Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
+2
darknessdearm
sudarat689
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
[AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม)
ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันมองหน้าไอ้(ห่า)นักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์คนหนึ่งอยู่ แล้วโยนtextเล่มหนึ่งลงบนโต๊ะใส่หน้ามัน รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะสบถด่าแต่ต้องรักษาความเป็นอาจารย์ไว้
“คุณลองไปศึกษาพวกโครงสร้างของตึกมาใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่ต้องจำลองมาให้ผมดู แต่คุณไปขึ้นแบบใน Psมาให้ผมดูแทน ผมให้เวลา 3 วัน ถ้าคุณยังปล่อยปละละเลยงานของคุณผมจะไม่ช่วยคุณอีก”
“ครับ...” มันรับคำแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม มือก็เก็บหนังสือที่ผมโยนให้เมื่อครู่ ยิ้มยียวนก่อนจะจูบแก้มผมเร็วๆหนึ่งที “อาจารย์....”
“ไอ้พานจื่อ!!!” ผมแหกปากลั่นคว้าไม้สเกลใกล้ๆหยิบปาใส่พานจื่อที่รีบวิ่งออกจากห้องพักอาจารย์ไป ห่านี่ จะให้ตบะแตกจนได้สินะ
เชี่ยเหอะ
ขยันสร้างความหงุดหงิดให้คนอื่นเขาซะจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ ผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของสาขาพานจื่อ ตอนเข้ามาใหม่ๆเขาก็ยังทำงานส่งตามปกติ สอบได้ดีด้วยซ้ำเข้าขั้นเรียนดีคนหนึ่งเลย แต่ต่อมาเรื่อยๆความสนิทมีมากขึ้นไง เขาก็กวนตีน หยอกนั่นเย้านี่ไปเรื่อยเปื่อย จนผมรู้ว่าเขาชอบผมนั่นแหละ ในฐานะอาจารย์กับนักศึกษาน่ะผิด แต่นอกมหาลัยไม่ได้ผิดนี่หว่า สรุปคือเขาก็เป็นนักศึกษาในรั้วมหาลัยข้างนอกเป็นแฟนผม
แล้วผมเคยบอกเขาไปแล้วหาสองหนว่าตอนอยู่ในมหาลัยห้ามทำอะไรแบบนี้ พูดหยอกก็ไม่ได้คนอื่นจะมองไม่ดี แต่เขาก็ยังทำ ถึงแม้คนอื่นจะไม่เห็นก็เหอะ ผมเคยโกรธเขาจนไม่อยากคุยด้วย แต่โดนดึงไปจูบจนปากแทบแหลกคาปากมันไง สุดท้ายก็ต้องยอม
แล้วครั้งนี้ก็อีก ไอ้แบบจำลองเนี่ยมันไม่ได้ยากเย็นมากมายเลยเหอะ ส่งมาชุ่ยๆจนต้องแก้สองสามรอบ เรียกมาพบทุกครั้งเขาก็จะหาเศษหาเลย อย่างเขาน่ะเหรอไม่ได้เรื่อง หาเรื่องมาแกล้งมาแหย่ผมมากกว่า ผมถอดแว่นตาออกก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นนั่งลงบนโต๊ะทำงานเตรียมเนื้อหาไปสอนต่อช่วงบ่ายข่มจิตข่มใจที่เต้นผิดจังหวะทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้
ก็ชอบเหมือนกันไง แต่มันทำตลอดเวลาไม่ได้นี่
“โอ๊ะ!...อะ...อ้าวอาสาม มาผมช่วยถือ” ผมที่กำลังเดินออกห้องมาได้สามสี่ก้าวก็เจอหลานชายตัวดีของผมที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำพอดี ดูลุกลี้ลุกรนแปลกๆ รีบไปไหนของมัน
“อย่ามากวนประสาทฉัน แล้วทำไมเสื้อแกถึงหลุดรุ่ยแบบนั้น ทั้งชายเสื้อปกคอเสื้อ” ผมมองเขาที่จับปกคอเสื้อให้เข้าที่เข้าทางอย่างงกๆเงิ่นๆ
“ผมมาเข้าห้องน้ำไง...แล้ว...แล้วเอ่อ..คือผมลืมจัด...” เขาตอบเสียงเบา “ถ้าอาไม่ให้ผมช่วยผมไปแล้วนะ”
“นายจะไปไหน อู๋เสีย”
หลานชายผมที่กำลังจะหันหลังขมวดคิ้วกับเสียงนิ่งๆเสียงหนึ่งที่เรียกเขา หมอนี่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเหมือนกัน แต่มันไม่ได้หลุดรุ่นแบบอู๋เสีย เขาเดินออกมาจากห้องน้ำมายืนใกล้ๆผม
ไอ้เด็กพวกนี้
“อะ...ไป....ไปเรียนไง นายจะไปไหนก็ไปสิ!” เขาตะโกนใส่ไอ้หมอนี่ก่อนจะรีบวิ่งออกไป ผมมองคนข้างๆที่สูงกว่าตัวเองนิดหน่อยกำลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
“...?”
“เป็นเพื่อนหลายชายฉันหรือ?”
“ครับ”
“ฝากบอกเขาด้วย คราวหน้าเรียกอาจารย์ ห้ามเรียกอาสาม แล้วพวกนาย….” ผมชี้หน้าเขา “ห้ามทำอะไรแบบนี้อีก”
“อย่างน้อยก็ห้ามทำในมหาลัย”
ผมว่าเสร็จก็หมุนตัวเดินออกมา ยกนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเลทไปเกือบ5นาทีแล้ว สามชั่วโมงวันนี้กับนักศึกษาปีสาม
“เอ่อ...คุณอู๋คะ คุณช่วยเอาเอกสารไปคืนคุณเซี่ยที่คลาสข้างๆคุณหน่อยได้ไหมคะ พอดีฉันรีบไปจริงๆค่ะ คุณพอจะสะดวกไหมคะ” ผมกำลังจะเดินถึงห้องแล้วกลับเจอเหวินจิ่นกลางทาง เธอดูรีบร้อน ผมลังเลครู่หนึ่งเพราะตอนนี้ผมก็สายมากแล้วเช่นกัน แต่เห็นเธอดูรีบจริงๆจึงรับปากไป
“ได้ครับ”
“อ่า คุณดูของเยอะอยู่แล้วนี่คะ งั้นรอสักครู่นะคะเดี๋ยวฉันไปเรียกนักเรียนในคลาสคุณสักคนมาช่วยถือ”
“ไม่เป็น....” จะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ไม่ทันแล้ว เธอวิ่งไปก่อนผมจะพูดจบซะอีก เธอดูไม่เกรงใจผมเลยแต่กลับไปเรียกให้คนมาช่วยถือแทน ดูท่าธุระครั้งนี้จะสำคัญมากจริงๆ
ยืนรออยู่สักครู่ก็เห็นนักศึกษาชายตัวสูงเดินตรงมาทางผม ไอ้หน้าหล่อๆ นั่นผมจำได้ดี
“กลับเข้าห้องเรียนไป ฉันถือเองได้”
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เลิกคิ้วแล้วแย่งเอาของในมือผมไปหมด “อาจารย์เฉินบอกให้ผมมาช่วย คุณอย่าเรื่องมากเลยน่า” เขาพูดก่อนจะหันหลังเดินไปทันที
“ฉันบอกว่าไม่ต้องมายุ่งไง แล้วคราวหน้าก็อย่าทำแบบในห้องอีก เรียกฉันว่าอาจารย์อย่าเรียกชื่ออื่น” ผมพูดประโยคท้ายเสียงเบา ยอมเดินตามเขาไปเฉยๆ
“ชื่อไหนล่ะ” เขาหยุดเดินจนผมที่เดิมตามเกือบชนหลัง “คุณไม่อยากให้คนอื่นรู้ขนาดนั้นเลยรึไง?”
“ผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรือ” ผมจ้องหน้าเขา “ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น”
“ตอบที่ผมถาม”เขาหันหน้ามาสบตาผมกลับ เป็นผมเองที่ทนสายตาแบบนั้นของเขาไม่ได้
“คุณจะทำผมสายไปมากกว่านี้ รีบเข้าห้องเรียนเถอะ นี่ผมเลทมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว” ผมพูดตัดบทถอนหายใจก่อนจะเดินนำเขาไป พานจื่อเป็นพวกใจร้อน แม่งก็พอพอกันผมน่ะแหละ
-------------------
“วันนี้พอแค่นี้ อย่าลืมไปทวนตรงที่ผมสอนไปวันนี้ด้วย”
ผมพับหนังสือในมือ พยักหน้าให้นักศึกษาที่เดินมาเคารพ เสียงเก้าอี้เลื่อนเสียงดังเพราะนักศึกษากำลังทยอยออกจากห้อง เมื่อเช็คความเรียบร้อยเสร็จก็จะเดินออกจากห้องเรียนกลับบ้าน
“อะ....เชี่ย! ใครวะเนี่ย!”
ในขณะที่กำลังจะเดินออกไปแขนถูกดึงกลับเข้ามาในห้อง ประตูห้องเรียนถูกปิดเสียงดังลั่น ก่อนที่ไหล่กับลำตัวจะถูกกดแนบไปกับประตู ผมตะโกนลั่นใช้หนังสือในมือเตรียมจะฟาดใส่หน้าคนที่ทำแบบนี้แต่เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นทำให้มือหยุดชะงัก
“ตอบที่ผมถามมาก่อนพี่สาม”
“ผมบอกว่าอย่า...อะ นี่!” เขาก้าวประชิดเข้ามาใบหน้าแทบชิดหน้าผม “ทำอะไรของนาย”
เขายิ้มมุมปาก ก่อนที่ผมจะนึกได้ว่าเผลอเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกเขาออกไป ก้มหน้าหลบสายตาแวววาวของเขาที่มองมา “หละ...หลีกไป”
“ลำบากใจนักรึไง ที่ต้องผมเรียกแบบนี้” ผมหันขวับกลับไปจ้องหน้าเขาทันที รู้สึกโมโหขึ้นมา
“เออ! ลำบากใจมาก ถ้านายแม่งเรียกคนอื่นก็จะรู้ ฉันจะเดือนร้อน ฉันถึงไม่อยากให้คนอื่นรู้ไง พอใจรึยังวะ!!” ผมตะโกนใส่หน้าเขา หอบหายใจเพราะเผลอใช้เสียงมากไป รู้สึกแสบที่ตานิดๆ
“คุณทำให้ผมโมโหเองนะ” เขากดเสียงต่ำ ยกมือขึ้นบีบต้นแขนผมแรง เจ็บจนต้องเบ้หน้าหนังสือในมือร่วงหล่นไปที่พื้นจนหมด
“ปล่อยฉัน มันเจ็บ!”
“เจ็บแล้วคิดว่าผมไม่เจ็บรึไงวะ!”
“ฉันบอกนายไปแล้วนี่!!” ผมตะโกนแข่งกับเขา “นายลองกลับไปคิดดูนะว่าเพราะอะไร ฉันเป็นอาจารย์ นายเป็นนักศึกษา ถ้าทำแล้วคนอื่นมาเห็นจะเป็นยังไง!”
“...”
“ตอนอยู่ข้างนอกฉันเคยห้ามนายหรือ….” ผมหันหน้าหนีเขา พูดประโยคเมื่อครู่เสียงแผ่ว รู้สึกแรงบีบที่แขนจะคลายออก
พานจื่อปล่อยแขนผม แล้วจับไหล่เข้ามาก้มหน้าแนบริมฝีปากลงมาเต็มรัก ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาทำให้ผมตกใจจนเผลออ้าปากรับลิ้นที่สอดเข้ามาในปากของผมอย่างรวดเร็ว ทั้งดันทั้งผลักแต่ก็ไม่เป็นผลสุดท้ายก็ยอมโอนยอมอ่อนอยู่ในอ้อมแขนเขา หลังผมกระแทกกับประตูเสียงดังจนกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยินเข้า แต่นั่นไม่ทำให้ไอ้หมาบ้าที่ระดมกดริมฝีปากลงมาที่ปากของผมหยุดได้เลย เขาเอียงหน้าเปลี่ยนมุมหลายรอบเพื่อจะจูบได้ถนัด เสียงจูบของเราดังก้องไปทั่วบริเวณ ผมที่กำลังจะหมดลมหายใจกำเสื้อที่อกเขาแน่นทั้งทุบทั้งหยิก ก่อนที่เขาจะผละใบหน้าออกไป
แฮ่ก แฮ่ก
“ผมขอโทษ” มือเขารั้งเอวผมเข้ไปากอด ริมฝีปากที่ยังคลอเคลียไล่จูบไปตามมุมปาก ใบหน้า ก่อนที่จะเลื่อไปจูบเบาๆที่ข้างแก้ม ผมหอบอย่างเดียวไม่มีแรงจะไปต่อต้านอะไรเขาอีก เงยหน้ามองสบตาเขาที่มีแววเว้าวอนอยู่ในนั้น
“....”
“อือ...” ผมพยักหน้าน้อยๆ พานจื่อก้มลงมาจูบเบาๆที่แก้ม มือเขาที่เริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อ ปกคอถูกแหวกออกนิดหน่อยก่อนที่ริมฝีปากอุ่นร้อนจะเลื่อนลงมาทาบทับ ผมสะดุ้งจนได้สติรีบผลักเขาออก
“ไม่เอา....”
“?”
“ไม่ใช่ที่นี่”
ผมก้มเก็บหนังสือก่อนจะวิ่งออกห้องไปหน้าร้อนแทบไหม้
-----------------------------------------------------------------------------------------
อาสามในคราบอาจารย์มหาลัยกับนักศึกษาหัวใจชื่อพานจื่อ /// คล้องจ้องจนตั้งตั้งชื่อไหมฉัน..
เนื้อหาอาจไม่เกี่ยวกับกาวแปะกระดาษค่ะแต่เป็นเรื่องกา....//แค่กๆๆๆ
ว่าแต่ในคลาสของพานจื่อมีกล้องวงจรปิดไหม......
ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันมองหน้าไอ้(ห่า)นักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์คนหนึ่งอยู่ แล้วโยนtextเล่มหนึ่งลงบนโต๊ะใส่หน้ามัน รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะสบถด่าแต่ต้องรักษาความเป็นอาจารย์ไว้
“คุณลองไปศึกษาพวกโครงสร้างของตึกมาใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่ต้องจำลองมาให้ผมดู แต่คุณไปขึ้นแบบใน Psมาให้ผมดูแทน ผมให้เวลา 3 วัน ถ้าคุณยังปล่อยปละละเลยงานของคุณผมจะไม่ช่วยคุณอีก”
“ครับ...” มันรับคำแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม มือก็เก็บหนังสือที่ผมโยนให้เมื่อครู่ ยิ้มยียวนก่อนจะจูบแก้มผมเร็วๆหนึ่งที “อาจารย์....”
“ไอ้พานจื่อ!!!” ผมแหกปากลั่นคว้าไม้สเกลใกล้ๆหยิบปาใส่พานจื่อที่รีบวิ่งออกจากห้องพักอาจารย์ไป ห่านี่ จะให้ตบะแตกจนได้สินะ
เชี่ยเหอะ
ขยันสร้างความหงุดหงิดให้คนอื่นเขาซะจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ ผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของสาขาพานจื่อ ตอนเข้ามาใหม่ๆเขาก็ยังทำงานส่งตามปกติ สอบได้ดีด้วยซ้ำเข้าขั้นเรียนดีคนหนึ่งเลย แต่ต่อมาเรื่อยๆความสนิทมีมากขึ้นไง เขาก็กวนตีน หยอกนั่นเย้านี่ไปเรื่อยเปื่อย จนผมรู้ว่าเขาชอบผมนั่นแหละ ในฐานะอาจารย์กับนักศึกษาน่ะผิด แต่นอกมหาลัยไม่ได้ผิดนี่หว่า สรุปคือเขาก็เป็นนักศึกษาในรั้วมหาลัยข้างนอกเป็นแฟนผม
แล้วผมเคยบอกเขาไปแล้วหาสองหนว่าตอนอยู่ในมหาลัยห้ามทำอะไรแบบนี้ พูดหยอกก็ไม่ได้คนอื่นจะมองไม่ดี แต่เขาก็ยังทำ ถึงแม้คนอื่นจะไม่เห็นก็เหอะ ผมเคยโกรธเขาจนไม่อยากคุยด้วย แต่โดนดึงไปจูบจนปากแทบแหลกคาปากมันไง สุดท้ายก็ต้องยอม
แล้วครั้งนี้ก็อีก ไอ้แบบจำลองเนี่ยมันไม่ได้ยากเย็นมากมายเลยเหอะ ส่งมาชุ่ยๆจนต้องแก้สองสามรอบ เรียกมาพบทุกครั้งเขาก็จะหาเศษหาเลย อย่างเขาน่ะเหรอไม่ได้เรื่อง หาเรื่องมาแกล้งมาแหย่ผมมากกว่า ผมถอดแว่นตาออกก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นนั่งลงบนโต๊ะทำงานเตรียมเนื้อหาไปสอนต่อช่วงบ่ายข่มจิตข่มใจที่เต้นผิดจังหวะทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้
ก็ชอบเหมือนกันไง แต่มันทำตลอดเวลาไม่ได้นี่
“โอ๊ะ!...อะ...อ้าวอาสาม มาผมช่วยถือ” ผมที่กำลังเดินออกห้องมาได้สามสี่ก้าวก็เจอหลานชายตัวดีของผมที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำพอดี ดูลุกลี้ลุกรนแปลกๆ รีบไปไหนของมัน
“อย่ามากวนประสาทฉัน แล้วทำไมเสื้อแกถึงหลุดรุ่ยแบบนั้น ทั้งชายเสื้อปกคอเสื้อ” ผมมองเขาที่จับปกคอเสื้อให้เข้าที่เข้าทางอย่างงกๆเงิ่นๆ
“ผมมาเข้าห้องน้ำไง...แล้ว...แล้วเอ่อ..คือผมลืมจัด...” เขาตอบเสียงเบา “ถ้าอาไม่ให้ผมช่วยผมไปแล้วนะ”
“นายจะไปไหน อู๋เสีย”
หลานชายผมที่กำลังจะหันหลังขมวดคิ้วกับเสียงนิ่งๆเสียงหนึ่งที่เรียกเขา หมอนี่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเหมือนกัน แต่มันไม่ได้หลุดรุ่นแบบอู๋เสีย เขาเดินออกมาจากห้องน้ำมายืนใกล้ๆผม
ไอ้เด็กพวกนี้
“อะ...ไป....ไปเรียนไง นายจะไปไหนก็ไปสิ!” เขาตะโกนใส่ไอ้หมอนี่ก่อนจะรีบวิ่งออกไป ผมมองคนข้างๆที่สูงกว่าตัวเองนิดหน่อยกำลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
“...?”
“เป็นเพื่อนหลายชายฉันหรือ?”
“ครับ”
“ฝากบอกเขาด้วย คราวหน้าเรียกอาจารย์ ห้ามเรียกอาสาม แล้วพวกนาย….” ผมชี้หน้าเขา “ห้ามทำอะไรแบบนี้อีก”
“อย่างน้อยก็ห้ามทำในมหาลัย”
ผมว่าเสร็จก็หมุนตัวเดินออกมา ยกนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเลทไปเกือบ5นาทีแล้ว สามชั่วโมงวันนี้กับนักศึกษาปีสาม
“เอ่อ...คุณอู๋คะ คุณช่วยเอาเอกสารไปคืนคุณเซี่ยที่คลาสข้างๆคุณหน่อยได้ไหมคะ พอดีฉันรีบไปจริงๆค่ะ คุณพอจะสะดวกไหมคะ” ผมกำลังจะเดินถึงห้องแล้วกลับเจอเหวินจิ่นกลางทาง เธอดูรีบร้อน ผมลังเลครู่หนึ่งเพราะตอนนี้ผมก็สายมากแล้วเช่นกัน แต่เห็นเธอดูรีบจริงๆจึงรับปากไป
“ได้ครับ”
“อ่า คุณดูของเยอะอยู่แล้วนี่คะ งั้นรอสักครู่นะคะเดี๋ยวฉันไปเรียกนักเรียนในคลาสคุณสักคนมาช่วยถือ”
“ไม่เป็น....” จะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ไม่ทันแล้ว เธอวิ่งไปก่อนผมจะพูดจบซะอีก เธอดูไม่เกรงใจผมเลยแต่กลับไปเรียกให้คนมาช่วยถือแทน ดูท่าธุระครั้งนี้จะสำคัญมากจริงๆ
ยืนรออยู่สักครู่ก็เห็นนักศึกษาชายตัวสูงเดินตรงมาทางผม ไอ้หน้าหล่อๆ นั่นผมจำได้ดี
“กลับเข้าห้องเรียนไป ฉันถือเองได้”
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เลิกคิ้วแล้วแย่งเอาของในมือผมไปหมด “อาจารย์เฉินบอกให้ผมมาช่วย คุณอย่าเรื่องมากเลยน่า” เขาพูดก่อนจะหันหลังเดินไปทันที
“ฉันบอกว่าไม่ต้องมายุ่งไง แล้วคราวหน้าก็อย่าทำแบบในห้องอีก เรียกฉันว่าอาจารย์อย่าเรียกชื่ออื่น” ผมพูดประโยคท้ายเสียงเบา ยอมเดินตามเขาไปเฉยๆ
“ชื่อไหนล่ะ” เขาหยุดเดินจนผมที่เดิมตามเกือบชนหลัง “คุณไม่อยากให้คนอื่นรู้ขนาดนั้นเลยรึไง?”
“ผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรือ” ผมจ้องหน้าเขา “ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น”
“ตอบที่ผมถาม”เขาหันหน้ามาสบตาผมกลับ เป็นผมเองที่ทนสายตาแบบนั้นของเขาไม่ได้
“คุณจะทำผมสายไปมากกว่านี้ รีบเข้าห้องเรียนเถอะ นี่ผมเลทมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว” ผมพูดตัดบทถอนหายใจก่อนจะเดินนำเขาไป พานจื่อเป็นพวกใจร้อน แม่งก็พอพอกันผมน่ะแหละ
-------------------
“วันนี้พอแค่นี้ อย่าลืมไปทวนตรงที่ผมสอนไปวันนี้ด้วย”
ผมพับหนังสือในมือ พยักหน้าให้นักศึกษาที่เดินมาเคารพ เสียงเก้าอี้เลื่อนเสียงดังเพราะนักศึกษากำลังทยอยออกจากห้อง เมื่อเช็คความเรียบร้อยเสร็จก็จะเดินออกจากห้องเรียนกลับบ้าน
“อะ....เชี่ย! ใครวะเนี่ย!”
ในขณะที่กำลังจะเดินออกไปแขนถูกดึงกลับเข้ามาในห้อง ประตูห้องเรียนถูกปิดเสียงดังลั่น ก่อนที่ไหล่กับลำตัวจะถูกกดแนบไปกับประตู ผมตะโกนลั่นใช้หนังสือในมือเตรียมจะฟาดใส่หน้าคนที่ทำแบบนี้แต่เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นทำให้มือหยุดชะงัก
“ตอบที่ผมถามมาก่อนพี่สาม”
“ผมบอกว่าอย่า...อะ นี่!” เขาก้าวประชิดเข้ามาใบหน้าแทบชิดหน้าผม “ทำอะไรของนาย”
เขายิ้มมุมปาก ก่อนที่ผมจะนึกได้ว่าเผลอเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกเขาออกไป ก้มหน้าหลบสายตาแวววาวของเขาที่มองมา “หละ...หลีกไป”
“ลำบากใจนักรึไง ที่ต้องผมเรียกแบบนี้” ผมหันขวับกลับไปจ้องหน้าเขาทันที รู้สึกโมโหขึ้นมา
“เออ! ลำบากใจมาก ถ้านายแม่งเรียกคนอื่นก็จะรู้ ฉันจะเดือนร้อน ฉันถึงไม่อยากให้คนอื่นรู้ไง พอใจรึยังวะ!!” ผมตะโกนใส่หน้าเขา หอบหายใจเพราะเผลอใช้เสียงมากไป รู้สึกแสบที่ตานิดๆ
“คุณทำให้ผมโมโหเองนะ” เขากดเสียงต่ำ ยกมือขึ้นบีบต้นแขนผมแรง เจ็บจนต้องเบ้หน้าหนังสือในมือร่วงหล่นไปที่พื้นจนหมด
“ปล่อยฉัน มันเจ็บ!”
“เจ็บแล้วคิดว่าผมไม่เจ็บรึไงวะ!”
“ฉันบอกนายไปแล้วนี่!!” ผมตะโกนแข่งกับเขา “นายลองกลับไปคิดดูนะว่าเพราะอะไร ฉันเป็นอาจารย์ นายเป็นนักศึกษา ถ้าทำแล้วคนอื่นมาเห็นจะเป็นยังไง!”
“...”
“ตอนอยู่ข้างนอกฉันเคยห้ามนายหรือ….” ผมหันหน้าหนีเขา พูดประโยคเมื่อครู่เสียงแผ่ว รู้สึกแรงบีบที่แขนจะคลายออก
พานจื่อปล่อยแขนผม แล้วจับไหล่เข้ามาก้มหน้าแนบริมฝีปากลงมาเต็มรัก ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาทำให้ผมตกใจจนเผลออ้าปากรับลิ้นที่สอดเข้ามาในปากของผมอย่างรวดเร็ว ทั้งดันทั้งผลักแต่ก็ไม่เป็นผลสุดท้ายก็ยอมโอนยอมอ่อนอยู่ในอ้อมแขนเขา หลังผมกระแทกกับประตูเสียงดังจนกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยินเข้า แต่นั่นไม่ทำให้ไอ้หมาบ้าที่ระดมกดริมฝีปากลงมาที่ปากของผมหยุดได้เลย เขาเอียงหน้าเปลี่ยนมุมหลายรอบเพื่อจะจูบได้ถนัด เสียงจูบของเราดังก้องไปทั่วบริเวณ ผมที่กำลังจะหมดลมหายใจกำเสื้อที่อกเขาแน่นทั้งทุบทั้งหยิก ก่อนที่เขาจะผละใบหน้าออกไป
แฮ่ก แฮ่ก
“ผมขอโทษ” มือเขารั้งเอวผมเข้ไปากอด ริมฝีปากที่ยังคลอเคลียไล่จูบไปตามมุมปาก ใบหน้า ก่อนที่จะเลื่อไปจูบเบาๆที่ข้างแก้ม ผมหอบอย่างเดียวไม่มีแรงจะไปต่อต้านอะไรเขาอีก เงยหน้ามองสบตาเขาที่มีแววเว้าวอนอยู่ในนั้น
“....”
“อือ...” ผมพยักหน้าน้อยๆ พานจื่อก้มลงมาจูบเบาๆที่แก้ม มือเขาที่เริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อ ปกคอถูกแหวกออกนิดหน่อยก่อนที่ริมฝีปากอุ่นร้อนจะเลื่อนลงมาทาบทับ ผมสะดุ้งจนได้สติรีบผลักเขาออก
“ไม่เอา....”
“?”
“ไม่ใช่ที่นี่”
ผมก้มเก็บหนังสือก่อนจะวิ่งออกห้องไปหน้าร้อนแทบไหม้
-----------------------------------------------------------------------------------------
อาสามในคราบอาจารย์มหาลัยกับนักศึกษาหัวใจชื่อพานจื่อ /// คล้องจ้องจนตั้งตั้งชื่อไหมฉัน..
เนื้อหาอาจไม่เกี่ยวกับกาวแปะกระดาษค่ะแต่เป็นเรื่องกา....//แค่กๆๆๆ
ว่าแต่ในคลาสของพานจื่อมีกล้องวงจรปิดไหม......
แก้ไขล่าสุดโดย sudarat689 เมื่อ Fri 11 Sep 2015, 15:19, ทั้งหมด 1 ครั้ง (Reason for editing : เพิ่มเติมเนื้อหาและแก้คำพูดนิดหน่อยค่ะ)
Re: [AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
กรี๊ดดดดดดด
พี่พานรุกหนักมาก อาสามซึนมากกกกด้วย //ดีงาม
ส่วนผิงเสียก็…นะ มีอะไรในห้องน้ำมันไม่ดีนะค่ะ ฟฟฟฟฟ
พี่พานรุกหนักมาก อาสามซึนมากกกกด้วย //ดีงาม
ส่วนผิงเสียก็…นะ มีอะไรในห้องน้ำมันไม่ดีนะค่ะ ฟฟฟฟฟ
darknessdearm- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 36
Points : 3225
Join date : 16/07/2015
Age : 25
Re: [AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
วัยกระเตาะรึเปล่าคะ
เขียนเป็นกระเปาะแล้วเรานึกถึงกระเปาะดักแมลงของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง
//เบลอประโยคคิลมู้ดนี้ไปเถอะค่ะ
ชอบพานสามแบบนี้ โอยยยยยย นักศึกษาอยากแดรกอาจารย์
โคหนุ่มจะเคี้ยวหญ้าแก่นี่มันกร๊าวนัก
PS.อู๋เสียนี่มันใช่เหตุการณ์เกี่ยวเนื่องกับเดลี่อู๋เสียเมื่อครั้งกระนู้นรึเปล่า
รึว่าเราเบลอๆมึนๆจับมาโยงมั่วซั่ว
เขียนเป็นกระเปาะแล้วเรานึกถึงกระเปาะดักแมลงของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง
//เบลอประโยคคิลมู้ดนี้ไปเถอะค่ะ
ชอบพานสามแบบนี้ โอยยยยยย นักศึกษาอยากแดรกอาจารย์
โคหนุ่มจะเคี้ยวหญ้าแก่นี่มันกร๊าวนัก
PS.อู๋เสียนี่มันใช่เหตุการณ์เกี่ยวเนื่องกับเดลี่อู๋เสียเมื่อครั้งกระนู้นรึเปล่า
รึว่าเราเบลอๆมึนๆจับมาโยงมั่วซั่ว
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3605
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
ก๊าวววววววววว เฮียพานรุกหนักมากมาย
อาสามค่ะ ตอนสุดท้ายนี้มัน...มันนนนนน "ไม่ใช่ที่นี่" ขวดกาวระเบิดเลยคะ
ปล.นายน้อยวิ่งหนีจางฉี่หลิงทำไมคะ คริๆๆ
อาสามค่ะ ตอนสุดท้ายนี้มัน...มันนนนนน "ไม่ใช่ที่นี่" ขวดกาวระเบิดเลยคะ
ปล.นายน้อยวิ่งหนีจางฉี่หลิงทำไมคะ คริๆๆ
Luckey.B- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 102
Points : 3277
Join date : 20/07/2015
ที่อยู่ : ใต้ถุนบ้านสกุลจาง ใต้ดินบ้านอาสาม
Re: [AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
อาส์ มีผิงเสียด้วย //ผิดประเด็นมั้ยยย
อย่าเรียกชื่ออื่น..ชื่ออื่นคือชื่อไหน แบบที่ว่าเรียกพี่สาม ไม่ได้เรียกอาจารย์น่ะเหรอครับ? (แบบว่าคืนนั้นที่เรา....กันแล้วนายหลุดเรียกพี่สามออกมา อย่ามาเรียกแบบนั้นที่นี่!แต่ที่อื่นได้) แค่กๆ
อย่าเรียกชื่ออื่น..ชื่ออื่นคือชื่อไหน แบบที่ว่าเรียกพี่สาม ไม่ได้เรียกอาจารย์น่ะเหรอครับ? (แบบว่าคืนนั้นที่เรา....กันแล้วนายหลุดเรียกพี่สามออกมา อย่ามาเรียกแบบนั้นที่นี่!
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3819
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
Rozenkreuz พิมพ์ว่า:อาส์ มีผิงเสียด้วย //ผิดประเด็นมั้ยยย
อย่าเรียกชื่ออื่น..ชื่ออื่นคือชื่อไหน แบบที่ว่าเรียกพี่สาม ไม่ได้เรียกอาจารย์น่ะเหรอครับ? (แบบว่าคืนนั้นที่เรา....กันแล้วนายหลุดเรียกพี่สามออกมา อย่ามาเรียกแบบนั้นที่นี่!แต่ที่อื่นได้) แค่กๆ
ไม่ให้เรียกพี่สาม (เพราะคืนนั้นเรียกพี่สามค่ะ //แค่กๆ) ให้เรียกอาจารย์ตอนอยู่ในมหาลัยค่ะ
Re: [AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
The_Dark_Lady พิมพ์ว่า:วัยกระเตาะรึเปล่าคะ
เขียนเป็นกระเปาะแล้วเรานึกถึงกระเปาะดักแมลงของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง
//เบลอประโยคคิลมู้ดนี้ไปเถอะค่ะ
ชอบพานสามแบบนี้ โอยยยยยย นักศึกษาอยากแดรกอาจารย์
โคหนุ่มจะเคี้ยวหญ้าแก่นี่มันกร๊าวนัก
PS.อู๋เสียนี่มันใช่เหตุการณ์เกี่ยวเนื่องกับเดลี่อู๋เสียเมื่อครั้งกระนู้นรึเปล่า
รึว่าเราเบลอๆมึนๆจับมาโยงมั่วซั่ว
ไม่ค่ะ ตั้งใจใช้คำว่ากะเปาะให้มันดูหงิมๆมิ้งๆ เกรียนนๆไปงั้นๆค่ะ5555555555เลยใช้คำว่ากะเปาะ
ส่วนของอู๋เสียไม่เกี่ยวกับตนที่แล้วค่ะ
Re: [AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม) /[edit]
ทีหลังทำรอยทีอื่นแทนนะเสี่ยวเกอนะ
ถถถถ นึกว่าจะห้าม ไม่...ไม่ใช่ที่นี่ อาสามมมมม >.,<
ถถถถ นึกว่าจะห้าม ไม่...ไม่ใช่ที่นี่ อาสามมมมม >.,<
Nlm1122- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 33
Points : 3190
Join date : 07/08/2015
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily 27 days left : Shampoo [/edit]
» [Drabble] #dmbjdaily 26 days left (ลูกเจี๊ยบ) (AU) เจี๊ยบสื่อรัก (ผิงเสีย) **Edit เพิ่มเนื้อหา
» [OS]#dmbjdaily 29 days left : LOCK [พานสาม]
» [Drabble] #dmbjdaily 24 days left: replace (พานสาม)
» [Drabble] #dmbjdaily 22 days left : ดื้อ (พานสาม)
» [Drabble] #dmbjdaily 26 days left (ลูกเจี๊ยบ) (AU) เจี๊ยบสื่อรัก (ผิงเสีย) **Edit เพิ่มเนื้อหา
» [OS]#dmbjdaily 29 days left : LOCK [พานสาม]
» [Drabble] #dmbjdaily 24 days left: replace (พานสาม)
» [Drabble] #dmbjdaily 22 days left : ดื้อ (พานสาม)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth