Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’ (เอ้อร์เย่ว์หง,ยัยหนู,เสี่ยวเฉิน)
+2
The_Dark_Lady
velvetronica
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’ (เอ้อร์เย่ว์หง,ยัยหนู,เสี่ยวเฉิน)
Free paper 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’
by velvetronica at U02 DMBJ only event TH
*เป็นฟรีเปเปอร์ที่เราแจกในงานและวันมีตติ้งค่ะ แอบเอามาลงให้เผื่อใครที่ไม่ทันนะคะ*
ดอกเหมยกุยสีแดงในสวนร่วงไปหมดแล้ว...
ชายชรานอนอยู่บนเตียงกว้างเพียงลำพัง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยยังคงมีเค้าลางของความงามฉายชัด แม้แต่เส้นผมสีขาวซึ่งกระจายอยู่บนหมอนก็ยังนุ่มลื่นเหมือนด้ายไหม
สัมผัสของผืนผ้าและกลิ่นหอมจางๆ ดึงให้เขาหลับลึกลงเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงเคาะแผ่วเบาตรงบานประตู
“อวี่ฮัว?”
แม้ร่างกายจะเชื่องช้าลงตามวัยแต่ประสาทสัมผัสที่ถูกขัดเกลามานานยังคงเฉียบแหลม คนถูกเรียกชื่อถือเป็นคำอนุญาตแล้วเปิดประตูเข้ามาทันที
“ท่านปู่จะรับข้าวเช้าที่นี่หรือในห้องกินข้าว”
ชายหนุ่มร่างผอมสูงหยุดยืนนิ่งอยู่ข้างม่านล้อมเตียง เงาลางๆ ปรากฎอยู่บนผืนผ้าไหมสีขาวที่เริ่มหมองลงไปตามอายุ เจ้าของห้องเหม่อมองเพดานอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะตอบไปด้วยเสียงแหบแห้ง
“ห้องกินข้าว...”
เมื่อได้คำตอบดังนั้นชายหนุ่มก็เลิกผ้ากั้นเตียงออกแล้วพยุงคนบนเตียงขึ้นนั่งอย่างเบามือ
เอ้อร์เย่ว์หงแทบไม่เคยกินข้าวในห้องนอนนอกจากจะป่วยหนักจนลุกไม่ไหวเพราะคนร่วมเตียงนั้นไม่ชอบให้มีกลิ่นอาหารติดผ้าม่านผืนงาม
แต่ถึงแม้อะไรๆ จะเปลี่ยนไปแล้วแต่ชายชราก็ยังคงเลือกที่จะลุกออกไปห้องกินข้าว...เพราะการกินข้าวในห้องนอนทำให้เขาคิดถึงคำบ่นเหล่านั้นจับใจ
ภายในบ้านหลังกว้างนั้นนอกจากเสียงฝีเท้าแผ่วเบาแล้วก็แทบไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นอีก หลายปีมานี้เอ้อร์เย่ว์หงพยายามโยกย้ายและลดจำนวนคนรอบตัวลงเรื่อยๆ เขาถอนตัวออกจากวิถีชีวิตเดิมอย่างเงียบเชียบโดยไม่คิดจะเหลืออะไรทิ้งไว้
บนโต๊ะอาหารกว้างมีเพียงแค่สำรับสำหรับตัวเขาและชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตขาว โจ๊กร้อนๆ กับเครื่องไม่กี่อย่างถูกตักเข้าปากช้าๆ โดยที่ไม่มีบทสนทนาใดๆ เซี่ยอวี่ฮัวนั่งกินข้าวเงียบๆ อยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ตอนที่ยังสูงแค่เอว คุณชายของสกุลเซี่ยรู้ดีเสมอว่าต้องทำอย่างไรอาจารย์ของตนจึงจะพอใจ
“ปีนี้...ข้าอาจจะไม่ทันได้กินปู”
คำพูดลอยๆ ที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ชายหนุ่มวางช้อนลงทันทีก่อนจะหันมากล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
“นี่เดือนสองแล้วครับ”
“แต่กว่าจะจบฤดูใบไม้ผลิ...คงนานเกินไป”
เซี่ยอวี่ฮัวเลื่อนเก้าอี้ออกก่อนจะลุกขึ้นยืน ใบหน้าสวยนิ่งตึงแม้ในขณะที่เก็บจานของตัวเองแล้วเดินออกไปโดยไม่มีคำพูดใด
ชายชราจึงวางช้อนลงบ้าง...ความอยากอาหารของเขาหมดไปนานแล้ว ที่ยังตักอาหารเข้าปากจนถึงทุกวันนี้ก็เพื่อให้คนที่อยู่ด้วยสบายใจ เอ้อร์เย่ว์หงมองนิ้วที่เคยกรีดพัดได้งดงามอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนแม้แต่จะคลี่ออกด้วยมือเดียวยังทำไม่ได้
เขารู้ตัวตั้งแต่ฤดูหนาว
อีกไม่นาน...การเดินทางอันยาวนานอย่างเดียวดายก็จะสิ้นสุดลง
เสียงถาดกระทบกับโต๊ะไม้เรียกให้ชายชราหลุดจากภวังค์ความคิด ชุดน้ำชาถูกยกมาวางไว้ตรงหน้าด้วยฝีมือของคนที่ลุกออกไปเมื่อครู่ ไม่นานก็ได้ชาหอมกรุ่นอยู่ในแก้วกระเบื้องสีขาวลายดอกเหมยกุยสีแดงสด
ถึงเซี่ยอวี่ฮัวจะโกรธเพียงใด...แต่ชายหนุ่มก็ไม่ลืมแม้แต่น้ำชาหลังอาหารเช้า
“ขอบใจ”
เขายกถ้วยขึ้นแตะริมฝีปากสูดไอน้ำและกลิ่นชาร้อน อากาศข้างนอกยังคงหนาวเย็น...แต่ภายในบ้านเก่าหลังนี้กลับอุ่นสบาย เอ้อร์เย่ว์หงรู้ดีว่ามันไม่ง่ายแต่ชายหนุ่มก็ทำทุกอย่างได้โดยไม่มีที่ติเสมอมา
แต่ภายใต้การดูแลอย่างสมบูรณ์แบบ...เขากลับคิดถึงความซุ่มซ่ามขี้ลืมของใครบางคนยิ่งกว่า
เสียงไอโขลกรุนแรงดังขึ้น ชาร้อนในถ้วยกระฉอกจนหกเลอะเทอะไปตามการหอบหายใจจนตัวโยน
“ท่านปู่!!!” ชายหนุ่มถลาเข้ามาดึงถ้วยชาออกจากมือพร้อมกับลูบหลัง ก่อนจะตะโกนเรียกลูกน้องที่ด้านนอก “เรียกรถพยาบาล!!”
“ม...ไม่ต้อง”
ร้องห้ามพร้อมกับคว้าข้อมือของชายหนุ่มไว้แน่น เสียงหอบหายใจปนเสมหะยังคงดังมาจากในลำคอ ริมฝีปากเผยอค้างเพื่อสูดอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด หัวใจเต้นรัวแรงเหมือนจะขาดใจแต่ชายชราก็ยังนั่งติดเก้าอี้ไม่ยอมลุกขึ้นตามแรงพยุง
“ท่านปู่...”
“...พากลับ...ไปที่...ห้องนอนที”
เสียงแหบโหยเอ่ยอย่างยากลำบาก ชายชราคว้าไหล่ของลูกศิษย์เอาไว้แน่น เซี่ยอวี่ฮัวกัดฟันก่อนจะตัดสินใจหันไปตะโกนบอกให้ลูกน้องยกเลิกรถพยาบาลที่กำลังจะมาถึงแล้วพยุงร่างผอมบางของอาจารย์กลับไปที่ห้องนอนตามต้องการ
เอ้อร์เย่ว์หงถูกพามานอนที่เตียงของตนเองอีกครั้งโดยที่ชายหนุ่มเอาหมอนหลายใบหนุนหลังไว้เพื่อจัดท่าให้หัวสูง ดวงตาที่ฝ้าฟางมองผืนผ้าม่านรอบตัวอย่างเหม่อลอย
เขาปฏิเสธอย่างชัดเจนทุกครั้งที่ลูกศิษย์คนนี้จะพาไปโรงพยาบาลเพราะเขากลัวว่าจะไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้อีก...กลัวว่าจะไม่ได้จากไปบนเตียงเดียวกับ ‘เธอ’
เซี่ยอวี่ฮัวมองภาพของอาจารย์ที่เคยยกอุ้มเขาได้ตัวลอยนอนจมอยู่บนเตียงแล้วก็ทรุดเข่านั่งลงตรงพื้นด้านข้างก่อนที่เสียงแหบจะดังขึ้นอีกครั้ง
“...อีกไม่นานแล้วจริงๆ”
ชายหนุ่มฟังดังนั้นก็หลับตาลง ก่อนจะเอื้อมปลายนิ้วไปแตะมือเหี่ยวย่นที่ครั้งหนึ่งเคยจับท่าสอนให้ร่ายรำ
“ผมรู้ว่าท่านอยากไปพบเธอแล้ว”
เสียงของคนที่ก้มลงแตะหน้าผากกับหลังมือของเขาสั่นเครือ
“แต่อย่าเพิ่งพูดได้มั้ยครับ...ว่าจะจากไปแล้ว”
เซี่ยอวี่ฮัวไม่ใช่เด็กขี้แย...แต่เพราะคนคนนี้คือสิ่งเดียวที่ยังเชื่อมโยงตัวตนของเขาเอาไว้ในโลกซึ่งผูกพันกันด้วยความรักและปรารถนาดี
เอ้อร์เย่ว์หงหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้คำพูดนั้นเสียดแทงเข้ามากลางอก
‘เสี่ยวเฉิน’ คนที่สอง...ซึ่งเขาได้ทำร้ายอย่างเลือดเย็น
สำหรับโลกใบนี้...หากยังจะมีอะไรเชื่อมโยงตัวตนของเขาเอาไว้อีกก็คือ ‘เสี่ยวเฉิน’ ทั้งสอง
‘เสี่ยวเฉิน’ คนแรก คือ เหยื่อของความเศร้าโศกเสียใจ...สิ่งที่เด็กหนุ่มทำลงไปก็คือการตอบสนองต่อด้านมืดมิดในจิตใจของเขา ทั้งที่อาจจะห้ามได้...หยุดยั้งได้ แต่เขากลับเลือกให้มันเกิดขึ้น แล้วหลอกตัวเองว่าไม่ต้องการโดยไล่เด็กหนุ่มให้ไกลจากสายตา
ส่วน ‘เสี่ยวเฉิน’ คนที่สอง คือ เหยื่อของผลประโยชน์และการแก่งแย่งชิงดี...ตัวแทนที่เขาทิ้งเงาของสกุลสองติดตัวไว้ให้แบกรับทุกสิ่งทุกอย่าง
เอ้อร์เย่ว์หงไม่ใช่คนดี...เขาใช้เด็กทั้งสองเพื่อปลดพันธนาการในหัวใจของตัวเองพร้อมกับฝากบาดแผลร้ายแรงเอาไว้ แต่เพราะรู้สึกผิดมากเกินกว่าที่จะเอ่ยคำขอโทษ สุดท้ายจึงได้แต่ภาวนาให้ทั้งคู่มีความสุขโดยปราศจากภาพเงาของตัวเขา
“ช่อบุปผา งามหยดย้อย”
ชายชราขยับมือขึ้นมาลูบเส้นผมนุ่มลื่นราวกับขนแมวของชายหนุ่ม
“เซี่ยอวี่ฮัว...คือชื่อที่มีความสุข จงมีความสุขทดแทนให้เซี่ยจิ่ว เหลียนหวน และอวี่เฉิน”
และ...อาซื่อ
แม้จะไม่มีสิทธิ์พูดออกไป
...แต่เอ้อร์เย่ว์หงรักเสี่ยวเฉินทั้งคู่ไม่แตกต่างจากลูกไส้เลยจริงๆ
หยดน้ำตาถูกกล้ำกลืนกลับลงไปเพื่อความสบายใจของคนที่รักเขาเป็นคนสุดท้ายในโลกใบนี้ เซี่ยอวี่ฮัวปล่อยให้สัมผัสอบอุ่นลูบไล้ไปมาก่อนที่มือนั้นจะหยุดลงแล้วเลื่อนตกไปด้านข้าง เปลือกตาค่อยๆ ขยับปิดลงช้าๆ พร้อมกับลมหายใจที่ช้าลงทุกที
ชายหนุ่มไม่อยากยอมรับหากก็ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น...มือนั้นจึงถูกคว้าเอาไว้แล้วแตะลงกับหน้าผากเป็นครั้งสุดท้าย
หลับให้สบายนะครับ...ท่านปู่
เอ้อร์เย่ว์หงรอคอยเวลานี้มากว่าครึ่งศตวรรษ...
รูปนกยวนยางคู่ซึ่งถูกสลักไว้บนส่วนทองของชิ้นหยกหินคล้องผ้าม่านสะท้อนกับแสงไฟจนเห็นเป็นประกายวิบวับ ผ้าม่านไหมผืนเก่าปลิวไหวแม้จะไม่มีลมพัดผ่าน
ยัยหนู...เจ้ารอข้านานไหม
จะไม่ต้องเหงาอีกแล้วนะ...
TALK
สวัสดีค่า เวลนะคะ //โค้ง//
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าจริงๆ นี่คือฟิคเดลี่หัวข้อ ‘แดง’ ที่เราดองเอาไว้ ฮา
จริงๆ ในเก้าสกุลเนี่ย ตัวละครที่เราชอบเขียนถึงมากที่สุดก็คือปู่เอ้อร์นี่แหละค่ะ เขียนถึงแล้วสนุกมากในทุกแง่มุม เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มาก //ชูป้ายไฟ// ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณปู่กับยัยหนูมันก็น่ารักมากๆ จนจะกรี๊ด24บางทีก็เกรงใจ (...)
ส่วนอีกอย่างที่เราชอบมากคือความสัมพันธ์แบบศิษย์อาจารย์ เคยเขียนถึงระหว่างปู่เอ้อร์กับซื่ออากงไปแล้ว (ฟิคเดลี่ ‘น้ำตา’) ครั้งนี้เลยขอเขียนในมุมของคุณชายบ้าง เสี่ยวเฉินคนที่สองของปู่เอ้อร์...เราว่ามันคงเป็นทั้งความรักและความรู้สึกผิดเลยล่ะค่ะ ฟีลลิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้นี่มัน...ฮื้อ... //เมนคุณชายที่ทำร้ายคุณชายตลอดเวลา//
สุดท้ายนี้ ดีใจที่ได้เขียนเรื่องนี้ออกมานะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเยี่ยมเยียนเราที่บูธด้วย //เขิล// หวังว่าถูกใจกับปู๋เอ้อร์ ยัยหนูและเสี่ยวเฉินนะคะ
by velvetronica at U02 DMBJ only event TH
*เป็นฟรีเปเปอร์ที่เราแจกในงานและวันมีตติ้งค่ะ แอบเอามาลงให้เผื่อใครที่ไม่ทันนะคะ*
ดอกเหมยกุยสีแดงในสวนร่วงไปหมดแล้ว...
ชายชรานอนอยู่บนเตียงกว้างเพียงลำพัง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยยังคงมีเค้าลางของความงามฉายชัด แม้แต่เส้นผมสีขาวซึ่งกระจายอยู่บนหมอนก็ยังนุ่มลื่นเหมือนด้ายไหม
สัมผัสของผืนผ้าและกลิ่นหอมจางๆ ดึงให้เขาหลับลึกลงเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงเคาะแผ่วเบาตรงบานประตู
“อวี่ฮัว?”
แม้ร่างกายจะเชื่องช้าลงตามวัยแต่ประสาทสัมผัสที่ถูกขัดเกลามานานยังคงเฉียบแหลม คนถูกเรียกชื่อถือเป็นคำอนุญาตแล้วเปิดประตูเข้ามาทันที
“ท่านปู่จะรับข้าวเช้าที่นี่หรือในห้องกินข้าว”
ชายหนุ่มร่างผอมสูงหยุดยืนนิ่งอยู่ข้างม่านล้อมเตียง เงาลางๆ ปรากฎอยู่บนผืนผ้าไหมสีขาวที่เริ่มหมองลงไปตามอายุ เจ้าของห้องเหม่อมองเพดานอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะตอบไปด้วยเสียงแหบแห้ง
“ห้องกินข้าว...”
เมื่อได้คำตอบดังนั้นชายหนุ่มก็เลิกผ้ากั้นเตียงออกแล้วพยุงคนบนเตียงขึ้นนั่งอย่างเบามือ
เอ้อร์เย่ว์หงแทบไม่เคยกินข้าวในห้องนอนนอกจากจะป่วยหนักจนลุกไม่ไหวเพราะคนร่วมเตียงนั้นไม่ชอบให้มีกลิ่นอาหารติดผ้าม่านผืนงาม
แต่ถึงแม้อะไรๆ จะเปลี่ยนไปแล้วแต่ชายชราก็ยังคงเลือกที่จะลุกออกไปห้องกินข้าว...เพราะการกินข้าวในห้องนอนทำให้เขาคิดถึงคำบ่นเหล่านั้นจับใจ
ภายในบ้านหลังกว้างนั้นนอกจากเสียงฝีเท้าแผ่วเบาแล้วก็แทบไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นอีก หลายปีมานี้เอ้อร์เย่ว์หงพยายามโยกย้ายและลดจำนวนคนรอบตัวลงเรื่อยๆ เขาถอนตัวออกจากวิถีชีวิตเดิมอย่างเงียบเชียบโดยไม่คิดจะเหลืออะไรทิ้งไว้
บนโต๊ะอาหารกว้างมีเพียงแค่สำรับสำหรับตัวเขาและชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตขาว โจ๊กร้อนๆ กับเครื่องไม่กี่อย่างถูกตักเข้าปากช้าๆ โดยที่ไม่มีบทสนทนาใดๆ เซี่ยอวี่ฮัวนั่งกินข้าวเงียบๆ อยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ตอนที่ยังสูงแค่เอว คุณชายของสกุลเซี่ยรู้ดีเสมอว่าต้องทำอย่างไรอาจารย์ของตนจึงจะพอใจ
“ปีนี้...ข้าอาจจะไม่ทันได้กินปู”
คำพูดลอยๆ ที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ชายหนุ่มวางช้อนลงทันทีก่อนจะหันมากล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
“นี่เดือนสองแล้วครับ”
“แต่กว่าจะจบฤดูใบไม้ผลิ...คงนานเกินไป”
เซี่ยอวี่ฮัวเลื่อนเก้าอี้ออกก่อนจะลุกขึ้นยืน ใบหน้าสวยนิ่งตึงแม้ในขณะที่เก็บจานของตัวเองแล้วเดินออกไปโดยไม่มีคำพูดใด
ชายชราจึงวางช้อนลงบ้าง...ความอยากอาหารของเขาหมดไปนานแล้ว ที่ยังตักอาหารเข้าปากจนถึงทุกวันนี้ก็เพื่อให้คนที่อยู่ด้วยสบายใจ เอ้อร์เย่ว์หงมองนิ้วที่เคยกรีดพัดได้งดงามอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนแม้แต่จะคลี่ออกด้วยมือเดียวยังทำไม่ได้
เขารู้ตัวตั้งแต่ฤดูหนาว
อีกไม่นาน...การเดินทางอันยาวนานอย่างเดียวดายก็จะสิ้นสุดลง
เสียงถาดกระทบกับโต๊ะไม้เรียกให้ชายชราหลุดจากภวังค์ความคิด ชุดน้ำชาถูกยกมาวางไว้ตรงหน้าด้วยฝีมือของคนที่ลุกออกไปเมื่อครู่ ไม่นานก็ได้ชาหอมกรุ่นอยู่ในแก้วกระเบื้องสีขาวลายดอกเหมยกุยสีแดงสด
ถึงเซี่ยอวี่ฮัวจะโกรธเพียงใด...แต่ชายหนุ่มก็ไม่ลืมแม้แต่น้ำชาหลังอาหารเช้า
“ขอบใจ”
เขายกถ้วยขึ้นแตะริมฝีปากสูดไอน้ำและกลิ่นชาร้อน อากาศข้างนอกยังคงหนาวเย็น...แต่ภายในบ้านเก่าหลังนี้กลับอุ่นสบาย เอ้อร์เย่ว์หงรู้ดีว่ามันไม่ง่ายแต่ชายหนุ่มก็ทำทุกอย่างได้โดยไม่มีที่ติเสมอมา
แต่ภายใต้การดูแลอย่างสมบูรณ์แบบ...เขากลับคิดถึงความซุ่มซ่ามขี้ลืมของใครบางคนยิ่งกว่า
เสียงไอโขลกรุนแรงดังขึ้น ชาร้อนในถ้วยกระฉอกจนหกเลอะเทอะไปตามการหอบหายใจจนตัวโยน
“ท่านปู่!!!” ชายหนุ่มถลาเข้ามาดึงถ้วยชาออกจากมือพร้อมกับลูบหลัง ก่อนจะตะโกนเรียกลูกน้องที่ด้านนอก “เรียกรถพยาบาล!!”
“ม...ไม่ต้อง”
ร้องห้ามพร้อมกับคว้าข้อมือของชายหนุ่มไว้แน่น เสียงหอบหายใจปนเสมหะยังคงดังมาจากในลำคอ ริมฝีปากเผยอค้างเพื่อสูดอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด หัวใจเต้นรัวแรงเหมือนจะขาดใจแต่ชายชราก็ยังนั่งติดเก้าอี้ไม่ยอมลุกขึ้นตามแรงพยุง
“ท่านปู่...”
“...พากลับ...ไปที่...ห้องนอนที”
เสียงแหบโหยเอ่ยอย่างยากลำบาก ชายชราคว้าไหล่ของลูกศิษย์เอาไว้แน่น เซี่ยอวี่ฮัวกัดฟันก่อนจะตัดสินใจหันไปตะโกนบอกให้ลูกน้องยกเลิกรถพยาบาลที่กำลังจะมาถึงแล้วพยุงร่างผอมบางของอาจารย์กลับไปที่ห้องนอนตามต้องการ
เอ้อร์เย่ว์หงถูกพามานอนที่เตียงของตนเองอีกครั้งโดยที่ชายหนุ่มเอาหมอนหลายใบหนุนหลังไว้เพื่อจัดท่าให้หัวสูง ดวงตาที่ฝ้าฟางมองผืนผ้าม่านรอบตัวอย่างเหม่อลอย
เขาปฏิเสธอย่างชัดเจนทุกครั้งที่ลูกศิษย์คนนี้จะพาไปโรงพยาบาลเพราะเขากลัวว่าจะไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้อีก...กลัวว่าจะไม่ได้จากไปบนเตียงเดียวกับ ‘เธอ’
เซี่ยอวี่ฮัวมองภาพของอาจารย์ที่เคยยกอุ้มเขาได้ตัวลอยนอนจมอยู่บนเตียงแล้วก็ทรุดเข่านั่งลงตรงพื้นด้านข้างก่อนที่เสียงแหบจะดังขึ้นอีกครั้ง
“...อีกไม่นานแล้วจริงๆ”
ชายหนุ่มฟังดังนั้นก็หลับตาลง ก่อนจะเอื้อมปลายนิ้วไปแตะมือเหี่ยวย่นที่ครั้งหนึ่งเคยจับท่าสอนให้ร่ายรำ
“ผมรู้ว่าท่านอยากไปพบเธอแล้ว”
เสียงของคนที่ก้มลงแตะหน้าผากกับหลังมือของเขาสั่นเครือ
“แต่อย่าเพิ่งพูดได้มั้ยครับ...ว่าจะจากไปแล้ว”
เซี่ยอวี่ฮัวไม่ใช่เด็กขี้แย...แต่เพราะคนคนนี้คือสิ่งเดียวที่ยังเชื่อมโยงตัวตนของเขาเอาไว้ในโลกซึ่งผูกพันกันด้วยความรักและปรารถนาดี
เอ้อร์เย่ว์หงหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้คำพูดนั้นเสียดแทงเข้ามากลางอก
‘เสี่ยวเฉิน’ คนที่สอง...ซึ่งเขาได้ทำร้ายอย่างเลือดเย็น
สำหรับโลกใบนี้...หากยังจะมีอะไรเชื่อมโยงตัวตนของเขาเอาไว้อีกก็คือ ‘เสี่ยวเฉิน’ ทั้งสอง
‘เสี่ยวเฉิน’ คนแรก คือ เหยื่อของความเศร้าโศกเสียใจ...สิ่งที่เด็กหนุ่มทำลงไปก็คือการตอบสนองต่อด้านมืดมิดในจิตใจของเขา ทั้งที่อาจจะห้ามได้...หยุดยั้งได้ แต่เขากลับเลือกให้มันเกิดขึ้น แล้วหลอกตัวเองว่าไม่ต้องการโดยไล่เด็กหนุ่มให้ไกลจากสายตา
ส่วน ‘เสี่ยวเฉิน’ คนที่สอง คือ เหยื่อของผลประโยชน์และการแก่งแย่งชิงดี...ตัวแทนที่เขาทิ้งเงาของสกุลสองติดตัวไว้ให้แบกรับทุกสิ่งทุกอย่าง
เอ้อร์เย่ว์หงไม่ใช่คนดี...เขาใช้เด็กทั้งสองเพื่อปลดพันธนาการในหัวใจของตัวเองพร้อมกับฝากบาดแผลร้ายแรงเอาไว้ แต่เพราะรู้สึกผิดมากเกินกว่าที่จะเอ่ยคำขอโทษ สุดท้ายจึงได้แต่ภาวนาให้ทั้งคู่มีความสุขโดยปราศจากภาพเงาของตัวเขา
“ช่อบุปผา งามหยดย้อย”
ชายชราขยับมือขึ้นมาลูบเส้นผมนุ่มลื่นราวกับขนแมวของชายหนุ่ม
“เซี่ยอวี่ฮัว...คือชื่อที่มีความสุข จงมีความสุขทดแทนให้เซี่ยจิ่ว เหลียนหวน และอวี่เฉิน”
และ...อาซื่อ
แม้จะไม่มีสิทธิ์พูดออกไป
...แต่เอ้อร์เย่ว์หงรักเสี่ยวเฉินทั้งคู่ไม่แตกต่างจากลูกไส้เลยจริงๆ
หยดน้ำตาถูกกล้ำกลืนกลับลงไปเพื่อความสบายใจของคนที่รักเขาเป็นคนสุดท้ายในโลกใบนี้ เซี่ยอวี่ฮัวปล่อยให้สัมผัสอบอุ่นลูบไล้ไปมาก่อนที่มือนั้นจะหยุดลงแล้วเลื่อนตกไปด้านข้าง เปลือกตาค่อยๆ ขยับปิดลงช้าๆ พร้อมกับลมหายใจที่ช้าลงทุกที
ชายหนุ่มไม่อยากยอมรับหากก็ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น...มือนั้นจึงถูกคว้าเอาไว้แล้วแตะลงกับหน้าผากเป็นครั้งสุดท้าย
หลับให้สบายนะครับ...ท่านปู่
เอ้อร์เย่ว์หงรอคอยเวลานี้มากว่าครึ่งศตวรรษ...
รูปนกยวนยางคู่ซึ่งถูกสลักไว้บนส่วนทองของชิ้นหยกหินคล้องผ้าม่านสะท้อนกับแสงไฟจนเห็นเป็นประกายวิบวับ ผ้าม่านไหมผืนเก่าปลิวไหวแม้จะไม่มีลมพัดผ่าน
ยัยหนู...เจ้ารอข้านานไหม
จะไม่ต้องเหงาอีกแล้วนะ...
TALK
สวัสดีค่า เวลนะคะ //โค้ง//
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าจริงๆ นี่คือฟิคเดลี่หัวข้อ ‘แดง’ ที่เราดองเอาไว้ ฮา
จริงๆ ในเก้าสกุลเนี่ย ตัวละครที่เราชอบเขียนถึงมากที่สุดก็คือปู่เอ้อร์นี่แหละค่ะ เขียนถึงแล้วสนุกมากในทุกแง่มุม เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มาก //ชูป้ายไฟ// ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณปู่กับยัยหนูมันก็น่ารักมากๆ จนจะกรี๊ด24บางทีก็เกรงใจ (...)
ส่วนอีกอย่างที่เราชอบมากคือความสัมพันธ์แบบศิษย์อาจารย์ เคยเขียนถึงระหว่างปู่เอ้อร์กับซื่ออากงไปแล้ว (ฟิคเดลี่ ‘น้ำตา’) ครั้งนี้เลยขอเขียนในมุมของคุณชายบ้าง เสี่ยวเฉินคนที่สองของปู่เอ้อร์...เราว่ามันคงเป็นทั้งความรักและความรู้สึกผิดเลยล่ะค่ะ ฟีลลิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้นี่มัน...ฮื้อ... //เมนคุณชายที่ทำร้ายคุณชายตลอดเวลา//
สุดท้ายนี้ ดีใจที่ได้เขียนเรื่องนี้ออกมานะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเยี่ยมเยียนเราที่บูธด้วย //เขิล// หวังว่าถูกใจกับปู๋เอ้อร์ ยัยหนูและเสี่ยวเฉินนะคะ
velvetronica- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 100
Points : 3618
Join date : 08/11/2014
Re: [OS] 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’ (เอ้อร์เย่ว์หง,ยัยหนู,เสี่ยวเฉิน)
ไปหยิบฟปป.ไม่ทัน
...ขอบคุณที่เอาลงบอร์ดให้ได้อ่านนะคะ
ปู่เอ้อร์ ; w ; ได้ไปอยู่กับยัยหนูแล้ว...คงจะมีความสุขเพิ่มขึ้นซักนิดซักหน่อยล่ะนะ
คุณชายก็ต้องมีความสุขให้ได้นะ พยายามเข้า...
...ขอบคุณที่เอาลงบอร์ดให้ได้อ่านนะคะ
ปู่เอ้อร์ ; w ; ได้ไปอยู่กับยัยหนูแล้ว...คงจะมีความสุขเพิ่มขึ้นซักนิดซักหน่อยล่ะนะ
คุณชายก็ต้องมีความสุขให้ได้นะ พยายามเข้า...
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3604
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [OS] 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’ (เอ้อร์เย่ว์หง,ยัยหนู,เสี่ยวเฉิน)
เค้าไม่ได้ไป ขอบคุณนะคะ ที่เอามาลงให้ค่า
ปู่หลับให้สบายนะ ได้เจอยัยหนูสักที
ส่วนเสี่ยวฮัว //กอดดดด
ปู่หลับให้สบายนะ ได้เจอยัยหนูสักที
ส่วนเสี่ยวฮัว //กอดดดด
Luckey.B- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 102
Points : 3276
Join date : 20/07/2015
ที่อยู่ : ใต้ถุนบ้านสกุลจาง ใต้ดินบ้านอาสาม
Re: [OS] 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’ (เอ้อร์เย่ว์หง,ยัยหนู,เสี่ยวเฉิน)
มันเศร้า แต่สวยงาม /น้ำตาซึม
ถึงไม่ใช่เมน แต่ชอบอารมณ์แบบนี้
ขอบคุณที่เอามาลงค่ะ
ถึงไม่ใช่เมน แต่ชอบอารมณ์แบบนี้
ขอบคุณที่เอามาลงค่ะ
falenda- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 30
Points : 3197
Join date : 27/07/2015
Age : 29
Re: [OS] 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’ (เอ้อร์เย่ว์หง,ยัยหนู,เสี่ยวเฉิน)
ความงามแห่งเดือนสอง แต่ทำไมเศร้ามากขนาดนี้ปู่เอ้อร์ คิดถึงยัยหนูขนาดนั่นเลยหรือ สงสารคุณชายเก้าจริงๆ แอบชูป้ายไฟ 12อยู่นะคะ หากมีโอกาสรบกวนสักเรื่องนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่นำมาลงให้ได้อ่าน วิ่งไม่ทันจริงๆ
FunnyLee- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 88
Points : 3270
Join date : 12/07/2015
Re: [OS] 「二月红」 ‘สีแดงแห่งเดือนสอง’ (เอ้อร์เย่ว์หง,ยัยหนู,เสี่ยวเฉิน)
ไม่ได้ปัยยย แง
ขอบคุณครับ ผมชอบฟิคคุณเวลมากๆ อารมณ์หน่วงๆ งดงามตราตรึงใจเสมอเลย (ยังร้องไห้ตอนอ่านฟิคบาทหลวงซ้ำเป็นรอบที่ร้อยสามสิบสี่ แง)
สงสารซื่ออากงงงง //นอนกอดปูร้องไห้หน้าประตู ฮรือ
ขอบคุณครับ ผมชอบฟิคคุณเวลมากๆ อารมณ์หน่วงๆ งดงามตราตรึงใจเสมอเลย (ยังร้องไห้ตอนอ่านฟิคบาทหลวงซ้ำเป็นรอบที่ร้อยสามสิบสี่ แง)
สงสารซื่ออากงงงง //นอนกอดปูร้องไห้หน้าประตู ฮรือ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3818
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Similar topics
» [TRANS] เอ้อร์เย่ว์หง
» [OS] #dmbjdaily 'fool' (24 :: เอ้อร์เย่ว์หง,เฉินผีอาซื่อ)
» [Drabble] ร้าว #dmbjdaily (จางฉี่ซาน X เอ้อร์เย่ว์หง )
» [OS] #dmbjdaily 'fool' (24 :: เอ้อร์เย่ว์หง,เฉินผีอาซื่อ)
» [Drabble] ร้าว #dmbjdaily (จางฉี่ซาน X เอ้อร์เย่ว์หง )
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth