Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

+4
Yuwadee Wana
falenda
Starsong
sinnerdarker
8 posters

Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Wed 29 Jul 2015, 00:09

บันทึกของเสี่ยวหลิง

-------ที่มา-------

[OS] The Last Moment [ผิงเสีย] [R18] *สปอยเล่มสิบ*

[OS] ของยึดเหนี่ยวอันไม่จีรัง [ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ*

-------------เรื่องหลัก-----------

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (1) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (2) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] พี่ชายที่ไม่ยอมบอกชื่อ ~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (3) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง [Imply ผิงเสีย] (3.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] #dmbjdaily (บุหรี่) เลิกได้ไหม? [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (7) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  | บทคั่น : Black Space - I  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (Cool *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*


----------ตอนพิเศษ--------------



[OS] #dmbjdaily (ป่วย) ความลับเวลาไม่สบาย [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] เรื่องของปู่ทวด [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[OS] #dmbjdaily (ประถม) แปดชั่วโมงที่ห่างกัน [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] #dmbjdaily (พ่อ) บันทึกของเสี่ยวหลิง : รักอันไร้เงื่อนไข [เซี่ยอวี่ฮัว + ?? /Implied ฮัวเฮย or เฮยฮัว]

[OS] #dmbjdaily (เก้า) การรวมตัวที่ไม่รู้จุดประสงค์ [~~~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special ~~~] [All Character]

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) หน้าที่ของพี่ชาย [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา + เสี่ยวหลิง]

[Drabble] #dmbjdaily (น้องชาย) สิทธิ์ของคนเป็นน้อง [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา+เสี่ยวหลิง]

[Drabble] ~ว่าด้วยภาคซาไห่กับทรงผมใหม่ของอู๋เสีย~ [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[Drabble] ในวันที่อากาศหนาว [บันทึกของเสี่ยวหลิง]


-----ตอนพิเศษหลังเจอเสี่ยวเกอ---------


[Drabble]~ครอบครัวสุขสันต์หลังเราพบกันที่ฉางไป๋ซาน~[บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย/เฮยฮัว]

[Drabble] #dmbjdaily (สำริด) ตลกหลายฉากของสองหนุ่มแห่งต้นสำริด [บันทึกของเสี่ยวหลิง+เหล่าหยาง]

[OS] #dmbjdaily (ทวินเทล) สาเหตุที่ยอมลงให้ [บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ / 10 Years Laters* [อัพเดท : FA by Zerin]


+++++++++++++++++++++++



(9)


วันนั้นเป็นเช้าที่เหมือนกันทุกวัน

เตี่ยตื่นขึ้นมาจัดการตัวเองก่อนผม ซักพักใหญ่จึงจะกลับมาปลุกผมให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว จากนั้น เราก็นั่งโต๊ะทานข้าวด้วยกัน จัดของเรียบร้อยก็ออกจากบ้านไปพร้อมกัน ทุกครั้ง ผมจะไปนั่งเล่นที่ร้านของเตี่ยก่อน แล้วพอใกล้เวลาเข้าเรียน เราถึงจะเดินไปโรงเรียนด้วยกัน

พอเลิกเรียนแล้ว เตี่ยก็จะมารับผมที่โรงเรียน บางครั้งก็เป็นอาหวังเหมิง จากนั้นเราก็จะไปที่ร้าน ผมมักจะนั่งเล่นอยู่ในนั้น อ่านหนังสือรอเตี่ยทำงาน พอดึกหน่อยเตี่ยปิดร้าน แล้วเราก็แยกย้ายกลับบ้าน พอกลับมาถึงผมกับเตี่ยก็กลับก็อาบน้ำ กินข้าว วัดส่วนสูงที่เสาต้นประจำ และเข้านอนด้วยกัน

นั่นเป็นกิจวัตรประจำวันของผมและเตี่ย

ทว่าวันนี้ เย็นย่ำจนโรงเรียนร้างผู้คน เตี่ยกลับยังไม่มา

ตอนแรก ผมยังไม่แปลกใจ เพราะเตี่ยมักจะติดงานจนมารับผมช้า บางครั้งก็ต้องให้อาหวังเหมิงรีบวิ่งมารับผม แต่คราวนี้ จนพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว กลับยังไม่มีวี่แววของทั้งเตี่ยและอาหวังเหมิง ทำให้ผมเริ่มเป็นกังวล

ถึงงานจะหนักจนปลีกตัวไม่ได้ เตี่ยก็ไม่เคยมารับผมช้าขนาดนี้

ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา โรงเรียนเวลาไม่มีคนน่ากลัวมาก วันนี้หลี่กวงเองต้องรีบกลับไปช่วยแม่จึงไม่ได้อยู่รอกับผม และเพราะผมเองกลับบ้านเย็นเป็นประจำจึงไม่ได้ขอให้ครูอยู่เป็นเพื่อน นอกจากนี้ผมยังกลัวว่าอาหวังเหมิงกับเตี่ยอาจจะเป็นอะไรระหว่างทาง เช่นเกิดอุบติเหตุระหว่างที่มารับผม หรือเกิดอะไรที่ทำให้พวกเขามารับผมไม่ได้

พอคิดแบบนั้น ผมก็เริ่มร้อนใจ นั่งไม่ติดที่ แต่ในระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะเดินออกไปจากรั้วโรงเรียนเองดีหรือเปล่า ก็ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากหน้าประตู

“คุรหนูซานหลิง!”

ผมสะดุ้งแล้วหันไปมองต้นเสียง ก็เจออาหวังเหมิงยืนอยู่ตรงนั้น หายใจหนักเหมือนเพิ่งจะวิ่งมา

“อาหวังเหมิง” ผมเรียกชื่อเขา ถอนหายใจโล่งอก โดลงจากชิงช้าแล้วรีบวิ่งไปหา เงยหน้ามองเขาแล้วถามเสียงหอบ “วันนี้ มาช้าจัง”

อาห;yงเหมิงกะพริบตาใส่ผม เกาหลังคอแล้วหัวเราะแห้งๆ “เอ่อ..ติดงานนิดหน่อยน่ะครับคุณหนูซานหลิง เรากลับบ้านกันเถอะ”

อาหวังเหมิงบอกแล้วยื่นมือให้ผมจูง ผมมองมืออาแล้วเงยมองหน้าเขา รู้สึกว่าในดวงตามีความร้อนรนบางอย่าง ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้น จึงถามออกไป

“อาหวังเหมิง..แล้วเตี่ยล่ะ”

อาหวังเหมิงสะดุ้ง มือที่กุมผมไว้เหมือนจะชะงักเกร็งไปครู่หนึ่ง

เขาเงียบไปเหมือนกับคิดอะไรอยู่ ก่อนจะก้มหน้าลงมองผม ฉีกยิ้มกว้าง แล้วว่าขึ้น “เอ่อ คือ เจ้านายไม่อยู่น่ะครับคุณหนูซานหลิง แล้วก็..แล้วก็…เอ้อ….เจ้านายเลย……เลยให้คุณหนูไปอยู่บ้านใหญ่ก่อนน่ะครับ!”

“ทำไมไม่ให้รอที่ร้านล่ะ อาหวังเหมิง”

“ฮื้อ!” อาหวังเหมืงส่ายหัวพรืด “คุณหนูซานหลิงไปรอเจ้านายที่บ้านใหญ่”

“แต่…”

“รีบไปบ้านใหญ่กันเถอะครับ!” อาหวังเหมิงตัดบบทแล้วลากผมให้เดินไปด้วย อาหวังเหมิงเดินเร็วมากเหมือนกับกำลังรีบร้อน ทำเอาผมวิ่งตามแทบไม่ทัน ต้องร้องขอให้เขาวิ่งช้าลง และเพราะผมไม่เข้าใจอะไรหลายอย่างจึงถามอาหวังเหมิงเพิ่มไป อาหวังเหมิงพูดจาวกวน เกือบจะไม่รู้เอง แต่สรุปแล้วก็คือ เตี่ยทำงานอยู่โยงจนไม่ว่างมารับผม และอาจจะต้องอยู่ดึกมากๆ ให้รอที่ร้านจนมืดไม่ได้เพราะอาหวังเหมิงเองก็ต้องกลับบ้าน ดังั้น จึงให้อาหวังเหมิงพาผมไปหาปู่ใหญ่ เล่นอยู่ที่บ้านนั้นรอให้เตี่ยไปรับ

พอไปถึง ปู่ใหญ่กับย่าใหญ่ก็ดูจะแปลใจที่ผมมาที่บ้านของพวกเขา ปกติแล้วผมมักจะมาที่บ้านใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ และมักจะมาพร้อมกับเตี่ย แต่คราวีน้ ผมมากับอาหวังเหมิง ทำให้ทั้งสองคนตกใจไม่น้อย

อาหวังเหมิงบอกว่าเตี่ยติดธุระบางอย่างทำให้ไปรับผมที่โรงเรียนไม่ได้ และให้มาฝากกับปู่ใหญ่ อาหวังเหมิงพูดรัวเร็วจนปู่ใหญ่ฟังไม่ทัน พอเขารีบกลับไป ผมถึงต้องเล่าให้ปู่ใหญ่ฟังอีกที

ปู่ใหญ่ถอนหายใจ บอกว่าเตี่ยนี่ยังไง ถึงได้ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว แต่มาที่บ้านก็ดี เพราะปู่ใหฐ่กับย่าใหญ่ก็กำลังคิดถึงผมเหมือนกัน

ผมมองไปรอบบ้าน รู้สึกว่าแปลกที่อย่างไรบอกไม่ถูก อาจจะเพราะปกติผมมาที่บ้านใหญ่แค่ช่วงกลางวันถึงเย็ฯ แต่คราวนี้กลับมาตอนดึก ก็เลยทำให้แปลกตาไปนิดหน่อย

ปู่ใหญ่ปล่อยผมลงในห้องนั่งเล่น ในนั้นมีสุนัขตัวโตสีขาวนอนอยู่ ผมเบิกตาเล็กๆแล้วเข้าไปเล่นกับเสี่ยไป๋ ตอนนี้ผมไม่กลัวเจ้าหมาจนฟูตัวโตแล้ว ค่อนข้างจะชอบมากๆ เสียด้วย ผมจำชื่อพันธุ์ของมันไม่ได้ แต่เหมือนชื่อจะสอดคล้องกับสถานที่ถิ่นกำเนิดของมัน และความจริงเป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างดุร้าย แต่เสี่ยไป๋ตัวนี้ ใจดีมากจริงๆ

“เสี่ยไป๋” ผมร้องเรียกชื่อของมัน จากนั้นเสี่ยไป๋ก็หูกระดิก โงหัวขึ้นจ้องผมตาแป๋ว รี่วิ่งมาหา กระโจนใส่จนผมล้มโครมแล้วเลียหน้าเลียตา

ผมนั่งเล่นกับเสี่ยไป๋ซักพัก ย่าใหญ่ก็พาผมไปอาบน้ำแต่งตัว ดูเหมือนจะยังมีเสื้อผ้าเก่าๆ ของเตี่ยที่สภาพดีเก็บไว้ ย่าใหญ่เลยเอามาให้ผมใส่ บอกว่าให้ใส่ชั่วคราวก่อนจนกว่าเตี่ยจะมารับ ชุดเก่าขอเตี่ยเป็นชุดเด็กแบบจีน แบบออกจะโบราณ แต่พอใส่แล้ว ผมกลับคิดว่ามันก็ดูเข้าดี

อาจจะเพราะเห็นว่าผมชอบ ย่าใหญ่จึงบอกว่าให้เอาชุดนี้ไปได้ เพราะถึงเก็บไว้ก็ไม่ได้ทำอะไร

พอแต่งตัวเสร็จ ย่าใหญ่ก็อุ้มผมไปกินข้าว โชคดีที่ไม่ได้นั่งข้างปู่รอง แต่ถึงยังไงพออยู่ร่วมโต๊ะเดียวกัน ผมก็รู้สึกเกร็งอยู่ดี

และทั้งที่กินข้าวจนเสร็จแล้ว และดึกมาพอสมควรแล้ว เตี่ยก็ยังไม่มารับผม

“งานคงจะหนักจริงๆ ล่ะมั้ง เสี่ยวหลิง อย่ากังวลเลย” ปู่ใหญ่ที่เห็นผมซึมไปปลอบผม ยกผมขึ้นมาอุ้มแล้วเขย่าเบาๆ ลูบแผ่นหลังผม ส่วนผมได้แต่ซุกหน้ากับไหล่ปู่ใหญ่ เศร้าซึมอย่างบอกไม่ถูก

ปู่ใหญ่ไพาผมไปที่ห้องทำงาน  หยิบหนังสือที่อ่านง่ายออกมาให้ผมอ่านเล่น บอกว่านี่เป็นเล่มต่อของหนังืสอที่ผมยืมไป ผมจำได้ว่าตัวเองชอบเรื่องนี้มา แต่ตอนนี้กลับอ่านไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย ในใจวนเวียนกังวลถึงแต่เรื่องเตี่ย กลัวว่าเตี่ยจะเป็นอะไรไประหว่างทาง กลัวว่าเตี่ยจะไปทำอะไรอันตรายจนไม่ได้กลับบ้าน ผมกลัวมากจนเงียบลงกว่าปกติ ปู่ใหญ่เองคงสังเกตได้ จึงปิดหนังสือที่กางให้ผมอ่าน รวบผมมากอดไว้ ฮัมเพลงแล้วลูบหลังเบาๆ บอกว่าไม่เป็นไร

ผมดึงเสื้อปู่ใหญ่ไว้ ซุกลงกับไหล่ของเขา รู้สึกว่าหายใจไม่ทั่วท้อง กังวลอย่างบอกไม่ถูก

เวลาผ่านไปซักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกงัวเงีย

ปู่ใหญ่บอกว่าให้ผมนอนเสีย เพราะถึงเวลานอนของผมแล้ว แต่ผมส่ายหัว อยากจะอยู่รอเตี่ยกลับมา

“ไม่ต้องตื่นรอเตี่ยเขาหรอกลูก เดี๋ยวเตี่ยมาคงอุ้มกลับเอง นอนเถอะ ไม่ต้องฝืนนะเสี่ยวหลิง”

ปู่ใหญ่บอกพลางยิ้มให้ผม ดังนั้นผมจึงพยักหน้าให้

ปู่ใหญ่หอมแก้มผมทีหนึ่ง ลูบแผ่นหลังของผมแล้วฮัมเพลงกล่อม โคลงตัวผมไปมา ดวงตาของผมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ก็หลับไป

หลังจากนั้น..ไม่รู้ว่าฝันหรือจริง ผมก็คล้ายรู้สึกว่าเตี่ยมาที่บ้านใหญ่ รีบวิ่งตึงตังเข้ามา และหยุดฝีเท้าตอนที่เห็นว่าผมหลับอยู่

เตี่ยลูบหัวผมที่หลับไปแล้ว พูดคุยกับปู่ใหญ่แล้วขอโทษขอโพยที่ไม่ได้มาบอกเองว่าจะมาฝากผมไว้ ดูเหมือนปู่ใหญ่จะเอ็ดไปว่าวันหลังอย่าทำเช่นนี้ และเตี่ยก็รับคำ

เตี่ยอุ้มผมขึ้น จูบแก้มเบาๆ พึมพำบอกผมเสียงเบาว่า ‘กลับบ้านกัน’  

เหมือนผมจะครางรับไปทั้งที่ยังหลับอยู่ จากนั้นเตี่ยก็หัวเราะ และก็พาผมกลับไปทั้งๆ อย่างนั้น

.

.

แต่ตอนที่ตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย  และข้างๆ มีเสี่ยไป๋ขดนอนอยู่ ผมก็รู้ตัวในทันทีว่ามันเป็นเพียงความฝัน

และแม้หนึ่งคืนผ่านไป เตี่ยก็ยังไม่มา

ไม่มารับผมกลับบ้าน



++++++++++++++++++++++++



เช้าวันนั้น ผมไปโรงเรียนจากบ้านใหญ่ ได้ย่าใหญ่ช่วยพาไปส่งจนทันเวลา

ดูเหมือนว่าปู่ใหญ่จะรอทั้งคืน แต่เตี่ยก็ยังไม่มา จนดึกมากจริงๆ ปู่ใหญ่จึงไปนอน และแม้จะเป็นตอนเช้า เตี่ยก็ยังไม่มารับผม ..ไม่มีวี่แววว่ามา

“เตี่ยคงติดธุระจริงๆ ไม่เป็นไรนะลูก…” ย่าใหญ่ปลอบผมเสียงเบา ลูบหน้าลูบตา ผมได้แต่พยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไร

ไม่ได้ร้องไห้

ตั้งแต่เช้ามา ผมยังไม่ยอมพูดอะไร แต่ไม่ได้ร้องไห้ที่ไม่เห็นเตี่ย

ผมแค่รู้สึกโหวง..รู้สึกแปลกใจ

วันนั้นทั้งวัน ผมเหม่อลอยจนถูกหลี่กวงทัก เขาบอกว่าผมเหมือนวิญญาณหลุด และถามว่าเป็นอะไร

ผมส่ายหน้าเป็นบอกเขาไป ไม่ได้เปิดปากพูดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลี่กวงดูเหมือนจะไม่เชื่อ เขาว่าปกติผมก็เงียบจะแย่แล้ว วันนี้กลับเงียบผิดปกติ แทบไม่เปิดปากพูดซักคำ ให้บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ผมก็ยังส่ายหัว ไม่พูดไม่จา

ผมไม่มีแรงพูด ไม่อยากพูด สิ่งที่หลี่กวงพูดมา บางคำไม่เข้าหูผม ฟังไม่เข้าใจ

วันนั้นทั้งวัน นอกจากหลี่กวงแล้วคุยกับใครไปบ้าง เรียนอะไรไปบ้าง ผมจำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย รู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลาเลิกเรียน และผมก็นั่งอยู่บนชิงช้า รอเตี่ยมารับเหมือนทุกวัน

ผมมองออกไปข้างหน้า โล้ชิงช้าเบาๆ ในหัวใจ คล้ายมีก้อนถ่วงหนักอยู่ข้างใน

เวลาผ่านไป ผ่านไป ผ่านไป กระทั่งเสียงเงียบลง  กระทั่งหลี่กวงที่นั่งเงียบๆ ข้างผมกลับบ้าน กระทั่งโรงเรียนร้างผู้คน กระทั่งท้องฟ้าใกล้จะมืดสนิท

เตี่ยก็ยังไม่มา

ภายในหัวใจผม มีบางสิ่งที่ตีวน ม้วนตัวขึ้นมา

ผมอธิบายความรู้สึกนั้นไม่ถูก แต่ผมไม่มีแรง ในห้วงความคิด มีคำคำหนึ่งวนซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด

วันนี้เตี่ยก็จะยังไม่มารับเหรอ?

ยิ่งคิด ผมก็ยิ่งรู้สึกซึม รู้สึกว่ามีอะไรแล่นขึ้นมาจุกคอ พิงหัวกับชิงช้าที่ตนโล้อยู่เบาๆ แล้วจากนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกดังจากหน้าประตู

“เสี่ยวหลิง”

ผมเบิกตากว้าง หัวใจพองโต รีบเงยหน้าขึ้น เรียกชื่ออกไป “เตี่---“

..แต่ที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่เตี่ย

เป็นปู่ใหญ่

ผมนิ่งไป หัวใจที่พองคับอกเหี่ยวย่นลงในพริบตา ผมยังคงนั่งอยู่บนชิงช้า ในขณะที่ปู่ใหญ่วิ่งมาหา นั่งลงยองๆ เงยหน้ามอง และบีบมือไว้เบาๆ

“รอนานไหม?”

ผมส่ายหน้าไป

ปู่ใหญ่ลูบหัวผม บอกว่าวันนี้ก็คงต้องอยู่กับปู่ใหญ่อีกคืน เพราะเตี่ยยังทำงานไม่เสร็จ ถามว่าผมอยู่กับปู่ใหญ่ได้ ไม่เป็นไรใช่ไหม?

ผมพยักหน้ารับไป

ปู่ใหญ่เห็นผมไม่ร้องไห้ก็แปลกใจ จากนั้นก็ยิ้ม ชมว่าเข้มแข็งและเก่งมากๆ แล้วก็อุ้มผมขึ้น พากลับบ้านใหญ่

ที่บ้านใหญ่ ทุกคนผลัดกันมาเล่นกับผม แต่ไม่รู้ทำไม ผมกลับไม่รู้สึกสนุกเลย

ผมอยากอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องไปเรียน แต่ว่าเช้ามาผมก็ไปโรงเรียน และเวลาก็ผ่านไปโดยที่ผมจำอะไรไม่ได้

รู้สึกตัวอีกที เวลาก็ผ่านไปถึงสามวัน

และเตี่ยก็ยังไม่มารับผมกลับบ้าน




+++++++++++++++++++





วันนี้หลังเลิกเรียน ผมก็ยังคงนั่งรอเตี่ยอยู่ที่ชิงช้า เหมือนกับทุกครั้ง

สามวันแล้วที่ผมไปค้างบ้านปู่ใหญ่ ทุกคนในบ้านใจดีมาก เวลากินข้าวก็ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม ผมก็ไม่รู้สึกมีความสุขเลย รู้สึกแย่ตลอดเวลา..ไม่อยากทำอะไร

ทั้งที่ปกติแล้ว ผมก็มักจะอยู่เฉยๆ ก็ยังไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้

วันนี้ แม้จะจำอะไรมากไม่ได้ ก็ดูเหมือนหลี่กวงจะไม่ได้เข้ามาคุยกับผม คงเพราะสองวันมานี้ผมไม่ยอมตอบอะไรเขา เอาแต่นั่งเหม่อลอย เจ้าตัวเลยเบื่อจะคุยกับผม แล้วก็เลิกเข้ามาคุยไปเอง

พอนึกได้ ผมก็กังวลใจขึ้นมา ผมมีเพื่อนสนิทคนเดียว เขาจะเลิกเป็นเพื่อนกับผมหรือเปล่า

แต่ถึงจะอยากไปง้อ ผมก็ไม่มีแรงจริงๆ ไม่รู้ว่าไปคุยด้วยตอนนี้ ผมจะพูดจารู้เรื่องหรือเปล่า

สามวันนี้ ผมไม่อยากทำอะไรเลยซักอย่าง อ่านหนังสือก็ไม่สนุก เล่นกับเสี่ยไป๋ก็ไม่สนุก เหมือนกับตัวผมในตอนนี้ ขาดอะไรไป

ผมพิงหัวกับโซ่ชิงช้า มองไปที่ประตูโรงเรียน หวังว่าจะมีเงาของเตี่ยโผล่ออกมา

แต่คนที่เดินเข้ามาจากประตู ก็ยังคงไม่ใช่เตี่ย

เป็นปู่ใหญ่ เหมือนกับสามวันที่ผ่านมานี้

ผมนิ่งไป รู้สึกว่าหัวใจหน่วงชา

วันนี้เตี่ยก็ยังไม่กลับบ้านเหรอ?

พอปู่ใหญ่เดินเข้ามาใกล้ ผมก็เงยหน้าจะถามเรื่องเตี่ย แต่พอเห็นสีหน้าของท่าน ผมก็ชะงักไป

วันนี้ สีหน้าของปู่ใหญ่ดูเคร่งเครียดอย่างมาก ..มากเสียจนผมรู้สึกกลัว

มีอะไรหรือเปล่า?

..เกิดอะไรขึ้นกับเตี่ยหรือเปล่า?

ผมคิดในใจ ความกังวลลามเลียไปทั้งร่าง แต่ไม่มีแรงพูดออก จึงได้แต่มองนิ่งๆ แล้วก็เรียกชื่ออกไป “ปู่ใหญ่”

ปู่ใหญ่ยิ้มนิดๆ ก้มหน้ามองผม บอกเสียงเบา “กลับกันเถอะ เสี่ยวหลิง”

ผมพยักหน้า ถัดตัวลงจากชิงช้า แต่พอกุมมือปู่ใหญ่ไว้แล้ว เขากลับยังไม่ออกเดิน

ผมเงยหน้ามองปู่ใหญ่ ใบหน้าของเขามีแต่ความกังวล

ปู่ใหญ่ดูลังเล ก่อนจะถอนหายใจ นั่งลงยองๆ ตรงหน้าผม รวบมือไปกุมไว้ และบอกเสียงเบา “..เสี่ยวหลิง ฟังปู่ใหญ่นะ ช่วงนี้…เสี่ยวหลิงอาจจะต้องมาอยู่กับปู่ก่อน…”

..ทำไม?

ผมถามขึ้นในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของปู่ใหญ่ยังคงมองทีผม สีหน้าของปู่ใหญ่เป็นกังวล ร้อนรน ไม่สบายใจ ดวงตาที่จดจ้องมาเต็มไปด้วยความหวั่นไหว ราวกับมีเรื่องที่ยากจะกล่าวออกไป

ปู่ใหญ่สูดลมหายใจลึก ก่อนจะเอ่ยออกมา

“ตอนนี้เตี่ยของหลาน…”





เตี่ยไปเนปาล

มีใครบางคนมาหาเตี่ยพร้อมเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เตี่ยค้นหา ปู่ใหญ่ว่าเตี่ยไม่ได้พูดถึงรายละเอียด แต่เมื่อวานนี้ เตี่ยออกเดินทางโดยที่ไม่ได้บอกใคร เขาเพียงฝากฝังผมไว้กับอาหวังเหมิง บอกให้พาผมไปฝากไว้กับปู่ใหญ่ ไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่านั้น

คำพูดหลังจากนั้นของปู่ใหญ่ไม่เข้าหูผมแม้แต่น้อย เข้าใจเพียงว่าผมต้องอยู่กับปู่ใหญ่อีกนานจนกว่าเตี่ยจะกลับมา และเตี่ยไม่ได้บอกว่าจะกลับมาเมื่อไหร่

ตอนที่ได้ยิน ผมยังรู้สึกชาๆ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ปู่ใหญ่ถามว่าผมไหวหรือเปล่า ผมจึงพยักหน้าไป

แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร

ปู่ใหญ่เหมือนสบายใจที่ผมไม่ร้องไห้คิดถึงเตี่ย แต่ก็คงรู้สึกแปลกใจและเป็นกังวลด้วย เด็กอายุขนาดผม จะร้องไห้คิดถึงพ่อแม่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ทั้งที่ตื่นขึ้นมาไม่เจอเตี่ย ทั้งที่สามวันนี้ไม่ได้เจอเตี่ยเลยซักครั้ง ผมก็ยังไม่ร้องไห้

เขาลูบหัวผม อุ้มขึ้นมาโคลงน้อยๆ ชมผมว่าเก่งมากๆ และบอกว่าวันนี้จะไปเอาเสื้อผ้ากับหนังสือเรียนที่บ้านผมก่อน เพราะอาจจะต้องอยู่กับปู่ใหญ่เกือบสัปดาห์

ผมพยักหน้ารับ ในใจยังรู้สึกชาๆ ปล่อยให้ปู่ใหญ่อุ้มพากลับบ้าน โชคดีที่ผมมีกุญแจบ้านเก็บไว้ จึงเข้าไปในบ้านอย่างง่ายดาย

พอก้าวเข้าไปในบ้าน ผมก็รู้สึกวูบโหวงขึ้นมา

ทั้งที่ไม่ได้กลับมาแค่คืนเดียว ก็คิดถึงมากๆ

ปู่ใหญ่ปล่อยผมลงบนเก้าอี้ในห้องรับแขก บอกว่าจะไปหยิบเสื้อผ้ากับข้าวของของผม ให้นั่งรอตรงนี้ ผมจึงพยักหน้า แล้วปู่ใหญ่ก็เดินหายออกไป

ผมมองไปรอบบ้าน ทั้งที่คิดถึงมากๆ ก็ยังมีความรู้สึกไม่คุ้นเคย

..บ้านของเรา กว้างขนาดนี้เลยเหรอ?

ผมรู้สึกมึนงง ไม่เข้าใจตัวเอง เพราะจู่ๆ ก็รู้สึกราวกับบ้านนี้น่ากลัวขึ้นมา เหมือนกับไม่เคยรู้จักมันมากก่อน ทั้งที่เป็นบ้านที่อยู่มาแต่เกิด

ผมถัดตัวลงจากเก้าอี้ ค่อยๆ ก้าวขาเดินไปตามระเบียงในบ้านที่ถมทับด้วยความเงียบ เดินผ่านห้องครัวมืดสนิท เดินผ่านเสาต้นนั้นที่เราวัดเป็นกิจวัตรประจำวันของเรา

พอเห็นรอยขีดดำทึบ ผมก็หยุดยืนมอง เดินเข้าไปเทียบส่วนสูง ดูเหมือนยังไม่ไก้สูงขึ้นจากเดิมเท่าไหร่

“เตี่ย วันนี้ก็..”

ผมหันไปจะบอกว่าวันนี้ไม่ได้สูงขึ้นซักนิด แล้วก็นึกขึ้นได้

เตี่ยไม่ได้อยู่ด้วยนี่นา

ผมเงียบไป ดวงตามองไปในอากาศธาตุ ก้อนหินที่ถ่วงหนักอยู่ในใจ ยิ่งทียิ่งหนักขึ้นจนแทบเดินไม่ไหว

ผมเดินเลยออกมาจากเสาต้นนั้น ลากขาเดินไปตามระเบียงที่ทอดยาวไปในความมืด เดินตรงไปที่ห้องนอนของพวกเรา กระทั่งหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตู

ผมแตะลูกบิดประตู ค่อยๆ เปิดเข้าไป ข้างใน มีเงาร่างของคนคนหนึ่ง ก้มหน้าอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าของผม

“..เตี่ย”

ผมลองพึมพำเรียกออกไป

แต่ก็เหมือนกับตอนอยู่ที่โรงเรียน

คนที่เงยหน้าขึ้นมามองผมไม่ใช่เตี่ย แค่เป็นปู่ใหญ่

เตี่ยไม่ได้อยู่ที่นี่

ไม่ได้อยู่ข้างผม

ไม่ได้พาผมไปด้วย

..ทิ้งผมไว้ที่นี่คนเดียว


ไม่รู้ทำไม จู่ๆ ความเศร้าและก้อนสะอื้นที่ลอยวนรออยู่ก็แล่นพรวดขึ้นมาในคราวเดียว

ผมเบะปาก ขอบตาร้อนผ่าว มือกำขากางเกงแน่นจนสั่นระริก ก้อนสะอื้นรอจุกที่ลำคอ

แล้วจากนั้น ผมก็ร้องไห้

ผมร้องไห้เสียงดังจนปู่ใหญ่ตกใจ ทิ้งทุกอย่างมือแล้ววิ่งตาลีตาลานมากอดผม ถามว่าเสี่ยวหลิงเป็นอะไร แต่ผมก็ยังไม่ยอมตอบ ยังร้องไห้ฟูมฟาย ใช้สองมือปาดน้ำตาที่ยังไหลไม่ขาดสายจนตาแดง ร้องไห้เสียงดังอย่างที่ไม่เคยร้อง ในใจรู้สึกเจ็บจนแทบทนไม่ไหว

เตี่ยไปไหน..เราไม่ได้เจอกันมาสองวันแล้ว ผมคิดถึงเตี่ย อยากเห็นหน้าเตี่ย อยากเห็นเตี่ยยิ้ม อยากได้ยินเสียง อยากให้เตี่ยกอด อยากให้เตี่ยกล่อมนอน อยากให้ลูบผม เตี่ยไปไหน..เตี่ยไปไหน..

ผมคิดถึงเตี่ย

“ปู่ใหญ่…เตี่ย..เตี่ยไปไหน..ผม..ฮึก….ผมคิดถึงเตี่ยใ” ผมร้องพลางพูดเสียงสั่น กอดคอปู่ใหญ่ที่อุ้มผมขึ้นไปปลอบ สะอื้นฮั่ก เอาแต่ร้องเรียกหาเตี่ย “เตี่ย..คิดถึงเตี่ย..”

“ชู่ว..เสี่ยวหลิง..ไม่เอาลูก…ไม่ร้องไห้..”ปู่ใหญ่ลูบหลังผม แต่ไม่ว่าอะไรก็ไม่เข้าหัวผมแล้ว ผมคิดถึงเตี่ย คิดถึงเตี่ยมากจริงๆ ทำไมเตี่ยถึงไป ทำไมไม่บอกผม ทำไมถึงทิ้งผมไว้ ทำไมไม่ลา ทำไม ทำไม เตี่ยไม่รักผมแล้วเหรอ เกลียดผมแล้วเหรอ

นอกจากไม่มีแม่ คราวนี้เตี่ยก็จะทิ้งผมด้วยเหรอ?

ยิ่งคิด ผมก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่า ร้องไห้จนแสบตา ร้องไห้จนหลับไปทั้งที่ปู่ใหญ่ยังอุ้มไว้

แล้วพอตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในห้องกว้างๆ ข้างตัวมีเสี่ยไป๋นอนขดอยู่ข้างผม หายใจจนลำตัวขยับขึ้นลง

ผมกะพริบตา สะดุ้งโหยงเพราะแสบตาเอามากๆ ถ้าคิดไม่ผิด ก็เหมือนจะตาบวมด้วย

“ตื่นแล้วเหรอลูก เสี่ยวหลิง”

ย่าใหญ่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับอ่างน้ำและผ้าขนหนูเปียก วางไว้บนตะข้างเตียงแล้วชุบผ้าบิดแห้งมาเช็ดหน้าเช็ดตาผม บอกว่าดูซิ ร้องไห้เสียตาบวมเชียว แล้วก็หัวเราะเบาๆ

ผมนั่งนิ่งๆ ปล่อยให้ย่าใหญ่เช็ดหน้าเช็ดตา พอเสร็จแล้วก็ยื่นมือไปกระตุกเสื้อ ถามย่าใหญ่เสียงเบา “ย่า…เตี่ยไปไหน”

ได้ยินแบบนั้น ย่าก็เงียบไป ลูบเส้นผมละเอียดของผมเบาๆ

“เตี่ยไปทำงานไกลมากๆ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

“เมื่อไหร่?”

“อืม..เตี่ยไม่ได้บอกด้วยสิ เสี่ยวหลิงไม่อยากอยู่กับย่าใหญ่เหรอลูก?”

“อยาก” ผมพยักหน้าไป ผมรักปู่ใหญ่กับย่าใหญ่ อยากลองมานอนคเงด้วยนานแล้ว

แต่…

“แต่คิดถึงเตี่ย..”

พอพูดแบบนั้นออกไป น้ำตาก็รื้นขึ้นมาอีกแล้ว

“ชู่ว..เป็นลูกผู้ชายไม่ร้องไห้นะครับ..” ย่าใหญ่บอกแล้วกอดผมเอาไว้ อ้อมกอดของย่าใหญ่อบอุ่นมาก…เกือบจะทำให้นึกถึงเตี่ยขึ้นมา

และไม่ว่าอย่างไร ก็ทำให้หัวใจที่ร้อนรนของผมสงบลง

“ช่วงนี้ เสี่ยวหลิงอยู่กับปู่ใหญ่กับย่าใหญ่ไปก่อนนะครับ รอเตี่ยกลับมารับ เตี่ยเขาบอกว่าเดี๋ยวจะโทรมาหาอีก คราวหน้าเราค่อยคุยกับเตี่ย ดีไหม?” ย่าใหญ่บอกเสียงนุ่มนวล เกลี่ยเส้นผมบนศีรษะเบาๆ ผมพยักหน้ารับไป กอดย่าใหญ่เอาไว้แน่น

หลังจากนั้น เพราะว่าอ่อนเพลียจากการร้องไห้ ผมก็หลับไปอีกครั้ง


TBC.
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4015
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Starsong Wed 29 Jul 2015, 09:02

อ่านแล้วร้องไห้ตามเสี่ยวหลิงไปอีกคนแล้ว T T
จู่ๆก็หายไปไม่บอกอะไรเลยแบบนี้มันโหดร้ายมากนะ ฮือออ //เตี่ยอู๋ทำไมทำแบบนี้ ทิ้งข้อความอะไรไว้ซักนิดก็ยังได้นี่นา ;;-;;
อึนมาหลายวัน ในที่สุดเสึ่ยวหลิงร้องไห้ออกมา ได้ปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมดออกมาแล้วคงโล่งขึ้นบ้างเนอะ//.ลูบหัวเด็กน้อย
จากนี้ไปก็ส่งกำลังใจไปให้เตี่ยเยอะๆๆเลยนะ เพราะเตี่ยเค้าก้กำลังเจอเรื่องหนักหนาอยู่เหมือนกัน
อดทนเข้าไว้นะ เข้มแข็งเข้าไว้นะทั้งสองคน >______<
Starsong
Starsong
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 86
Points : 3441
Join date : 13/01/2015
ที่อยู่ : ในถ้วยชาอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by falenda Wed 29 Jul 2015, 11:50

เสี่ยวหลิงไม่ร้องนะลูก เดี๋ยวเตี่ยก็กลับนะ
ส่วนนายน้อย ไหนตอนแรกกว่าหวงลูกนักหนา
รีบๆกลับมาเลยนะ กลับช้าเดี๋ยวพ่อของลูก แค่กๆลูกไม่รักนะ

แต่ถ้าเสี่ยวหลิงเหงามากๆมาอยู่กับอาก็ได้นะลูก
falenda
falenda
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 30
Points : 3188
Join date : 27/07/2015
Age : 29

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Yuwadee Wana Wed 29 Jul 2015, 13:27

TT- TT

อู๋เสีย นายใจร้ายมาก ทิ้งเสี่ยวหลิงไว้อย่างนี้ได้ยังไง
ทำอย่างนี้เหมือนไม่ใช่นายเลยอ่ะ
Yuwadee Wana
Yuwadee Wana
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 352
Points : 3789
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by HaiSaka Wed 29 Jul 2015, 14:43

อ่านไปแล้วน้ำตาจิไหล ฮือๆๆ TT

สงสารเสี่ยวหลิงจังเลย ทำไมอู๋เสียถึงทิ้งลูกไปไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้นะ โฮๆๆ TT[]TT
HaiSaka
HaiSaka
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 20
Points : 3280
Join date : 17/04/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Wed 29 Jul 2015, 19:01

แง้ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล เตี่ยอู๋เสียหายไปไหนน รีบกลับมาเร็วๆเซ่
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3791
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Wed 29 Jul 2015, 19:49

ตาอู๋เสีย...นายมันคนเห็นผู้ชายดีกว่าลูก//เดี๋ยว...
นายกล้าทิ้งเสี่ยวหลิงไม่บอกไม่กล่าวได้ยังไง
ลูกร้องไห้หาแล้วเห็นไหม...
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3595
Join date : 21/06/2015
Age : 28
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Thu 30 Jul 2015, 14:37

แค่กเห็นผู้ชายดีกว่าลูกแค่ก
ทิ้งไปไม่บอกสักคำเลยนะเว้ยนายน้อย
แต่ก็อาจคิดได้ว่าถ้าเจอหน้ากันแล้วก็คงทิ้งไปไม่ลง แต่จะให้พาไปด้วยก็อันตรายเกินไป เพราะงั้นถึงจำใจต้องทิ้งเสี่ยวหลิงไว้ที่บ้านสินะครับ
สุดท้ายก็คือไปตามหาพ่ออีกคนมาให้ลูกชายนี่เอง แค่กๆๆๆ
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3809
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ