว…”
เขาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เสี่ยวเกอ...จางฉี่หลิงนี่นะ… คนหน้านิ่งที่ปริปากแทบจะนับคำได้ สื่อสารกับคนธรรมดาทั่วไปอย่างหวังเหมิงรู้เรื่องได้ยังไง
“เขาโทรมาหานาย ฉันรับสายให้บอกกับเขาว่านายป่วย…”
อู๋เสียพยักหน้ารับ ก่อนจะโบกมือให้อีกฝ่ายออกจากห้องไปก่อน “ฉันจะไปอาบน้ำ…”
แต่อีกฝ่ายยืนทำหน้านิ่ง ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ตัวเขาก็อายเกินกว่าจะเดินเปลือยไปเข้าห้องน้ำต่อหน้าอีกฝ่าย ต่อให้เคยเห็นกันไปถึงไหนต่อไหน เขาก็ไม่รู้สึกชินอยู่ดี
“เสี่ยวเกอ...ออกไปก่อน…”
ร่างสูงโปร่งส่ายหน้า เดินขยับเข้ามาหา วางถุงพลาสติกสีขาวที่มีตราร้านขายยาประทับอยู่บนโต๊ะหัวเตียง สองแขนช้อนร่างเขาขึ้นอุ้ม
“เสี่ยวเกอ!”
อู๋เสียอุทานด้วยความตระหนัก สองมือรั้งผ้าห่มมาปิดเนื้อตัว
“จะช่วย...ไม่ต้องอาย…”
ไม่อายบ้าอะไร ...นายไม่ใช่ฉัน นายไม่เข้าใจหรอก เมินโหยวผิง! อู๋เสียได้แต่บ่นในใจ
แต่สุดท้ายแล้วก็ทำได้แค่ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดการทำความสะอาดร่างกายเขาด้วยสองมือนั้น จนอีกฝ่ายพึงพอใจแล้วว่าตัวเขาสะอาดทุกซอกทุกมุมจึงช้อนตัวเขาขึ้นจากอ่างอาบน้ำกลับไปยังห้องนอนอีกครั้ง
“เสี่ยวเกอ ปล่อยฉันลง ฉันจะไปแต่งตัว…”
“ทายาก่อน…”
อีกฝ่ายว่า อู๋เสียอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ...ทายา… ทายาอะไร...เขามีอะไรที่ต้องทายา...แผลเขาก็ไม่มี
เขามากระจ่างแก่ใจเมื่อร่างกายที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนจ้อยพันปิดกลางกาย ถูกวางลงบนเตียงนุ่ม จางฉี่หลิงหันไปหาถุงพลาสติกที่ถือเข้ามาตอนแรกแล้วหยิบหลอดครีมสีขาวออกมาจากถุงนั้น
...เขาเห็นว่ามันเป็นครีมทารอยแผลเป็น…
...ไหนบอกว่าไม่ได้รังเกียจร่างกายที่มีรอยแผลเป็น… เขาอดไม่ได้จะนึกน้อยใจแต่ราวกับจะรู้ดวงตาสีดำสนิทนั้นเงยขึ้นมามองเขา ขณะที่บีบครีมลงบนนิ้วมือซึ่งยาวเป็นพิเศษของตัวเอง
“ฉันไม่ชอบ...ร่องรอยที่เป็นหลักฐานตอกย้ำความเจ็บปวดของอู๋เสีย...ร่องรอยที่ว่ามี ‘คนอื่น’ เคยทำร้ายนาย…”
นิ้วมือนั้นปาดครีมลูบไล้แผ่วเบาบนรอยแผลเป็นที่คอ ก่อนจะเลื่อนไปที่แขนซ้าย มือข้างที่ว่างบีบครีมไว้บนรอยแผลเป็นก่อนจะวางหลอดครีมลง จับประคองมือเขายกขึ้นจรดริมฝีปาก
“ถึงนายอยากจะเก็บมันเอาไว้เพื่อเตือนใจตัวเอง แต่ฉันอยากให้ความเจ็บปวดที่อู๋เสียแบกรับ...ลดเลือนลงบ้าง...ซักนิดก็ยังดี…”
นิ้วเรียวยาวของอีกฝ่ายลูบเกลี่ยครีมบนแผลแต่ละแผล
ในใจเขาคิด...อยากจะอ้าปากท้วงอีกฝ่ายว่ารอยแผลทิ้งไว้เนิ่นนานป่านนี้ ต่อให้ครีมชั้นดีแค่ไหนก็คงไม่อาจจะทำให้สภาพรอยแผลเป็นดูดีขึ้นมาได้…
“ให้ฉันได้ทำอะไรบ้าง...หรือนายอยากให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นรอยแผลเป็นบนตัวนาย...เอาแต่ครุ่นคิดว่าเป็นเพราะฉันเข้าไปหลังบานประตูสำริด ทอดทิ้งนายไว้เบื้องหลัง ไม่สามารถปกป้องนายได้ ทำให้นายต้องมาแบกรับรอยแผลพวกนี้…”
เขาได้แต่เงียบ ไม่อาจจะดื้อรั้นต่อนัยน์ตาสีดำที่มีแววเว้าวอนของอีกฝ่ายได้ จึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทำตามใจ
...นับจากนั้น ในยามค่ำคืนของทุกๆวัน จางฉี่หลิงจะเป็นคนทายาบนรอยแผลเป็นของเขา จับเขาแต่งตัวแล้วก็นอนกอดกันจนหลับไป...
END
เขียนเองก็มึนเอง...
ฮรุ่มมมมม...ตอนแรกคิดหนักกับเดลี่มาก เพราะรอยแผลเป็นเอาไปเล่นกับ Blind แล้ว
แต่ด้วยความเฟติแผลเป็นนายน้อย(?) เราจึงมีไฟในการพยายามปั่นค่ะ
นึกไอเดียเรื่องครีมลบรอยแผลเป็นขึ้นมาได้ตอนทุ่มกว่า เริ่มปั่นตอนสามทุ่ม
ตอนแรกคิดอะไรอัปปรีย์กว่านี้อีกค่ะ แบบ "เสี่ยวเกอ...เอายามาทาแผลให้ฉันซิ..." แต่ไม่ไหวจริงๆค่ะเลยทำให้ซอฟต์มาหน่อย
แล้วก็ออกมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ
ความจริงก็อยากจะเฟติแผลเป็นนายน้อยมากกว่านี้//นายน้อยบอกมึงพอ--
From every wound there is a scar.
Every scar tells a story,
a story that says "I SURVIVED". (Craig Scott)
ทุกบาดแผลที่เกิดขึ้น ล้วนมีรอยแผลเป็น
ทุกรอยแผลเป็นที่ปรากฏ ล้วนบอกเล่าเรื่องราวความเจ็บปวด
และเรื่องราวความเจ็บปวดนั้นแหละ ที่แสดงให้เห็นว่า
"เราผ่านพ้นมันมาได้แล้ว"
"ทำไมถึงมีรอยแผลเป็นเยอะขนาดนั้น..."
เป็นคำถามจากเสี่ยวเกอ ที่นั่งลูบเรียวแขนของเขาที่นอนเปลือยเปล่าคว่ำหน้าอยู่นเตียง ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ผ้าห่มคลุมปิดช่วงล่างเอาไว้
เมื่อคืน เขาเกือบนึกว่าตัวเองจะตายคาอกอีกฝ่ายเสียแล้ว ตั้งแต่ที่ผ้าปิดตาถูกปลด เสี่ยวเกอดูตั้งอกตั้งใจที่จะทำเหลือเกิน นับดูก็สี่ห้ารอบ จนเขาแทบไม่เหลืออะไรและเพลียจนลืมตาไม่ไหว จึงบอกให้หยุด
'ยังไม่ครบจำนวนแผลเป็นเลย...' อีกฝ่ายหน้าตอบมาด้วยคำพูดนั้นพร้อมใบหน้านิ่ง ดูจริงจังจนน่าหวาดหวั่น เขาแทบกรีดร้อง ก่อนจะยื่นคำขาดว่าถ้าดึงดันจะทำต่อก็เตรียมอดไปอีกนาน
อย่างน้อยๆก็ครึ่งเดือน จนกว่าร่างกายจะกลับมาเป็นปกติหลังผ่านสมรถูมิรักที่ดุเดือดขนาดนั้น
โชคดีที่อีกฝ่ายยอมฟังอุ้มเขาไปอาบน้ำ ชำระร่างกายแต่โดยดี ถึงจะมีตอดเล็กตอดน้อยจนเขารู้สึกว่าคงไม่มีรอยแผลเป็นไหนบนร่างกายเขาที่ไม่มีรอยจูบประทับ แต่ก็ไม่ล่วงเกินมากกว่านั้น
กว่าอีกฝ่ายจะพาเขามาถึงเตียง ตาก็เหลือบเห็นแสงทองส่องขอบฟ้ารำไร
"...ตามตัวคือแผลที่ได้จากการไปคว่ำกรวย ตรงที่แขน...ฉันกรีดตัวเอง ทุกครั้งที่ล้มเหลว ชีวิตบริสุทธิ์ที่สูญเสียไปด้วยน้ำมือของฉัน ฉันแทนมันด้วยหนึ่งรอยแผล เพื่อที่ฉันจะได้จดจำพวกเขาเอาไว้…”
เขารู้สึกถึงนิ้วมือที่ยาวเป็นพิเศษเลื่อนมาลูบที่คอ...ที่ซึ่งมีรอยแผลเป็นที่ใหญ่และเด่นชัดที่สุด
“ส่วนที่คอนี่...คงเป็นผลกรรมจากสิบเจ็ดรอยแผลนั่นตามสนองเอา...ฉันถูกคนลอบฆ่า…”
เขาพลิกหน้ามามอง สบกับนัยน์ตาสีดำที่เริ่มทอประกายวาบขัดกับใบหน้านิ่งสงบ ยกมือขึ้นลูบแขนอีกฝ่ายแล้วเอ่ยปลอบกลับ “มันผ่านไปแล้ว...และฉันยังมีชีวิตอยู่…”
อีกฝ่ายพยักหน้าเชื่องช้า สองมืออบอุ่นดึงผ้าห่มคลุมตัวเขาถึงไหล่ก่อนข้างหนึ่งจะเลื่อนขึ้นมาตบที่ศีรษะเขาเบาๆราวจะกล่อมนอน
“หลับเถอะ…”
ด้วยความอ่อนเพลีย...สติสัมปัชชัญญะของเขาได้ปิดตัวลง จมดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว…
- Heal the scar -
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเป็นเวลาเย็นย่ำแล้ว เหลือบมองนาฬิกาจึงได้รู้ว่าตัวเองหลับไปหนึ่งวันเต็มๆ
อู๋เสียยกมือตบหน้าผากตัวเองดังปุ...พลางสบถรัว…
“เป็นอะไร...อู๋เสีย…” พอดีกับที่จางฉี่หลิงเปิดประตูห้องเข้ามา
“เสี่ยวเกอ...ทำไมถึงไม่ปลุกฉัน…”
“เห็นนายเพลีย...เลยไม่อยากปลุก…”
“แล้วนี่…”
“ฉันบอกลูกจ้างนายให้แล้ว…”
เขาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เสี่ยวเกอ...จางฉี่หลิงนี่นะ… คนหน้านิ่งที่ปริปากแทบจะนับคำได้ สื่อสารกับคนธรรมดาทั่วไปอย่างหวังเหมิงรู้เรื่องได้ยังไง
“เขาโทรมาหานาย ฉันรับสายให้บอกกับเขาว่านายป่วย…”
อู๋เสียพยักหน้ารับ ก่อนจะโบกมือให้อีกฝ่ายออกจากห้องไปก่อน “ฉันจะไปอาบน้ำ…”
แต่อีกฝ่ายยืนทำหน้านิ่ง ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ตัวเขาก็อายเกินกว่าจะเดินเปลือยไปเข้าห้องน้ำต่อหน้าอีกฝ่าย ต่อให้เคยเห็นกันไปถึงไหนต่อไหน เขาก็ไม่รู้สึกชินอยู่ดี
“เสี่ยวเกอ...ออกไปก่อน…”
ร่างสูงโปร่งส่ายหน้า เดินขยับเข้ามาหา วางถุงพลาสติกสีขาวที่มีตราร้านขายยาประทับอยู่บนโต๊ะหัวเตียง สองแขนช้อนร่างเขาขึ้นอุ้ม
“เสี่ยวเกอ!”
อู๋เสียอุทานด้วยความตระหนัก สองมือรั้งผ้าห่มมาปิดเนื้อตัว
“จะช่วย...ไม่ต้องอาย…”
ไม่อายบ้าอะไร ...นายไม่ใช่ฉัน นายไม่เข้าใจหรอก เมินโหยวผิง! อู๋เสียได้แต่บ่นในใจ
แต่สุดท้ายแล้วก็ทำได้แค่ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดการทำความสะอาดร่างกายเขาด้วยสองมือนั้น จนอีกฝ่ายพึงพอใจแล้วว่าตัวเขาสะอาดทุกซอกทุกมุมจึงช้อนตัวเขาขึ้นจากอ่างอาบน้ำกลับไปยังห้องนอนอีกครั้ง
“เสี่ยวเกอ ปล่อยฉันลง ฉันจะไปแต่งตัว…”
“ทายาก่อน…”
อีกฝ่ายว่า อู๋เสียอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ...ทายา… ทายาอะไร...เขามีอะไรที่ต้องทายา...แผลเขาก็ไม่มี
เขามากระจ่างแก่ใจเมื่อร่างกายที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนจ้อยพันปิดกลางกาย ถูกวางลงบนเตียงนุ่ม จางฉี่หลิงหันไปหาถุงพลาสติกที่ถือเข้ามาตอนแรกแล้วหยิบหลอดครีมสีขาวออกมาจากถุงนั้น
...เขาเห็นว่ามันเป็นครีมทารอยแผลเป็น…
...ไหนบอกว่าไม่ได้รังเกียจร่างกายที่มีรอยแผลเป็น… เขาอดไม่ได้จะนึกน้อยใจแต่ราวกับจะรู้ดวงตาสีดำสนิทนั้นเงยขึ้นมามองเขา ขณะที่บีบครีมลงบนนิ้วมือซึ่งยาวเป็นพิเศษของตัวเอง
“ฉันไม่ชอบ...ร่องรอยที่เป็นหลักฐานตอกย้ำความเจ็บปวดของอู๋เสีย...ร่องรอยที่ว่ามี ‘คนอื่น’ เคยทำร้ายนาย…”
นิ้วมือนั้นปาดครีมลูบไล้แผ่วเบาบนรอยแผลเป็นที่คอ ก่อนจะเลื่อนไปที่แขนซ้าย มือข้างที่ว่างบีบครีมไว้บนรอยแผลเป็นก่อนจะวางหลอดครีมลง จับประคองมือเขายกขึ้นจรดริมฝีปาก
“ถึงนายอยากจะเก็บมันเอาไว้เพื่อเตือนใจตัวเอง แต่ฉันอยากให้ความเจ็บปวดที่อู๋เสียแบกรับ...ลดเลือนลงบ้าง...ซักนิดก็ยังดี…”
นิ้วเรียวยาวของอีกฝ่ายลูบเกลี่ยครีมบนแผลแต่ละแผล
ในใจเขาคิด...อยากจะอ้าปากท้วงอีกฝ่ายว่ารอยแผลทิ้งไว้เนิ่นนานป่านนี้ ต่อให้ครีมชั้นดีแค่ไหนก็คงไม่อาจจะทำให้สภาพรอยแผลเป็นดูดีขึ้นมาได้…
“ให้ฉันได้ทำอะไรบ้าง...หรือนายอยากให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นรอยแผลเป็นบนตัวนาย...เอาแต่ครุ่นคิดว่าเป็นเพราะฉันเข้าไปหลังบานประตูสำริด ทอดทิ้งนายไว้เบื้องหลัง ไม่สามารถปกป้องนายได้ ทำให้นายต้องมาแบกรับรอยแผลพวกนี้…”
เขาได้แต่เงียบ ไม่อาจจะดื้อรั้นต่อนัยน์ตาสีดำที่มีแววเว้าวอนของอีกฝ่ายได้ จึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทำตามใจ
...นับจากนั้น ในยามค่ำคืนของทุกๆวัน จางฉี่หลิงจะเป็นคนทายาบนรอยแผลเป็นของเขา จับเขาแต่งตัวแล้วก็นอนกอดกันจนหลับไป...
END
เขียนเองก็มึนเอง...
ฮรุ่มมมมม...ตอนแรกคิดหนักกับเดลี่มาก เพราะรอยแผลเป็นเอาไปเล่นกับ Blind แล้ว
แต่ด้วยความเฟติแผลเป็นนายน้อย(?) เราจึงมีไฟในการพยายามปั่นค่ะ
นึกไอเดียเรื่องครีมลบรอยแผลเป็นขึ้นมาได้ตอนทุ่มกว่า เริ่มปั่นตอนสามทุ่ม
ตอนแรกคิดอะไรอัปปรีย์กว่านี้อีกค่ะ แบบ "เสี่ยวเกอ...เอายามาทาแผลให้ฉันซิ..." แต่ไม่ไหวจริงๆค่ะเลยทำให้ซอฟต์มาหน่อย
แล้วก็ออกมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ
ความจริงก็อยากจะเฟติแผลเป็นนายน้อยมากกว่านี้//นายน้อยบอกมึงพอ--
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3605
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [Drabble] #dmbjdaily 32 days left (Scar) Reason to remain, Reason to heal (ผิงเสีย)
555555
ผมก็เป็นเฟติชตัวละครที่มีความบกพร่องบางอย่างในตัวครับ
ผมชอบที่นายน้อยไม่สมบูรณ์แบบ เคยผ่านความเจ็บปวด เคยเห็นด้านเลวร้ายของชีวิต บนร่างมีแต่รอยแผลเป็นแบบนี้แหละ!
มันมีมิติมากเลย ฮ้า ดีจังเลยน้า //ดีพ่องสิ:แว่วเสียงนายน้อย แค่กๆ
ก็แบบด้วงชอบมุมอ่อนแอที่มีมิติของตัวละครอ่ะ งือ ชอบบ
ผมก็เป็นเฟติชตัวละครที่มีความบกพร่องบางอย่างในตัวครับ
ผมชอบที่นายน้อยไม่สมบูรณ์แบบ เคยผ่านความเจ็บปวด เคยเห็นด้านเลวร้ายของชีวิต บนร่างมีแต่รอยแผลเป็นแบบนี้แหละ!
มันมีมิติมากเลย ฮ้า ดีจังเลยน้า //ดีพ่องสิ:แว่วเสียงนายน้อย แค่กๆ
ก็แบบด้วงชอบมุมอ่อนแอที่มีมิติของตัวละครอ่ะ งือ ชอบบ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3819
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [Drabble] #dmbjdaily 32 days left (Scar) Reason to remain, Reason to heal (ผิงเสีย)
Rozenkreuz พิมพ์ว่า:555555
ผมก็เป็นเฟติชตัวละครที่มีความบกพร่องบางอย่างในตัวครับ
ผมชอบที่นายน้อยไม่สมบูรณ์แบบ เคยผ่านความเจ็บปวด เคยเห็นด้านเลวร้ายของชีวิต บนร่างมีแต่รอยแผลเป็นแบบนี้แหละ!
มันมีมิติมากเลย ฮ้า ดีจังเลยน้า //ดีพ่องสิ:แว่วเสียงนายน้อย แค่กๆ
ก็แบบด้วงชอบมุมอ่อนแอที่มีมิติของตัวละครอ่ะ งือ ชอบบ
เหมือนกันค่ะ!!!
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily 32 days left : scar อู๋เสีย x เมินโหยวผิง feat.เฮยเสียจื่อ
» [Drabble] #dmbjdaily 148 days left : Try [ผิงเสีย]
» [Drabble]#dmbjdaily 27 days left (Shampoo) อู๋เสียบาร์เบอร์ (ผิงเสีย)
» [Drabble] AU พนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟ (ผิงเสีย) #dmbjdaily 56 days left : Apron
» [Drabble] #dmbjdaily 42 days left (Space) Only one (ผิงเสีย)
» [Drabble] #dmbjdaily 148 days left : Try [ผิงเสีย]
» [Drabble]#dmbjdaily 27 days left (Shampoo) อู๋เสียบาร์เบอร์ (ผิงเสีย)
» [Drabble] AU พนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟ (ผิงเสีย) #dmbjdaily 56 days left : Apron
» [Drabble] #dmbjdaily 42 days left (Space) Only one (ผิงเสีย)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth