Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[SF] สองชีวิต (เฮยฮัว :: เฮยเสียจื่อxเซี่ยอวี่ฮัว)
3 posters
หน้า 1 จาก 1
[SF] สองชีวิต (เฮยฮัว :: เฮยเสียจื่อxเซี่ยอวี่ฮัว)
[SF] สองชีวิต (เฮยฮัว :: เฮยเสียจื่อxเซี่ยอวี่ฮัว)
(เป็นฟิคที่ต่อมาจาก [SF] หนึ่งชีวิต (ผิงเสีย) >> https://dmbjth.thai-forum.net/t1965-topic)
(1)
เซี่ยอวี่เฉินตื่นก่อนเสียงปลุกจากโทรศัพท์มือถือสิบนาที เขารอจนโทรศัพท์ดังแล้วจึงลุกขึ้นยืน วันนี้เขาเลือกนอนในห้องสมุด กลิ่นของหนังสือเก่าชวนให้รู้สึกสงบแม้จะเป็นเวลาตื่นนอนของเช้าวันใหม่อันแสนวุ่นวาย
ชายหนุ่มเดินลงมาชั้นล่างผ่านห้องนั่งเล่น เลยไปถึงห้องน้ำด้านข้าง อาบน้ำ แปรงฟัน ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว แล้วจึงลงมานั่งไขว่ห้างอยู่หน้าเครื่องเป่า
เขาทำกิจกรรมทุกอย่างจนติดเป็นนิสัย ลำดับขั้นตอนเหมือนกันทุกวันไม่เคยเปลี่ยน
เมื่อเนื้อตัวแห้งดีแล้วจึงเดินออกไปที่ห้องแต่งตัว แต่ปลายเท้าของเขาต้องชะงักเมื่อหูได้ยินเสียงแปลกปลอมดังเข้ามา
ชายหนุ่มหมุนตัวเดินกลับไปทางห้องนั่งเล่น ดันประตูออกแล้วกอดออกมอง
"สวัสดีครับ"
ชายในชุดเสื้อกล้ามสีดำพร้อมแว่นตาดำเอ่ยทักทายเขาขณะที่กำลังนอนเอกเขนกดูการ์ตูนสนูปปี้พร้อมด้วยตุ๊กตาสนูปปี้ตัวขาวผ่องในมืออีกตัว
เซี่ยอวี่เฉินมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหมือนๆ เดิมกับทุกครั้งที่เฮยเสียจื่อบุกรุกเข้ามาในบ้าน บ้านซื่อเหอหยวนมีทางเข้าสลับซับซ้อน...คนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาได้
แต่คนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา
เขาตัดสินใจเพิกเฉยต่อการปรากฏตัวนี้ แล้วยืนพิงกรอบประตูดูภาพเคลื่อนไหวในจอโทรทัศน์จนกระทั่งเสียงดนตรีในห้องดังคลอขึ้นมาบ่งบอกเวลาหกโมงสี่สิบ
เซี่ยอวี่เฉินหมุนตัวเดินยังห้องแต่งตัว เขายืนสำรวจร่างตัวเองในกระจกบานใหญ่ ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้ออกไปทำภารกิจด้วยตัวเองเนื่องจากข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ก็ยังฝึกฝนตัวเองเป็นประจำ ร่างกายเปลือยเปล่าท่อนบนยังคงมีมัดกล้ามเนื้อสมส่วน
เขาเลือกเสื้อเชิ้ตสีชมพูตัวหนึ่งจากหลายสิบตัวในตู้เสื้อผ้ามาสวม กลิ่นอายของเลือดติดอยู่มากเกินไป...แต่ซักเท่าไรก็คงไม่ออกแล้ว
เมื่อกลับออกมาถึงห้องนั่งเล่นผู้มาเยือนก็หายตัวไปแล้ว ทิ้งเอาแต่ทีวีที่ไม่ได้ปิดกับตุ๊กตาตัวขาวบนโซฟา เขาจึงหยิบมันขึ้นมาพิจารณา
อืม...เนื้อผ้ากับนุ่นอย่างดี อย่างน้อยเฮยเสียจื่อก็ไม่ได้เอาของลอกเลียนแบบคุณภาพต่ำมาทิ้งไว้ในบ้านคนอื่นซี้ซั้ว
เซี่ยอวี่เฉินตัดสินใจได้แล้วว่าที่อยู่ของตุ๊กตาตัวนี้คือบนโซฟา แต่เมื่อกำลังจะวางลงปลายนิ้วก็สัมผัสได้ถึงของแข็งที่แทรกอยู่ในเนื้อนุ่มนิ่ม สัญชาตญาณระวังภัยของเขากรีดร้องขึ้นมาในทันทีพร้อมกับเสียงดัง
'อย่าลืมข้าวเช้านะครับ'
คุณชายสกุลเซี่ยกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะออกแรงบีบที่มืออีกครั้ง เสียงนั้นจึงดังขึ้นอีกรอบ
...ที่แท้ก็แค่เครื่องอัดเสียง...
เขาถอนหายใจอย่างรู้สึกถึงความไร้สาระ สุดท้ายก็โยนเอามันไว้บนโซฟาแล้วเดินออกไปทำงานตามปกติ
(2)
ในเวลาอันสั้นเขาก็ได้รู้ว่าตุ๊กตาสนูปปี้ตัวนั้นมีชื่อแล้ว ว่า 'ฮัวฮัว'
...ฟังแล้วก็อยากจะกลอกตาสักที แต่ไม่ใช่ให้กับเจ้าฮัวฮัว
วันก่อนอู๋เสียเก็บลูกหมาจรจัดได้ แล้วก็ตั้งชื่อว่า 'ผิงผิง' ...เห็นแบบนี้ไม่ว่าใครๆ ก็คงอยากจะกลอกตากันทั้งนั้น ยิ่งคนถ่ายรูปหมาน้อยมาอัพลงวีแชทเป็นพ่อเทพหน้าดำแล้ว ทุกคนก็ยิ่งพร้อมใจกันพุ่งตัวเข้าไปสาดคำสรรเสริญให้นายน้อยสามประหนึ่งรุมกระทืบบ๊ะจ่าง
เขาเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะโดนลากไปเกี่ยวด้วยเสียเอง เพราะเฮยเสียจื่ออัพรูปตุ๊กตาหมา พร้อมแคปชั่น 'ฮัวฮัว' ตามติดไปอย่างเกาะกระแส
คิดแล้วอยากจะฟาดให้แว่นดำหลุด...ถึงเขาจะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางทำได้เลยหากอีกฝ่ายไม่ยอม เดิมเขาอาจจะมีฝีมือสูสีกับเฮยเสียจื่อ แต่การบาดเจ็บในหอบ้านสกุลจางเมื่อสิบปีก่อนทำให้ร่างกายไม่ดีเหมือนเดิมอีกต่อไป
และอีกประเด็นคืออีกฝ่ายไม่โผล่มาให้เขาฟาดด้วย ครั้นจะฟาดเจ้าฮัวฮัวแทน...แค่เห็นหน้าซื่อๆ ของมันก็ทำไม่ลงแล้ว สุดท้ายเซี่ยอวี่เฉินก็ยกโซฟาหน้าทีวีให้เป็นที่สถิตย์ของมันไป
คุณชายสกุลเซี่ยกดปิดวีแชทหลังจากตอบข้อความของฮั่วซิ่วซิ่วจนครบแล้ว หญิงสาวยังคงทำตัวรื่นเริงในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กตลอดเวลา ถึงแม้อีกฝ่ายจะอายุอานามไม่ต่างจากเขากับอู๋เสียเท่าไร แต่กลับทำตัวเหมือนสาวสิบหกสิบเจ็ดได้อมตะแนบเนียนอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาสไลด์นิ้วมือเพื่อเข้าโปรแกรมแชทอื่นๆ เพื่อสั่งงานจนเรียบร้อยแล้วจึงวางโทรศัพท์คว่ำไว้ตรงหน้าจอทีวี ก่อนจะเดินเข้าไปเปิดน้ำอุ่นรองใส่อ่าง
ไอน้ำลอยเอื่อยๆ ขึ้นมาให้เห็น จากนั้นก็ก้าวออกมานั่งรอในห้องนั่งเล่น หน้าจอโทรทัศน์เปิดขึ้นมาเป็นการ์ตูนสนูปปี้ซึ่งมีคนดูค้างเอาไว้ตั้งแต่เช้า เซี่ยอวี่เฉินจึงพิงหลังกับพนักนุ่มก่อนดึงตุ๊กตาหมามากอดไว้หลวมๆ
'พยากรณ์อากาศว่าวันนี้ฝนจะตก'
เสียงพูดที่แตกต่างกับเมื่อเช้าทำให้เขาขมวดคิ้ว
เฮยเสียจื่อจะเข้าออกบ้านซื่อเหอหยวนของเขาเป็นว่าเล่นไปหน่อยมั้ง...
เสียงฝนตกแว่วมาให้ได้ยินจากไกลๆ บ้านหลังนี้หากไม่ใช่ห้องนอนใต้หลังคาก็จะแทบไม่ได้ยินอะไรภายนอก ชายหนุ่มวางตุ๊กตาตัวนั้นไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปแช่น้ำอุ่นที่รองทิ้งไว้
คืนนั้นเซี่ยอวี่เฉินไม่ได้กินยานอนหลับ เขาเผลอหลับไปบนโซฟาหน้าทีวีโดยมีตุ๊กตาตัวขาวให้อ้อมแขน...ลืมเรื่องฝนตกไปเสียสนิท
(3)
'คุณชายเหงามั้ยครับ'
'ผมอยากกินหม้อไฟน้ำมันวัว'
'เหนื่อยชะมัด'
'คุณเปลี่ยนที่เก็บอาหารปลารึเปล่า'
'ขี้เกียจทำงานแล้ว แต่ไม่มีเงิน'
ขณะนี้เซี่ยอวี่เฉินมีกิจวัตรประจำวันใหม่เพิ่มขึ้นหนึ่งอย่างโดยที่ไม่รู้ตัว ทุกวันตอนเย็นหลังจากกลับมาเปิดรองน้ำอุ่นในอ่างเอาไว้เขาจะพาตัวเองมาที่ห้องนั่งเล่นแล้วลองกดเครื่องอัดเสียงเพื่อฟังข้อความ
บางทีก็เปลี่ยนไปทุกวัน บางทีก็สองสามวันครั้ง นานที่สุดคือเป็นสัปดาห์
แต่เขาก็เคยชินกับการฟังมันวันละครั้งไปแล้ว แม้ข้อความที่ฝากเอาไว้จะไร้แก่นสารและไม่มีความหมายใดๆ เลยก็ตาม
"นี่แหนะพี่สาวฮัว"
นานๆ ทีฮั่วซิ่วซิ่วก็ชอบเรียกเขาอย่างนี้ เป็นการแสดงออกถึงความสนิทสนมแบบแปลกๆ เขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว อย่างไรสมัยเด็กช่วงหนึ่งเขาก็เคยเป็นพี่สาวให้อีกฝ่ายจริงๆ
"จนนายน้อยสามเขาไปมีครอบครัวอบอุ่นเรียบร้อยแล้ว ไม่คิดจะวางมือไปอยู่เงียบๆ กับใครสักคนบ้างหรือ"
คำว่า 'นายน้อยสาม' ของหญิงสาวอาจจะเป็นการกล่าวถึงอู๋เสียในสมัยก่อนมากกว่าปัจจุบัน นั่นทำให้เขายกยิ้มขึ้นเงียบๆ
"บ้านที่อยู่นี่ก็เงียบดีแล้ว อีกอย่าง...พวกเราก็ใช่ว่าจะวางมือได้"
ฮั่วซิ่วซิ่วบ่นหงุงหงิงมาตามปลายสายอีกสองสามประโยคเกี่ยวกับความไร้จินตนาการและชีวิตจืดชืดของเขา ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ด้วยความห่วงใยแล้วจึงวางสายไป
คุณชายบ้านเซี่ยไม่ค่อยแน่ใจนักว่าหญิงสาวจะมากังวลอะไรเรื่องของเขานักหนา ในเมื่อตัวเองอายุอานามออกขนาดนี้ก็ยังไม่ยอมแต่งงานสักทีเหมือนกัน
เซี่ยอวี่เฉินถอนหายใจช้าๆ เขาอยู่ในบ้านซื่อเหอหยวนที่เงียบเชียบนี้มานานเกินไปจนหวงแหนความเป็นส่วนตัวระดับเสียแล้ว
เรื่องเหงาอาจจะมีบ้าง แต่เขาไม่ค่อยว่างพอที่จะมาคิดถึงเรื่องเหงาเท่าไร เพราะฉะนั้น...อยู่แบบนี้ต่อไปมันก็ไม่เป็นเรื่องเลวร้ายเสียหน่อย
ชายหนุ่มวาดแขนกอดตุ๊กตาข้างกายอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะออกแรงบีบที่มือไปโดยอัตโนมัติ
'คืนนี้ก็ฝันดีนะครับคุณชาย'
(4)
วันนี้เป็นวันหยุด
หลังจากที่กดวางสายจากเลขาเพื่อสั่งงานแล้วชายหนุ่มก็ตัดสินกดปิดเครื่องพร้อมเก็บมันลงไปในลิ้นชัก เขาคว้ามือถืออีกเครื่องขึ้นมาเปิดแทนก่อนจะเดินกลับเข้าในที่ห้องนั่งเล่น
เซี่ยอวี่เฉินขมวดคิ้วใส่ตุ๊กตาบนโซฟา หน้าตาซื่อๆ ของมันไม่ได้เปลี่ยนไปแต่เขากลับรู้สึกถูกกวนประสาท หลังจากวางมือถือลงบนโต๊ะ เขาก็อุ้มเจ้าหมาสีขาวขึ้นมาวางบนตัก
'Happiness is a warm puppy.'
ข้อความที่อัดไว้ยังคงเหมือนเดิม...ติดต่อกันมาครบเดือนแล้ว
วิถีชีวิตของเฮยเสียจื่อไร้แบบแผนไม่มีความแน่นอน แต่ละวันล้วนมีเฉดสีที่แตกต่างไม่เหมือนตัวเขาซึ่งมีกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน
ไม่มีใครรู้ว่านายบอดดำหายตัวไปไหน...และอันที่จริงทุกคนกลับคิดว่าผู้ที่จะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือเขาเอง
...อันที่จริงเซี่ยอวี่เฉินมักไม่ค่อยรับรู้ว่าอีกฝ่ายหายไปไหน เขารู้เพียงแต่หากมีธุระอะไรจะให้ทำ พอออกปากเรียกหา อีกไม่นานเกินรอ เฮยเสียจื่อก็จะติดต่อกลับมา
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนปกติ เขาไม่ได้มีเรื่องจะให้เฮยเสียจื่อทำ ไม่ได้มีธุระอะไรสำคัญที่จำเป็นต้องเรียกตัวกลับมาหา แต่เขากลับรู้สึกสะกิดใจขึ้นมาเป็นครั้งแรกว่าอีกฝ่ายหายไปไหนได้นานขนาดนี้
ทั้งที่แต่ก่อนก็อาจจะหายตัวไปนานกว่านี้ด้วยซ้ำ
ปลายนิ้วแตะเข้าโปรแกรมวีแชท ก่อนจะไถหน้าวงเพื่อนดูอย่างใจเย็น การอัพเดตล่าสุดของเฮยเสียจื่อยังคงเป็นรูปเจ้าฮัวฮัว
อาจจะอยู่ในดิน...หรือรับจ้างทำอะไรสักอย่างที่ใช้มือถือไม่ได้
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรนักหนา คนแบบนี้จะหายตัวไปอีกสักปียังน่าไม่แปลกใจเลย เขาก็รู้ดี...แต่กลับห้ามความรู้สึกเหมือนมีเสี้ยนตำในใจนี้ไม่ได้
"เจ้าของแกเขาหายหัวไปไหน หือ"
'Happiness is a warm puppy.'
ชายหนุ่มจ้องหน้าตาซื่อๆ นั้นอีกครั้งก่อนจะดึงมากอดพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา
เนื้อผ้าเย็นๆ ลื่นๆ แบบนี้มันจะเป็น warm puppy ได้ยังไง...
(5)
หลายวันถัดมาเซี่ยอวี่เฉินก็ยอมแพ้ต่อความรู้สึกสะกิดใจ เย็นวันนั้นหลังจากเสร็จธุระข้างนอก เขาก็กลับมานั่งลงที่โซฟา
'Happiness is a warm puppy.'
ข้อความเสียงในนั้นยังคงเหมือนเดิม
ชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก คุยสายนี้อยู่ราวครึ่งชั่วโมงจึงวางสาย กดโทรออกอีกครั้ง นั่งรออีกครู่หนึ่ง จึงรับสายใหม่ รับคำแล้วกดวาง เป็นอย่างนี้อีกประมาณเก้าสาย เขาก็วางมือถือลงเมื่อนาฬิกาบ่งบอกเวลาสองทุ่ม
เขาเปิดกล่องซิการ์บนโต๊ะหยิบขึ้นมาหนึ่งมวน ดมกลิ่นเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจวางกลับลงไปเหมือนเดิม
คุณชายสกุลเซี่ยอย่างเขาไม่ค่อยคุ้นชินกับความว้าวุ่นใจ พฤติกรรมตอนนี้ของเขาออกจะคล้ายอู๋เสียมากไปสักหน่อย...สิบปีมานี้พวกเขาคงอยู่ด้วยกันมากเกินไป ต่างคนต่างติดนิสัยเสียของกันและกันมาแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ปลายนิ้วก็ขยับกดโทรออกเป็นสายสุดท้ายของวันนี้
"ว่าไง มีอะไรหรือ"
สัญญาณดังอยู่สี่ครั้งจึงมีเสียงพูดตอบกลับมา สัญญาณขาดหายเล็กน้อยแต่ยังพอฟังกันรู้เรื่อง
"ต้องมีอะไรถึงโทรไปได้ด้วยหรืออาเฮีย"
คำหนอกเย้าของเขาทำให้อีกฝ่ายสะอึก แต่เมื่อกรอกเสียงหัวเราะตามลงไปก็ได้คำสบถกลับมา
"ทำอะไรอยู่"
ชวนคุยง่ายๆ แล้วอีกฝ่ายก็เล่านู่นเล่านี่ให้ฟังทั้งเรื่องทะเลาะกับป้าข้างบ้านไปจนถึงธุรกิจผักดองลุ่มๆ ดอนๆ
อู๋เสียก็ยังคงเป็นอู๋เสีย จับธุรกิจอะไรก็มีแต่ร่อแร่ หวังว่าสกุลจางจะบรรจุหลักสูตรการทำธุรกิจหาเลี้ยงชีพลงในคอร์สอบรมจางฉี่หลิงแล้ว
"...เสี่ยวฮัว นายเป็นอะไรหรือเปล่า?" หลังจากฟังอีกฝ่ายพูดอยู่นาน คนที่อยู่ไกลถามขึ้นในที่สุด
"เป็นห่วงหรือไง"
เขาเราะเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายนิ่งไป ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายชะงักเมื่ออู๋เสียตอบกลับมาด้วยเสียงจริงจัง
"อือ ฉันเป็นห่วง"
ชั่วอึดใจหนึ่งนั้นเหมือนมีคลื่นบางอย่างสั่นไหวรุนแรงอยู่ในอก อาการชาวาบแล่นไปถึงปลายมือปลายเท้าก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เซี่ยอวี่เฉินยิ้มไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยยิ้ม
"นายอยู่คนเดียว เป็นอะไรก็มีแต่นายรู้คนเดียว จะไมาให้เป็นห่วงได้ยังไง"
"พูดจาแบบนี้ระวังจะมีปัญหากับพ่อเทพหน้าดำตรงนั้นนะ"
"เสี่ยวฮัว นี่ฉันพูดจริงๆ วันนี้นายดูไม่ค่อยปกติ มีอะไรหรือเปล่า" เสียงที่ปลายสายเริ่มร้อนรน...แต่เขายังคงยิ้ม
"คิดมากไปแล้วอาเฮีย"
อู๋เสียยังคงซักไซ้นู่นนี่อยู่อีกพักใหญ่ก่อนจะต้องยอมแพ้ไปในที่สุด คุณชายสกุลเซี่ยกดวางสาย เขาตั้งใจให้มันเป็นสายสุดท้ายของวันนี้จึงกดปิดเครื่องคว่ำไว้ตรงหน้าโทรทัศน์
คืนนั้นเขากินยานอนหลับสองเม็ด และหยิบตุ๊กตาสนูปปี้ขึ้นไปนอนด้วยบนห้องใต้หลังคา
เสียงฝนตกดังชัดในโสตประสาท แต่เขานอนไม่หลับจนถึงเช้า
(6)
เซี่ยอวี่เฉินตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงเมื่อถึงเวลาตื่น เช้าวันนี้ฝนยังคงตกอยู่ แต่เสียงเปาะแปะของหยดน้ำดูจะไม่ช่วยให้เขาผ่อนคลายลง
ชายหนุ่มเดินลงมาที่ชั้นล่าง อาบน้ำ แปรงฟัน ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว แล้วจึงนั่งเป่าผมที่หน้ากระจก วันนี้เขาเผลอเป่าผมจนแห้งมากเกินไปหน่อย พรุ่งนี้จะต้องระวังมากกว่านี้
เวลาหกโมงสี่สิบ คุณชายสกุลเซี่ยจึงลุกขึ้นเดินช้าๆ ไปยังห้องแต่งตัว เขาเดินผ่านห้องนั่งเล่นเหมือนทุกวัน แตาหางตากลับเหลือบไปเห็นบางอย่างที่กระชากความสนใจของเขาไปหมดสิ้น
ตุ๊กตาสนูปปี้สีขาวบนโซฟา
ปลายเท้าหมุนเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว...ในเมื่อเมื่อคืนเขายังนอนกอดเจ้าฮัวฮัวอยู่บนห้องใต้หลังคา แล้วมันจะย้ายที่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
คนที่ทำอะไรตามใจชอบในบ้านคนอื่น...ก็มีอยู่แค่คนเดียว
'คิดถึงผมมั้ย?'
ข้อความที่ไม่เหมือนเดิมแล้วทำให้เขารู้สึกใจเต้นแรง เซี่ยอวี่เฉินไม่รู้ว่าตัวเองทำสีหน้าแบบไหน และก็คิดว่าไม่อยากรู้ จึงค่อนข้างพอใจที่อ้อมกอดแนบแน่นนั้นมาจากทางด้านหลัง
"คิดถึงผมมั้ย?"
เสียงกระซิบข้างหูนั้นแตกต่างจากที่ได้ยินจากเครื่องอัดอยู่นิดหน่อย...และถ้าให้เลือก เขาก็คงจะรู้สึกชอบแบบหลังมากกว่าอีกนิดหน่อย
เขาได้แต่เงียบเพราะเลือกคำตอบและคำถามไม่ได้
"ผมคิดถึงคุณชายมากเลย" เฮยเสียจื่อยังคงพูดต่อไป "คิดถึงเจ้าฮัวฮัวด้วย คุณดูแลมันดีใช่มั้ย...ก็น่าจะดีนะ ห้องใต้หลังคาผมยังเคยได้นอนแค่ไม่กี่ครั้งเอง"
"...ทำไมถึงโผล่มาตอนนี้"
"ผมเพิ่งกลับมา งานมีปัญหานิดหน่อย โทรศัพท์ของผมก็พังไปแล้ว นี่พอรู้ว่าคุณถามหาผมก็รีบบึ่งมานี่เลย ยังไม่ได้ซื้อมือถือใหม่ด้วยซ้ำ" นายแว่นดำหัวเราะเบาๆ "ว่าไงครับคุณชาย คราวนี้มีงานด่วนงานร้อนอะไรให้ผมรับใช้"
"ไม่มีหรอก" เซี่ยอวี่เฉินตอบพลางยักไหล่ "ก็แค่ลองถามดู"
เฮยเสียจื่อนิ่งไปเล็กน้อยกับคำตอบนั้น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นอย่างอื่น
พวกเขารู้จักกันมานานเกินไป เกินกว่าครึ่งชีวิตของเซี่ยอวี่เฉินอยู่ในสายตาของเฮยเสียจื่อมาตลอด แม้แต่ในตอนที่เขามองไม่เห็นอีกต่อไป มันจึงไม่แปลกที่ต่างคนจะต่างมองเห็นประโยคซึ่งซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดของคำพูด
"ผมตั้งใจว่าจะหยุดงานสักพัก"
"อือ"
"พออายุเยอะก็เริ่มอยากอยู่ติดที่บ้างแล้วเหมือนกัน"
"..."
"จะไม่พูดอะไรหน่อยหรือคุณชาย"
"ก็รออยู่ว่าจะโกหกเสร็จเมื่อไหร่"
"ใจร้าย"
เฮยเสียจื่อหัวเราะชอบอกชอบใจ ก่อนจะจับตัวคนที่อ้อมกอดให้พลิกมารับรางวัลสำหรับการพูดจาถูกใจ ซึ่งเซี่ยอวี่เฉินไม่ได้ปฏิเสธ
"วันหลังผมจะบอก ถ้าต้องไปทำงานยาวๆ"
คนตาบอดยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบอย่างแผ่วเบาตรงข้างแก้ม
"แล้วถ้าคุณยังรอ ไม่ว่ายังไงผมก็จะกลับมา"
เซี่ยอวี่เฉินยังคงไม่รู้ว่าตัวเองทำสีหน้าแบบไหนออกไป แต่ในเมื่อทั้งเขาเองมั้งอีกฝ่ายก็ไม่มีใครมองเห็น ถ้างั้นเขาก็จะช่างมันไป
สัมผัสอุ่นร้อนกับลมหายใจตรงหน้าต่างหากที่เป็นสาระ
...ท่าทางวันนี้เขาจะต้องเปลี่ยนแผนงานใหม่เสียแล้ว
(7)
เซี่ยอวี่เฉินเลื่อนปลายนิ้วไปตามหน้าจอ ก่อนจะชะงักแล้วขยับไปกดถูกใจให้กับข้อความตัดพ้อต่อเทพเจ้าแห่งเงินตราของคนบางคน
เฮยเสียจื่อน่าจะรับงานชิ้นใหญ่ในอีกไม่นานนี้
ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาก่อนจะคว้าตุ๊กตาใกล้มือมากอดด้วยความเคยชิน
นานๆ ทีเรื่องที่เขาเคยคุยกับฮั่วซิ่วซิ่วก็ลอยกลับเข้ามาในหัวอยู่บ้าง แต่ที่เคยตอบไปว่า อยู่บ้านแบบนี้ก็เงียบสงบดี นั้น...เขาก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด
เซี่ยอวี่เฉินไม่ใช่อู๋เสียที่สามารถทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังแล้วก้าวต่อไปอย่างเอาแต่ใจ
ส่วนเฮยเสียจื่อก็ไม่ใช่จางฉี่หลิงที่จะปล่อยให้ใครมากำหนดกะเกณฑ์ชีวิต
ชีวิตที่เป็นแบบแผนซ้ำซากกับชีวิตที่มีแต่สีสันฉูดฉาดยุ่งเหยิง ไม่สามารถกลายเป็นชีวิตเดียวได้
พวกเขาไม่ได้ต้องการชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาคือสองชีวิตซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็จะก้าวไปข้างๆ กันจนสุดทาง
เขากอดตุ๊กตาสนูปปี้แน่นแล้วออกแรงบีบเบาๆ ที่มือ
'ผมรักคุณ'
::Talk::
สวัสดีค่าาาาาาา
หายหัวไปนานหลังจากที่ดีลกับอัคคุง (ak_zokyo) ไว้ กรี๊ซซซซ ความดองอันเป็นซิกเนเจอร์ //โดนตบ// แถมยังลืมลงอีกต่างหาก เลยมาลงซะดึกดื่นเลยค่ะ //พราก
ฮือ สำหรับฟิคเรื่องนี้คือฟิคต่อยอดจากหนึ่งชีวิตค่ะ ติดใจฮัวฮัวมากจนต้องเขียนต่อ ////////// เรายังคงชอบคสพ.ของสองคนนี้ในรูปแบบที่ระบุคำจำกัดความไม่ได้มากๆเลยค่ะ เลยตั้งใจเขียนออกมาแบบคลุมเครืออีกแล้ว
ตอนนี้ง่วงมาก คิดtalkไม่ออกแล้ว 555555 เอาเป็นว่า หวังว่าจะถูกใจกับเฮยฮัวของเรานะคะ ขอบคุณค่าาาา
ป.ล. คิด สามชีวิต ไว้ด้วยล่ะ...ให้ทายว่าคู่(...)ไหน
(เป็นฟิคที่ต่อมาจาก [SF] หนึ่งชีวิต (ผิงเสีย) >> https://dmbjth.thai-forum.net/t1965-topic)
(1)
เซี่ยอวี่เฉินตื่นก่อนเสียงปลุกจากโทรศัพท์มือถือสิบนาที เขารอจนโทรศัพท์ดังแล้วจึงลุกขึ้นยืน วันนี้เขาเลือกนอนในห้องสมุด กลิ่นของหนังสือเก่าชวนให้รู้สึกสงบแม้จะเป็นเวลาตื่นนอนของเช้าวันใหม่อันแสนวุ่นวาย
ชายหนุ่มเดินลงมาชั้นล่างผ่านห้องนั่งเล่น เลยไปถึงห้องน้ำด้านข้าง อาบน้ำ แปรงฟัน ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว แล้วจึงลงมานั่งไขว่ห้างอยู่หน้าเครื่องเป่า
เขาทำกิจกรรมทุกอย่างจนติดเป็นนิสัย ลำดับขั้นตอนเหมือนกันทุกวันไม่เคยเปลี่ยน
เมื่อเนื้อตัวแห้งดีแล้วจึงเดินออกไปที่ห้องแต่งตัว แต่ปลายเท้าของเขาต้องชะงักเมื่อหูได้ยินเสียงแปลกปลอมดังเข้ามา
ชายหนุ่มหมุนตัวเดินกลับไปทางห้องนั่งเล่น ดันประตูออกแล้วกอดออกมอง
"สวัสดีครับ"
ชายในชุดเสื้อกล้ามสีดำพร้อมแว่นตาดำเอ่ยทักทายเขาขณะที่กำลังนอนเอกเขนกดูการ์ตูนสนูปปี้พร้อมด้วยตุ๊กตาสนูปปี้ตัวขาวผ่องในมืออีกตัว
เซี่ยอวี่เฉินมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหมือนๆ เดิมกับทุกครั้งที่เฮยเสียจื่อบุกรุกเข้ามาในบ้าน บ้านซื่อเหอหยวนมีทางเข้าสลับซับซ้อน...คนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาได้
แต่คนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา
เขาตัดสินใจเพิกเฉยต่อการปรากฏตัวนี้ แล้วยืนพิงกรอบประตูดูภาพเคลื่อนไหวในจอโทรทัศน์จนกระทั่งเสียงดนตรีในห้องดังคลอขึ้นมาบ่งบอกเวลาหกโมงสี่สิบ
เซี่ยอวี่เฉินหมุนตัวเดินยังห้องแต่งตัว เขายืนสำรวจร่างตัวเองในกระจกบานใหญ่ ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้ออกไปทำภารกิจด้วยตัวเองเนื่องจากข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ก็ยังฝึกฝนตัวเองเป็นประจำ ร่างกายเปลือยเปล่าท่อนบนยังคงมีมัดกล้ามเนื้อสมส่วน
เขาเลือกเสื้อเชิ้ตสีชมพูตัวหนึ่งจากหลายสิบตัวในตู้เสื้อผ้ามาสวม กลิ่นอายของเลือดติดอยู่มากเกินไป...แต่ซักเท่าไรก็คงไม่ออกแล้ว
เมื่อกลับออกมาถึงห้องนั่งเล่นผู้มาเยือนก็หายตัวไปแล้ว ทิ้งเอาแต่ทีวีที่ไม่ได้ปิดกับตุ๊กตาตัวขาวบนโซฟา เขาจึงหยิบมันขึ้นมาพิจารณา
อืม...เนื้อผ้ากับนุ่นอย่างดี อย่างน้อยเฮยเสียจื่อก็ไม่ได้เอาของลอกเลียนแบบคุณภาพต่ำมาทิ้งไว้ในบ้านคนอื่นซี้ซั้ว
เซี่ยอวี่เฉินตัดสินใจได้แล้วว่าที่อยู่ของตุ๊กตาตัวนี้คือบนโซฟา แต่เมื่อกำลังจะวางลงปลายนิ้วก็สัมผัสได้ถึงของแข็งที่แทรกอยู่ในเนื้อนุ่มนิ่ม สัญชาตญาณระวังภัยของเขากรีดร้องขึ้นมาในทันทีพร้อมกับเสียงดัง
'อย่าลืมข้าวเช้านะครับ'
คุณชายสกุลเซี่ยกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะออกแรงบีบที่มืออีกครั้ง เสียงนั้นจึงดังขึ้นอีกรอบ
...ที่แท้ก็แค่เครื่องอัดเสียง...
เขาถอนหายใจอย่างรู้สึกถึงความไร้สาระ สุดท้ายก็โยนเอามันไว้บนโซฟาแล้วเดินออกไปทำงานตามปกติ
(2)
ในเวลาอันสั้นเขาก็ได้รู้ว่าตุ๊กตาสนูปปี้ตัวนั้นมีชื่อแล้ว ว่า 'ฮัวฮัว'
...ฟังแล้วก็อยากจะกลอกตาสักที แต่ไม่ใช่ให้กับเจ้าฮัวฮัว
วันก่อนอู๋เสียเก็บลูกหมาจรจัดได้ แล้วก็ตั้งชื่อว่า 'ผิงผิง' ...เห็นแบบนี้ไม่ว่าใครๆ ก็คงอยากจะกลอกตากันทั้งนั้น ยิ่งคนถ่ายรูปหมาน้อยมาอัพลงวีแชทเป็นพ่อเทพหน้าดำแล้ว ทุกคนก็ยิ่งพร้อมใจกันพุ่งตัวเข้าไปสาดคำสรรเสริญให้นายน้อยสามประหนึ่งรุมกระทืบบ๊ะจ่าง
เขาเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะโดนลากไปเกี่ยวด้วยเสียเอง เพราะเฮยเสียจื่ออัพรูปตุ๊กตาหมา พร้อมแคปชั่น 'ฮัวฮัว' ตามติดไปอย่างเกาะกระแส
คิดแล้วอยากจะฟาดให้แว่นดำหลุด...ถึงเขาจะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางทำได้เลยหากอีกฝ่ายไม่ยอม เดิมเขาอาจจะมีฝีมือสูสีกับเฮยเสียจื่อ แต่การบาดเจ็บในหอบ้านสกุลจางเมื่อสิบปีก่อนทำให้ร่างกายไม่ดีเหมือนเดิมอีกต่อไป
และอีกประเด็นคืออีกฝ่ายไม่โผล่มาให้เขาฟาดด้วย ครั้นจะฟาดเจ้าฮัวฮัวแทน...แค่เห็นหน้าซื่อๆ ของมันก็ทำไม่ลงแล้ว สุดท้ายเซี่ยอวี่เฉินก็ยกโซฟาหน้าทีวีให้เป็นที่สถิตย์ของมันไป
คุณชายสกุลเซี่ยกดปิดวีแชทหลังจากตอบข้อความของฮั่วซิ่วซิ่วจนครบแล้ว หญิงสาวยังคงทำตัวรื่นเริงในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กตลอดเวลา ถึงแม้อีกฝ่ายจะอายุอานามไม่ต่างจากเขากับอู๋เสียเท่าไร แต่กลับทำตัวเหมือนสาวสิบหกสิบเจ็ดได้อมตะแนบเนียนอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาสไลด์นิ้วมือเพื่อเข้าโปรแกรมแชทอื่นๆ เพื่อสั่งงานจนเรียบร้อยแล้วจึงวางโทรศัพท์คว่ำไว้ตรงหน้าจอทีวี ก่อนจะเดินเข้าไปเปิดน้ำอุ่นรองใส่อ่าง
ไอน้ำลอยเอื่อยๆ ขึ้นมาให้เห็น จากนั้นก็ก้าวออกมานั่งรอในห้องนั่งเล่น หน้าจอโทรทัศน์เปิดขึ้นมาเป็นการ์ตูนสนูปปี้ซึ่งมีคนดูค้างเอาไว้ตั้งแต่เช้า เซี่ยอวี่เฉินจึงพิงหลังกับพนักนุ่มก่อนดึงตุ๊กตาหมามากอดไว้หลวมๆ
'พยากรณ์อากาศว่าวันนี้ฝนจะตก'
เสียงพูดที่แตกต่างกับเมื่อเช้าทำให้เขาขมวดคิ้ว
เฮยเสียจื่อจะเข้าออกบ้านซื่อเหอหยวนของเขาเป็นว่าเล่นไปหน่อยมั้ง...
เสียงฝนตกแว่วมาให้ได้ยินจากไกลๆ บ้านหลังนี้หากไม่ใช่ห้องนอนใต้หลังคาก็จะแทบไม่ได้ยินอะไรภายนอก ชายหนุ่มวางตุ๊กตาตัวนั้นไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปแช่น้ำอุ่นที่รองทิ้งไว้
คืนนั้นเซี่ยอวี่เฉินไม่ได้กินยานอนหลับ เขาเผลอหลับไปบนโซฟาหน้าทีวีโดยมีตุ๊กตาตัวขาวให้อ้อมแขน...ลืมเรื่องฝนตกไปเสียสนิท
(3)
'คุณชายเหงามั้ยครับ'
'ผมอยากกินหม้อไฟน้ำมันวัว'
'เหนื่อยชะมัด'
'คุณเปลี่ยนที่เก็บอาหารปลารึเปล่า'
'ขี้เกียจทำงานแล้ว แต่ไม่มีเงิน'
ขณะนี้เซี่ยอวี่เฉินมีกิจวัตรประจำวันใหม่เพิ่มขึ้นหนึ่งอย่างโดยที่ไม่รู้ตัว ทุกวันตอนเย็นหลังจากกลับมาเปิดรองน้ำอุ่นในอ่างเอาไว้เขาจะพาตัวเองมาที่ห้องนั่งเล่นแล้วลองกดเครื่องอัดเสียงเพื่อฟังข้อความ
บางทีก็เปลี่ยนไปทุกวัน บางทีก็สองสามวันครั้ง นานที่สุดคือเป็นสัปดาห์
แต่เขาก็เคยชินกับการฟังมันวันละครั้งไปแล้ว แม้ข้อความที่ฝากเอาไว้จะไร้แก่นสารและไม่มีความหมายใดๆ เลยก็ตาม
"นี่แหนะพี่สาวฮัว"
นานๆ ทีฮั่วซิ่วซิ่วก็ชอบเรียกเขาอย่างนี้ เป็นการแสดงออกถึงความสนิทสนมแบบแปลกๆ เขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว อย่างไรสมัยเด็กช่วงหนึ่งเขาก็เคยเป็นพี่สาวให้อีกฝ่ายจริงๆ
"จนนายน้อยสามเขาไปมีครอบครัวอบอุ่นเรียบร้อยแล้ว ไม่คิดจะวางมือไปอยู่เงียบๆ กับใครสักคนบ้างหรือ"
คำว่า 'นายน้อยสาม' ของหญิงสาวอาจจะเป็นการกล่าวถึงอู๋เสียในสมัยก่อนมากกว่าปัจจุบัน นั่นทำให้เขายกยิ้มขึ้นเงียบๆ
"บ้านที่อยู่นี่ก็เงียบดีแล้ว อีกอย่าง...พวกเราก็ใช่ว่าจะวางมือได้"
ฮั่วซิ่วซิ่วบ่นหงุงหงิงมาตามปลายสายอีกสองสามประโยคเกี่ยวกับความไร้จินตนาการและชีวิตจืดชืดของเขา ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ด้วยความห่วงใยแล้วจึงวางสายไป
คุณชายบ้านเซี่ยไม่ค่อยแน่ใจนักว่าหญิงสาวจะมากังวลอะไรเรื่องของเขานักหนา ในเมื่อตัวเองอายุอานามออกขนาดนี้ก็ยังไม่ยอมแต่งงานสักทีเหมือนกัน
เซี่ยอวี่เฉินถอนหายใจช้าๆ เขาอยู่ในบ้านซื่อเหอหยวนที่เงียบเชียบนี้มานานเกินไปจนหวงแหนความเป็นส่วนตัวระดับเสียแล้ว
เรื่องเหงาอาจจะมีบ้าง แต่เขาไม่ค่อยว่างพอที่จะมาคิดถึงเรื่องเหงาเท่าไร เพราะฉะนั้น...อยู่แบบนี้ต่อไปมันก็ไม่เป็นเรื่องเลวร้ายเสียหน่อย
ชายหนุ่มวาดแขนกอดตุ๊กตาข้างกายอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะออกแรงบีบที่มือไปโดยอัตโนมัติ
'คืนนี้ก็ฝันดีนะครับคุณชาย'
(4)
วันนี้เป็นวันหยุด
หลังจากที่กดวางสายจากเลขาเพื่อสั่งงานแล้วชายหนุ่มก็ตัดสินกดปิดเครื่องพร้อมเก็บมันลงไปในลิ้นชัก เขาคว้ามือถืออีกเครื่องขึ้นมาเปิดแทนก่อนจะเดินกลับเข้าในที่ห้องนั่งเล่น
เซี่ยอวี่เฉินขมวดคิ้วใส่ตุ๊กตาบนโซฟา หน้าตาซื่อๆ ของมันไม่ได้เปลี่ยนไปแต่เขากลับรู้สึกถูกกวนประสาท หลังจากวางมือถือลงบนโต๊ะ เขาก็อุ้มเจ้าหมาสีขาวขึ้นมาวางบนตัก
'Happiness is a warm puppy.'
ข้อความที่อัดไว้ยังคงเหมือนเดิม...ติดต่อกันมาครบเดือนแล้ว
วิถีชีวิตของเฮยเสียจื่อไร้แบบแผนไม่มีความแน่นอน แต่ละวันล้วนมีเฉดสีที่แตกต่างไม่เหมือนตัวเขาซึ่งมีกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน
ไม่มีใครรู้ว่านายบอดดำหายตัวไปไหน...และอันที่จริงทุกคนกลับคิดว่าผู้ที่จะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือเขาเอง
...อันที่จริงเซี่ยอวี่เฉินมักไม่ค่อยรับรู้ว่าอีกฝ่ายหายไปไหน เขารู้เพียงแต่หากมีธุระอะไรจะให้ทำ พอออกปากเรียกหา อีกไม่นานเกินรอ เฮยเสียจื่อก็จะติดต่อกลับมา
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนปกติ เขาไม่ได้มีเรื่องจะให้เฮยเสียจื่อทำ ไม่ได้มีธุระอะไรสำคัญที่จำเป็นต้องเรียกตัวกลับมาหา แต่เขากลับรู้สึกสะกิดใจขึ้นมาเป็นครั้งแรกว่าอีกฝ่ายหายไปไหนได้นานขนาดนี้
ทั้งที่แต่ก่อนก็อาจจะหายตัวไปนานกว่านี้ด้วยซ้ำ
ปลายนิ้วแตะเข้าโปรแกรมวีแชท ก่อนจะไถหน้าวงเพื่อนดูอย่างใจเย็น การอัพเดตล่าสุดของเฮยเสียจื่อยังคงเป็นรูปเจ้าฮัวฮัว
อาจจะอยู่ในดิน...หรือรับจ้างทำอะไรสักอย่างที่ใช้มือถือไม่ได้
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรนักหนา คนแบบนี้จะหายตัวไปอีกสักปียังน่าไม่แปลกใจเลย เขาก็รู้ดี...แต่กลับห้ามความรู้สึกเหมือนมีเสี้ยนตำในใจนี้ไม่ได้
"เจ้าของแกเขาหายหัวไปไหน หือ"
'Happiness is a warm puppy.'
ชายหนุ่มจ้องหน้าตาซื่อๆ นั้นอีกครั้งก่อนจะดึงมากอดพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา
เนื้อผ้าเย็นๆ ลื่นๆ แบบนี้มันจะเป็น warm puppy ได้ยังไง...
(5)
หลายวันถัดมาเซี่ยอวี่เฉินก็ยอมแพ้ต่อความรู้สึกสะกิดใจ เย็นวันนั้นหลังจากเสร็จธุระข้างนอก เขาก็กลับมานั่งลงที่โซฟา
'Happiness is a warm puppy.'
ข้อความเสียงในนั้นยังคงเหมือนเดิม
ชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก คุยสายนี้อยู่ราวครึ่งชั่วโมงจึงวางสาย กดโทรออกอีกครั้ง นั่งรออีกครู่หนึ่ง จึงรับสายใหม่ รับคำแล้วกดวาง เป็นอย่างนี้อีกประมาณเก้าสาย เขาก็วางมือถือลงเมื่อนาฬิกาบ่งบอกเวลาสองทุ่ม
เขาเปิดกล่องซิการ์บนโต๊ะหยิบขึ้นมาหนึ่งมวน ดมกลิ่นเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจวางกลับลงไปเหมือนเดิม
คุณชายสกุลเซี่ยอย่างเขาไม่ค่อยคุ้นชินกับความว้าวุ่นใจ พฤติกรรมตอนนี้ของเขาออกจะคล้ายอู๋เสียมากไปสักหน่อย...สิบปีมานี้พวกเขาคงอยู่ด้วยกันมากเกินไป ต่างคนต่างติดนิสัยเสียของกันและกันมาแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ปลายนิ้วก็ขยับกดโทรออกเป็นสายสุดท้ายของวันนี้
"ว่าไง มีอะไรหรือ"
สัญญาณดังอยู่สี่ครั้งจึงมีเสียงพูดตอบกลับมา สัญญาณขาดหายเล็กน้อยแต่ยังพอฟังกันรู้เรื่อง
"ต้องมีอะไรถึงโทรไปได้ด้วยหรืออาเฮีย"
คำหนอกเย้าของเขาทำให้อีกฝ่ายสะอึก แต่เมื่อกรอกเสียงหัวเราะตามลงไปก็ได้คำสบถกลับมา
"ทำอะไรอยู่"
ชวนคุยง่ายๆ แล้วอีกฝ่ายก็เล่านู่นเล่านี่ให้ฟังทั้งเรื่องทะเลาะกับป้าข้างบ้านไปจนถึงธุรกิจผักดองลุ่มๆ ดอนๆ
อู๋เสียก็ยังคงเป็นอู๋เสีย จับธุรกิจอะไรก็มีแต่ร่อแร่ หวังว่าสกุลจางจะบรรจุหลักสูตรการทำธุรกิจหาเลี้ยงชีพลงในคอร์สอบรมจางฉี่หลิงแล้ว
"...เสี่ยวฮัว นายเป็นอะไรหรือเปล่า?" หลังจากฟังอีกฝ่ายพูดอยู่นาน คนที่อยู่ไกลถามขึ้นในที่สุด
"เป็นห่วงหรือไง"
เขาเราะเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายนิ่งไป ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายชะงักเมื่ออู๋เสียตอบกลับมาด้วยเสียงจริงจัง
"อือ ฉันเป็นห่วง"
ชั่วอึดใจหนึ่งนั้นเหมือนมีคลื่นบางอย่างสั่นไหวรุนแรงอยู่ในอก อาการชาวาบแล่นไปถึงปลายมือปลายเท้าก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เซี่ยอวี่เฉินยิ้มไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยยิ้ม
"นายอยู่คนเดียว เป็นอะไรก็มีแต่นายรู้คนเดียว จะไมาให้เป็นห่วงได้ยังไง"
"พูดจาแบบนี้ระวังจะมีปัญหากับพ่อเทพหน้าดำตรงนั้นนะ"
"เสี่ยวฮัว นี่ฉันพูดจริงๆ วันนี้นายดูไม่ค่อยปกติ มีอะไรหรือเปล่า" เสียงที่ปลายสายเริ่มร้อนรน...แต่เขายังคงยิ้ม
"คิดมากไปแล้วอาเฮีย"
อู๋เสียยังคงซักไซ้นู่นนี่อยู่อีกพักใหญ่ก่อนจะต้องยอมแพ้ไปในที่สุด คุณชายสกุลเซี่ยกดวางสาย เขาตั้งใจให้มันเป็นสายสุดท้ายของวันนี้จึงกดปิดเครื่องคว่ำไว้ตรงหน้าโทรทัศน์
คืนนั้นเขากินยานอนหลับสองเม็ด และหยิบตุ๊กตาสนูปปี้ขึ้นไปนอนด้วยบนห้องใต้หลังคา
เสียงฝนตกดังชัดในโสตประสาท แต่เขานอนไม่หลับจนถึงเช้า
(6)
เซี่ยอวี่เฉินตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงเมื่อถึงเวลาตื่น เช้าวันนี้ฝนยังคงตกอยู่ แต่เสียงเปาะแปะของหยดน้ำดูจะไม่ช่วยให้เขาผ่อนคลายลง
ชายหนุ่มเดินลงมาที่ชั้นล่าง อาบน้ำ แปรงฟัน ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว แล้วจึงนั่งเป่าผมที่หน้ากระจก วันนี้เขาเผลอเป่าผมจนแห้งมากเกินไปหน่อย พรุ่งนี้จะต้องระวังมากกว่านี้
เวลาหกโมงสี่สิบ คุณชายสกุลเซี่ยจึงลุกขึ้นเดินช้าๆ ไปยังห้องแต่งตัว เขาเดินผ่านห้องนั่งเล่นเหมือนทุกวัน แตาหางตากลับเหลือบไปเห็นบางอย่างที่กระชากความสนใจของเขาไปหมดสิ้น
ตุ๊กตาสนูปปี้สีขาวบนโซฟา
ปลายเท้าหมุนเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว...ในเมื่อเมื่อคืนเขายังนอนกอดเจ้าฮัวฮัวอยู่บนห้องใต้หลังคา แล้วมันจะย้ายที่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
คนที่ทำอะไรตามใจชอบในบ้านคนอื่น...ก็มีอยู่แค่คนเดียว
'คิดถึงผมมั้ย?'
ข้อความที่ไม่เหมือนเดิมแล้วทำให้เขารู้สึกใจเต้นแรง เซี่ยอวี่เฉินไม่รู้ว่าตัวเองทำสีหน้าแบบไหน และก็คิดว่าไม่อยากรู้ จึงค่อนข้างพอใจที่อ้อมกอดแนบแน่นนั้นมาจากทางด้านหลัง
"คิดถึงผมมั้ย?"
เสียงกระซิบข้างหูนั้นแตกต่างจากที่ได้ยินจากเครื่องอัดอยู่นิดหน่อย...และถ้าให้เลือก เขาก็คงจะรู้สึกชอบแบบหลังมากกว่าอีกนิดหน่อย
เขาได้แต่เงียบเพราะเลือกคำตอบและคำถามไม่ได้
"ผมคิดถึงคุณชายมากเลย" เฮยเสียจื่อยังคงพูดต่อไป "คิดถึงเจ้าฮัวฮัวด้วย คุณดูแลมันดีใช่มั้ย...ก็น่าจะดีนะ ห้องใต้หลังคาผมยังเคยได้นอนแค่ไม่กี่ครั้งเอง"
"...ทำไมถึงโผล่มาตอนนี้"
"ผมเพิ่งกลับมา งานมีปัญหานิดหน่อย โทรศัพท์ของผมก็พังไปแล้ว นี่พอรู้ว่าคุณถามหาผมก็รีบบึ่งมานี่เลย ยังไม่ได้ซื้อมือถือใหม่ด้วยซ้ำ" นายแว่นดำหัวเราะเบาๆ "ว่าไงครับคุณชาย คราวนี้มีงานด่วนงานร้อนอะไรให้ผมรับใช้"
"ไม่มีหรอก" เซี่ยอวี่เฉินตอบพลางยักไหล่ "ก็แค่ลองถามดู"
เฮยเสียจื่อนิ่งไปเล็กน้อยกับคำตอบนั้น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นอย่างอื่น
พวกเขารู้จักกันมานานเกินไป เกินกว่าครึ่งชีวิตของเซี่ยอวี่เฉินอยู่ในสายตาของเฮยเสียจื่อมาตลอด แม้แต่ในตอนที่เขามองไม่เห็นอีกต่อไป มันจึงไม่แปลกที่ต่างคนจะต่างมองเห็นประโยคซึ่งซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดของคำพูด
"ผมตั้งใจว่าจะหยุดงานสักพัก"
"อือ"
"พออายุเยอะก็เริ่มอยากอยู่ติดที่บ้างแล้วเหมือนกัน"
"..."
"จะไม่พูดอะไรหน่อยหรือคุณชาย"
"ก็รออยู่ว่าจะโกหกเสร็จเมื่อไหร่"
"ใจร้าย"
เฮยเสียจื่อหัวเราะชอบอกชอบใจ ก่อนจะจับตัวคนที่อ้อมกอดให้พลิกมารับรางวัลสำหรับการพูดจาถูกใจ ซึ่งเซี่ยอวี่เฉินไม่ได้ปฏิเสธ
"วันหลังผมจะบอก ถ้าต้องไปทำงานยาวๆ"
คนตาบอดยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบอย่างแผ่วเบาตรงข้างแก้ม
"แล้วถ้าคุณยังรอ ไม่ว่ายังไงผมก็จะกลับมา"
เซี่ยอวี่เฉินยังคงไม่รู้ว่าตัวเองทำสีหน้าแบบไหนออกไป แต่ในเมื่อทั้งเขาเองมั้งอีกฝ่ายก็ไม่มีใครมองเห็น ถ้างั้นเขาก็จะช่างมันไป
สัมผัสอุ่นร้อนกับลมหายใจตรงหน้าต่างหากที่เป็นสาระ
...ท่าทางวันนี้เขาจะต้องเปลี่ยนแผนงานใหม่เสียแล้ว
(7)
เซี่ยอวี่เฉินเลื่อนปลายนิ้วไปตามหน้าจอ ก่อนจะชะงักแล้วขยับไปกดถูกใจให้กับข้อความตัดพ้อต่อเทพเจ้าแห่งเงินตราของคนบางคน
เฮยเสียจื่อน่าจะรับงานชิ้นใหญ่ในอีกไม่นานนี้
ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาก่อนจะคว้าตุ๊กตาใกล้มือมากอดด้วยความเคยชิน
นานๆ ทีเรื่องที่เขาเคยคุยกับฮั่วซิ่วซิ่วก็ลอยกลับเข้ามาในหัวอยู่บ้าง แต่ที่เคยตอบไปว่า อยู่บ้านแบบนี้ก็เงียบสงบดี นั้น...เขาก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด
เซี่ยอวี่เฉินไม่ใช่อู๋เสียที่สามารถทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังแล้วก้าวต่อไปอย่างเอาแต่ใจ
ส่วนเฮยเสียจื่อก็ไม่ใช่จางฉี่หลิงที่จะปล่อยให้ใครมากำหนดกะเกณฑ์ชีวิต
ชีวิตที่เป็นแบบแผนซ้ำซากกับชีวิตที่มีแต่สีสันฉูดฉาดยุ่งเหยิง ไม่สามารถกลายเป็นชีวิตเดียวได้
พวกเขาไม่ได้ต้องการชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาคือสองชีวิตซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็จะก้าวไปข้างๆ กันจนสุดทาง
เขากอดตุ๊กตาสนูปปี้แน่นแล้วออกแรงบีบเบาๆ ที่มือ
'ผมรักคุณ'
::Talk::
สวัสดีค่าาาาาาา
หายหัวไปนานหลังจากที่ดีลกับอัคคุง (ak_zokyo) ไว้ กรี๊ซซซซ ความดองอันเป็นซิกเนเจอร์ //โดนตบ// แถมยังลืมลงอีกต่างหาก เลยมาลงซะดึกดื่นเลยค่ะ //พราก
ฮือ สำหรับฟิคเรื่องนี้คือฟิคต่อยอดจากหนึ่งชีวิตค่ะ ติดใจฮัวฮัวมากจนต้องเขียนต่อ ////////// เรายังคงชอบคสพ.ของสองคนนี้ในรูปแบบที่ระบุคำจำกัดความไม่ได้มากๆเลยค่ะ เลยตั้งใจเขียนออกมาแบบคลุมเครืออีกแล้ว
ตอนนี้ง่วงมาก คิดtalkไม่ออกแล้ว 555555 เอาเป็นว่า หวังว่าจะถูกใจกับเฮยฮัวของเรานะคะ ขอบคุณค่าาาา
ป.ล. คิด สามชีวิต ไว้ด้วยล่ะ...ให้ทายว่าคู่(...)ไหน
velvetronica- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 100
Points : 3618
Join date : 08/11/2014
Re: [SF] สองชีวิต (เฮยฮัว :: เฮยเสียจื่อxเซี่ยอวี่ฮัว)
ชอบบบบ เขินนนน โฮ ดีลกั๊บดีล ฮัวฮัวน่ารักก ฮืออออ จากสนูปปี้กลายเป็นพิราบสื่อสาร พี่เฮยแม่ง... คนที่มีกิจวัตรเหมือนเดิมถ้าชินกับอะไรแล้วหายไปนานๆมันก็ไม่ชินขึ้นมาไงล่ะ แย่! ร้ายกาจ! ชอบตรงที่รู้ทันว่ารออยู่ว่าเมื่อไหร่นายจะเลิกโกหกมาก ////////
ชอบความสัมพันธ์ที่เหมือนเป็นเส้นขนาน คือแตกต่าง จะไม่บรรจบกัน แต่พอใจที่จะอยู่คู่กันไปด้วยแนวทางของตัวเองแบบนี้ แงงงงง เป็นฟิคเฮยฮัวที่หวานสุดของพี่เวลที่เคยอ่านมาเลย
ชอบความสัมพันธ์ที่เหมือนเป็นเส้นขนาน คือแตกต่าง จะไม่บรรจบกัน แต่พอใจที่จะอยู่คู่กันไปด้วยแนวทางของตัวเองแบบนี้ แงงงงง เป็นฟิคเฮยฮัวที่หวานสุดของพี่เวลที่เคยอ่านมาเลย
Ak_Zokyo- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 154
Points : 3616
Join date : 27/10/2014
Re: [SF] สองชีวิต (เฮยฮัว :: เฮยเสียจื่อxเซี่ยอวี่ฮัว)
ดูเป็นความสัมพันธ์แบบรักทางไกล ที่มีสนู้ปปี้เป็นตัวเชื่อมเลยค่ะ ชอบอาการโหวงๆ แต่พยายามสตรองของเสี่ยวฮัว แล้วก็ชอบประโยค "ก็รออยู่ว่าจะโกหกเสร็จเมื่อไหร่" ด้วย มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ๆ ที่คู่ผิงเสียไม่มีเลยค่ะ (เทียนเจินเอ๊ยยย)
ปล.นอกจากฮัวเฮยแล้ว ชอบความสัมพันธ์ของอาเฮียอู๋เสีย พี่สาวฮัว กับน้องซิ่วซิ่วด้วย ดูเป็นพี่น้องเป็นครอบครัวกันดีจัง
ปล.นอกจากฮัวเฮยแล้ว ชอบความสัมพันธ์ของอาเฮียอู๋เสีย พี่สาวฮัว กับน้องซิ่วซิ่วด้วย ดูเป็นพี่น้องเป็นครอบครัวกันดีจัง
ืnao- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 9
Points : 2798
Join date : 16/08/2016
Similar topics
» ( os ) ฝัน (เฮยฮัว )
» [OS] This Ain't Love (เฮยฮัว)
» (SF) เฮยฮัว - นายเฮยเสียจื่อ
» [OS] วัชพืช [เฮยฮัว]
» [OS] นิทานก่อนนอน [เฮยฮัว]
» [OS] This Ain't Love (เฮยฮัว)
» (SF) เฮยฮัว - นายเฮยเสียจื่อ
» [OS] วัชพืช [เฮยฮัว]
» [OS] นิทานก่อนนอน [เฮยฮัว]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth