Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
+4
yakusoku
DarkAki
Mayao
Fenrir
8 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
[OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
By Fenrir
“ฮ้า...”
“นายไหวไหม?”
ผมหอบ แทบกระอักลมหายใจตัวเอง
“...ได้อยู่ อึก!”
กัดฟัน เกร็งมือกำผ้าปูที่นอนแน่น แล้วเหลือบหางตาไปด้านหลัง “ต่อสิเสี่ยวเกอ เร็วเข้า”
เหงื่อไหลท่วมหน้า เหนอะหนะจนอยากอาบน้ำ แต่ผมไปจากตรงนี้ไม่ได้ ต่อให้อยากไปใจแทบขาดก็หนีไปไหนไม่พ้น ผมเค้นเสียงลอดไรฟัน อ้อนวอนเขา
“ช่วยฉันที ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
เมินโหยวผิงมองผมอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกำลังชั่งใจ สุดท้ายพยักหน้า ออกแรงกดร่างผมลงกับเตียง ทั้งเงาและร่างกายของเขาตรึงผมไว้กับที่ต่างตรวน
นิ้วเรียวทั้งสิบกำรอบข้อเท้าทั้งสองข้างของผมยกลอยขึ้น ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดผิวโดยตรงทำให้ผมเกร็งขาอัตโนมัติ
“อู๋เสีย...”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบจากเบื้องหลัง ผมซุกหน้าลงกับหมอน หัวใจเต้นโครมครามๆใกล้ระเบิดจากอก
“ทนหน่อยนะ”
เสี่ยวเกอขยับเข้ามา พับท่อนขาล่างลงไปแนบกับต้นขาด้านหลังจนส้นเท้าชนกับสะโพก ทิ้งน้ำหนักตัวถ่ายลงมาที่ขาของผม เต็มๆ
แล้วเส้นฟางความอดกลั้นเส้นสุดท้ายก็ขาดผึง
“อ้ากกกกกกกก!!!!”
ผมดิ้นแรงเหมือนปลาถูกเบ็ดเกี่ยวขึ้นจากน้ำ แต่เสี่ยวเกอล็อคผมไว้จึงดิ้นไม่หลุด
“อู๋เสีย นายต้องผ่อนคลาย”
ขมับผมกระตุกตุบๆเหมือนโดนตีเป็นหนังหน้ากลองงิ้ว เมินโหยวผิงใช้สองมือทั้งบีบนวดทั้งคลึงน่องของผมหวังให้คลายความตึงสุดโต่ง
“ถ้าเกร็งจะยิ่งเจ็บ ยิ่งหายช้า”
พูดมันง่ายกว่าทำเหอะ ผมกำหมัดทุบฟูกรัวๆ กล้ามเนื้อตึงแน่นเหมือนดามด้วยไม้กระดานตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าขึ้นมาถึงเอว ผมชักไม่แน่ใจว่าตกลงให้เมินโหยวผิงช่วยนี่มันจะดีหรือแย่กว่าเดิม แต่ก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อผ่อนคลายตามที่เขาแนะนำไว้
ว่าแต่นายจะช่วยกดให้มันเบาๆกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง บีบจนขาฉันจะแบนเป็นหมูแผ่นอยู่แล้ว ฉันยังไม่อยากพิการเป็นอัมพาตตั้งแต่หนุ่มๆนะเฮ้ย!
เหมือนเขาจะอ่านใจผมออกหรือไม่สีหน้าแววตาผมคงออกอาการดีเดือดชัดเจนเต็มที่ แรงกดที่ท่อนขาจึงผ่อนลงเล็กน้อยพอให้รู้สึกหายใจคล่องขึ้น แถมได้รับค่าทำขวัญที่ร้องเสียงหลงเมื่อกี้เป็นบริการนวดฝ่าเท้าจากจางฉี่หลิง แบบนี้สิถึงเข้าท่าหน่อย ไม่ใช่จับผมงัดขึ้นงัดลงเหมือนตุ๊กตา
“เฮ้ๆ หมูที่ไหนมันแหกปากร้องเมื่อกี้น้องเสี่ยวเกอ ฉันอยู่ในห้องน้ำนี่สะดุ้ง นึกว่าหลังบ้านเทียนเจินมีโรงเชือดเลยว่าจะไปขอซื้อซี่โครงกับขาหมูมาต้มน้ำแกงให้พวกนายกินซะหน่อย”
เสียงกวนประสาทแม่งลอยมาเข้าหูก่อนตัวซะอีก พออ้าปากจะด่าว่าไอ้ที่ร้องเมื่อกี้มันคนแท้ๆไม่ใช่หมูก็โดนเมินโหยวผิงใช้จังหวะนี้ออกแรงกดขาผมพับลงให้แนบแน่นกว่าเดิมอีกรอบ!
นายอ้วนเดินเข้ามาพร้อมกะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนู มองผมที่อ้าปากพะงาบๆเป็นปลาแล้วหัวเราะตัวโยน ไอ้อ้วนนี่ซาดิสม์หรือไงเห็นคนทรมานแล้วหัวเราะชอบอกชอบใจ!
“เอ้าๆ เพลามือหน่อย เดี๊ยวเทียนเจินก็ตายก่อนพอดี” เดินมาตบไหล่ผมป้าบๆแล้วยิ้มกว้าง
“แต่เสี่ยพูดเลยนะ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเทียนเจินไปทำอะไรมา ที่น้องเสี่ยวเกอกับเทียนเจินคุยกันเมื่อกี้ คนรักเพื่อนที่แสนดีอย่างฉันคงไปมโนว่านายกำลังซัมติงกันอยู่แหง”
กรีดนิ้วป้อมๆทำรูปหัวใจท่าทางตุ้งติ้ง ตาเยิ้มเป็นตาแก่ชอบหลอกแต๊ะอั๋งสาวๆ ผมเห็นแล้วขนลุกพรึ่บ อยากถามเหลือเกินว่าเอาความคิดว่าผมจะทำอะไรลามกๆกับเสี่ยวเกอตลอดเวลามาจากไหน (ต่อให้มีบ้างก็เถอะ) ตั้งแต่กลับมาจากฉางไป๋ซานก็เล่นผมแต่เรื่องนี้ นี่ไม่เบื่อบ้างหรือไง
ผมกลอกตา ปล่อยให้คนบ้าแม่งบ้าต่อไปให้หายอยาก ส่วนคนที่ล็อคผมไว้ตอนนี้ก็จัดแจงเอาขาผมลงเรียบร้อย เปลี่ยนมาใช้นิ้วโป้งกดตามจุดต่างๆแทน
ถามว่าผมมาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง?
ผมบอกเลยว่าเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องชัดๆ
ย้อนไปเมื่อวันก่อน เสี่ยวฮัวนั่งเครื่องจากปักกิ่งมาเยี่ยมผม อารามดีใจที่ไม่ได้เจอเพื่อนสมัยเด็กที่ไปพึ่งพาอยู่เรื่อยและญาติอายุใกล้เคียงกันที่ผมคลุกคลีด้วยมากที่สุดบ่อยนัก เลยเสนอตัวจะเลี้ยงข้าวที่ภัตตราคารชื่อดังในหังโจว
ตอนนั้นผมน่าจะเพลียเอาเรื่องอยู่เพราะอยู่ระหว่างสะสางคดีพวกหน้าด่านกับพวกที่คิดเล่นไม่ซื่อกับตัวเลขบัญชีที่ผ่านสายตา ระยะหลังผมเลยกินอาหารไม่เป็นเวลา แถมไม่มีเมินโหยวผิงที่ตอนนี้ไปคว่ำกรวยคอยเตือนให้กินข้าว ดังนั้นพอหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ในห้องส่วนตัวแล้วกระเพาะเริ่มร้องประท้วงผมจึงเผลอสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ น่ากลัวว่าแค่คนสองคนจะกินไม่หมด
ผมกับเสี่ยวฮัวเรานั่งกินไปคุยไปเรื่อยเปื่อย รู้สึกผ่อนคลายสบายใจแถมอาหารก็อร่อย ผมจิ้มตะเกียบเข้าปากเพลิน อาหารพร่องไปเรื่อยๆ ผ่านไปสักพักผมถึงสังเกตว่าเสี่ยวฮัวเริ่มเงียบ ดวงตาคมสวยมองผมเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“มีอะไรงั้นหรือ” ผมถาม ตะเกียบคีบเนื้อไก่ผัดเปรี้ยวหวานเข้าปาก รสสัมผัสนุ่มคละเคล้าซอสและเครื่องปรุงรสกลมกล่อมของเนื้อไก่ทำให้ผมติดใจจนต้องเรียกบริกรมาสั่งอีกจาน
คิ้วเสี่ยวฮัวกระตุกแว่บนึง หรืออาหารจะไม่ถูกปากเสี่ยวฮัว?
“อาเฮีย อย่าว่าฉันอย่างโง้นอย่างงี้เลยนะ”
เขาประสานมือ ทำหน้าเครียดประหนึ่งเปลี่ยนโหมดอัตโนมัติ กลายเป็นคุณชายสกุลเซี่ยสุดเนี้ยบที่ตอบรับคำเชิญเลี้ยงอาหารของคู่ค้าเป็นหน้าฉากก่อนการเจรจาทางธุรกิจ
“แต่นายเริ่มอ้วนเกินไปแล้ว”
“............หะ?”
ตะเกียบหลุดจากมือกระทบจานดังเคร้ง! หมอนี่พูดเรื่องอะไรอยู่? ยังหัววันแท้ๆแต่ก็เมาแล้วรึไง
ผมเนี่ยนะอ้วน ผมบอกปัดในใจอย่างไม่ต้องคิด ไม่มีทาง ผมไม่ใช่นายอ้วนแซ่หวังซะหน่อยถึงจะลงกรวยหนักแล้วยังพุงหนาเป็นกระสอบพันปี
“ทำหน้าแบบนั้นไม่เชื่อฉันล่ะสิ”
ผมเชิดหน้า “ตรงไหนของฉันกันที่อ้วน กางเกงก็ยังใส่ได้ เสื้อก็ไม่ได้เปลี่ยนไซส์ กรวยก็ยังลงได้สบายๆไม่ติดพุง—“
เสี่ยวฮัวขยับมาประชิดตัวผม ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก อาศัยฝีเท้าที่เบาจากการฝึกปรือวิทยายุทธและศาสตร์แห่งงิ้วโบราณตั้งแต่เด็กลุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมายืนอยู่ข้างๆ
มือขวายื่นลงต่ำ บีบหนังหน้าท้องของผมหนึ่งที ไม่สิ สองที เฮ้ย นี่มันสามที! เซี่ยอวี้เฉินนายมาดึงท้องฉันเล่นทำไม!
“เจอแล้วนี่ไง”
เขายิ้ม
“ ‘พุง’ ของเถ้าแก่สาม”
พูดจบก็เผ่นแน่บไปนั่งเก้าอี้ ทำท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ...เซี่ยอวี้เฉินนับเป็นเพื่อนดีที่หาได้ยากยิ่งในวงการนี้ อย่างน้อยเขาก็ช่วยเหลือผมตั้งหลายต่อหลายอย่างมาหลายปี ผมไม่ควรทำลายมิตรภาพระหว่างเรา แต่เสียดายเหลือเกิน ตอนนั้นผมน่าจะขอให้นายแว่นดำช่วยสอนผมใช้ตะเกียบเป็นอาวุธบ้าง เผื่อจะได้จิ้มโดนตัวเสี่ยวฮัวเอาคืนสักฉึกสองฉึก! ต่อให้ผมมั่นใจว่าเขาจะเอาชนะผมได้แม้อีกฝ่ายจะมามือเปล่าหรือมีไม้จิ้มฟันหักครึ่งเป็นอาวุธก็เถอะ
“มีนิดๆหน่อยๆก็ธรรมดานี่ ใครๆก็มี เสี่ยวฮัวถ้านายเป็นผู้ชายถึงเวลามันก็ต้องมีเหมือนกันบ้างแหละ ไม่ได้น่าเกลียดตรงไหน”
เขาเลิกคิ้ว แล้วดึงเสื้อเชิ้ตสีชมพูตัวเก่งให้ตึงกระชับแนบไปกับลำตัว ให้ตายเถอะ เสี่ยวฮัวรูปร่างดีชะมัด สมแล้วที่ผู้ชายทั้งแท่งมีหุ่นแบบนี้ถึงเล่นตัวนางได้! แต่แม่งนี่ไม่เท่ากับว่าข้อสันนิษฐานของผมเมื่อกี้มันผิดหรอกเหรอ ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะมีพุง ต่อให้คนมีพุงน้อยๆพบได้ปกติ แต่คนที่ไม่มีเลยก็มีเหมือนกัน
เสี่ยวฮัวหัวเราะหึๆ ท่าทางสนุกเหลือเกินที่เห็นผมแพ้แบบนี้ นายแม่งโรคจิต!
“เอาหน่าอู๋เสีย ที่บีบพุงเมื่อกี้ฉันล้อเล่น แต่เรื่องที่พูดไปฉันหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ”
มือเรียวขาวประคองถ้วยชาขึ้นจิบ
“นายน่าจะหาเวลาดูแลตัวเองบ้าง ต่อให้คนจะเรียกนายว่าเถ้าแก่สามก็ใช่ว่านายจะต้องทำร้ายตัวเองจนกลายเป็นเจ้าสัวหัวล้านพุงพลุ่ยที่พ้นวัยทองไปแล้ว ทั้งฉันทั้งนายยังไม่แก่ก็จริงแต่อายุเราก็มากขึ้นทุกวันๆ หัดออกกำลังกายไม่ก็ควบคุมอาหารสักหน่อย เอาแต่ทำงานแล้วกินๆนอนๆตามใจปาก ระวังจะแก่เร็วนะอาเฮีย”
ผมอยากเถียง แต่พอเทียบสารรูปตัวเองกับเสี่ยวฮัวที่งดงามเปล่งประกายเสมอ(แม้จะมีตอหนวดโผล่มารำไรบ้าง)ก็พูดไม่ออก ทุกอย่างของหมอนี้มันดูดีเกินไปหมด! ดูเหมือนพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหรือนักธุรกิจตัวอย่างรุ่นใหม่ไฟแรงหลุดมาจากหน้านิตยสารพิมพ์สี่สีในสังคมไฮโซมากกว่าเนื้อแท้ของโจรขุดสุสานที่ต้องคลุกคลีกับดินกับศพและทุจริตชนไม่เว้นแต่ละวัน
โอเค เรื่องความดูดีตรงนี้ผมไม่สู้เสี่ยวฮัว แต่ถ้าเรื่องพุงล่ะก็ เถ้าแก่สามขอยืนกรานด้วยเกียรติแห่งสกุลอู๋
ผม ไม่ ได้ อ้วน!
บางทีที่เสี่ยวฮัวพูดอาจจะจริง....
ผมอาจจะเริ่มท้วม....หน่อยๆ..........แต่นี่แค่ระยะเริ่มต้น...ไม่มีอะไรต้องกังวล...............มั้ง?
ผมจ้องตัวเลขบนตาชั่ง เริ่มเหงื่อตก หน้าซีดสลับแดงหลังเจอความจริงซัดใส่หน้ารัวๆ ผมคิดว่าตาชั่งซังกะบ๊วยนี่มันต้องเสียเพราะซื้อมาวางไว้ใต้ตู้แล้วลืมไปแล้วตั้งหลายปี แต่พอให้หวังเหมิงปัดฝุ่นแล้วขึ้นมาชั่งให้ดูก็ใช้ได้ปกติทุกอย่าง
แต่ไอ้ตัวเลขนั่นมันไม่จริงใช่มั้ย! หวังเหมิงแม่งต้องแกล้งล็อคเลขตาชั่งของผมแน่ๆ
หลังปรายตาสั่งให้เจ้ามือขวาตัวดียกตาชั่งไปไว้ที่ชอบๆ ผมเก็บตัวเลขสยองขวัญมาว่ายวนเวียนในหัวตลอดทั้งวัน แม้จะมีเอกสารและตัวเลขหลายร้อยหลายพันตัวที่ตีมูลค่าเป็นเงินหยวนได้มหาศาลปรากฏบนหน้ากระดาษ แต่ไม่มีตัวเลขไหนในบัญชีทรงพลังได้เท่ากับตัวที่ผมเห็นบนตาชั่งตอนเช้า
ผมเงยหน้าจากเอกสาร คลึงหัวคิ้วตัวเอง รู้สึกเหมือนไมเกรนจะขึ้น ล้วงบุหรี่ขึ้นมาสูบ หวังให้กลิ่นเขม่าควันหอมอ่อนๆที่พ่นจากปากของผมทำให้ใจมันสงบ
แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่โน๊ตบุ๊คที่พับไว้ ผมคาบบุหรี่ไว้แล้วเอื้อมมือยกข้าวของที่วางทับๆมันแยกออกมา
หน้าจอสีฟ้าสว่างวาบ รู้ตัวอีกทีนิ้วก็พรมรัวลงบนคีย์บอร์ด เสิร์ชหาคลิปออกกำลังกายในอินเตอร์เน็ต
มือขวาวางลงบนเม้าส์ ขยับลากเลื่อนหน้าจอขณะกวาดลูกตาสำรวจคลิปที่มีอยู่ดาษดื่นปะปนกับแบนเนอร์โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีไม่น้อยเลยที่โอ้อวดสรรพคุณว่าลดได้แฟ่บเร็ว ผมข้ามๆโฆษณาพวกนั้นเพื่อดูรายละเอียดคลิปออกกำลังกายอย่างจริงจัง ผลคือการออกกำลังกายที่เน้นลดน้ำหนักกระชับรูปร่างส่วนใหญ่ร้อยละ90ก็มีแต่เต้นๆโยกๆทั้งนั้น
เวรกรรมของเถ้าแก่สาม อายุย่าง40อย่างผมยังต้องมาเต้นกะโหยงกะเหยงหน้าทีวีเพื่อฟิตหุ่นเหมือนสาวๆวัยรุ่นจอมพารานอยน์ทั้งที่เอวก็เท่ามด เกิดมีใครมาเห็นได้หัวเราะตาย หมดกันทั้งราศีและภาพลักษณ์ที่สะสมมา!
ระหว่างที่ผมกำลังสองจิตสองใจมือก็เลื่อนเม้าส์ขึ้นลงเรื่อยเปื่อย ผมพลันสะดุดตาคลิปๆหนึ่งที่แปลกแยกแตกต่างมาจากคลิปเต้นอื่นๆ พอลองดูคลิปนั้นจนจบก็รู้สึกว่าทำแบบนี้ท่าทางไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนหรือน่าอายเลย หนำซ้ำใช้พื้นที่และเวลาต่อครั้งไม่มาก ผมทำคนเดียวเงียบๆสบายๆทุกวันก็ยังได้
ผมยิ้มออก เอาวะ ลองดูหน่อยจะได้ไม่เสียชื่อเถ้าแก่สาม ถ้าเวิร์คจะได้ทำต่อ ดีไม่ดีลบคำสบประมาทร้ายกาจของเสี่ยวฮัวได้ด้วย
ผมเดินไม่ได้
จางฉี่หลิงดูตกใจไม่น้อยที่จู่ๆผมก็ทรุดฮวบลงไปต่อหน้า ยังดีที่เอามือยันพื้นไว้ได้ทัน คางจึงไม่ไปกระแทกกับอะไรเข้า แต่แรงก็ดันไปถ่ายลงที่ข้อมือหมดจนความรวดร้าวค่อยๆแล่นขึ้นมาจนชาวาบทั้งแขน ให้มันได้อย่างนี้สิ! แค่จะเดินไปหาคนยังทำไม่ได้เลย!
ผมได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆสะเทือนพื้นกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดของบันไดไม้ใกล้เข้ามา เป็นนายอ้วนหวังที่สะพายเป้เปื้อนฝุ่นเปื้อนดินพะรุงพะรัง แต่มือกลับถือถุงพลาสติกพิมพ์โลโก้ร้านเป็ดปักกิ่งเจ้าดังของเมืองข้างๆ
“เซอร์ไพรส์! ไหนดูซิว่าคนหล่อที่ไหนมา! เสี่ยกลับมากับน้องเสี่ยวเกอด้วย งานนี้เจอกรวยอวบต้องฉลองกัน--อ้าวนี่ นายไปนอนทำอะไรตรงนั้น?”
หน้ากลมแป้นหุบยิ้มดูสับสน เสี่ยวเกอปราดเข้ามาประคองไหล่ผมให้ค่อยๆลุกขึ้น นั่นช่วยอะไรไม่ค่อยได้เพราะผมไม่พร้อมจะลงน้ำหนักที่ขาให้เป็นฐาน ผมเลยเหมือนโดนเขาหิ้วปีกอยู่กลายๆ เป็นหุ่นเชิดที่สายชักขาดเรียบร้อย
สภาพของสองคนที่เพิ่งกลับมามอมแมมดูเหนื่อยล้า แต่ก็ยังอุตส่าห์อุ้มผมไปไว้ที่เตียง ซักไซ้ไต่ถามอาการ
“นายทำอะไรมา ล้มไปแบบนั้นนึกว่าคิดถึงน้องเสี่ยวเกอจนหัวใจวายตาย”
นายอ้วนแซ่หวังพูดแทนคนเงียบขรึมที่นั่งอยู่ข้างๆ เมินโหยวผิงละมือจากหน้าผากไปแตะที่ก้านคอของผม คงจะไม่เจออะไรเลยมุ่นคิ้ว ท่าทางพะวงอย่างคนจับต้นสายปลายเหตุไม่ได้ ไม่แปลกเลยเพราะสาเหตุมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก
“นั่งนานไปหน่อยเลยตะคริวกินล่ะมั้ง..” ผมยกมือก่ายหน้าผาก “ทิ้งไว้อีกเดี๊ยวคงหาย พวกนายมีอะไรก็ไปทำเถอะ น่าจะได้ของดีมาไม่ใช่รึไง”
“ของน่ะได้มาแล้ว มันไม่หายไปไหนง่ายๆหรอกถ้าพวกฉันอยู่ด้วย เถ้าแก่สามตะหากนั่งๆนอนๆอีท่าไหนถึงโดนตะคริวแดกหัวจดตีน”
เมินโหยวผิงหันมามองขาของผม สอดมือซ้ายประคองรับใต้ท่อนขา กำแล้วคลึง กดๆจิ้มๆเหมือนกำลังงัดวิชาปลดกับดักมาใช้กับร่างกายมนุษย์เป็นๆ มือขวาทำไม่ต่างกันแต่ตำแหน่งที่ทาบมือลงไปเป็นบริเวณหน้าแข้ง
เสี่ยวเกอเงยหน้าสบตาผม หน้าตึงเล็กน้อย
“นั่นไง น้องเสี่ยวเกอทำหน้าแบบนี้ไม่ผิดแน่ๆ” นายอ้วนร้อง “เทียนเจิน นายไม่ได้นั่งๆนอนๆที่โต๊ะอย่างเดียวใช่มั้ย คายๆออกมาซะ เสี่ยกับพี่ชายน้อยท่านนี้จะได้รู้ว่าจะทำยังไงต่อ”
ผมกวาดตามองเพื่อนสนิทสองคนแล้วตัดสินใจ นี่เห็นแก่พวกนายที่เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆหรอกนะ.....
“ฉันSquatมา”
เครื่องหมายคำถามลอยเต็มห้อง คนถามและคนตอบล้วนเงียบไปชั่วขณะ
“สคง? สควอท? มันคืออะไร? เสี่ยอ้วนไม่ได้ร่ำได้เรียนภาษาฝรั่งมา มันเป็นรหัสลับเวลาคว่ำกรวยหรือเปล่า?”
นายอ้วนทำหน้างงเต๊ก หันไปหาเมินโหยวผิงเผื่อว่าเขาจะรู้
ผมชี้ไปที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คที่เปิดหน้าอีเมลล์ค้างไว้ บอกให้เขาเปิดอีกแท๊บหนึ่ง หน้าต่างเว็บดูคลิปวีดีโอออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตโผล่หราขึ้นมา
หลังจิ้มคีย์บอร์ดกับคลิกเม้าส์ไปจึ้กสองจึ้ก นายอ้วนกลั้นหัวเราะตัวสั่นกึกๆ อย่าคิดว่าผมไม่เห็น! เสี่ยวเกอเองเมื่อกี้ก็ไปชะโงกหน้าดูด้วยเหมือนกัน เขาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอายเหมือนอย่างนายอ้วน แต่ส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วมองผมเงียบๆ คล้ายจนใจ
“ตกลงเทียนเจินนอนแบ๋บเป็นเต้าหู้เพราะนี่หรอกเรอะ” ร่างอ้วนๆทำท่านั่งเก้าอี้ลม ขึ้นๆลงๆเหมือนจะเยาะเย้ยว่าอีท่าออกกำลังแค่นี้ถึงกับทำเถ้าแก่สามหมดสภาพเอาง่ายๆ นายไม่ลองทำนายไม่รู้หรอกว่าแม่งจะมาเดี้ยงเอาจริงๆก็วันหลังจากทำท่านี้แค่20นาทีเนี่ยแหละ!
ผมนอนหันหลัง ดึงผ้าห่มคลุมตัว กะว่าถ้านอนให้ร่างกายฟื้นตัวเองแทนที่จะแบกสังขารจากเตียงมานั่งทำงานเหมือนตอนเช้าอาจจะดีกว่า ตอนนี้นายอ้วนบอกว่าจะไปเตรียมน้ำอุ่นจัดมาให้ เผื่อช่วยประคบคลายเส้นที่ตึงจนลั่นเปรี๊ยะๆได้
ส่วนเมินโหยวผิงขยับมืออีกครั้ง เสนอตัวด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่าจะช่วยนวดให้ผมรู้สึกดีขึ้น แล้วมาลงเอยด้วยการที่เขาจับขาผมดัดเหมือนตุ๊กตาจนนอนพังพาบน้ำตาแทบไหลนองหมอน
ตะวันตกดิน มีโทรศัพท์ด่วนเข้ามาทำให้นายอ้วนที่กำลังตั้งท่าแกะกล่องเป็ดปักกิ่งต้องรีบไปรับข้างนอกห้อง คุยเสียงดังพลางสบถไปพลางโทษฐานที่โทรมาขัดเวลากินหลังกลับจากกรวยมาหยกๆ สักพักหมอนั่นก็กลับเข้ามา
“ฉันต้องไปก่อน มีปัญหาคนในคณะนิดหน่อย นายอยู่กับน้องเสี่ยวเกอไปก่อนเพราะเสี่ยอาจจะค้างที่โรงแรมเลยคืนนี้ แต่พวกนายอย่าซัดเป็ดฉันหมดนะเว้ย เก็บไว้ถนอมน้ำใจเพื่อนคนนี้บ้าง!”
แว่บเข้ามาคว้ากระเป๋าเงินกับของอีกสองสามอย่างแล้วออกไปอย่างไว พอเห็นหลังอยู่หลัดๆตอนปิดประตูร้านของผม เหลือเพียงเราสองคน เถ้าแก่สามที่นอนเหลวเป็นเต้าหู้ไร้พิษสงกับนายเรือพ่วงจางฉี่หลิงที่นั่งเฝ้าบนเก้าอี้ข้างเตียง
ผมขยับตัวเพื่อจัดท่าให้ตัวเองนอนสบายขึ้นโดยพยายามไม่ออกแรงที่ขามากเกินไป เคลื่อนไหวยุกยิกอยู่พักนึงจนรู้สึกว่าผ้าห่มถูกเลิกขึ้นจากปลายเท้า
เบือนหน้าไปพบกับจางฉี่หลิง มือทั้งสองแตะน่องของผม ผมเหลือกตา หรือเมินโหยวผิงจะทดลองวิชาฤาษีดัดตนกับผมอีกแล้ว!
ผมตั้งท่าจะกระดึ้บหนีเป็นหนอนให้ห่างจากมือคู่นั้น เลิกลั่กเมื่อนึกขึ้นได้ว่าขยับอีกอีกหน่อยก็เจอหัวเตียงแล้ว แต่เขาทำเพียงลูบเบาๆเหมือนปลอบให้คลายความกังวล หากผมยังไม่วางใจ
“นายไม่ได้จะจับฉันดัดอีกใช่มั้ย”
เสี่ยวเกอมองผม พยักหน้า ก่อนเสนอทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า
“ฉันแค่จะนวดให้นายเท่านั้น ไม่ดัดขานายอีก”
“แน่ใจนะว่าจะไม่ดัด”
“อืม”
พอเมินโหยวผิงรับคำ สบตาผมตรงๆ ก็โล่งใจได้เปราะหนึ่ง ผมเปลี่ยนท่ามานอนคว่ำ อำนวยความสะดวกให้ปรมาจารย์จางฉี่หลิงปรนนิบัติพัดวีเถ้าแก่อู๋ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย รู้สึกได้ว่าปลายเตียงยุบลงไป จางฉี่หลิงคงปีนขึ้นมานั่งบนนี้แล้ว
นิ้วทั้งสิบวางลงบนกล้ามเนื้อขาด้านหลังของผม ออกแรงกด ย้ำอย่างรู้จังหวะผ่อนหนักผ่อนเบา ผมหลับตา โครตของโครตความสบาย!
ถ้าผมซื้อห้องแถวสักห้องเปิดร้านนวดแผนโบราณ(พันปี)ให้เขาหันมาเอาดีด้านนี้แทนการคว่ำกรวย เก็บค่าบริการเป็นรายชั่วโมงเหมือนที่ร้านอื่นๆทำ เมินโหยวผิงจะว่ายังไงนะ
“...อืม..........อื้อ.....!”
ผมกำลังเคลิ้มกับฝ่ามือของเมินโหยวผิงที่บีบนวดไปตามเนื้อตัว สะดุ้งเมื่อมือนักนวดมืออาชีพสอดผ่านชายเสื้อยืด ผมตัวแข็ง
มือซ้ายของหมอนวดจำเป็นยังทำหน้าที่อยู่บนขาของผมทว่าเหมือนมันจะเปลี่ยนตำแหน่งสูงขึ้นมาจากน่องในตอนแรกอยู่โข
“เสี่ยวเกอ ขาฉันมันไม่ได้อยู่ตรงนี้ มือนายไปไหนกัน”
ไม่มีเสียงตอบ หากเงาที่เคลื่อนมาทาบทับจากด้านหลังช่างเหมือนปีศาจร้ายคืบคลานมาหายามหลับ
มือขวายังคงรุกรานค้างคาใต้สาบเสื้อ ผมนอนนิ่ง เฝ้าดูปฏิกริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่อกระแสพายุวาบหวิวชวนขนลุกที่เริ่มโลดแล่นอย่างใจเย็น ผิวหนังส่วนที่ได้รับสัมผัสเหมือนโดนช็อต ปลายนิ้วเย็นสะกิดไตเล็กๆบริเวณอกของผม ก่อนลากฝ่ามือผ่านขึ้นไป เสียดสีอ้อยอิงเหมือนไม่จงใจ ซะที่ไหนกัน!
แล้วน้ำเสียงไร้อารมณ์พลันกระซิบข้างหู
“เห็นว่านายอยากลดน้ำหนัก ฉันช่วยได้”
ผมหูผึ่ง ที่ตอนแรกกะว่าจะเอี้ยวหน้ามาส่งสายตาดุๆกลับกลายเป็นความสนใจ แต่มันเป็นความอยากรู้ที่ก่ำกึ่งกับความหวาดระแวงประหลาด
“ยังไง”
สองแขนของเมินโหยวผิงสอดใต้ตัวของผม ร่างถูกจับพลิกกลับมาอย่างนุ่มนวล ประจัญหน้ากับริ้วเปลวเพลิงพริ้วไหวสีเทาที่ทวีความเข้มทีละน้อยบนเชิงกระดูกไหปลาร้า
ชิบ หาย
ผมกลอกตามองเพดาน รู้ซึ่งถึงเจตนาของอีกคนแล้วขาเหมือนจะออกตัวเจ็บแปล่บๆไปก่อนล่วงหน้า ตอนแรกผมคิดว่าจะยอมให้เขาทำแค่แตะๆ แต่ดูทรงแล้ว ความกระตือรือร้นที่เต้นเร่าชัดๆในดวงตาของขวดน้ำมันจอมเหม่อลอยของผมคงไม่อนุญาตให้หยุดอยู่แค่นั้น
ให้ตายสิ เสี่ยวเกอแม่ง
“.....จาง...........ฉี่หลิง...........อะ......อ้า.....”
นายให้ฉันออกกำลังกายด้วยตำรับลับหอบ้านสกุลจางหรือไง ถึงต้องส่งเสียงร้องอ้าๆๆแบบนี้!
สาระวันนี้ที่ผม เถ้าแก่สาม ภูมิใจนำเสนอ
มวยปล้ำกับผีผ้าห่มจางฉี่หลิง ผลาญพลังงานส่วนเกินได้ผลดีกว่าไอ้Squatนั่นร้อยเท่า
แต่ขาฉันยังไม่หาย ก็ต้องมาสะโพกครากอีกเหรอวะ!
ถ้าต้องลดน้ำหนักคราวหน้าผมขอปรึกษาเสี่ยวฮัวหรือซิ่วซิ่วแทน จะลุกนั่งหรือเล่นมวยปล้ำก็ไม่เอาอีกแล้ว!
Fin.
------------------------------
Talk
สำหรับใครที่ไม่รู้จักSquat ดูตรงนี้เลยค่ะ >>> https://www.youtube.com/watch?v=auy654Sr30o
เป็นการออกกำลังกายในท่าคล้ายๆนั่งเก้าอี้ลม ทำแล้วขาจะแข็งแรง หุ่นเฟริม แล้วก็ปวดขามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกด้วยค่ะ!!!! ท่าดูเบสิคมากๆแต่เป็นการเกร็งขากับพยายามทรงตัวด้วยน้ำหนักตัวเองให้อยู่หมัด แค่10-20นาทีดูเหมือนไม่นาน แต่ถ้ามือใหม่หัดเล่นล่ะก็ แค่ก้าวขึ้นเตียงก็ร้าวทั้งตัว ไม่ต้องพูดถึงขึ้นบันไดหรือก้มตัวเลย อยู่ท่าไหนก็ท่านั้น ลุกไม่ขึ้น อาการจะอยู่แบบนี้ราว2-3วันค่ะ Orz"""""" (ประสบการณ์ตรง)
ที่จริงเราแค่อยากให้เสี่ยวฮัวบีบพอนเดอริงอู๋เสีย แล้วเสี่ยวเกอก็มานวดๆให้เถ้าแก่สามแค่นั้นเอง...
By Fenrir
“ฮ้า...”
“นายไหวไหม?”
ผมหอบ แทบกระอักลมหายใจตัวเอง
“...ได้อยู่ อึก!”
กัดฟัน เกร็งมือกำผ้าปูที่นอนแน่น แล้วเหลือบหางตาไปด้านหลัง “ต่อสิเสี่ยวเกอ เร็วเข้า”
เหงื่อไหลท่วมหน้า เหนอะหนะจนอยากอาบน้ำ แต่ผมไปจากตรงนี้ไม่ได้ ต่อให้อยากไปใจแทบขาดก็หนีไปไหนไม่พ้น ผมเค้นเสียงลอดไรฟัน อ้อนวอนเขา
“ช่วยฉันที ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
เมินโหยวผิงมองผมอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกำลังชั่งใจ สุดท้ายพยักหน้า ออกแรงกดร่างผมลงกับเตียง ทั้งเงาและร่างกายของเขาตรึงผมไว้กับที่ต่างตรวน
นิ้วเรียวทั้งสิบกำรอบข้อเท้าทั้งสองข้างของผมยกลอยขึ้น ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดผิวโดยตรงทำให้ผมเกร็งขาอัตโนมัติ
“อู๋เสีย...”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบจากเบื้องหลัง ผมซุกหน้าลงกับหมอน หัวใจเต้นโครมครามๆใกล้ระเบิดจากอก
“ทนหน่อยนะ”
เสี่ยวเกอขยับเข้ามา พับท่อนขาล่างลงไปแนบกับต้นขาด้านหลังจนส้นเท้าชนกับสะโพก ทิ้งน้ำหนักตัวถ่ายลงมาที่ขาของผม เต็มๆ
แล้วเส้นฟางความอดกลั้นเส้นสุดท้ายก็ขาดผึง
“อ้ากกกกกกกก!!!!”
ผมดิ้นแรงเหมือนปลาถูกเบ็ดเกี่ยวขึ้นจากน้ำ แต่เสี่ยวเกอล็อคผมไว้จึงดิ้นไม่หลุด
“อู๋เสีย นายต้องผ่อนคลาย”
ขมับผมกระตุกตุบๆเหมือนโดนตีเป็นหนังหน้ากลองงิ้ว เมินโหยวผิงใช้สองมือทั้งบีบนวดทั้งคลึงน่องของผมหวังให้คลายความตึงสุดโต่ง
“ถ้าเกร็งจะยิ่งเจ็บ ยิ่งหายช้า”
พูดมันง่ายกว่าทำเหอะ ผมกำหมัดทุบฟูกรัวๆ กล้ามเนื้อตึงแน่นเหมือนดามด้วยไม้กระดานตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าขึ้นมาถึงเอว ผมชักไม่แน่ใจว่าตกลงให้เมินโหยวผิงช่วยนี่มันจะดีหรือแย่กว่าเดิม แต่ก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อผ่อนคลายตามที่เขาแนะนำไว้
ว่าแต่นายจะช่วยกดให้มันเบาๆกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง บีบจนขาฉันจะแบนเป็นหมูแผ่นอยู่แล้ว ฉันยังไม่อยากพิการเป็นอัมพาตตั้งแต่หนุ่มๆนะเฮ้ย!
เหมือนเขาจะอ่านใจผมออกหรือไม่สีหน้าแววตาผมคงออกอาการดีเดือดชัดเจนเต็มที่ แรงกดที่ท่อนขาจึงผ่อนลงเล็กน้อยพอให้รู้สึกหายใจคล่องขึ้น แถมได้รับค่าทำขวัญที่ร้องเสียงหลงเมื่อกี้เป็นบริการนวดฝ่าเท้าจากจางฉี่หลิง แบบนี้สิถึงเข้าท่าหน่อย ไม่ใช่จับผมงัดขึ้นงัดลงเหมือนตุ๊กตา
“เฮ้ๆ หมูที่ไหนมันแหกปากร้องเมื่อกี้น้องเสี่ยวเกอ ฉันอยู่ในห้องน้ำนี่สะดุ้ง นึกว่าหลังบ้านเทียนเจินมีโรงเชือดเลยว่าจะไปขอซื้อซี่โครงกับขาหมูมาต้มน้ำแกงให้พวกนายกินซะหน่อย”
เสียงกวนประสาทแม่งลอยมาเข้าหูก่อนตัวซะอีก พออ้าปากจะด่าว่าไอ้ที่ร้องเมื่อกี้มันคนแท้ๆไม่ใช่หมูก็โดนเมินโหยวผิงใช้จังหวะนี้ออกแรงกดขาผมพับลงให้แนบแน่นกว่าเดิมอีกรอบ!
นายอ้วนเดินเข้ามาพร้อมกะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนู มองผมที่อ้าปากพะงาบๆเป็นปลาแล้วหัวเราะตัวโยน ไอ้อ้วนนี่ซาดิสม์หรือไงเห็นคนทรมานแล้วหัวเราะชอบอกชอบใจ!
“เอ้าๆ เพลามือหน่อย เดี๊ยวเทียนเจินก็ตายก่อนพอดี” เดินมาตบไหล่ผมป้าบๆแล้วยิ้มกว้าง
“แต่เสี่ยพูดเลยนะ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเทียนเจินไปทำอะไรมา ที่น้องเสี่ยวเกอกับเทียนเจินคุยกันเมื่อกี้ คนรักเพื่อนที่แสนดีอย่างฉันคงไปมโนว่านายกำลังซัมติงกันอยู่แหง”
กรีดนิ้วป้อมๆทำรูปหัวใจท่าทางตุ้งติ้ง ตาเยิ้มเป็นตาแก่ชอบหลอกแต๊ะอั๋งสาวๆ ผมเห็นแล้วขนลุกพรึ่บ อยากถามเหลือเกินว่าเอาความคิดว่าผมจะทำอะไรลามกๆกับเสี่ยวเกอตลอดเวลามาจากไหน (ต่อให้มีบ้างก็เถอะ) ตั้งแต่กลับมาจากฉางไป๋ซานก็เล่นผมแต่เรื่องนี้ นี่ไม่เบื่อบ้างหรือไง
ผมกลอกตา ปล่อยให้คนบ้าแม่งบ้าต่อไปให้หายอยาก ส่วนคนที่ล็อคผมไว้ตอนนี้ก็จัดแจงเอาขาผมลงเรียบร้อย เปลี่ยนมาใช้นิ้วโป้งกดตามจุดต่างๆแทน
ถามว่าผมมาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง?
ผมบอกเลยว่าเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องชัดๆ
-----
ย้อนไปเมื่อวันก่อน เสี่ยวฮัวนั่งเครื่องจากปักกิ่งมาเยี่ยมผม อารามดีใจที่ไม่ได้เจอเพื่อนสมัยเด็กที่ไปพึ่งพาอยู่เรื่อยและญาติอายุใกล้เคียงกันที่ผมคลุกคลีด้วยมากที่สุดบ่อยนัก เลยเสนอตัวจะเลี้ยงข้าวที่ภัตตราคารชื่อดังในหังโจว
ตอนนั้นผมน่าจะเพลียเอาเรื่องอยู่เพราะอยู่ระหว่างสะสางคดีพวกหน้าด่านกับพวกที่คิดเล่นไม่ซื่อกับตัวเลขบัญชีที่ผ่านสายตา ระยะหลังผมเลยกินอาหารไม่เป็นเวลา แถมไม่มีเมินโหยวผิงที่ตอนนี้ไปคว่ำกรวยคอยเตือนให้กินข้าว ดังนั้นพอหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ในห้องส่วนตัวแล้วกระเพาะเริ่มร้องประท้วงผมจึงเผลอสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ น่ากลัวว่าแค่คนสองคนจะกินไม่หมด
ผมกับเสี่ยวฮัวเรานั่งกินไปคุยไปเรื่อยเปื่อย รู้สึกผ่อนคลายสบายใจแถมอาหารก็อร่อย ผมจิ้มตะเกียบเข้าปากเพลิน อาหารพร่องไปเรื่อยๆ ผ่านไปสักพักผมถึงสังเกตว่าเสี่ยวฮัวเริ่มเงียบ ดวงตาคมสวยมองผมเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“มีอะไรงั้นหรือ” ผมถาม ตะเกียบคีบเนื้อไก่ผัดเปรี้ยวหวานเข้าปาก รสสัมผัสนุ่มคละเคล้าซอสและเครื่องปรุงรสกลมกล่อมของเนื้อไก่ทำให้ผมติดใจจนต้องเรียกบริกรมาสั่งอีกจาน
คิ้วเสี่ยวฮัวกระตุกแว่บนึง หรืออาหารจะไม่ถูกปากเสี่ยวฮัว?
“อาเฮีย อย่าว่าฉันอย่างโง้นอย่างงี้เลยนะ”
เขาประสานมือ ทำหน้าเครียดประหนึ่งเปลี่ยนโหมดอัตโนมัติ กลายเป็นคุณชายสกุลเซี่ยสุดเนี้ยบที่ตอบรับคำเชิญเลี้ยงอาหารของคู่ค้าเป็นหน้าฉากก่อนการเจรจาทางธุรกิจ
“แต่นายเริ่มอ้วนเกินไปแล้ว”
“............หะ?”
ตะเกียบหลุดจากมือกระทบจานดังเคร้ง! หมอนี่พูดเรื่องอะไรอยู่? ยังหัววันแท้ๆแต่ก็เมาแล้วรึไง
ผมเนี่ยนะอ้วน ผมบอกปัดในใจอย่างไม่ต้องคิด ไม่มีทาง ผมไม่ใช่นายอ้วนแซ่หวังซะหน่อยถึงจะลงกรวยหนักแล้วยังพุงหนาเป็นกระสอบพันปี
“ทำหน้าแบบนั้นไม่เชื่อฉันล่ะสิ”
ผมเชิดหน้า “ตรงไหนของฉันกันที่อ้วน กางเกงก็ยังใส่ได้ เสื้อก็ไม่ได้เปลี่ยนไซส์ กรวยก็ยังลงได้สบายๆไม่ติดพุง—“
เสี่ยวฮัวขยับมาประชิดตัวผม ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก อาศัยฝีเท้าที่เบาจากการฝึกปรือวิทยายุทธและศาสตร์แห่งงิ้วโบราณตั้งแต่เด็กลุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมายืนอยู่ข้างๆ
มือขวายื่นลงต่ำ บีบหนังหน้าท้องของผมหนึ่งที ไม่สิ สองที เฮ้ย นี่มันสามที! เซี่ยอวี้เฉินนายมาดึงท้องฉันเล่นทำไม!
“เจอแล้วนี่ไง”
เขายิ้ม
“ ‘พุง’ ของเถ้าแก่สาม”
พูดจบก็เผ่นแน่บไปนั่งเก้าอี้ ทำท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ...เซี่ยอวี้เฉินนับเป็นเพื่อนดีที่หาได้ยากยิ่งในวงการนี้ อย่างน้อยเขาก็ช่วยเหลือผมตั้งหลายต่อหลายอย่างมาหลายปี ผมไม่ควรทำลายมิตรภาพระหว่างเรา แต่เสียดายเหลือเกิน ตอนนั้นผมน่าจะขอให้นายแว่นดำช่วยสอนผมใช้ตะเกียบเป็นอาวุธบ้าง เผื่อจะได้จิ้มโดนตัวเสี่ยวฮัวเอาคืนสักฉึกสองฉึก! ต่อให้ผมมั่นใจว่าเขาจะเอาชนะผมได้แม้อีกฝ่ายจะมามือเปล่าหรือมีไม้จิ้มฟันหักครึ่งเป็นอาวุธก็เถอะ
“มีนิดๆหน่อยๆก็ธรรมดานี่ ใครๆก็มี เสี่ยวฮัวถ้านายเป็นผู้ชายถึงเวลามันก็ต้องมีเหมือนกันบ้างแหละ ไม่ได้น่าเกลียดตรงไหน”
เขาเลิกคิ้ว แล้วดึงเสื้อเชิ้ตสีชมพูตัวเก่งให้ตึงกระชับแนบไปกับลำตัว ให้ตายเถอะ เสี่ยวฮัวรูปร่างดีชะมัด สมแล้วที่ผู้ชายทั้งแท่งมีหุ่นแบบนี้ถึงเล่นตัวนางได้! แต่แม่งนี่ไม่เท่ากับว่าข้อสันนิษฐานของผมเมื่อกี้มันผิดหรอกเหรอ ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะมีพุง ต่อให้คนมีพุงน้อยๆพบได้ปกติ แต่คนที่ไม่มีเลยก็มีเหมือนกัน
เสี่ยวฮัวหัวเราะหึๆ ท่าทางสนุกเหลือเกินที่เห็นผมแพ้แบบนี้ นายแม่งโรคจิต!
“เอาหน่าอู๋เสีย ที่บีบพุงเมื่อกี้ฉันล้อเล่น แต่เรื่องที่พูดไปฉันหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ”
มือเรียวขาวประคองถ้วยชาขึ้นจิบ
“นายน่าจะหาเวลาดูแลตัวเองบ้าง ต่อให้คนจะเรียกนายว่าเถ้าแก่สามก็ใช่ว่านายจะต้องทำร้ายตัวเองจนกลายเป็นเจ้าสัวหัวล้านพุงพลุ่ยที่พ้นวัยทองไปแล้ว ทั้งฉันทั้งนายยังไม่แก่ก็จริงแต่อายุเราก็มากขึ้นทุกวันๆ หัดออกกำลังกายไม่ก็ควบคุมอาหารสักหน่อย เอาแต่ทำงานแล้วกินๆนอนๆตามใจปาก ระวังจะแก่เร็วนะอาเฮีย”
ผมอยากเถียง แต่พอเทียบสารรูปตัวเองกับเสี่ยวฮัวที่งดงามเปล่งประกายเสมอ(แม้จะมีตอหนวดโผล่มารำไรบ้าง)ก็พูดไม่ออก ทุกอย่างของหมอนี้มันดูดีเกินไปหมด! ดูเหมือนพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหรือนักธุรกิจตัวอย่างรุ่นใหม่ไฟแรงหลุดมาจากหน้านิตยสารพิมพ์สี่สีในสังคมไฮโซมากกว่าเนื้อแท้ของโจรขุดสุสานที่ต้องคลุกคลีกับดินกับศพและทุจริตชนไม่เว้นแต่ละวัน
โอเค เรื่องความดูดีตรงนี้ผมไม่สู้เสี่ยวฮัว แต่ถ้าเรื่องพุงล่ะก็ เถ้าแก่สามขอยืนกรานด้วยเกียรติแห่งสกุลอู๋
ผม ไม่ ได้ อ้วน!
บางทีที่เสี่ยวฮัวพูดอาจจะจริง....
ผมอาจจะเริ่มท้วม....หน่อยๆ..........แต่นี่แค่ระยะเริ่มต้น...ไม่มีอะไรต้องกังวล...............มั้ง?
ผมจ้องตัวเลขบนตาชั่ง เริ่มเหงื่อตก หน้าซีดสลับแดงหลังเจอความจริงซัดใส่หน้ารัวๆ ผมคิดว่าตาชั่งซังกะบ๊วยนี่มันต้องเสียเพราะซื้อมาวางไว้ใต้ตู้แล้วลืมไปแล้วตั้งหลายปี แต่พอให้หวังเหมิงปัดฝุ่นแล้วขึ้นมาชั่งให้ดูก็ใช้ได้ปกติทุกอย่าง
แต่ไอ้ตัวเลขนั่นมันไม่จริงใช่มั้ย! หวังเหมิงแม่งต้องแกล้งล็อคเลขตาชั่งของผมแน่ๆ
หลังปรายตาสั่งให้เจ้ามือขวาตัวดียกตาชั่งไปไว้ที่ชอบๆ ผมเก็บตัวเลขสยองขวัญมาว่ายวนเวียนในหัวตลอดทั้งวัน แม้จะมีเอกสารและตัวเลขหลายร้อยหลายพันตัวที่ตีมูลค่าเป็นเงินหยวนได้มหาศาลปรากฏบนหน้ากระดาษ แต่ไม่มีตัวเลขไหนในบัญชีทรงพลังได้เท่ากับตัวที่ผมเห็นบนตาชั่งตอนเช้า
ผมเงยหน้าจากเอกสาร คลึงหัวคิ้วตัวเอง รู้สึกเหมือนไมเกรนจะขึ้น ล้วงบุหรี่ขึ้นมาสูบ หวังให้กลิ่นเขม่าควันหอมอ่อนๆที่พ่นจากปากของผมทำให้ใจมันสงบ
แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่โน๊ตบุ๊คที่พับไว้ ผมคาบบุหรี่ไว้แล้วเอื้อมมือยกข้าวของที่วางทับๆมันแยกออกมา
หน้าจอสีฟ้าสว่างวาบ รู้ตัวอีกทีนิ้วก็พรมรัวลงบนคีย์บอร์ด เสิร์ชหาคลิปออกกำลังกายในอินเตอร์เน็ต
มือขวาวางลงบนเม้าส์ ขยับลากเลื่อนหน้าจอขณะกวาดลูกตาสำรวจคลิปที่มีอยู่ดาษดื่นปะปนกับแบนเนอร์โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีไม่น้อยเลยที่โอ้อวดสรรพคุณว่าลดได้แฟ่บเร็ว ผมข้ามๆโฆษณาพวกนั้นเพื่อดูรายละเอียดคลิปออกกำลังกายอย่างจริงจัง ผลคือการออกกำลังกายที่เน้นลดน้ำหนักกระชับรูปร่างส่วนใหญ่ร้อยละ90ก็มีแต่เต้นๆโยกๆทั้งนั้น
เวรกรรมของเถ้าแก่สาม อายุย่าง40อย่างผมยังต้องมาเต้นกะโหยงกะเหยงหน้าทีวีเพื่อฟิตหุ่นเหมือนสาวๆวัยรุ่นจอมพารานอยน์ทั้งที่เอวก็เท่ามด เกิดมีใครมาเห็นได้หัวเราะตาย หมดกันทั้งราศีและภาพลักษณ์ที่สะสมมา!
ระหว่างที่ผมกำลังสองจิตสองใจมือก็เลื่อนเม้าส์ขึ้นลงเรื่อยเปื่อย ผมพลันสะดุดตาคลิปๆหนึ่งที่แปลกแยกแตกต่างมาจากคลิปเต้นอื่นๆ พอลองดูคลิปนั้นจนจบก็รู้สึกว่าทำแบบนี้ท่าทางไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนหรือน่าอายเลย หนำซ้ำใช้พื้นที่และเวลาต่อครั้งไม่มาก ผมทำคนเดียวเงียบๆสบายๆทุกวันก็ยังได้
ผมยิ้มออก เอาวะ ลองดูหน่อยจะได้ไม่เสียชื่อเถ้าแก่สาม ถ้าเวิร์คจะได้ทำต่อ ดีไม่ดีลบคำสบประมาทร้ายกาจของเสี่ยวฮัวได้ด้วย
-------
ผมเดินไม่ได้
จางฉี่หลิงดูตกใจไม่น้อยที่จู่ๆผมก็ทรุดฮวบลงไปต่อหน้า ยังดีที่เอามือยันพื้นไว้ได้ทัน คางจึงไม่ไปกระแทกกับอะไรเข้า แต่แรงก็ดันไปถ่ายลงที่ข้อมือหมดจนความรวดร้าวค่อยๆแล่นขึ้นมาจนชาวาบทั้งแขน ให้มันได้อย่างนี้สิ! แค่จะเดินไปหาคนยังทำไม่ได้เลย!
ผมได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆสะเทือนพื้นกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดของบันไดไม้ใกล้เข้ามา เป็นนายอ้วนหวังที่สะพายเป้เปื้อนฝุ่นเปื้อนดินพะรุงพะรัง แต่มือกลับถือถุงพลาสติกพิมพ์โลโก้ร้านเป็ดปักกิ่งเจ้าดังของเมืองข้างๆ
“เซอร์ไพรส์! ไหนดูซิว่าคนหล่อที่ไหนมา! เสี่ยกลับมากับน้องเสี่ยวเกอด้วย งานนี้เจอกรวยอวบต้องฉลองกัน--อ้าวนี่ นายไปนอนทำอะไรตรงนั้น?”
หน้ากลมแป้นหุบยิ้มดูสับสน เสี่ยวเกอปราดเข้ามาประคองไหล่ผมให้ค่อยๆลุกขึ้น นั่นช่วยอะไรไม่ค่อยได้เพราะผมไม่พร้อมจะลงน้ำหนักที่ขาให้เป็นฐาน ผมเลยเหมือนโดนเขาหิ้วปีกอยู่กลายๆ เป็นหุ่นเชิดที่สายชักขาดเรียบร้อย
สภาพของสองคนที่เพิ่งกลับมามอมแมมดูเหนื่อยล้า แต่ก็ยังอุตส่าห์อุ้มผมไปไว้ที่เตียง ซักไซ้ไต่ถามอาการ
“นายทำอะไรมา ล้มไปแบบนั้นนึกว่าคิดถึงน้องเสี่ยวเกอจนหัวใจวายตาย”
นายอ้วนแซ่หวังพูดแทนคนเงียบขรึมที่นั่งอยู่ข้างๆ เมินโหยวผิงละมือจากหน้าผากไปแตะที่ก้านคอของผม คงจะไม่เจออะไรเลยมุ่นคิ้ว ท่าทางพะวงอย่างคนจับต้นสายปลายเหตุไม่ได้ ไม่แปลกเลยเพราะสาเหตุมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก
“นั่งนานไปหน่อยเลยตะคริวกินล่ะมั้ง..” ผมยกมือก่ายหน้าผาก “ทิ้งไว้อีกเดี๊ยวคงหาย พวกนายมีอะไรก็ไปทำเถอะ น่าจะได้ของดีมาไม่ใช่รึไง”
“ของน่ะได้มาแล้ว มันไม่หายไปไหนง่ายๆหรอกถ้าพวกฉันอยู่ด้วย เถ้าแก่สามตะหากนั่งๆนอนๆอีท่าไหนถึงโดนตะคริวแดกหัวจดตีน”
เมินโหยวผิงหันมามองขาของผม สอดมือซ้ายประคองรับใต้ท่อนขา กำแล้วคลึง กดๆจิ้มๆเหมือนกำลังงัดวิชาปลดกับดักมาใช้กับร่างกายมนุษย์เป็นๆ มือขวาทำไม่ต่างกันแต่ตำแหน่งที่ทาบมือลงไปเป็นบริเวณหน้าแข้ง
เสี่ยวเกอเงยหน้าสบตาผม หน้าตึงเล็กน้อย
“นั่นไง น้องเสี่ยวเกอทำหน้าแบบนี้ไม่ผิดแน่ๆ” นายอ้วนร้อง “เทียนเจิน นายไม่ได้นั่งๆนอนๆที่โต๊ะอย่างเดียวใช่มั้ย คายๆออกมาซะ เสี่ยกับพี่ชายน้อยท่านนี้จะได้รู้ว่าจะทำยังไงต่อ”
ผมกวาดตามองเพื่อนสนิทสองคนแล้วตัดสินใจ นี่เห็นแก่พวกนายที่เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆหรอกนะ.....
“ฉันSquatมา”
เครื่องหมายคำถามลอยเต็มห้อง คนถามและคนตอบล้วนเงียบไปชั่วขณะ
“สคง? สควอท? มันคืออะไร? เสี่ยอ้วนไม่ได้ร่ำได้เรียนภาษาฝรั่งมา มันเป็นรหัสลับเวลาคว่ำกรวยหรือเปล่า?”
นายอ้วนทำหน้างงเต๊ก หันไปหาเมินโหยวผิงเผื่อว่าเขาจะรู้
ผมชี้ไปที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คที่เปิดหน้าอีเมลล์ค้างไว้ บอกให้เขาเปิดอีกแท๊บหนึ่ง หน้าต่างเว็บดูคลิปวีดีโอออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตโผล่หราขึ้นมา
หลังจิ้มคีย์บอร์ดกับคลิกเม้าส์ไปจึ้กสองจึ้ก นายอ้วนกลั้นหัวเราะตัวสั่นกึกๆ อย่าคิดว่าผมไม่เห็น! เสี่ยวเกอเองเมื่อกี้ก็ไปชะโงกหน้าดูด้วยเหมือนกัน เขาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอายเหมือนอย่างนายอ้วน แต่ส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วมองผมเงียบๆ คล้ายจนใจ
“ตกลงเทียนเจินนอนแบ๋บเป็นเต้าหู้เพราะนี่หรอกเรอะ” ร่างอ้วนๆทำท่านั่งเก้าอี้ลม ขึ้นๆลงๆเหมือนจะเยาะเย้ยว่าอีท่าออกกำลังแค่นี้ถึงกับทำเถ้าแก่สามหมดสภาพเอาง่ายๆ นายไม่ลองทำนายไม่รู้หรอกว่าแม่งจะมาเดี้ยงเอาจริงๆก็วันหลังจากทำท่านี้แค่20นาทีเนี่ยแหละ!
ผมนอนหันหลัง ดึงผ้าห่มคลุมตัว กะว่าถ้านอนให้ร่างกายฟื้นตัวเองแทนที่จะแบกสังขารจากเตียงมานั่งทำงานเหมือนตอนเช้าอาจจะดีกว่า ตอนนี้นายอ้วนบอกว่าจะไปเตรียมน้ำอุ่นจัดมาให้ เผื่อช่วยประคบคลายเส้นที่ตึงจนลั่นเปรี๊ยะๆได้
ส่วนเมินโหยวผิงขยับมืออีกครั้ง เสนอตัวด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่าจะช่วยนวดให้ผมรู้สึกดีขึ้น แล้วมาลงเอยด้วยการที่เขาจับขาผมดัดเหมือนตุ๊กตาจนนอนพังพาบน้ำตาแทบไหลนองหมอน
ตะวันตกดิน มีโทรศัพท์ด่วนเข้ามาทำให้นายอ้วนที่กำลังตั้งท่าแกะกล่องเป็ดปักกิ่งต้องรีบไปรับข้างนอกห้อง คุยเสียงดังพลางสบถไปพลางโทษฐานที่โทรมาขัดเวลากินหลังกลับจากกรวยมาหยกๆ สักพักหมอนั่นก็กลับเข้ามา
“ฉันต้องไปก่อน มีปัญหาคนในคณะนิดหน่อย นายอยู่กับน้องเสี่ยวเกอไปก่อนเพราะเสี่ยอาจจะค้างที่โรงแรมเลยคืนนี้ แต่พวกนายอย่าซัดเป็ดฉันหมดนะเว้ย เก็บไว้ถนอมน้ำใจเพื่อนคนนี้บ้าง!”
แว่บเข้ามาคว้ากระเป๋าเงินกับของอีกสองสามอย่างแล้วออกไปอย่างไว พอเห็นหลังอยู่หลัดๆตอนปิดประตูร้านของผม เหลือเพียงเราสองคน เถ้าแก่สามที่นอนเหลวเป็นเต้าหู้ไร้พิษสงกับนายเรือพ่วงจางฉี่หลิงที่นั่งเฝ้าบนเก้าอี้ข้างเตียง
ผมขยับตัวเพื่อจัดท่าให้ตัวเองนอนสบายขึ้นโดยพยายามไม่ออกแรงที่ขามากเกินไป เคลื่อนไหวยุกยิกอยู่พักนึงจนรู้สึกว่าผ้าห่มถูกเลิกขึ้นจากปลายเท้า
เบือนหน้าไปพบกับจางฉี่หลิง มือทั้งสองแตะน่องของผม ผมเหลือกตา หรือเมินโหยวผิงจะทดลองวิชาฤาษีดัดตนกับผมอีกแล้ว!
ผมตั้งท่าจะกระดึ้บหนีเป็นหนอนให้ห่างจากมือคู่นั้น เลิกลั่กเมื่อนึกขึ้นได้ว่าขยับอีกอีกหน่อยก็เจอหัวเตียงแล้ว แต่เขาทำเพียงลูบเบาๆเหมือนปลอบให้คลายความกังวล หากผมยังไม่วางใจ
“นายไม่ได้จะจับฉันดัดอีกใช่มั้ย”
เสี่ยวเกอมองผม พยักหน้า ก่อนเสนอทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า
“ฉันแค่จะนวดให้นายเท่านั้น ไม่ดัดขานายอีก”
“แน่ใจนะว่าจะไม่ดัด”
“อืม”
พอเมินโหยวผิงรับคำ สบตาผมตรงๆ ก็โล่งใจได้เปราะหนึ่ง ผมเปลี่ยนท่ามานอนคว่ำ อำนวยความสะดวกให้ปรมาจารย์จางฉี่หลิงปรนนิบัติพัดวีเถ้าแก่อู๋ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย รู้สึกได้ว่าปลายเตียงยุบลงไป จางฉี่หลิงคงปีนขึ้นมานั่งบนนี้แล้ว
นิ้วทั้งสิบวางลงบนกล้ามเนื้อขาด้านหลังของผม ออกแรงกด ย้ำอย่างรู้จังหวะผ่อนหนักผ่อนเบา ผมหลับตา โครตของโครตความสบาย!
ถ้าผมซื้อห้องแถวสักห้องเปิดร้านนวดแผนโบราณ(พันปี)ให้เขาหันมาเอาดีด้านนี้แทนการคว่ำกรวย เก็บค่าบริการเป็นรายชั่วโมงเหมือนที่ร้านอื่นๆทำ เมินโหยวผิงจะว่ายังไงนะ
“...อืม..........อื้อ.....!”
ผมกำลังเคลิ้มกับฝ่ามือของเมินโหยวผิงที่บีบนวดไปตามเนื้อตัว สะดุ้งเมื่อมือนักนวดมืออาชีพสอดผ่านชายเสื้อยืด ผมตัวแข็ง
มือซ้ายของหมอนวดจำเป็นยังทำหน้าที่อยู่บนขาของผมทว่าเหมือนมันจะเปลี่ยนตำแหน่งสูงขึ้นมาจากน่องในตอนแรกอยู่โข
“เสี่ยวเกอ ขาฉันมันไม่ได้อยู่ตรงนี้ มือนายไปไหนกัน”
ไม่มีเสียงตอบ หากเงาที่เคลื่อนมาทาบทับจากด้านหลังช่างเหมือนปีศาจร้ายคืบคลานมาหายามหลับ
มือขวายังคงรุกรานค้างคาใต้สาบเสื้อ ผมนอนนิ่ง เฝ้าดูปฏิกริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่อกระแสพายุวาบหวิวชวนขนลุกที่เริ่มโลดแล่นอย่างใจเย็น ผิวหนังส่วนที่ได้รับสัมผัสเหมือนโดนช็อต ปลายนิ้วเย็นสะกิดไตเล็กๆบริเวณอกของผม ก่อนลากฝ่ามือผ่านขึ้นไป เสียดสีอ้อยอิงเหมือนไม่จงใจ ซะที่ไหนกัน!
แล้วน้ำเสียงไร้อารมณ์พลันกระซิบข้างหู
“เห็นว่านายอยากลดน้ำหนัก ฉันช่วยได้”
ผมหูผึ่ง ที่ตอนแรกกะว่าจะเอี้ยวหน้ามาส่งสายตาดุๆกลับกลายเป็นความสนใจ แต่มันเป็นความอยากรู้ที่ก่ำกึ่งกับความหวาดระแวงประหลาด
“ยังไง”
สองแขนของเมินโหยวผิงสอดใต้ตัวของผม ร่างถูกจับพลิกกลับมาอย่างนุ่มนวล ประจัญหน้ากับริ้วเปลวเพลิงพริ้วไหวสีเทาที่ทวีความเข้มทีละน้อยบนเชิงกระดูกไหปลาร้า
ชิบ หาย
ผมกลอกตามองเพดาน รู้ซึ่งถึงเจตนาของอีกคนแล้วขาเหมือนจะออกตัวเจ็บแปล่บๆไปก่อนล่วงหน้า ตอนแรกผมคิดว่าจะยอมให้เขาทำแค่แตะๆ แต่ดูทรงแล้ว ความกระตือรือร้นที่เต้นเร่าชัดๆในดวงตาของขวดน้ำมันจอมเหม่อลอยของผมคงไม่อนุญาตให้หยุดอยู่แค่นั้น
ให้ตายสิ เสี่ยวเกอแม่ง
“.....จาง...........ฉี่หลิง...........อะ......อ้า.....”
นายให้ฉันออกกำลังกายด้วยตำรับลับหอบ้านสกุลจางหรือไง ถึงต้องส่งเสียงร้องอ้าๆๆแบบนี้!
สาระวันนี้ที่ผม เถ้าแก่สาม ภูมิใจนำเสนอ
มวยปล้ำกับผีผ้าห่มจางฉี่หลิง ผลาญพลังงานส่วนเกินได้ผลดีกว่าไอ้Squatนั่นร้อยเท่า
แต่ขาฉันยังไม่หาย ก็ต้องมาสะโพกครากอีกเหรอวะ!
ถ้าต้องลดน้ำหนักคราวหน้าผมขอปรึกษาเสี่ยวฮัวหรือซิ่วซิ่วแทน จะลุกนั่งหรือเล่นมวยปล้ำก็ไม่เอาอีกแล้ว!
Fin.
------------------------------
Talk
สำหรับใครที่ไม่รู้จักSquat ดูตรงนี้เลยค่ะ >>> https://www.youtube.com/watch?v=auy654Sr30o
เป็นการออกกำลังกายในท่าคล้ายๆนั่งเก้าอี้ลม ทำแล้วขาจะแข็งแรง หุ่นเฟริม แล้วก็ปวดขามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกด้วยค่ะ!!!! ท่าดูเบสิคมากๆแต่เป็นการเกร็งขากับพยายามทรงตัวด้วยน้ำหนักตัวเองให้อยู่หมัด แค่10-20นาทีดูเหมือนไม่นาน แต่ถ้ามือใหม่หัดเล่นล่ะก็ แค่ก้าวขึ้นเตียงก็ร้าวทั้งตัว ไม่ต้องพูดถึงขึ้นบันไดหรือก้มตัวเลย อยู่ท่าไหนก็ท่านั้น ลุกไม่ขึ้น อาการจะอยู่แบบนี้ราว2-3วันค่ะ Orz"""""" (ประสบการณ์ตรง)
ที่จริงเราแค่อยากให้เสี่ยวฮัวบีบพอนเดอริงอู๋เสีย แล้วเสี่ยวเกอก็มานวดๆให้เถ้าแก่สามแค่นั้นเอง...
Re: [OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
อร๊ายยยยยยยยย 55555555555 ฟิคน่ารักมากๆค่ะ ขำเสี่ยวฮัว เสี่ยวเกอกะนายอ้วน โอ๊ยยย 5555555555 แล้วสรุปอู๋เสียเลือกออกกำลังกายแบบไหนคะ แบบตำรับบ้านสกุลจางรึเปล่า?5555555555555
Mayao- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 26
Points : 3288
Join date : 23/04/2015
Re: [OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
ฉากแรก ขนาดเสี่ยยังคิด แล้วด้วงมันจะไปเหลืออาร๊ายยยยยยย
55555 อยากบีบพอนเดอร์ริงเถ้าแก่สามบ้างอ่าาา / บีบๆๆ หนุบหนับๆๆ
แต่ท่าดัดขาของเสี่ยวเกอแอบสยองนิดๆนะ 5555
วิธีเผาผลาญพลังงานที่ดีที่สุดของนายน้อย
คงมีแต่วิธีสุดท้ายที่ดูแล้วได้ผลที่สุด หุหุหุ
55555 อยากบีบพอนเดอร์ริงเถ้าแก่สามบ้างอ่าาา / บีบๆๆ หนุบหนับๆๆ
แต่ท่าดัดขาของเสี่ยวเกอแอบสยองนิดๆนะ 5555
วิธีเผาผลาญพลังงานที่ดีที่สุดของนายน้อย
คงมีแต่วิธีสุดท้ายที่ดูแล้วได้ผลที่สุด หุหุหุ
DarkAki- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 93
Points : 3441
Join date : 27/01/2015
Re: [OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
//เอื้อมมือไปบีบพอนเดอริงนายน้อย ชอบเรื่องนี้มากค่าาา//ปิดหน้าเขิน
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3800
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
ตอนแรกมันชวนคิดมากกกจริงๆ แต่ตอนหลังไม่ต้องคิดแล้วใช่เลย--
เสี่ยวเกอสงสารคนแก่หน่อย ปวดขาแล้วยังต้องมาปวดสะโพก 55555
เป็นการออกกำลังกายที่ดี๊ดีย /w\
เสี่ยวเกอสงสารคนแก่หน่อย ปวดขาแล้วยังต้องมาปวดสะโพก 55555
เป็นการออกกำลังกายที่ดี๊ดีย /w\
Cathareen- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 149
Points : 3565
Join date : 24/12/2014
Re: [OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
อืม สรุปวิธีสุดท้ายได้ผลดีที่สุดสินะ
อะแฮ่ม ใช้วิธีนี้บ่อยๆเดี๋ยวก็หายอ้วนแล้วค่ะเถ้าแก่
เถ้าแก่บอกไม่ไหวๆ พ้มอายุมากแล้ว มีแฟนหนุ่มแรงดีตลอดกาลก็ต้องทำใจงี้ล่ะค่ะ 555+
อะแฮ่ม ใช้วิธีนี้บ่อยๆเดี๋ยวก็หายอ้วนแล้วค่ะเถ้าแก่
เถ้าแก่บอกไม่ไหวๆ พ้มอายุมากแล้ว มีแฟนหนุ่มแรงดีตลอดกาลก็ต้องทำใจงี้ล่ะค่ะ 555+
Eli-kun- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 80
Points : 3406
Join date : 04/03/2015
Re: [OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
ลดเร็วทันใจต้องใช้สูตรลับตระกูลจาง
รับรองน้ำหนักลดชัวร์เถ้าแก่สาม
รับรองน้ำหนักลดชัวร์เถ้าแก่สาม
kame_kazuha- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 274
Points : 3715
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : สุสานสักที่
Re: [OS] Weight Loss (ผิงเสีย)
เป็นวิธีลดน้ำหนักที่ใช้ได้ผลรวดเร็วทันใจเนอะนายน้อย ถถถถถถถถถ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3818
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Similar topics
» [OS] #dmbjdaily '520' (ผิงเสีย :: เหม่งจาง,ผิงเสีย)
» [OS] สิ่งที่ชอบที่สุด (ผิงเสีย)
» [Fic] คืนที่สี่ของเราสองคน [ผิงเสีย]
» [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 4 [ผิงเสีย]
» [OS] 'สูท' (ผิงเสีย :: จางฉี่หลิงxอู๋เสีย)
» [OS] สิ่งที่ชอบที่สุด (ผิงเสีย)
» [Fic] คืนที่สี่ของเราสองคน [ผิงเสีย]
» [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 4 [ผิงเสีย]
» [OS] 'สูท' (ผิงเสีย :: จางฉี่หลิงxอู๋เสีย)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth