Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
+7
Rozenkreuz
LivingInSin
seirae
yakusoku
The_Dark_Lady
FunnyLee
roro
11 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี
Note: ไม่ได้เขียนฟิคมานานมากแล้ว ถึงกับรู้สึกว่าคีย์บอร์ดขึ้นสนิม แต่ด้วยนพซซ.แต่งนิยายผจญภัยแมนๆได้สนุก แบบแมนออนแมนมาก ทำให้คันมือยิบจนอดไม่ได้ อ่านแบบไม่เอาสาระนะคะ ไทม์ไลน์ไม่มี
ย้อนกลับไปยังหน้าประวัติศาสตร์เมื่อสองพันปีก่อน ในสมัยราชวงศ์”จิ้น” ยังมีแม่ทัพผู้หาญกล้า กรำศึกมาแล้วสามภพสามชาติ โดยทุกชาติเขาล้วนได้รับฉายานามว่า “จางฉี่ หลิง” ทว่าในชาตินี้เขายังได้ฉายาโดยไม่รู้ตัวว่า “เมิน โหยว ผิง” มีความหมายว่า “นายเรือพ่วง” ซึ่งเป็นฉายาที่คู่หมั้นสามภพสามชาติของเขาตั้งให้ นั่นเพราะ แม้ว่าแม่ทัพหนุ่มจะมีความสามารถมากมายเลื่องลือขจรไกลไปข้ามน้ำข้ามทะเลถึงแดนสุวรรณภูมิ แต่เขากลับไม่มีสกิลในการทำงานบ้านงานเรือนเลยแม้แต่น้อย จึงต้องพึ่งพาอาศัยท่านอ๋องน้อยอู๋เสียแห่งฉางซา หลานชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านอ๋องสามอู๋ซันสิ่งผู้ทรงอิทธิพลในแคว้นทางใต้ และอู๋เสียยังมีศักดิ์เป็นคู่หมั้นของแม่ทัพกิเลนดำ ช่วยดูแลหุงหาข้าวปลาอาหารให้ทุกวัน
แม้ว่าจะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย อ๋องน้อยเทียนเจินอู๋เสีย ก็ไม่เคยใช้บ่าวไพร่สิ้นเปลือง มีเพียงทาสในเรือนเบี้ยนามว่า “หวังเหมิง” ทำงานเยี่ยงเซเว่นอีเลฟเว่น 24 ชม. เป็นคนคอยเก็บกวาดทำความสะอาดห้องหับและทำงานบ้านให้ ส่วนเสื้อผ้าของแม่ทัพจางพิเศษหน่อย เพราะอ๋องน้อยเป็นคนนำไปซักเอง เนื่องเพราะ.....
อู๋เสียได้ตัดสินใจแล้ว จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่า แม่ทัพหนุ่มรูปหล่อ หรือที่คนในตระกูลพากันเรียกว่า “เสี่ยวเกอ” คู่หมั้นของเขาขวัญใจของสาวๆและหนุ่มๆทั้งแผ่นดินนั้น ยามเปลื้องเกราะอกออก คนทั่วไปจะมองเห็นรอยสักรูปกิเลนเขียวสะท้อนบนกล้ามเนื้อได้รูปยามต้องแสงแดดอย่างงดงาม แต่ทว่ายามถอดอาภรณ์ช่วงล่างออก ท่านแม่ทัพกลับชื่นชอบผ้าเตี่ยวปักลายลูกเจี๊ยบตัวอ้วนสีเหลืองสด ที่อ๋องน้อยเป็นคนปักให้กับมือยิ่งนัก
ส่วนแม่ทัพจาง แม้ว่าในใจจริงจะรักและห่วงแหนอ๋องน้อยสามมากเพียงใด แต่ด้วยจรรยาบรรณของ "จาง-ฉี่-หลิง" จึงไม่อาจแสดงอาการดี๊ด๊าออกต่อหน้าธารกำนัล วันๆจึงต้องวางมาดขรึม ไม่พูดไม่จา ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้มุ้งมิ้งที่แท้จริงออกมา เพื่อรักษาชื่อเสียง และภาพพจน์อันลึกลับ ว่าแม่ทัพกิเลนดำนั้นเย็นชาเหมือนชาเย็น เพื่อตอบสนองความต้องการตลาด
วันหนึ่งอ๋องน้อยสาม นำเสื้อผ้าของแม่ทัพจาง ไปซัก อบ รีดที่ริมห้วย ขณะที่อ๋องน้อยกำลังเล่นกับแมวที่อยู่แถวริมน้ำ ด้วยการเลียนแบบหน้าตาท่าทางของเจ้าตัวน้อย ก็มีเสียงๆหนึ่งทักขึ้น
"นั่น อ๋องน้อยใช่ไหม...."
อู๋เสีย อารามตกใจเสียงเรียกจึงทำผ้าที่กำลังซักอยู่ตกลงไปในน้ำ เมื่อหันขวับเตรียมจะไปโวย สายตากลับปะทะกับชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดยาวสีชมพูอ่อน ผมสีดำขลับเป็นประกายรวบไปด้านหลัง ชายผู้นั้นตวัดตัวลงจากหลังม้า กระโดดข้ามโขดหินเตี้ยๆเข้ามาหา ชายหนุ่มกางพัดสีขาวออกดังพั่บ แล้วแนะนำตัวว่า
"ข้า มีนามว่า ชอลิ้ว... เอ้ย เซี่ยอวี่ฮัว ได้เห็นท่านทำหน้าเลียนแบบแมวอยู่ข้างแม่น้ำ ข้ารู้สึกประทับใจยิ่งนัก อยากเชิญไปออกงานวัด เอ้ย ร่วมดื่มสุราที่บ้านข้า”
อ๋องน้อยเจอคนไม่รู้จัก มาตีสนิทขนาดนี้ก็เกิดตื่นตกใจกลัว ออกตัววิ่งหนี แต่ด้วยความที่เป็นนายเอก ยังไม่ทันออกวิ่งก็สะดุดล้ม เป็นลมล้มพับไป
ดีว่าเซี่ยอวี่ฮัวรีบรุดเข้าไปประคองได้ทันท่วงทีก่อนชายหนุ่มจะหัวกระแทกพื้น กลายเป็นผักเสียผู้เสียคน เสียอิมเมจ เขารีบล้วงมือหายาดม นึกได้ว่าให้ไทเฮาฮั่วยืมไป จึงผิวปากเรียกสมุนนามเฮยเสียจื่อมาปรากฏข้างกาย
“องค์ชาย มีอะไรให้ข้าน้อยรับพะยะค่ะ”
"พาอ๋องน้อยอู๋เสียกลับไปกับข้า"
ว่าแล้ว บุรุษสองคน ก็ช่วยกันหามนายน้อย ใส่ในกรงที่สานคล้ายรังนก แล้วแห่เกี้ยวจากไป ชายคาดผ้าปิดตาดำยังไม่ลืมกลบเกลื่อนร่องรอย โดยไม่ทันสังเกตุว่า แม้จะทำลายหลักฐานโดยรอบ แต่ยังมีผ้าผืนน้อยปักลายลูกเจี๊ยบที่อ๋องน้อยพลัดมือทำตก จึงเล็ดลอดสายตา ลอยล่องไปตามน้ำ
ทางด้านจางฉี่หลิง เดินทางพันลี้กลับจากสู้รบที่ยอดเขาฉางไป่ซาน กับกษัตริย์ว่านหนูแห่งแคว้นตงเซี่ย กินเวลาไปกว่าสิบวันสิบคืนสิบชั่วยาม เมื่อกลับมาถึงหอบ้านสกุลจาง พบแต่หวังเหมิงกำลังผ่าฟืน ตักน้ำ รดผัก ถูพื้น ให้อาหารไก่ แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาคู่หมั้นออกมาต้อนรับ อีกทั้งบนโต๊ะอาหารก็ปราศจากสำรับใดๆ ทำให้เกิดอาการน้ำย่อยตีกลับ กระวนกระวายใจ ครั้นนั่งรอผ่านไปสองก้านธูป ท้องฟ้าเริ่มมืดค่ำแล้ว หรือว่าจะเกิดเรื่อง ร่างสูงจึงรีบรุดออกไปตามหา ตามเศษขนมปังที่อ๋องน้อยกินหล่นไว้ตามพื้น ระหว่างเดินทางไปซักผ้า
เมื่อถึงริมห้วย แม่ทัพกิเลนดำก็เห็นผ้าเตี่ยวลายลูกเจี๊ยบอันแสนคุ้นตา กำลังโดนฝูงปลาหื่นกระหายรุมทึ้งอยู่กลางน้ำ ชายหนุ่มดึงดาบสีดำสนิทออกมา ชี้ไปที่ปลาฝูงใหญ่ ไอดาบรัศมีเข่นฆ่ารุนแรง ประกอบกับสายตาอันคมกริบ ถึงขึ้นทำเอาปลาหยุดหายใจ บางตัวถึงกับกระอักเลือดกำเดา บางตัวถึงกับหมดสติจมลงสู่ท้องน้ำ เกิดเป็นคำกล่าวโบราณว่า "มัจฉาจมวารี”
ท่านแม่ทัพเอ่ยเสียงเยียบเย็นถามปลาที่ยังพอได้สติว่า "...คนอยู่ไหน..."
ปลาที่ยังมีสติสัมปชัญญะพากันยกครีบอันสั่นเทา ผายไปยังเส้นทางด้านตะวันตก เสี่ยวเกอเหลือบมอง สายตาอันว่องไวของเขาสามารถมองเห็นแม้เข็มหล่นในระยะพันลี้ เขาพบร่องรอยอะไรบางอย่าง แม้จะมีเพียงเบาบางบนผิวดินทันที
เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหิน ก้มลงสำรวจดินรอบข้าง
"รอยเท้า ....”
ก้าวเดินไปอีกสองก้าว
“ผู้ชาย..สองคน”
ก้มลงตรวจผิวดินและหญ้าบริเวณนั้น
“นี่มัน.. ผงแป้ง ทาคาหน้า” แป้งบี่บี้ที่โด่งดังในหมู่แฟนคลับไชนีสโอเปร่า แม่ทัพรู้ได้ทันทีว่า นี่จะต้องเป็นเครื่องสำอางค์ขององค์ชายเก้าผู้โด่งดังเรื่องการเล่นงิ้ว...
“..ผ้าปิดตาดำ”
... ...
”อู่เสีย"
ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้น ได้องศากับแสงจันทร์ เงาเส้นผมที่ปรกลงมาบัง ขับให้ใบหน้าซีดขาวของเขาดูงดงามราวยมฑูต ดวงตาสีดำสนิทแข็งกร้าวขึ้น สายตาอันดุดันจ้องเขม็งไปยังทิศทางที่คู่หมั้นของเขาถูกลักพาตัวไป ชั่วขณะนั้นสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านท้องทุ่ง จิ้งหล่งจิ้งหรีด เหล่าสรรพสัตว์ต่างๆพากันหยุดร้องในบัดดล
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนลืมขึ้นอย่างช้าๆ อ๋องน้อยสามพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่ ประดับด้วยขนสีชมพูฟูฟ่อง
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ” ชายหนุ่มในชุดชมพูเอ่ยขึ้น เขานั่งอยู่หน้ากระจกหัน แม้จะหันหลังให้อู๋เสีย แต่เขาสามารถเห็นกิริยาท่าทางของร่างบนเตียงได้จากเงาในกระจกอย่างชัดเจน
“ข้า...ที่นี่ที่ไหน” อู๋เสียถามด้วยประโยคยอดฮิต
ชายหนุ่มในชุดชมพูเผยรอยยิ้มบางที่มุมปาก เขาลุกขึ้นและค่อยๆก้าวสามขุมมาที่เตียง อู๋เสียพยายามดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวไว้พลางร่นถอยหนี แต่ก็ถูกชายหนุ่มร่างโปร่งใช้มือทั้งสองจับข้อมือเขา กดลงกับหมอน
“เปี่ยวเกอ...อู๋เสีย ท่านช่างใจร้ายนัก จำข้าไม่ได้เลยหรือ”
เซี่ยอวี่ฮัวตัดพ้อพร้อมกับทอดสายตาอันหวั่นไหวมองคนที่เขาคร่อมอยู่ อู๋เสียได้ยินเข้าก็พยายามครุ่นคิด เขาเคยเจอคนตรงหน้าหรือ แย่ล่ะ หรือจะเป็นเจ้าหนี้เก่า ถึงจะเป็นอ๋องน้อยแต่บางครั้งก็ใช้เงินมือเติบเหมือนกัน ซื้อกระทิงแดงทีเป็นโหลๆ เอ้ะ หรือจะเป็นโจทย์เก่า แต่อันนั้นเสี่ยวเกอก็จัดการเก็บกวาดให้หมดแล้วนี่นา นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก เขาจึงได้แต่สั่นศีรษะช้าๆ
“ข้าไม่รู้จักท่านจริงๆ ท่านเป็นใคร”
ร่างโปร่งกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น ขณะกำลังจะปริปากตอบ พลันก็ได้ยินเสียงเอะอะโครมครามจากด้านนอก
“องค์ชายเก้า เกิดเรื่องแล้วพะยะค่ะ มีผู้บุกรุก!!!” เสียงร้องตะโกนดังขึ้น ก่อนที่ประตูกระดาษจะพังครืนลงมาพร้อมกับร่างของชายชุดดำ แผ่นหลังของเขามีเท้าของคนๆหนึ่งยันไว้อยู่
“ส่งคนมา....” ชายหนุ่มชุดเกราะดำเค้นเสียงเยียบเย็นผ่านริมฝีปากพร้อมกับเหยียบข้ามร่างที่ล้มตรงหน้าเข้ามา
“เมิน...”นายน้อยเกือบหลุดปากด้วยความดีใจ แย่ล่ะ ขืนให้แม่ทัพรู้ว่าเขาตั้งชื่อให้ว่า นายเรือพ่วง เกรงว่าจะกลายสภาพจากอ๋องเป็นบ๊ะจ่างไส้แมวอย่างแน่นอน
เซี่ยอวี่ฮัวยืดตัวขึ้น สายตาจับจ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าอย่างท้าทาย และเหลือบมองไปที่นิ้วกลางกับนิ้วชี้ของร่างสูงที่ยาวเป็นพิเศษ จนได้ฉายาว่า จวกกระชากไส้
“บังอาจมาก แม่ทัพจาง กล้าดียังไง บุกรุกจวนของข้า” องค์ชายเก้าตวาดใส่อย่างวางอำนาจ องค์รักษ์หลายคนวิ่งกรูเข้ามาหากแต่เสี่ยวเกอเพียงชายตามองอย่างดูแคลน พลางแค่นหัวเราะ เขาสะบัดห่อผ้าสีขาวที่หุ้มวัตถุทรงยาวออกไปด้านข้าง เผยให้เห็นดาบสีนิล ออกมาเบื้องหน้า
“ดาบดำอาญาสิทธิ์ ประหารได้แม้เชื้อพระวงศ์” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ พลางส่งเสียงครืดครืดโดยไม่ขยับปาก
เสียงประหลาดนั้น ทำให้องค์ชายเก้าขนลุกซู่ เซี่ยอวี่ฮัวและเหล่าองครักษ์จำใจต้องยอมคุกเข่าลงให้คนตรงหน้า เจ็บใจนัก กระดูกหลังมังกรหรือ ดาบพระราชทาน ว่ากันว่าสามารถยืมกองทัพผีจากยมโลกมาโม่แป้งได้ และสามารถประหารได้แม้เชื้อพระวงศ์ เจื๋อนก่อนค่อยรายงาน
..........
“เสี่ยวเกอ” อ๋องน้อยค่อยๆพยุงตัวหมายจะลุกขึ้น แต่ด้วยความที่เมาเกสรดอกไม้ชาแนลในห้องขององค์ชาย ทำให้เข่าอ่อนปวกเปียกล้มพับลงทันที โชคดีที่ท่านแม่ทัพเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย พุ่งตัวเข้ามาคว้าตัวไว้ทันท่วงที ร่างสูงประคองคู่หมั้นไว้ในอ้อมแขน เอ่ยสั้นๆว่า
“กลับ...”
ว่าแล้วก็ใช้แขนช้อนตัวร่างตรงหน้าขึ้นในท่าอุ้มเจ้าสาว อ๋องน้อยได้แต่มองเซี่ยอวี่ฮัวที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้น สายตาอันหวั่นไหวมองร่างบางในอ้อมกอดแม่ทัพหนุ่มอย่างไม่วางตา ทันใดนั้นอู๋เสียก็พลันนึกได้
“เดี๋ยวนะ นึกออกแล้ว หรือว่าท่านจะเป็นเสี่ยวฮัว แต่เสี่ยวฮัวเป็นองค์หญิงนี่...”
อู่เสียเริ่มระลึกชาติจำญาติฝ่ายพ่อได้ คลับคล้ายคลับคาว่ามีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเชื้อพระวงศ์โปรดปรานการเล่นงิ้วมาก ญาติผู้น้องคนนั้น ที่แท้เป็นผู้ชายหรือนี่ เขาหลงนึกว่าคนๆนั้นเป็นองค์หญิงน้อยมาตลอด องค์ชายเก้าได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผากของกิเลนดำ ชายหนุ่มไม่รั้งรอให้ญาติทั้งสองได้ทำความรู้จักมักจี่กัน รีบสาวเท้าพาอู๋เสียหายลับไปท่ามกลางความมืดยามราตรีทันที
องค์ชายเก้าค่อยๆลุกขึ้น ปัดฝุ่นผงออกจากกางเกง แล้วเอาเท้าเขี่ยร่างที่ยังนอนนิ่งอยู่
“เลิกแกล้งตายได้แล้ว ลุกขึ้นมาช่วยข้าวางแผนดีกว่าว่า จะวางแผนร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำยังไง ถึงจะจัดการเจ้ากิเลนได้ ข้าจะต้องได้ตัวอู๋เสียมาให้ได้”
ชายหนุ่มผู้คาดตาดำหัวเราะแหะๆและค่อยๆลุกยืนขึ้น รอยยิ้มอันน่าสะพรึงก่อขึ้นที่มุมปาก ก่อนจะก้าวเข้าไปกระซิบข้างหูเจ้านายรูปงาม
“เสี่ยวเกอ...วางข้าลงเถอะ” อู๋เสียกล่าวอย่างเขินๆ เมื่อทั้งสองกลับถึงที่พัก และยิ่งหัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อร่างสูงมุ่งตรงไปยังห้องนอนใหญ่ ซึ่งก็คือห้องนอนของแม่ทัพ
“ไม่นะ ข้า ข้ายังไม่พร้อม....” นายน้อยสาม หรืออ๋องน้อยหลับตาปี๋ ร้องโวยวายขึ้น นึกได้ว่ายังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ท่านแม่ทัพ ไม่นะ คืนแรกแท้ๆ รอให้หวังเหมิงเปลี่ยนผ้าปูเป็นผ้าไหมร้อยเปอร์เซนต์ยัดขนห่าน Down 99.99% กันกระแทกก่อนได้ไหม
ยังไม่ทันได้เอ่ยปากแย้ง อู๋เสียพลันรู้สึกว่าฝ่าเท้าสัมผัสเข้ากับพื้นแข็งๆ
“ร้องอะไร หิว...” แม่ทัพจางพูดเรียบๆ มีเสียงท้องร้องโครกครากประกอบ อ๋องน้อยค่อยๆลืมตาขึ้นจึงพบว่าเสี่ยวเกอพาเขาเลี้ยวซ้ายมาทางห้องครัวแทนที่จะตรงไป
“ตะ..แต่ วันนี้ข้ายังไม่ได้จ่ายตลาด” อ๋องน้อยหน้าแดงซ่าน ในใจแอบตัดพ้ออย่างเสียดาย
“ไม่จำเป็น.... ปลาอยู่กับฉัน” ร่างสูงกล่าว
ทันใดนั้น ก็มีปลาสดๆอ้วนพีหลายตัวโดนโยนขึ้นไปบนเขียง อู๋เสียถึงกับสะดุ้งเฮือก
“ปลามาจากไหนนี่” นายน้อยถามอย่างสงสัย
เสี่ยวเกอได้แต่เหลือบหางตามองปลาอย่างเย็นชา
“พวกมันลวนลามลูกเจี๊ยบที่เจ้าปัก สมควรตาย...”
หลังจากนั้นนายน้อยก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง รีบลงมือเข้าครัวทันที เพราะไม่อยากประสบเคราะห์กรรมแบบเดียวกับปลาเหล่านั้น...หากแม่ทัพกระหายหิวจนกิเลนขึ้น รายต่อไปที่จะโดน”กิน”อาจเป็นเขา...
The End
ปุรู: เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพราะอยากเห็นภาพนายน้อยไปซักผ้าริมน้ำเท่านั้น ส่วน "มัจฉาจมวารี" เป็นฉายา "ไซซี" หนึ่งในสี่ยอดหญิงงามแห่งประวัติศาสตร์จีน ว่ากันว่าเมื่อไซซีไปซักผ้าที่ริมน้ำความงดงามของนาง ถึงกับทำให้ปลาลืมว่ายและจมลงสู่ท้องน้ำ
Note: ไม่ได้เขียนฟิคมานานมากแล้ว ถึงกับรู้สึกว่าคีย์บอร์ดขึ้นสนิม แต่ด้วยนพซซ.แต่งนิยายผจญภัยแมนๆได้สนุก แบบแมนออนแมนมาก ทำให้คันมือยิบจนอดไม่ได้ อ่านแบบไม่เอาสาระนะคะ ไทม์ไลน์ไม่มี
ย้อนกลับไปยังหน้าประวัติศาสตร์เมื่อสองพันปีก่อน ในสมัยราชวงศ์”จิ้น” ยังมีแม่ทัพผู้หาญกล้า กรำศึกมาแล้วสามภพสามชาติ โดยทุกชาติเขาล้วนได้รับฉายานามว่า “จางฉี่ หลิง” ทว่าในชาตินี้เขายังได้ฉายาโดยไม่รู้ตัวว่า “เมิน โหยว ผิง” มีความหมายว่า “นายเรือพ่วง” ซึ่งเป็นฉายาที่คู่หมั้นสามภพสามชาติของเขาตั้งให้ นั่นเพราะ แม้ว่าแม่ทัพหนุ่มจะมีความสามารถมากมายเลื่องลือขจรไกลไปข้ามน้ำข้ามทะเลถึงแดนสุวรรณภูมิ แต่เขากลับไม่มีสกิลในการทำงานบ้านงานเรือนเลยแม้แต่น้อย จึงต้องพึ่งพาอาศัยท่านอ๋องน้อยอู๋เสียแห่งฉางซา หลานชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านอ๋องสามอู๋ซันสิ่งผู้ทรงอิทธิพลในแคว้นทางใต้ และอู๋เสียยังมีศักดิ์เป็นคู่หมั้นของแม่ทัพกิเลนดำ ช่วยดูแลหุงหาข้าวปลาอาหารให้ทุกวัน
แม้ว่าจะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย อ๋องน้อยเทียนเจินอู๋เสีย ก็ไม่เคยใช้บ่าวไพร่สิ้นเปลือง มีเพียงทาสในเรือนเบี้ยนามว่า “หวังเหมิง” ทำงานเยี่ยงเซเว่นอีเลฟเว่น 24 ชม. เป็นคนคอยเก็บกวาดทำความสะอาดห้องหับและทำงานบ้านให้ ส่วนเสื้อผ้าของแม่ทัพจางพิเศษหน่อย เพราะอ๋องน้อยเป็นคนนำไปซักเอง เนื่องเพราะ.....
อู๋เสียได้ตัดสินใจแล้ว จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่า แม่ทัพหนุ่มรูปหล่อ หรือที่คนในตระกูลพากันเรียกว่า “เสี่ยวเกอ” คู่หมั้นของเขาขวัญใจของสาวๆและหนุ่มๆทั้งแผ่นดินนั้น ยามเปลื้องเกราะอกออก คนทั่วไปจะมองเห็นรอยสักรูปกิเลนเขียวสะท้อนบนกล้ามเนื้อได้รูปยามต้องแสงแดดอย่างงดงาม แต่ทว่ายามถอดอาภรณ์ช่วงล่างออก ท่านแม่ทัพกลับชื่นชอบผ้าเตี่ยวปักลายลูกเจี๊ยบตัวอ้วนสีเหลืองสด ที่อ๋องน้อยเป็นคนปักให้กับมือยิ่งนัก
ส่วนแม่ทัพจาง แม้ว่าในใจจริงจะรักและห่วงแหนอ๋องน้อยสามมากเพียงใด แต่ด้วยจรรยาบรรณของ "จาง-ฉี่-หลิง" จึงไม่อาจแสดงอาการดี๊ด๊าออกต่อหน้าธารกำนัล วันๆจึงต้องวางมาดขรึม ไม่พูดไม่จา ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้มุ้งมิ้งที่แท้จริงออกมา เพื่อรักษาชื่อเสียง และภาพพจน์อันลึกลับ ว่าแม่ทัพกิเลนดำนั้นเย็นชาเหมือนชาเย็น เพื่อตอบสนองความต้องการตลาด
วันหนึ่งอ๋องน้อยสาม นำเสื้อผ้าของแม่ทัพจาง ไปซัก อบ รีดที่ริมห้วย ขณะที่อ๋องน้อยกำลังเล่นกับแมวที่อยู่แถวริมน้ำ ด้วยการเลียนแบบหน้าตาท่าทางของเจ้าตัวน้อย ก็มีเสียงๆหนึ่งทักขึ้น
"นั่น อ๋องน้อยใช่ไหม...."
อู๋เสีย อารามตกใจเสียงเรียกจึงทำผ้าที่กำลังซักอยู่ตกลงไปในน้ำ เมื่อหันขวับเตรียมจะไปโวย สายตากลับปะทะกับชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดยาวสีชมพูอ่อน ผมสีดำขลับเป็นประกายรวบไปด้านหลัง ชายผู้นั้นตวัดตัวลงจากหลังม้า กระโดดข้ามโขดหินเตี้ยๆเข้ามาหา ชายหนุ่มกางพัดสีขาวออกดังพั่บ แล้วแนะนำตัวว่า
"ข้า มีนามว่า ชอลิ้ว... เอ้ย เซี่ยอวี่ฮัว ได้เห็นท่านทำหน้าเลียนแบบแมวอยู่ข้างแม่น้ำ ข้ารู้สึกประทับใจยิ่งนัก อยากเชิญไปออกงานวัด เอ้ย ร่วมดื่มสุราที่บ้านข้า”
อ๋องน้อยเจอคนไม่รู้จัก มาตีสนิทขนาดนี้ก็เกิดตื่นตกใจกลัว ออกตัววิ่งหนี แต่ด้วยความที่เป็นนายเอก ยังไม่ทันออกวิ่งก็สะดุดล้ม เป็นลมล้มพับไป
ดีว่าเซี่ยอวี่ฮัวรีบรุดเข้าไปประคองได้ทันท่วงทีก่อนชายหนุ่มจะหัวกระแทกพื้น กลายเป็นผักเสียผู้เสียคน เสียอิมเมจ เขารีบล้วงมือหายาดม นึกได้ว่าให้ไทเฮาฮั่วยืมไป จึงผิวปากเรียกสมุนนามเฮยเสียจื่อมาปรากฏข้างกาย
“องค์ชาย มีอะไรให้ข้าน้อยรับพะยะค่ะ”
"พาอ๋องน้อยอู๋เสียกลับไปกับข้า"
ว่าแล้ว บุรุษสองคน ก็ช่วยกันหามนายน้อย ใส่ในกรงที่สานคล้ายรังนก แล้วแห่เกี้ยวจากไป ชายคาดผ้าปิดตาดำยังไม่ลืมกลบเกลื่อนร่องรอย โดยไม่ทันสังเกตุว่า แม้จะทำลายหลักฐานโดยรอบ แต่ยังมีผ้าผืนน้อยปักลายลูกเจี๊ยบที่อ๋องน้อยพลัดมือทำตก จึงเล็ดลอดสายตา ลอยล่องไปตามน้ำ
ทางด้านจางฉี่หลิง เดินทางพันลี้กลับจากสู้รบที่ยอดเขาฉางไป่ซาน กับกษัตริย์ว่านหนูแห่งแคว้นตงเซี่ย กินเวลาไปกว่าสิบวันสิบคืนสิบชั่วยาม เมื่อกลับมาถึงหอบ้านสกุลจาง พบแต่หวังเหมิงกำลังผ่าฟืน ตักน้ำ รดผัก ถูพื้น ให้อาหารไก่ แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาคู่หมั้นออกมาต้อนรับ อีกทั้งบนโต๊ะอาหารก็ปราศจากสำรับใดๆ ทำให้เกิดอาการน้ำย่อยตีกลับ กระวนกระวายใจ ครั้นนั่งรอผ่านไปสองก้านธูป ท้องฟ้าเริ่มมืดค่ำแล้ว หรือว่าจะเกิดเรื่อง ร่างสูงจึงรีบรุดออกไปตามหา ตามเศษขนมปังที่อ๋องน้อยกินหล่นไว้ตามพื้น ระหว่างเดินทางไปซักผ้า
เมื่อถึงริมห้วย แม่ทัพกิเลนดำก็เห็นผ้าเตี่ยวลายลูกเจี๊ยบอันแสนคุ้นตา กำลังโดนฝูงปลาหื่นกระหายรุมทึ้งอยู่กลางน้ำ ชายหนุ่มดึงดาบสีดำสนิทออกมา ชี้ไปที่ปลาฝูงใหญ่ ไอดาบรัศมีเข่นฆ่ารุนแรง ประกอบกับสายตาอันคมกริบ ถึงขึ้นทำเอาปลาหยุดหายใจ บางตัวถึงกับกระอักเลือดกำเดา บางตัวถึงกับหมดสติจมลงสู่ท้องน้ำ เกิดเป็นคำกล่าวโบราณว่า "มัจฉาจมวารี”
ท่านแม่ทัพเอ่ยเสียงเยียบเย็นถามปลาที่ยังพอได้สติว่า "...คนอยู่ไหน..."
ปลาที่ยังมีสติสัมปชัญญะพากันยกครีบอันสั่นเทา ผายไปยังเส้นทางด้านตะวันตก เสี่ยวเกอเหลือบมอง สายตาอันว่องไวของเขาสามารถมองเห็นแม้เข็มหล่นในระยะพันลี้ เขาพบร่องรอยอะไรบางอย่าง แม้จะมีเพียงเบาบางบนผิวดินทันที
เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหิน ก้มลงสำรวจดินรอบข้าง
"รอยเท้า ....”
ก้าวเดินไปอีกสองก้าว
“ผู้ชาย..สองคน”
ก้มลงตรวจผิวดินและหญ้าบริเวณนั้น
“นี่มัน.. ผงแป้ง ทาคาหน้า” แป้งบี่บี้ที่โด่งดังในหมู่แฟนคลับไชนีสโอเปร่า แม่ทัพรู้ได้ทันทีว่า นี่จะต้องเป็นเครื่องสำอางค์ขององค์ชายเก้าผู้โด่งดังเรื่องการเล่นงิ้ว...
“..ผ้าปิดตาดำ”
... ...
”อู่เสีย"
ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้น ได้องศากับแสงจันทร์ เงาเส้นผมที่ปรกลงมาบัง ขับให้ใบหน้าซีดขาวของเขาดูงดงามราวยมฑูต ดวงตาสีดำสนิทแข็งกร้าวขึ้น สายตาอันดุดันจ้องเขม็งไปยังทิศทางที่คู่หมั้นของเขาถูกลักพาตัวไป ชั่วขณะนั้นสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านท้องทุ่ง จิ้งหล่งจิ้งหรีด เหล่าสรรพสัตว์ต่างๆพากันหยุดร้องในบัดดล
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนลืมขึ้นอย่างช้าๆ อ๋องน้อยสามพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่ ประดับด้วยขนสีชมพูฟูฟ่อง
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ” ชายหนุ่มในชุดชมพูเอ่ยขึ้น เขานั่งอยู่หน้ากระจกหัน แม้จะหันหลังให้อู๋เสีย แต่เขาสามารถเห็นกิริยาท่าทางของร่างบนเตียงได้จากเงาในกระจกอย่างชัดเจน
“ข้า...ที่นี่ที่ไหน” อู๋เสียถามด้วยประโยคยอดฮิต
ชายหนุ่มในชุดชมพูเผยรอยยิ้มบางที่มุมปาก เขาลุกขึ้นและค่อยๆก้าวสามขุมมาที่เตียง อู๋เสียพยายามดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวไว้พลางร่นถอยหนี แต่ก็ถูกชายหนุ่มร่างโปร่งใช้มือทั้งสองจับข้อมือเขา กดลงกับหมอน
“เปี่ยวเกอ...อู๋เสีย ท่านช่างใจร้ายนัก จำข้าไม่ได้เลยหรือ”
เซี่ยอวี่ฮัวตัดพ้อพร้อมกับทอดสายตาอันหวั่นไหวมองคนที่เขาคร่อมอยู่ อู๋เสียได้ยินเข้าก็พยายามครุ่นคิด เขาเคยเจอคนตรงหน้าหรือ แย่ล่ะ หรือจะเป็นเจ้าหนี้เก่า ถึงจะเป็นอ๋องน้อยแต่บางครั้งก็ใช้เงินมือเติบเหมือนกัน ซื้อกระทิงแดงทีเป็นโหลๆ เอ้ะ หรือจะเป็นโจทย์เก่า แต่อันนั้นเสี่ยวเกอก็จัดการเก็บกวาดให้หมดแล้วนี่นา นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก เขาจึงได้แต่สั่นศีรษะช้าๆ
“ข้าไม่รู้จักท่านจริงๆ ท่านเป็นใคร”
ร่างโปร่งกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น ขณะกำลังจะปริปากตอบ พลันก็ได้ยินเสียงเอะอะโครมครามจากด้านนอก
“องค์ชายเก้า เกิดเรื่องแล้วพะยะค่ะ มีผู้บุกรุก!!!” เสียงร้องตะโกนดังขึ้น ก่อนที่ประตูกระดาษจะพังครืนลงมาพร้อมกับร่างของชายชุดดำ แผ่นหลังของเขามีเท้าของคนๆหนึ่งยันไว้อยู่
“ส่งคนมา....” ชายหนุ่มชุดเกราะดำเค้นเสียงเยียบเย็นผ่านริมฝีปากพร้อมกับเหยียบข้ามร่างที่ล้มตรงหน้าเข้ามา
“เมิน...”นายน้อยเกือบหลุดปากด้วยความดีใจ แย่ล่ะ ขืนให้แม่ทัพรู้ว่าเขาตั้งชื่อให้ว่า นายเรือพ่วง เกรงว่าจะกลายสภาพจากอ๋องเป็นบ๊ะจ่างไส้แมวอย่างแน่นอน
เซี่ยอวี่ฮัวยืดตัวขึ้น สายตาจับจ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าอย่างท้าทาย และเหลือบมองไปที่นิ้วกลางกับนิ้วชี้ของร่างสูงที่ยาวเป็นพิเศษ จนได้ฉายาว่า จวกกระชากไส้
“บังอาจมาก แม่ทัพจาง กล้าดียังไง บุกรุกจวนของข้า” องค์ชายเก้าตวาดใส่อย่างวางอำนาจ องค์รักษ์หลายคนวิ่งกรูเข้ามาหากแต่เสี่ยวเกอเพียงชายตามองอย่างดูแคลน พลางแค่นหัวเราะ เขาสะบัดห่อผ้าสีขาวที่หุ้มวัตถุทรงยาวออกไปด้านข้าง เผยให้เห็นดาบสีนิล ออกมาเบื้องหน้า
“ดาบดำอาญาสิทธิ์ ประหารได้แม้เชื้อพระวงศ์” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ พลางส่งเสียงครืดครืดโดยไม่ขยับปาก
เสียงประหลาดนั้น ทำให้องค์ชายเก้าขนลุกซู่ เซี่ยอวี่ฮัวและเหล่าองครักษ์จำใจต้องยอมคุกเข่าลงให้คนตรงหน้า เจ็บใจนัก กระดูกหลังมังกรหรือ ดาบพระราชทาน ว่ากันว่าสามารถยืมกองทัพผีจากยมโลกมาโม่แป้งได้ และสามารถประหารได้แม้เชื้อพระวงศ์ เจื๋อนก่อนค่อยรายงาน
..........
“เสี่ยวเกอ” อ๋องน้อยค่อยๆพยุงตัวหมายจะลุกขึ้น แต่ด้วยความที่เมาเกสรดอกไม้ชาแนลในห้องขององค์ชาย ทำให้เข่าอ่อนปวกเปียกล้มพับลงทันที โชคดีที่ท่านแม่ทัพเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย พุ่งตัวเข้ามาคว้าตัวไว้ทันท่วงที ร่างสูงประคองคู่หมั้นไว้ในอ้อมแขน เอ่ยสั้นๆว่า
“กลับ...”
ว่าแล้วก็ใช้แขนช้อนตัวร่างตรงหน้าขึ้นในท่าอุ้มเจ้าสาว อ๋องน้อยได้แต่มองเซี่ยอวี่ฮัวที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้น สายตาอันหวั่นไหวมองร่างบางในอ้อมกอดแม่ทัพหนุ่มอย่างไม่วางตา ทันใดนั้นอู๋เสียก็พลันนึกได้
“เดี๋ยวนะ นึกออกแล้ว หรือว่าท่านจะเป็นเสี่ยวฮัว แต่เสี่ยวฮัวเป็นองค์หญิงนี่...”
อู่เสียเริ่มระลึกชาติจำญาติฝ่ายพ่อได้ คลับคล้ายคลับคาว่ามีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเชื้อพระวงศ์โปรดปรานการเล่นงิ้วมาก ญาติผู้น้องคนนั้น ที่แท้เป็นผู้ชายหรือนี่ เขาหลงนึกว่าคนๆนั้นเป็นองค์หญิงน้อยมาตลอด องค์ชายเก้าได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผากของกิเลนดำ ชายหนุ่มไม่รั้งรอให้ญาติทั้งสองได้ทำความรู้จักมักจี่กัน รีบสาวเท้าพาอู๋เสียหายลับไปท่ามกลางความมืดยามราตรีทันที
องค์ชายเก้าค่อยๆลุกขึ้น ปัดฝุ่นผงออกจากกางเกง แล้วเอาเท้าเขี่ยร่างที่ยังนอนนิ่งอยู่
“เลิกแกล้งตายได้แล้ว ลุกขึ้นมาช่วยข้าวางแผนดีกว่าว่า จะวางแผนร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำยังไง ถึงจะจัดการเจ้ากิเลนได้ ข้าจะต้องได้ตัวอู๋เสียมาให้ได้”
ชายหนุ่มผู้คาดตาดำหัวเราะแหะๆและค่อยๆลุกยืนขึ้น รอยยิ้มอันน่าสะพรึงก่อขึ้นที่มุมปาก ก่อนจะก้าวเข้าไปกระซิบข้างหูเจ้านายรูปงาม
“เสี่ยวเกอ...วางข้าลงเถอะ” อู๋เสียกล่าวอย่างเขินๆ เมื่อทั้งสองกลับถึงที่พัก และยิ่งหัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อร่างสูงมุ่งตรงไปยังห้องนอนใหญ่ ซึ่งก็คือห้องนอนของแม่ทัพ
“ไม่นะ ข้า ข้ายังไม่พร้อม....” นายน้อยสาม หรืออ๋องน้อยหลับตาปี๋ ร้องโวยวายขึ้น นึกได้ว่ายังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ท่านแม่ทัพ ไม่นะ คืนแรกแท้ๆ รอให้หวังเหมิงเปลี่ยนผ้าปูเป็นผ้าไหมร้อยเปอร์เซนต์ยัดขนห่าน Down 99.99% กันกระแทกก่อนได้ไหม
ยังไม่ทันได้เอ่ยปากแย้ง อู๋เสียพลันรู้สึกว่าฝ่าเท้าสัมผัสเข้ากับพื้นแข็งๆ
“ร้องอะไร หิว...” แม่ทัพจางพูดเรียบๆ มีเสียงท้องร้องโครกครากประกอบ อ๋องน้อยค่อยๆลืมตาขึ้นจึงพบว่าเสี่ยวเกอพาเขาเลี้ยวซ้ายมาทางห้องครัวแทนที่จะตรงไป
“ตะ..แต่ วันนี้ข้ายังไม่ได้จ่ายตลาด” อ๋องน้อยหน้าแดงซ่าน ในใจแอบตัดพ้ออย่างเสียดาย
“ไม่จำเป็น.... ปลาอยู่กับฉัน” ร่างสูงกล่าว
ทันใดนั้น ก็มีปลาสดๆอ้วนพีหลายตัวโดนโยนขึ้นไปบนเขียง อู๋เสียถึงกับสะดุ้งเฮือก
“ปลามาจากไหนนี่” นายน้อยถามอย่างสงสัย
เสี่ยวเกอได้แต่เหลือบหางตามองปลาอย่างเย็นชา
“พวกมันลวนลามลูกเจี๊ยบที่เจ้าปัก สมควรตาย...”
หลังจากนั้นนายน้อยก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง รีบลงมือเข้าครัวทันที เพราะไม่อยากประสบเคราะห์กรรมแบบเดียวกับปลาเหล่านั้น...หากแม่ทัพกระหายหิวจนกิเลนขึ้น รายต่อไปที่จะโดน”กิน”อาจเป็นเขา...
The End
ปุรู: เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพราะอยากเห็นภาพนายน้อยไปซักผ้าริมน้ำเท่านั้น ส่วน "มัจฉาจมวารี" เป็นฉายา "ไซซี" หนึ่งในสี่ยอดหญิงงามแห่งประวัติศาสตร์จีน ว่ากันว่าเมื่อไซซีไปซักผ้าที่ริมน้ำความงดงามของนาง ถึงกับทำให้ปลาลืมว่ายและจมลงสู่ท้องน้ำ
roro- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 9
Points : 3441
Join date : 06/11/2014
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
555555555 ชอบผ้าเตี่ยวลายลูกเจี๊ยบจังเลยค่ะ แหม่แม่ทัพจางคะ หวงอ๋องน้อยอะไรขนาดนั้น ถึงปล่อยรังสีอัมหิตจน มัจฉาจมวารีเลยเรอะ
FunnyLee- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 88
Points : 3270
Join date : 12/07/2015
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
เราคิดว่ามันจะเครียดค่ะ...แต่...//กลั้นขำแก้มตุ่ย
จบแล้วใช่ไหมคะ คงไม่มีภาคศึกชิงนางขององค์ชายเก้ากับแม่ทัพจางนะคะ
โธ่...แม่ทัพโมโหหิว 5555 อ๋องน้อยก็คิดซะไกล
แอบอยากเห็นกิเลนกินปลาเบาๆ
PS.แต่ละมุขนี่ลั่นมาก ชอบค่ะ เฮฮาดีจริงๆ
จบแล้วใช่ไหมคะ คงไม่มีภาคศึกชิงนางขององค์ชายเก้ากับแม่ทัพจางนะคะ
โธ่...แม่ทัพโมโหหิว 5555 อ๋องน้อยก็คิดซะไกล
แอบอยากเห็นกิเลนกินปลาเบาๆ
PS.แต่ละมุขนี่ลั่นมาก ชอบค่ะ เฮฮาดีจริงๆ
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3604
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
ได้โปรด TBC ต่อไม่ได้เหรอคะ ได้โปรดเถอะะ อ่านแล้วฮามากค่า
อยากรู้จริงๆว่าแผนการจับนายน้อยของ 2 หนุ่มฮัวเฮยจะเป็นเช่นไร
ป.ล.ขอบคุณสำหรับเกล็ดความรู้จ้า เราเคยเล่นเกมสามก๊ก เกมแนวจีน
อะไรสักอย่างแล้วมีผญสวยมาก มีสกิลมัจฉาจมวารี วันนี้ถึงได้รู้ว่าชื่อ
สาวงามคนนั้นคือ ไซซี นี่เอง
อยากรู้จริงๆว่าแผนการจับนายน้อยของ 2 หนุ่มฮัวเฮยจะเป็นเช่นไร
ป.ล.ขอบคุณสำหรับเกล็ดความรู้จ้า เราเคยเล่นเกมสามก๊ก เกมแนวจีน
อะไรสักอย่างแล้วมีผญสวยมาก มีสกิลมัจฉาจมวารี วันนี้ถึงได้รู้ว่าชื่อ
สาวงามคนนั้นคือ ไซซี นี่เอง
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3800
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
ไม่ไหวแล้วฮะ นั่งขำด้วยความลำบาก 55555
ผงแป้ง ทาคาหน้า << เสี่ยวฮัวทาแป้งหนามากเป็นแน่ ถึงขั้นทิ้งร่องรอยเอาไว้ได้ โถ่คุณชายเก้า
ไหนนายน้อยบอกว่าไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย กระทิงแดงเป็นโหลนั่นอะไรกัน
ขอโทษฮะ ขำ ไม่ไหวแล้ว 555555555
ผงแป้ง ทาคาหน้า << เสี่ยวฮัวทาแป้งหนามากเป็นแน่ ถึงขั้นทิ้งร่องรอยเอาไว้ได้ โถ่คุณชายเก้า
ไหนนายน้อยบอกว่าไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย กระทิงแดงเป็นโหลนั่นอะไรกัน
ขอโทษฮะ ขำ ไม่ไหวแล้ว 555555555
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
สรุปนี่ฟิกเต้ามู่หรือมหาศึกกันแน่คร้าาาา
โอ๊ยยยยย ขำจนกรามค้าง อยากให้มีต่อนะท่าน 555555
โอ๊ยยยยย ขำจนกรามค้าง อยากให้มีต่อนะท่าน 555555
LivingInSin- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 1
Points : 3437
Join date : 31/10/2014
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
โอ้ยยยย //กุมท้อง ฮาจนปวดพุง ถถถ
คิดว่าจะแนวประวัติศาสตร์ เครียดๆ แย่งชิงไหวพริบ 55555555
มัจฉาอ้วนพีช่างอาภัพ ดันไปลวนลามลูกเจี๊ยบบนผ้าเตี่ยวของจางอากง ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
คิดว่าจะแนวประวัติศาสตร์ เครียดๆ แย่งชิงไหวพริบ 55555555
มัจฉาอ้วนพีช่างอาภัพ ดันไปลวนลามลูกเจี๊ยบบนผ้าเตี่ยวของจางอากง ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3818
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
ฮามากค่ะ เขียนได้ขำมาก ๆ ชอบอ่ะ
หวังเหมิงเอ้ยยย ทำงานคุ้มค่ามากกกก เจ้านายหายไปแล้ว เอ็งยังไม่รู้ตัว
ว่าแต่อ๋องน้อยเป็นญาติข้างไหนของฮันเซล เกรเทล ถึงทิ้งเศษขนมปังไว้เป็นเครื่องหมาย แต่ยังดีที่ไม่เอากระทิงวางไว้แทน 5555
อ่านแล้วฟินมาก กับทั้งผิงเสียและฮัวเสีย
แต่ฮาฝุด ๆ กับ มุก ปลาอยูที่ฉัน 555555
หวังเหมิงเอ้ยยย ทำงานคุ้มค่ามากกกก เจ้านายหายไปแล้ว เอ็งยังไม่รู้ตัว
ว่าแต่อ๋องน้อยเป็นญาติข้างไหนของฮันเซล เกรเทล ถึงทิ้งเศษขนมปังไว้เป็นเครื่องหมาย แต่ยังดีที่ไม่เอากระทิงวางไว้แทน 5555
อ่านแล้วฟินมาก กับทั้งผิงเสียและฮัวเสีย
แต่ฮาฝุด ๆ กับ มุก ปลาอยูที่ฉัน 555555
Yuwadee Wana- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 352
Points : 3798
Join date : 27/10/2014
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
ลั่นมากค่ะ
ปลาที่ยังมีสติสัมปชัญญะพากันยกครีบอันสั่นเทา ผายไปยังเส้นทางด้านตะวันตก เสี่ยวเกอเหลือบมอง สายตาอันว่องไวของเขาสามารถมองเห็นแม้เข็มหล่นในระยะพันลี้ เขาพบร่องรอยอะไรบางอย่าง แม้จะมีเพียงเบาบางบนผิวดินทันที
เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหิน ก้มลงสำรวจดินรอบข้าง
"รอยเท้า ....”
ก้าวเดินไปอีกสองก้าว
“ผู้ชาย..สองคน”
ก้มลงตรวจผิวดินและหญ้าบริเวณนั้น
“นี่มัน.. ผงแป้ง ทาคาหน้า” แป้งบี่บี้ที่โด่งดังในหมู่แฟนคลับไชนีสโอเปร่า แม่ทัพรู้ได้ทันทีว่า นี่จะต้องเป็นเครื่องสำอางค์ขององค์ชายเก้าผู้โด่งดังเรื่องการเล่นงิ้ว...
“..ผ้าปิดตาดำ”
... ...
”อู่เสีย"
ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้น ได้องศากับแสงจันทร์ เงาเส้นผมที่ปรกลงมาบัง ขับให้ใบหน้าซีดขาวของเขาดูงดงามราวยมฑูต ดวงตาสีดำสนิทแข็งกร้าวขึ้น สายตาอันดุดันจ้องเขม็งไปยังทิศทางที่คู่หมั้นของเขาถูกลักพาตัวไป ชั่วขณะนั้นสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านท้องทุ่ง จิ้งหล่งจิ้งหรีด เหล่าสรรพสัตว์ต่างๆพากันหยุดร้องในบัดดล
iyok- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 9
Points : 3448
Join date : 28/10/2014
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
55555 มันขำไปหมดตั้งแต่ต้นจนจบ กะเลยไม่รู้ว่าเจ้าเอาส่วนไหนเม้าท์มอยเป็นพิเศษ เอาเป็นว่ามันฮามาก มีต่อใช่มั้ยตัวเอง? นี่มันยังไม่เรียกว่าจบเลยนะ หุหุๆๆๆ เสี่ยวฮัวกับนายแว่นวางแผนไรกัน แล้วห้องหอของเสี่ยวเกอกับอาเสียล่ะ เขียนให้ถึงพิธีแต่งงานเลยสิ เค้าจะรออ่านนะตัวเอง ^^
hnee- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 203
Points : 3644
Join date : 27/10/2014
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
มาดูอีกที ตกใจ มีคนเข้ามาอ่าน 400 แล้วหรือนี่ ขอบคุณปลา เอ้ย ทุกคนที่เข้ามาคอมเมนท์นะคะ คอมเมนท์ครบสิบครั้ง แจกคูปองว่ายน้ำชมผ้าเตี่ยวลายลูกเจี๊ยบ 10 นาทีฟรี! (แต่เตือนก่อนว่า ทั่นอาจกลายเป็นเปลี่ยนจากปลาสดเป็นปลาดิบแทน)
เริ่มเวิ่น 555 ไม่ได้เขียนมานาน ดีใจที่มีคนมาอ่านค่ะ ภาคต่อ? ยังคิดไม่ออก เอาเป็นภาคก่อน อาจเป็นไปได้ค่ะ
เริ่มเวิ่น 555 ไม่ได้เขียนมานาน ดีใจที่มีคนมาอ่านค่ะ ภาคต่อ? ยังคิดไม่ออก เอาเป็นภาคก่อน อาจเป็นไปได้ค่ะ
roro- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 9
Points : 3441
Join date : 06/11/2014
Re: [OS]AU: Drowning Fish มัจฉาจมวารี (ผิงเสีย ฮัวเสีย)
ลั่นมากค่ะ//เเอบอ่านในคาบ โอ๊ย! ยิ้มไม่หยุดเลย
ถ้ามีต่อกรุณาเเท็กด้วยค่ะ(แท็กได้!?)555+
ถ้ามีต่อกรุณาเเท็กด้วยค่ะ(แท็กได้!?)555+
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3931
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Similar topics
» [Fic] คืนที่สองของพวกเรา [ผิงเสีย] [ฮัวเสีย]
» [Fic] คืนที่สามของฉันกับนาย [ผิงเสีย] [ฮัวเสีย]
» [OS] คืนข้ามปี [ผิงเสีย / ฮัวเสีย]
» [SF] Once upon a time : Always look at you *AU* [ฮัวเสีย/ผิงเสีย]
» [OS] #DMBJdaily (ชุดกะลาสี): How to battle between stuffy bottle and beautiful flower [ผิงเสีย, ฮัวเสีย]
» [Fic] คืนที่สามของฉันกับนาย [ผิงเสีย] [ฮัวเสีย]
» [OS] คืนข้ามปี [ผิงเสีย / ฮัวเสีย]
» [SF] Once upon a time : Always look at you *AU* [ฮัวเสีย/ผิงเสีย]
» [OS] #DMBJdaily (ชุดกะลาสี): How to battle between stuffy bottle and beautiful flower [ผิงเสีย, ฮัวเสีย]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth