Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

+2
The_Dark_Lady
sinnerdarker
6 posters

Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4)  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Thu 09 Jul 2015, 22:39

บันทึกของเสี่ยวหลิง

-------ที่มา-------

[OS] The Last Moment [ผิงเสีย] [R18] *สปอยเล่มสิบ*

[OS] ของยึดเหนี่ยวอันไม่จีรัง [ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ*

-------------เรื่องหลัก-----------

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (1) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (2) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] พี่ชายที่ไม่ยอมบอกชื่อ ~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (3) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง [Imply ผิงเสีย] (3.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

----------ตอนพิเศษ--------------

[OS] #dmbjdaily (บุหรี่) เลิกได้ไหม? [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] #dmbjdaily (ป่วย) ความลับเวลาไม่สบาย [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] เรื่องของปู่ทวด [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[OS] #dmbjdaily (ประถม) แปดชั่วโมงที่ห่างกัน [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] #dmbjdaily (พ่อ) บันทึกของเสี่ยวหลิง : รักอันไร้เงื่อนไข [เซี่ยอวี่ฮัว + ?? /Implied ฮัวเฮย or เฮยฮัว]

[OS] #dmbjdaily (เก้า) การรวมตัวที่ไม่รู้จุดประสงค์ [~~~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special ~~~] [All Character]

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) หน้าที่ของพี่ชาย [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา + เสี่ยวหลิง]

[Drabble] #dmbjdaily (น้องชาย) สิทธิ์ของคนเป็นน้อง [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา+เสี่ยวหลิง]

[Drabble] ~ว่าด้วยภาคซาไห่กับทรงผมใหม่ของอู๋เสีย~ [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[Drabble] ในวันที่อากาศหนาว [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

-----ตอนพิเศษหลังเจอเสี่ยวเกอ---------


[Drabble]~ครอบครัวสุขสันต์หลังเราพบกันที่ฉางไป๋ซาน~[บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย/เฮยฮัว]

[Drabble] #dmbjdaily (สำริด) ตลกหลายฉากของสองหนุ่มแห่งต้นสำริด [บันทึกของเสี่ยวหลิง+เหล่าหยาง]

[OS] #dmbjdaily (ทวินเทล) สาเหตุที่ยอมลงให้ [บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ / 10 Years Laters* [อัพเดท : FA by Zerin]

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  ~Cosplay~



++++++++++++++++++++++++++


(4)






วันนี้ ผมกับเตี่ยมาเที่ยวกันที่ปาหน่าย

ปกติแล้วเราไม่ได้ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนกันซักเท่าไหร่ เตี่ยกับผมไม่ได้ไปไหนไกลนักนอกจากเวลาที่เตี่ยต้องไปฉางซา เตี่ยเป็นคนไม่ชอบเที่ยว และผมเองก็ไม่ใช่เด็กชอบเที่ยว ส่วนใหญ่ที่ที่เราไปกลับ จึงมีเพียงบ้านและโรงเรียนของผมเท่านั้น แต่คราวนี้ เราออกมาไกลเสียหน่อย เดินทางกันมาถึงหมู่บ้านกลางป่ากลางดง

เตี่ยว่าปาหน่ายเป็นหมู่บ้านชาวเย้า ตั้งอยู่ในมณฑลกว่างซี ใจกลางพื้นที่เขตภูเขาชื่อว่าสือว่านตือซาน เป็นหมู่บ้านกันดารอยู่กลางป่ากลางเขา นับว่าเป็นพื้นที่เขตท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว ปาหน่ายไม่มีอะไรให้เที่ยวมากนัก นอกจากป่าเขาสวยงาม และผมกับเตี่ยก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อท่องเที่ยวอย่างที่ปากว่า

เรามาเพื่อเยี่ยมลุงอ้วนกัน

โดยปกติแล้ว คนที่เสียเงินเสียทองมาเยี่ยมถึงหังโจวจะเป็นลุงอ้วนเสมอ บางครั้งก็หอบหิ้ววัตถุโบราณมาให้ตีราคา บางครั้งก็หอบของกินมานั่งทานกันสามคน เตี่ยชอบบ่นเสมอเวลาลุงอ้วนมาที่บ้าน แต่ผมรู้ว่าเตี่ยชอบเวลาลุงอ้วนมาหา เพราะเขามักจะหัวเราะเต็มเสียง พูดคุยเรื่องราวในอดีตกันเสมอ

ทั้งที่ปกติเป็นแบบนั้น คราวนี้ไม่รู้เพราะอะไร ลุงอ้วนก็โทรกริ๊งมาหาเตี่ย ชักชวนให้ไปเที่ยวที่ปาหน่าย

เตี่ยปฏิเสธไปแทบจะในทันที บอกว่าต้องคอยดูแลผมและดูแลร้าน ไม่มีเวลาจะไปไกลถึงปาหน่าย หรือถึงได้ไปก็ไม่ใช่ช่วงนี้ ผมคล้ายได้ยินเสียงเสี่ยอ้วนโวยวายออกมาจากหูโทรศัพท์ ประมาณว่าเตี่ยใจไม้ไส้ระกำ จะมาเยี่ยมเพื่อนเสียหน่อยไม่ได้

“ปกตินายก็มาหาฉันทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว จะให้ไปเยี่ยมหาเตี่ยอะไรวะนายอ้วน!”

“อะไรกัน มันก็ต้องมีแลกกันบ้างสิเทียนเจิน! ฉันไปหานาย นายมาหาฉัน ถ้าต้องดูแลเสี่ยวหลิงก็พามาวันหยุดซิ จะยากอะไร!”

“ฉันจะพาลูกเดินทางไกลแบบนั้นได้ไงเล่า!”

“นานๆ ทีไง นานๆ ที!”

“ก็บอกแล้วไงว่า..!”

“เตี่ย” ผมกระตุกเสื้อเตี่ย หยุดบทสนทนาของพวกเขาชั่วคราว เงยมองตาใส เอ่ยถามออกไป “ปาหน่ายเป็นยังไง”

เตี่ยชะงัก บอกลุงอ้วนให้รอสาย หันมามองแล้วลูบหัวผมเบาๆ “ปาหน่ายไม่มีอะไรหรอกนะเสี่ยวหลิง ไม่ใช่ที่น่าเที่ยว”

แม้ว่าเตี่ยจะพูดแบบนั้น แต่สำหรับผมที่ไม่เคยไปที่ไหนนอกจากบ้านตัวเอง ร้านของเตี่ย โรงเรียน และบ้านอาฮัว การไปไกลบ้านซักครั้งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นพอสมควร ดังนั้น ก็เลยบอกออกไป “เตี่ย..ลองไปปาหน่ายได้ไหม?”

“หืม?” เตี่ยขึ้นเสียงสูง ก้มมาคุยกับผม “อยากไปเหรอเสี่ยวหลิง”

ผมพยักหน้าเบาๆ ดึงเสื้อเตี่ยไว้ ไม่รู้ว่านี่เป็นการเอาแต่ใจไปหรือเปล่า นอกจากดูแลผมแล้ว เตี่ยยังมีธุระมากมายที่ต้องจัดการ แต่พอคิดว่าอาจจะได้ไปที่อื่นนอกจากที่ที่เคยไปจนคุ้นชิน ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

เตี่ยมองผมพักใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจ ขยี้หัวผมแล้วยิ้มนิดๆ “…นานๆ ทีทิ้งงานไปบ้างก็ไม่เลวเนอะ เสี่ยวหลิง”

หลังจากนั้น เตี่ยก็บอกเสี่ยอ้วนผ่านโทรศัพท์ไปว่าว่าตกลงจะไปปาหน่าย นัดแนะไว้เป็นวันเสาร์อาทิตย์ ให้ลุงอ้วนช่วยเตรียมที่พักให้ด้วย  จากนั้นก็ฝากฝังงานไว้กับอาหวังเหมิงตามปกติ (อาหวังเหมิงบอกเตี่ยว่าขอเงินพิเศษด้วย เตี่ยเลยตบหัวไปที แต่ตกลงว่าจะให้เงินพิเศษ อาหวังเหมิงเลยยิ้มแฉ่งทั้งวัน)

ด้วยเหตุนี้ ผมกับเตี่ยจึงเดินทางกันจนถึงปาหน่าย ยืนหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของคนที่เตี่ยเรียกว่าอากุ้ย โดยมีลุงอ้วนยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตู

“ยินดีต้อนรับสู่ปาหน่าย!”

“นายแม่ง พูดอย่างกับเป็นเจ้าบ้าน” เตี่ยสวนไป ยิ้มขำๆ

“ชะ! อยู่มาซี่ซ้าห้าปีก็แทบจะเป็นบ้านหลังที่สองแล้ว เทียนเจินไม่รู้อะไรอย่ามาพูด” ลุงอ้วนพูดพลางทำเสียงจึ๊กจั๊กในคอ ส่ายนิ้วไปมา ก่อนตบหลังเตี่ยดังป๊าบแล้วกอดคอพาเดินเข้าไป “มาๆ เข้าบ้านก่อน เป็นไง เสี่ยวหลิง บ้านลุงอ้วนสวยไหม”

ไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร เตี่ยก็ว่าขัดขึ้น “บ้านนายที่ไหนวะ บ้านอากุ้ยชัดๆ”

“เรือนนี้ฉันปลูกเพิ่มเองโว้ย เทียนเจินอย่ามา บ้านอากุ้ยน่ะทางโน้น นี่บ้านฉัน ปลูกเมื่อสองปีก่อน แค่นี้ทำเป็นจำไม่ได้ แล้วสมองไม่ดีนะนายน่ะ” ลุงอ้วนว่าพลางชี้ไปบ้านข้างๆ ตอนนั้นผมถึงเพิ่งสังเกตว่า บ้านหลังที่เรากำลังจะเดินเข้าไปดูใหม่มาก แม้จะเป็นเรือนใต้ถุนสูงที่สร้างด้วยไม้ ก็ยังดูแปลกไปจากบ้านหลังอื่น เหมือนกับเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ต่างกันหลังอื่นๆ ในแถบเดียวกันที่ดูโทรมลงตามเวลา

เตี่ยมองเทียบกันแล้วหันไปถามลุงอ้วนไปว่านายสร้างขึ้นมาได้ไง ไม่มีใครในแถบนี้ว่าเอาหรือยังไง ลุงอ้วนทำหน้าลึกลับเหมือนเป็นปริศนา เตี่ยก็เลยกลอกตามองฟ้าแล้วตัดสินใจเลิกสนใจไป


+++++++++++++++++++++++++


ตอนที่ไปถึงปาหน่ายก็ย่ำเย็นแล้ว เราจึงเพียงเข้าไปวางของไว้ในห้องที่ลุงอ้วนจัดเตรียมไว้ ในห้องมีเตียงอยู่หลังเดียว แต่ปกติผมกับเตี่ยนอนเตียงเดียวกันจึงไม่เป็นปัญหา ห้องที่ลุงอ้วนจัดให้เราสะอาดมาก ผมคิดว่าบางทีเขาอาจะทำความสะอาดเตรียมเอาไว้ให้เรา

ช่วงค่ำ ลุงอ้วนกับเตี่ยออกไปขอแลกเนื้อกับชายท้องถิ่น ดึกหน่อยก็ก่อกองไฟไว้นอกบ้าน ต้มหม้อไฟเนื้อให้เรากิน ผมจำได้ว่า เวลาที่ลุงอ้วนไปบ้านเราก็มักจะชอบทำอาหารให้ทาน ลุงอ้วนทำอาหารเก่งมาก เตี่ยถึงกับเคยแซวว่าแทนที่จะหาเมีย แต่งเข้าเป็นสะใภ้ชาวบ้านดีกว่าไหม

ลุงอ้วนเลยทำท่าขนลุกใส่ ด่าไปว่าเทียนเจินคิดบ้าอะไร หรือจะเอาเสี่ยเป็นเมีย

จากนั้นลุงอ้วนเลยโดนเตี่ยถีบเข้าให้จังๆ

“นี่ตกลงนายจะลงหลักปักฐานที่นี่แล้วเรอะ?” เตี่ยถามขึ้นระหว่างที่ตักเนื้อชิ้นเล็กแบ่งใส่ถ้วยให้ผม

“เออ ไม่เชิงลงหลักปักฐานว่ะ แต่คงเป็นบ้านอีกหลัง ฉันเองแก่แล้ว คงไม่ไปไหนไกลอีกนอกจากบ้านนายกับที่นี่ เลยว่าปลูกบ้านแยกออกมาให้รู้แล้วรู้รอดดีกว่า เงินก็มี” ลุงอ้วนว่าพลางลูบหลังคอ “ยังไงซะแฟนฉันก็อยู่นี่”

ได้ยินแบบนั้น เตี่ยก็เงียบไป

ผมเงยมองหน้าเตี่ย สีหน้าของเขาดูเศร้าไปวูบหนึ่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากนั้น เหมือนลุงอ้วนจะนึกได้ว่าตนพูดอะไรออกไป จึงเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่ได้วกกลับมาที่เรื่องเดิมอีก

เวลาเดินผ่านไป ไม่นานนักก็มืดค่ำ ไฟที่ก่อไว้เริ่มมอดลง และผมก็เริ่มง่วงจนทนไม่ไหวมากขึ้นทุกที

เตี่ยลูบหัวผม ฮัมเพลงกล่อม ถามว่าผมจะขึ้นไปนอนก่อนไหม เพราะเตี่ยมีเรื่องจะคุยกับลุงอ้วน

ผมส่ายหน้า เปลือกตาหนักอึ้งเหมือนจะหลับได้ทุกเมื่อดังนั้นจึงซุกศีรษะนอนลงบนตักของเตี่ย จากนั้น ก็เหมือนจะหลับไป

ไม่ได้รับรู้บทสนทนาต่อจากนั้นของเตี่ยกับลุงอ้วน



+++++++++++++++++++++++++



เช้าวันถัดมา เตี่ยปลุกผมแต่เช้า ดึงให้ออกมามองดูพระอาทิตย์ขึ้นข้างหน้าต่าง เรามองเห็นไม่ชัดมากนักเพราะภูเขาและแมกไม้บดบัง แต่ยามที่แสงอาทิตย์อาบไล้สีเขียวขจีให้เป็นสีเหลืองทอง กลับดูงดงามเสียจนสิ่งใดเทียบไม่ได้

พอพระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนเกือบสุด เตี่ยก็ชวนผมอาบน้ำ ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำ จึงต้องตักอาบจากข้างบ่อ ให้ความรู้สุกแปลกๆ เขินๆ พอแต่งตัวเสร็จก็เดินออกไปสูดอากาศข้างนอก อากาศบนภูเขาสดชื่นมาก ผมที่เคยแต่อยู่ในเมืองอดจะรู้สึกชอบไม่ได้ และคิดขึ้นมาว่า ลุงอ้วนชอบอยู่ที่นี่เพราะอากาศดีๆ แบบนี้หรือเปล่า เพราะถ้าผมโตกว่านี้หน่อย อาจจะอยากอยู่ที่แบบนี้บ้างก็ได้

ลุงอ้วนเตรียมอาหารให้เราแต่เช้า รออยู่ในครัว เตี่ยบอกว่าความจริงตั้งใจจะตื่นมาช่วยตอนเช้า ลุงอ้วนรีบทำเกินไป แต่ลุงอ้วนก็บอกว่าไม่เป็นไร เตี่ยกับผมเป็นแขก จะให้มาทำอาหารให้ได้ยังไง

“แล้วที่นายไปนั่งเข้าครัวบ้านฉันทำกับข้าวให้ฉันกินล่ะ” เตี่ยถามไปนิ่งๆ

“เออ สารภาพ เสี่ยอ้วนไม่ไว้ใจฝีมือทำกับข้าวเทียนเจิน” ลุงอ้วนตอบกลับไปนิ่งๆ เช่นกัน

เตี่ยทำท่าจะโกรธ ฮึดฮัดขึ้นมาแต่ทำอะไรไม่ได้ จำต้องยอมให้ลุงอ้วน เพราะอีกฝ่ายก็ทำกับข้าวเก่งกว่าจริงๆ

จากนั้นโต๊ะอาหารก็เต็มไปด้วยเสียงทะเลาะของผู้ใหญ่สองคน ส่วนผมทานอาหารไปเงียบๆ จ้องทั้งสองคนคุย..ตะคอกใส่กัน

ถึงแม้ว่าเตี่ยกับลุงอ้วนจะทะเลาะกันแทบทุกครั้งที่เจอหน้า ผมก็ชอบเวลาทัง้คู่อยู่ด้วยกัน เพราะในเวลาแบบนี้ เตี่ยจะได้หัวเราะเต็มที่ เถียงเต็มที่ ดูร่าเริงขึ้นมา ไม่เหมือนเวลาที่อยู่กับลูกน้องหรืออยู่กับผม

จำได้ว่ามีคนบอกไว้ ว่าเตี่ยเปลี่ยนไปมาก ใจเย็นขึ้น นิ่งขึ้น เป็นคนละคนกับสมัยก่อน ดังนั้นผมจึงอดคิดไม่ได้ ว่าตัวตนของเตี่ยเวลาที่อยู่กับลุงอ้วน เป็นตัวตนที่แท้จริง และตัวตนก่อนหน้านี้ของเตี่ยหรือเปล่า?

เป็นตัวเตี่ยเองจริงๆ

เวลาที่คิดแบบนั้น ผมก็อดรู้สึกเศร้าขึ้นมาไม่ได้ นั่นหมายความว่า ต่อหน้าผม เตี่ยต้องฝืน แล้วก็เป็นตัวของตัวเองไม่ได้หรือเปล่า?

พอเริ่มคิด ผมก็ซึมไป เตี่ยที่ทะเลาะกับลุงอ้วนอยู่สังเกตเห็นแล้วหันมามองผม ทักขึ้นเสียงเบา “เสี่ยวหลิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? หรืออาหารลุงอ้วนไม่อร่อย?”

“เฮ้ย อย่าโทษฝีมือทำกับข้าวฉัน!”

ผมส่ายหัวให้เตี่ย บอกว่าไม่มีอะไร แต่ดูเหมือนว่าสีหน้าของผมจะไม่เป็นแบบนั้น เตี่ยก็เลยทำท่าไม่สบายใจ ยื่นมือมาแตะหน้าผากกับแก้มผม “ไม่สบายหรือเปล่า แต่ไข้ก็ไม่มี“

“เตี่ย ผมไม่เป็นไร จริงๆ นะ” ผมบอกเตี่ยไปแบบนั้น ยืนยันกันครู่ใหญ่กว่าเตี่ยจะยอมเชื่อแล้วหันกลับไปทานอาหารต่อ

แต่อันที่จริงแล้ว ความเศร้าจางๆ ก็ยังติดอยู่ในใจผมอยู่ดี



+++++++++++++++++++++++++



ที่ปาหน่ายไม่มีอะไรเลยอย่างที่เตี่ยว่า นอกจากป่าเขาแล้วก็แทบไม่มีที่น่าเที่ยว และเพราะผมมาด้วย เตี่ยย่อมไม่ยอมให้ผมปีนภูเขาขึ้นไปข้างบนหรือเข้าป่าเข้าพงไป ดังนั้นวันๆ เราจึงอยู่กันแต่ในบ้านของลุงอ้วน อาจจะมีบ้างที่ออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน แต่บ้านเรือนส่วนใหญ่เหมือนกันไปหมด ชาวบ้านคนอื่นนอกจากอากุ้ยและลุงอ้วนก็ไม่ต้อนรับหรือปรานีปราศรัยกับเราซักเท่าไหร่ ไม่นานนักผมจึงเริ่มเบื่อแล้วกลับมานั่งเล่นที่บ้าน

ผมอยากหาหนังสืออ่าน แต่ในบ้านของลุงอ้วนไม่มีหนังสือซักเล่มเดียว ทำให้ผมเสียดายที่ไม่ได้พกหนังสือมาอ่านเล่น ส่วนเตี่ยปลอบใจผมว่านานๆ ทีลองอยู่กับอะไรใหม่ๆ บ้างก็ได้ ไม่อย่างนั้นผมจะกลายเป็นบัณฑิตง่อยไป

“บัณฑิตง่อย?” ผมหันไปถามเตี่ยงงๆ

“ก็..” เตี่ยเกาหน้าแกรกๆ ถอนหายใจแล้วกอดอก “ทำอะไรไม่เป็นนอกจากพูดกับคิด ช่วยอะไรใครไม่ได้ล่ะมั้ง? เพราะฉะนั้น เสี่ยวหลิงลองเปลี่ยนจากอ่านหนังสือมาวิ่งเล่นบ้างก็ได้ เผื่อจะรู้อะไรนอกจากที่เป็นอยู่”

เตี่ยพูดจบก็เปลี่ยนเรื่อง ทำเอาผมอยากถามเตี่ยเพิ่ม ว่าบัณฑิตง่อยที่ว่านั้นหมายถึงใครที่ผมรู้จักหรือเปล่า



+++++++++++++++++++++++++



เที่ยงแล้ว ลุงอ้วนขอแบ่งเนื้อมาจากอากุ้ย ทำเนื้อผัดหวานให้เรากิน ลุงอ้วนถามผมว่าอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า เผื่อว่าเขาจะพาไปได้ แต่เตี่ยสวนขึ้นมาว่าไม่อยากให้ผมไปไหนไกล ป่าเขาจะใกล้จะไกลก็อันตราย

“อะไรฟะ มาเที่ยวทั้งที่ ห่วงลูกให้มันน้อยๆ หน่อย โตไปเสี่ยวหลิงเองอยู่เองไม่ได้กันพอดี”

“ลูกฉัน ฉันเลี้ยงของฉันน่า นายอย่ามายุ่ง”

“ไอ้คนติดลูก”

“ขอบคุณ”

ผมกำลังอ้าปากว่าอยากไป เลยต้องเงียบปากเพราะดูท่าว่าเตี่ยจะไม่ยอมให้ไป แล้วกินข้าวเที่ยงเงียบๆ ไปแบบนั้น

แต่ปรากฏว่า ช่วงบ่ายๆ ตอนเตี่ยไปหาอากุ้ย สอบถามอะไรบางอย่าง ลุงอ้วนก็แอบย่องมาจุ๊ปาก บอกว่าเสี่ยวหลิง ไปเที่ยวกับลุงอ้วนกัน

ผมกะพริบตาปริบๆ ยังไม่ทันปฎิเสธหรือตอบรับ ลุงอ้วนก็อุ้มขึ้นขี่คอ พาวิ่งออกไปจากบ้านซะแล้ว



+++++++++++++++++++++++++



เพราะว่ามีแต่ป่ารายล้อม ที่ที่ลุงอ้วนพาไปเที่ยวส่วนใหญ่จึงเป็นพื้นที่ในป่า แต่เป็นเพียงแค่รอบนอกตามที่เจ้าตัวว่า ผมขอให้ลุงอ้วนวางผมลงเดินเพราะไม่ชินเวลาขี่คอใคร แต่ลุงอ้วนกลับหัวเราะฮ่าๆ จับผมขี่คอไว้ไม่ยอมวาง

แล้วพออยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ ผมก็ชักจะติดใจขึ้นมาแล้ว

เพราะว่าขี่คออยู่ ระดับสายตาจึงผิดกันลิบลับกับเวลาปกติ  ทั้งรู้สึกกลัวและตื่นเต้น ผมมองพื้นที่ดูห่างออกไปไกลกว่าปกติ เงยมองแสงระยิบระยับที่ส่องผ่านกิ่งไม้ลงมา สัมผัสสายลมที่พัดผ่านใบหน้า ก่อนจะสูดลมหายใจลึก ได้กลิ่นอายของดินและกลิ่นอับชื้นของสายฝน

ยินเสียงแมกไม้เสียดสีกัน เสียงร้องของนกน้อย

เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ในระหว่างที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับบรรยากาศแบบนั้น ลุงอ้วนก็หยุดฝีเท้า บอกผมเสียงสดใส “เอ้า ถึงแล้ว”

ผมก้มมองลุงอ้วน สบตาที่จ้องขึ้นมา ลุงอ้วนพยักเพยิดไปด้านหน้า พอผมเงยหน้าขึ้น เลยเจอทะเลสาบเล็กๆ ปรากฏอยู่ตรงหน้าตัวเอง

ผมเบิกตานิดๆ มองผิวน้ำระยับที่สะท้อนแสงอาทิตย์ ในใจรู้สึกอิ่มเอมขึ้นมาอย่างประหลาด

ลุงอ้วนเดินเข้าไปใกล้ทะเลสาบอีกนิด วางผมลงริมฝั่ง ก่อนจะนั่งลง พับขากางเกงตัวเอง หย่อนลงไปแกว่งในน้ำใสสะอาด

ผมนั่งลงริมน้ำ ยื่นหน้าไปมองภาพสะท้อนบนผิวน้ำของตนอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะพับขากางเกงตัวเองเลียนแบบลุงอ้วน หย่อนขาลงไปแกว่งน้ำบ้าง

น้ำในทะเลสาบเย็นมาก ทำให้รู้สึกสบาย ผมมองวงน้ำที่กระจายตัวออกกว้างยามที่ขยับขา ยื่นมือไปเรี่ยบนผิวน้ำเย็นให้เป็นระลอกคลื่น

ผมไม่เคยได้สัมผัสอะไรแบบนี้มาก่อน

เตี่ยกับผมไม่ค่อยได้ไปไหน ที่ที่ผมคุ้นเคยมีเพียงบ้านและโรงเรียนกับร้านของเตี่ย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นทะเลสาบที่ปกคลุมด้วยแมกไม้แบบนี้ ถึงที่หังโจวจะมีทะเลสาบซีหู ความงดงามที่มีก็ต่างกัน

รายล้อมด้วยตึกสูง รายล้อมด้วยแมกไม้ ผมเทียบไม่ได้ว่าอะไรดีกว่ากันจริงๆ

ระหว่างที่กำลังเพลินอยู่กับการเล่นน้ำ ลุงอ้วนก็ทักผมขึ้นมา “ชอบไหม เสี่ยวหลิง?”

ผมหันไปหาลุงอ้วน ผงกหัวให้ทีหนึ่ง อดจะยิ้มขึ้นมานิดๆ ด้วยความสุขไม่ได้ ผมชอบที่นี่มากจริงๆ

“เออ ดีละ” ลุงอ้วนว่าพลางตบหัวผมเบาๆ เงียบไปนิดแล้วทักขึ้น “นี่ เสี่ยวหลิง?”

“ครับ?” ผมเงยหน้ามองเขา

“มีเรื่องกังวลอะไรอยู่ใช่ไหม พูดออกมาเถอะ เตี่ยเสี่ยวหลิงเลิกเซ้าซี้ก็จริง แต่ลุงอ้วนว่าลุงอ้วนอยากรู้อ่ะ” ลุงอ้วนว่าพลางยิ้มเผล่ “เป็นอะไรที่บอกเตี่ยไม่ได้ล่ะสิ มา บอกลุงหน่อย รับรองไม่บอกเตี่ยแน่”

ผมมองลุงอ้วนแล้วกะพริบตาปริบๆ นิ่งไปอย่างลังเล ก่อนจะส่ายหัวไป ผมรู้สึกว่าเรื่องนั้นมันงี่เง่าเกินไป ไม่อยากให้ใครรู้เท่าไหร่

“ไม่ยอมบอกจริงๆ เหรอ?”

ผมส่ายหัวอีกครั้ง

“ไม่อยากเล่าจริงๆหรือ? เผื่อลุงจะช่วยได้นา”

ลุงอ้วนว่าด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ผมเงยหน้ามองเขา จะว่าไป ก็ช่วยได้จริงๆ

ตั้งแต่สมัยก่อน คนที่ผมชอบไปถามอะไรด้วย รองจากอาหวังเหมิงที่ใกล้ชิดที่สุด ก็เป็นลุงอ้วน อาหวังเหมิงอาจเป็นที่ปรึกษาหใผมได้ แต่ตอบคำถามของผมไม่ได้ ในขระที่ลุงอ้วนมักจะหาคำตอบให้ผมได้ ทำให้ผมเข้าใจ ทำให้สบายใจ ผมชอบลุงอ้วนมาก เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ให้ความรุ้สึกคล้ายกับเตี่ย แต่ก็ไม่เหมือนกัน

ถ้าผมเล่าให้ลุงอ้วนฟัง ผมจะเลิกไม่สบายใจหรือเปล่า?

ลุงอ้วนเหมือนเห็นว่าผมยังไม่ยอมเล่า จึงว่าเสริมเข้าไปอีก “นี่นะ เห็นเตี่ยไม่ถามต่อ จริงๆกังวลอยู่ว่าเสี่ยวหลิงไม่สบายใจอะไร รู้หรือเปล่า”

“จริงเหรอฮะ..” ผมว่าเสียงเบา รู้สึกผิดทันทีที่ทำให้เตี่ยดังวล ผมลังเลมองพื้นอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะยอมเล่าสิ่งที่ตนกังวลใจอยู่ออกไปเบาๆ รู้สึกอายความงี่เง่าที่ตนคิดไว้ในใจ

ลุงอ้วนฟังแล้วนิ่งไป เกาหลังคอแกร่กๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือก เขาหัวเราะจำนิดหน่อย ลูบหัวผมเบาๆ

“เราน่ะ รู้ใช่ไหมว่าเตี่ยรักเราแค่ไหน?”

ผมพยักหน้า ผมรู้ว่าเตี่ยรักผมแค่ไหน หวงผมแค่ไหน เรามีกันแค่สองคน อยู่ด้วยกันบ่อยกว่าใครที่ไหน  และเตี่ยก็ห่วงผมมากๆ ไม่เคยซักครั้งที่เตี่ยจะยอมให้ผมห่างสายตา

เตี่ยทุ่มดททุกอย่างให้ผมเสมอ …แต่คงเพราะเป็นเด็ก สุดท้ายผมก็มักกังวลอะไรมากมายไปเอง

ลุงอ้วนเงียบไป มองผมที่กำขกางเกงก้มมองพื้น แล้วว่าต่อ “รู้ว่ารัก แล้วทำไมถึงคิดว่าเตี่ยเขาฝืนล่ะ?”

“ก็..” ผมงึมงำ ไม่ยอมเงยหน้ามอง  “เวลา..อยู่กับลุงอ้วน…เตี่ย…ดูมีความสุขกว่า”

“ทำไมเราคิดว่าเตี่ยมีความสุขกว่าล่ะ”

“..ก็ เตี่ยดูร่าเริง แล้วก็ สนุก” ผมพึมพำไป ผมชอบเวลาเตี่ยอยู่กับลุงอ้วน ชอบเวลาเตี่ยยิ้ม หัวเราะเต็มเสียง พูดขาโฌผงผาง เตี่ยดูเป็นตัวเตี่ยเอง รู้สึกชอบมากจริงๆ แต่.. “ไม่เหมือนเวลาอยู่กับผม…ก็เลยคิดว่า ฝืนหรือเปล่า..”

ผมก็อยากให้เตี่ยเป็นแบบนั้นกับผมบ้าง…

“เสี่ยวหลิงเอ๊ย” ลุงอ้วนเรียกผม ลูบศีรษะเบาๆ และเริ่มแรงเรื่อยๆ จนขยี้ผมของผมเสียยุ่งเหยิง “เรานี่นะ กังวลอะไรไม่เข้าท่า ไม่ใช่ว่าเตี่ยเขาฝืน เพียงแต่ว่ากับลุงอ้วน เตี่ยเขาแสดงออกอย่างหนึ่ง กับเสี่ยวหลิงก็อย่างหนึ่ง”

ผมเงยหน้ามองลุงอ้วน รู้สึกไม่เข้าใจ

“อืม ไอ้ลุงก็ไม่รู้ว่าอธิบายยังไง ไม่ใช่เรื่องถนัดเล้ย” ลุงอ้วนลูบหน้า ท่าทางไม่รู้จะอธิบายให้ผมฟังยังไงดี “คือ เข้าใจมะ กับลุงอ้วนเนี่ย รู้จักกันมานาน มันก็ไม่มีเกรงใจ ส่วนกับเสี่ยวหลิงเนี่ย เป็นลูกใช่ไหม ก็ต้องมีไว้ท่าบ้าง”

ยิ่งฟัง ผมยิ่งไม่เข้าใจ “…แต่ผมอยากให้เตี่ยแสดงออกแบบนั้นกับผมบ้าง…”

“ที่มาด่ากัน ทะเลาะกันอ่ะนะ?”

“…..อยากให้ร่าเริง” ผมบอกไปเสียงเบา

“อื่ม..ลุงคงช่วยอะไรไม่ได้ แต่ลุงมั่นใจอย่างหนึ่ง” ลุงอ้วนอกผม จิ้มหน้าผากแรงๆทีหนึ่ง “ลุงกล้ายืนยันว่าเสี่ยวหลิงเป็นความสุขของเตี่ยเขา”

ผมกะพริบตาลูบหน้าผากตัวเอง จ้องเขาตาแป๋ว “จริงๆเหรอฮะลุงอ้วน?”

“ให้เอาบ้านเป็นประกันเลยเอ้า!”

“….แต่ว่า”

“เอาอย่างนี้ เสี่ยวหลิงลองคิดดูดีๆ ว่ามีสีหน้าแบบไหนที่เตี่ยแสดงต่อหน้าเสี่ยวหลิง แต่ไม่เคยแสดงต่อหน้าใครหรือเปล่า” ลุงอ้วนขยิบตาใส่ “ไอ้คำว่าเป็นตัวเองเนี่ย บางครั้งก็ไม่ได้ถึงกระโชกโฮกฮากน่า”

ผมฟังแล้วยิ่งไม่เข้าใจ แต่ก็ผงกหัว เรานั่งเล่นริมน้ำกันต่อซักพักใหญ่ก็ขึ้นจากน้ำ พากันกลับบ้าน

เพราะว่าเป็นป่ารอบนอก ไม่นานนักจึงวิ่งกลับไปถึงบ้านของลุงอ้วน ตรงนั้น เตี่ยเดินวนไปมาอยู่หน้าบ้า พอเห็นผมกับลุงอ้วน ก็เดินย่างสามขุมเข้ามา

“นายพาเสี่ยวหลิงไปไหนมา นายอ้วน!”

ลุงอ้วนถอยหลังสามก้าวรวด ส่วนผมกอดคอลุงอ้วนแน่น ตอนนี้สีหน้าเตี่ยน่ากลัวมาก เกือบเหมือนปู่รองเวลาโกรธจัดเลยทีเดียว

“พาไปเที่ยวป่าใกล้ๆ เทียนเจินอย่างกังวล เสี่ยวหลิงไม่เป็นไร” ลุงอ้วนพยายมประณีประนอม แต่เตี่ยยิ่งทำสีหน้าเหมือนใกล้จะเชือดคนตาย

“นายอ้วน นายรู้ไหมว่าฉันรุ้สึกยังไงตอนเข้าบ้านไปไม่เจอทั้งนายทั้งเสี่ยวหลิง นายทำฉันเกือบหัวใจวายตาย!” เตี่ยเดินไปคว้าคอลุงอ้วนไว้ ง้างหมัดขึ้นเตรียมชก ลุงอ้วนร้องไอ้หยา ยกมือยอมแพ้แล้วบอกให้ใจเย็น รีบขอโทษที่พาผมไปโดยไม่ยอมบอก เตี่ยหายใจหนัก เหมือนจะพยายามกดความโกรธ ก่อนตวัดสายตามองมาที่ผม

ผมสะดุ้งเกร็ง หดคอแล้วกอดลุงอ้วนไว้ เตี่ยคงเห็นว่าผมกลัว ดวงตาคุกรุ่นของเขาจึงอ่อนลง ถอนหายใจ ยื่นมือมาทางผม

“เสี่ยวหลิง มานี่มา”

ลุงอ้วนรีบส่งผมให้เตี่ย เขารับผมอุ้ม ตอนนั้นถึงเพิ่งได้รู้…เตี่ยมือไม้สั่นไปหมด แม้แต่เสียงก็สั่นด้วย

“เตี่ยเกือบหัวใจวาย..เสี่ยวหลิง คราวหน้าคราวหลังไม่เอาแล้วนะลูก” เตี่ยบอกเสียงสั่น กอดผมไว้แน่น ซบหัวกับไหล่ กัดปาก กลั้นสะอื้น ยกแขนขึ้นกอดเตี่ยกลับ ลูบหลังเตี่ยเบาๆ

“ขอโทษที่ไปไม่บอกครับ เตี่ย” ผมบอกเตี่ยแล้วกอดเขาไปแน่นๆ ซุกหน้ากับไหล่ น้ำตารื้นขึ้นมา เสียใจที่ทำให้เตี่ยเป็นห่วง ตอนนั้น จึงกลายเป็นว่าความกังวลปลิวไปจากหัวใจของผมโดยที่ผมยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร

เราสองพ่อลูกกอดกันแบบนั้นครู่ใหญ่จนลุงอ้วนแซว เตี่ยตวัดสายตาคาดโทษ แต่ไม่ได้ว่าอะไร จากนั้นก็พากันเข้าบ้านไป



+++++++++++++++++++++++++



ถึงจะเคลียร์กันแล้ว เตี่ยก็ยังไม่ให้อภัยลุงอ้วนเรื่องที่พาผมไปเที่ยวโดยไม่บอก ลุงอ้วนบอกว่าจะห่วงอะไรนักหนาลูกก็โตแล้ว

“คนเป็นพ่อคน ลูกจะอายุเท่าไหร่ก็ห่วงอยู่เสมอนั่นล่ะ”

เตี่ยบอกไปแบบนั้น หันมามองผมแล้วยิ้มให้

ตอนนั้นผมเริ่มเข้าใจความหมายของเตี่ยขึ้นรางๆ

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เวลาเตี่ยยิ้มให้ผม จะเป็นยิ้มที่อ่อนโยน ยิ้มที่ทำให้สบายใจ ทำให้สงบ และคนที่เตี่ยยิ้มให้แบบนี้ ก็มีแค่ผมจริงๆ

ผมไม่รู้ว่าเตี่ยฝืนหรือเปล่า แต่รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจสงบ จะฝืนไปได้อย่างไร

แต่ถ้าอย่างนั้น เวลาที่เตี่ยไม่ได้ร่าเริงแบบตอนอยู่กับลุงอ้วน ก็นับว่าไม่ฝืนเหรอ?

ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ และลุงอ้วนอธิบายไม่ได้ ดังนั้นหากโตขึ้น ผมหวังว่าตัวเองจะเข้าใจ


+++++++++++++++++++++++++


เช้าวันถัดมา ผมกับเตี่ยก็เตรียมตัวกลับบ้าน ลุงอ้วนว่าอีกซักพักจะไปเยี่ยมที่หังโจวอีก บอกเตี่ยว่านานๆ ทีมาหาที่ปาหน่ายบ้างก็ได้ เขายินดีต้อนรับเสมอ แต่เตี่ยก็บอกไปว่าที่ทุรกันดารแบบนี้บอไม่มาบ่อยๆ ดีกว่า แต่ผมคิดว่าเตี่ยคงไม่ได้คิดจริงจังกับคำพูดนั้น เพราะว่าพูดไปยิ้มไป และลุงอ้วนก็หัวเราะใส่ ไปส่งเราถึงสถานีรถไฟ แล้วโบกมือให้เราอยู่ข้างนอกนั้น

บนรถไฟ ยังคงเห็นทัศนียภาพสวยงามที่สะท้อนอยู่ด้านนอก ทิวเขาและต้นไม้ที่เบียดเสียดเรียงราย ภาพที่เห็นได้ยากในชีวิตประจำวันของผมใช้เวลาเกือบวัน

“ชอบปาหน่ายไหมลูก?” เตี่ยทักผมขึ้น

ผมหันไปมองเตี่ย พยักหน้าให้เบาๆ และเขาก็ยิ้มรับผม



ใช้เวลาเกือบวัน ในที่สุดเราก็กลับมาถึงบ้าน เตี่ยวางของกองไว้ข้างหน้า ใช้กุญแจไขประตูบ้าน ก่อนจะหอบของขึ้นสะพายแล้วเดินเข้าไปข้างใน ผมช่วยเตี่ยถือของแล้วเดินตามเข้าไป ดวงตามองไปรอบบ้าน ..ทั้งที่ห่างไปแค่ไม่กี่วัน ผมกลับคิดถึงบ้านอย่างบอกไม่ถูก

แต่แม้จะเป็นแบบนั้น ผมคิดว่า ถ้ามีโอกาส ก็คงจะกลับไปที่ปาหน่ายอีก

แต่นั่นก็เป็นเรื่องอีกยาวไกล




TBC.
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4015
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4)  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Thu 09 Jul 2015, 23:17

น้องเสี่ยวหลิง...น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อู๋เสียคนหวงลูก...แต่ลูกน่ารักขนาดนี้เป็นฉัน ฉันก็หวง ง่อวววว
น้องเสี่ยวหลิงคิดมากเรื่องม๊---แค่ก เตี่ยด้วย น่ารัก แงงงง
ไม่ว่าตัวตนก่อนหน้าของเตี่ยจะเป็นยังไง รู้เอาไว้ว่าเตี่ยเขารักหนูที่สุดก็พอเนาะ
(...แต่เราก็พอจะเกทแหละ คนเรามันมีหลายโหมด โหมดเป็นการเป็นงาน กับเพื่อน กับครอบครัว อะไรงี้
แต่ละโหมดก็จะแสดงออกแตกต่างกัน แต่ก็เป็นตัวตนของคนๆนั้นทั้งหมดแหละ)
นายอ้วนเหมือนเป็นที่ปรึกษาประจำครอบครัวไปแล้ว...นี่ก็น่ารัก คุณลุงใจดีย์

แต่ไอ้เรื่องบัณฑิตง่อยนี่...พูดไปไม่ตะเตือนไตตัวเองบ้างเรอะ...
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3595
Join date : 21/06/2015
Age : 28
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4)  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Thu 09 Jul 2015, 23:29

เสี่ยวหลิวอย่ากังวลเลยลูก เตี่ยรักหนูที่สุดนะ
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3791
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4)  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Yuwadee Wana Thu 09 Jul 2015, 23:34

แงงงงงงงงงง อ่านแล้วซึ้งกับความรักของพ่อลูกคู่นี้จริง ๆ
น่ารักทั้งคู่เลย

นายน้อยนึกถึงตัวเองสินะคะ "บัณฑิตง่อยน่ะ"

เสี่ยอ้วน ต้องขอบคุณพ่อทูนหัวของเสี่ยวหลิงอย่างนายนะ ไม่งั้นทั้งนายน้อยและเสี่ยวหลิงคงผ่านวันเวลาเหล่านี้ได้ลำบากกว่านี้แน่
Yuwadee Wana
Yuwadee Wana
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 352
Points : 3789
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4)  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Fri 10 Jul 2015, 03:25

อ๊า อ่านแล้วเหมือนได้ตัวละครอีกตัวเลย
ลองเอาเสี่ยวหลิงไปเสนอท่านประมุขดูไหมครับ เผื่อจะได้กลายเป็นสิ่งเชื่อมโยงเสี่ยวเกอกับโลกนี้(และอู๋เสีย)เพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง
ทีนี้จะได้เปิดตัวความสัมพันธ์ผิงเสียอย่างเต็มรูปแบบ!! //โดนตบ แอ๊ก...
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3809
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4)  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by tamahome Mon 13 Jul 2015, 07:21

อ่านฟินๆ เพลินๆเลยค่ะ =\\\\\=
อยู่กับลุงอ้วนก็สนุก แต่ก็อยากเห็นตอนสามเหลี่ยมเหล็กบวกหนึ่งนะ 55555
เสี่ยบอกเสี่ยจะได้ไม่เป็นคนนอกแล้ว เสี่ยยังมีเสี่ยวหลิง~~~
//ตอนเสี่ยพาขี่คอไม่มีชนกิ่งไม้ใช่ไหมลูก เอาให้ดีดเข้าหน้าเสี่ยเล--แฮ่มม
ชอบที่เหมือนจะเรื่อยๆ แต่ถ่ายทอดรายละเอียดระหว่างทางได้น่ารักน่ะค่ะ เลยรู้สึกว่าเสี่ยวหลิงมีอยู่จริงๆนะ เตี่ยรู้ว่าเสี่ยวหลิงกังวลแบบนี้ต้องยิ่งรักยิ่งหลงแน่ๆ (นี่ยังหลงไม่พอ?) เป็นตัวแทนความเชื่อมโยงที่คิดถึงแต่อู๋เสีย ส่วนอู๋เสียก็คิดถึงแต่เสี่ยวหลิง(เลยไม่คิดถึง..ให้ปวดใจเท่าไหร่?) สิบปีมานี้ผ่านมาได้ด้วยเสี่ยวหลิง แง~~~ /มโนมาก แยกรูทจากเนื้อเรื่องหลักเป็น AU ใช่มั้ยนยยย
tamahome
tamahome
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 32
Points : 3465
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ