Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] เมินโหยวผิง (pairing:ผิงเสีย)
4 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] เมินโหยวผิง (pairing:ผิงเสีย)
ผมกลับไปที่ฉางไป๋ซานอีกครั้ง เดินฝ่าหิมะพลางร้องเรียกชื่อของเขา ผมตะโกนจนน้ำเสียงแหบแห้ง ตะโกนจนรู้สึกเจ็บลำคอราวกับถูกมีดนับร้อยเล่มทิ่มแทง
เมินโหยวผิง...
เมินโหยวผิง...
เมินโหยวผิง..
รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนเองกำลังยืนร้องไห้อยู่ท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน
ผมเสียน้ำตาให้คนใบ้จางเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ช่วงเวลาที่ผ่านไปสองปีไม่ทำให้ผมคิดถึงเขาน้อยลงเลย ทุกเวลาทุกนาทีผมเอาแต่คิดถึงเมินโหยวผิง ขนาดตอนผมนอนหลับ ผมก็ยังฝันถึงอีกฝ่ายทุกคืน
ผมฝันถึงตอนที่เราสองคนเจอกันครั้งแรก ฝันถึงตอนที่เราสองคนจับมือกัน ฝันถึงตอนที่เขาเดินหันหลังให้ผมยามสำรวจสุสานอย่างตั้งอกตั้งใจ
ความหนาวเย็น ความเจ็บปวด ความโหยหาทำให้ผมรู้สึกย่ำแย่อย่างถึงที่สุด
ถ้าเขารู้ว่าผมคิดถึงเขาจนใกล้เป็นบ้าแบบนี้ เขาจะรู้สึกยังไงกันนะ?
ดีใจ? หรือว่าไม่รู้สึกอะไรกันแน่?
หึ! นายเรือพ่วงน่าเบื่อคนนั้นน่ะต้องไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว....
ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า สูดน้ำมูก กล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามคลี่ยิ้มขำกับความคิดไร้สาระของตนเอง
แต่ผมทำได้แค่คลี่ยิ้มบิดเบี้ยวออกไปเท่านั้น
หิมะตกแรงขึ้น ผมควรจะกลับลงไปได้แล้ว
ตอนนี้ทั้งคอทั้งจมูกของผมพังยับ ไม่ต้องพูดถึงเสียง ผมบอกได้เลยว่ามันใกล้จะหายไปเต็มที แต่ก่อนที่ผมจะไม่มีแรงเปล่งเสียงอีกต่อไป ผมตัดสินใจตะโกนเรียกชื่อของเขาอีกครั้ง
"เมินโหยวผิงงงงงงงง!"
หลังจากนั้นผมต้องใช้เวลาพักหายใจหอบอยู่พักหนึ่ง จึงจะสามารถต่อประโยคที่ต้องการจะตะโกนออกไปได้
"ฉันรักนายยยยย!"
ความรู้สึกที่ผมมีให้เขาถูกรวบรวมไว้ในประโยคสุดท้าย
ผมแค่อยากบอกเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินก็ตาม
ฉันรักนายนะ เมินโหยวผิง....
" อู๋เสีย...."
" หืม? ว่าไง?"
ผมละสายตาจากสมุดบัญชีก่อนจะหันไปหาจางฉี่หลิงที่กำลังเดินดุ่มๆเข้ามาหา
นายเรือพ่วงทำหน้าเคร่งขรึมมาก ปกติเวลาทำหน้าตายก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่วันนี้มาแปลก ระดับความทะมึนอัพเกรดขึ้นสามเท่า พอเห็นท่าทีของเขาผมก็ได้แต่นั่งตัวลีบติดกับเก้าอี้ไม้ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
" เอ่อ...เสี่ยวเกอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? "
ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายพลางยกมือขึ้นลูบหลังคอ ทำไมจู่ๆรู้สึกร้อนๆหนาวๆก็ไม่รู้
คนใบ้จางเพียงจ้องมองผมด้วยดวงตาสีดำสนิทราวกับลูกปัดแก้วของเขา
แล้วทันใดนั้นเอง อีกฝ่ายก็ขยับเข้ามาใช้แขนข้างหนึ่งยันขอบโต๊ะ ส่วนอีกข้างหนึ่งจับพนักเก้าอี้ไม้ที่ผมนั่งอยู่เอาไว้
อืมมมมมม....
เดี๋ยวก่อน! หยุดก่อน! ช้าก่อนจางฉี่หลิง!
ผมเบิกตาขึ้นกว้าง พยายามส่งสายตาถามอีกฝ่ายเป็นเชิงว่าต้องการอะไร แต่แม่งอยู่ๆเสี่ยวเกอก็อยากทำตัวเป็นคนใบ้ขึ้นมาซะงั้น อีกฝ่ายไม่ยอมตอบไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลยสักอย่าง เมินโหยวผิงเพียงเคลื่อนดวงหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ ประสานสายตากับผมราวกับกำลังแข่งจ้องตากันอย่างไรอย่างนั้น
โพลิชั่นนี้เป็นโพลิชั่นเสี่ยงอันดับสิบที่พบได้ทั่วไปในนิยายรักหวานแหววชัดๆ
ตอนที่ผมไม่สามารถอดทนต่อความเงียบอันพิลึกพิลันระหว่างเราสองคนได้อีกต่อไปจางฉี่หลิงก็โน้มตัวลงมาจูบแก้มของผม
จากนั้นจึงเลื่อนริมฝีปากไปแตะใบหูของผมเบาๆ
" อู๋เสีย..."
" ว่าไง?"
ถ้าเอ็งไม่ตอบ มีเรื่องนะเฮ้ย!
ผมขมวดคิ้วมองคนที่กำลังคลอเคลียบริเวณรอบใบหูของผมอยู่เงียบๆ วันนี้เสี่ยวเกอทำตัวประหลาดมาก เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผมอ้าปากจะถามเขา แต่โดนเอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
" ฉันเผลออ่านบันทึกของนาย..."
เสี่ยวเกอกระซิบข้างหูของผมด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ้มน่าฟังของเขา กลิ่นสมุนไพรซึ่งเป็นกลิ่นประจำกายของอีกฝ่ายทำให้ผมใกล้จะเสียสติเต็มที ผมพยักหน้า พึมพำบอกเขาว่าไม่เป็นไร ผมไม่ได้หวงบันทึกขนาดนั้น
เสี่ยวเกอเงียบไปอีกครั้ง ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะผละออกไป แต่ที่ไหนได้ อีกฝ่ายกลับเคลื่อนริมฝีปากมาประกบจูบผมแทน
เขาจูบผมอย่างดูดดื่ม เร่าร้อน
รุนแรงราวกับกำลังโกรธเคือง แต่ก็อ่อนโยนราวกับกำลังเว้าวอน ถ้าจะบอกว่าเขาพยายามจะกลืนกินผมก็ว่าได้ ตอนที่ผมไม่มีอากาศหายใจอีกต่อไป เสี่ยวเกอก็ละริมฝีปากออก ก่อนจะถามผมอีกครั้ง
" ไม่ได้รักฉันแล้วเหรอ?"
ห๊ะ?!
" เสี่ยวเกอ....เกิดอะไรขึ้น มีใครพูดอะไรแปลกๆกับนายเหรอ? ฉันก็ต้องรักนายสิ...อ้อ! นี่นายโดนนายอ้วนหลอกอะไรมาใช่ไหม?"
" ในบันทึกของนาย....นายบอกรักคนอื่น..."
" จางฉี่หลิง...........นายแก่แล้ว บางทีสายตาอาจเลอะเลือนไปบ้าง..."
" ..... "
เมินโหยวผิงทอดสายตามองผม ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าวันนี้เขาทำตัวเหมือนกิเลนน้อยขี้อ้อนอย่างไรชอบกล แต่ก็น่ารักดี เสี่ยวเกอเวอร์ชั่นทำหางตกหูลู่เป็นของแรร์ ที่ต้องรีบเก็บเกี่ยว จะว่าไปถ้าไปเอากล้องวิดิโอมาอัดจะโดนสองนิ้วแทงคอไหมนะ
ผมเริ่มคิดเรื่อยเปื่อยอีกครั้ง แต่ก็ถูกจางฉี่หลิงเรียกสติกลับมาด้วยคำถามที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน
" เมินโหยวผิงเป็นใคร?"
" .... "
โอเค...
ผมเข้าใจแล้ว!
ผมลืมไปว่าเสี่ยวเกอไม่รู้ว่าผมแอบตั้งฉายาให้เขาว่า'เมินโหยวผิง'
" บันทึกเล่มนั้นเก็บอยู่ตรงไหน?"
" บนโต๊ะในห้องของนาย..."
ผมพยักหน้า " แล้วทำไมจู่ๆถึงเผลออ่านล่ะ?"
ผมรู้ดีว่าคนอย่างจางฉี่หลิงไม่ชอบเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอยู่แล้ว
"เพราะนายเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ผ้าม่านเลยปัดถ้วยชาล้ม น้ำชาหกรดบันทึก ฉันเลยเช็ดให้..."
" โอเคๆ เข้าใจแล้ว! ขอบคุณนะเสี่ยวเกอ.."
ผมหัวเราะ ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายเร็วๆหนึ่งครั้ง จางฉี่หลิงยังคงหน้าตายไม่เปลี่ยน เฉยชาราวกับก้อนหิน แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับรู้สึกว่าเขาอ่อนโยนมาก
" ฉันจะบอกอะไรให้นะ..."
ผมทำเหมือนที่เขาทำ กระซิบข้างหูเสี่ยวเกอพลางคลี่ยิ้มเขิน
" เมินโหยวผิงคือฉายาที่ฉันตั้งให้นาย..."
" ... "
" ให้ทายนะ ฉันคิดว่านายเผลออ่านบันทึกส่วนที่ฉันเขียนเล่าว่าฉันขึ้นไปตะโกนเรียกนายอยู่บนฉางไป๋ซานแหง..."
และไอ้ตอนที่ตะโกนเรียกอะไรนั่น สงสัยอีกฝ่ายคงแอบน้อยใจแน่ๆ ในเมื่อไม่รู้ว่าตัวเองคือเมินโหยวผิงนี่นา
" บนนั้น...นายเรียกฉัน?"
" ใช่! แต่เรียกฉายานะ เรียกว่าเมินโหยวผิง....ตอนนั้นฉันไปตะโกนอยู่ตั้งนาน โคตรเหมือนคนบ้าเลย ฮ่ะๆ"
ผมยิ่งนึกแล้วยิ่งอาย สุดท้ายเลยหันไปมองทางอื่น แต่แล้วเสี่ยวเกอขยับเข้ามาหาผมอีกครั้ง
" อู๋เสีย...."
ท่อนแขนแข็งแกร่งโอบกอดผมเอาไว้ จางฉี่หลิงซุกหน้าลงกับซอกคอของผม ปล่อยให้ลมหายใจร้อนๆของเขาทำให้ผมปั่นป่วน
ผมส่งเสียงครางในลำคอเป็นเชิงถามว่ามีอะไร จางฉี่หลิงจึงเงยขึ้นทอดสายตามองผม
" ฉันรักนายเหมือนกัน....อู๋เสีย"
#แล้วหลังจากนั้นบ้านบรึ้มค่ะ นายน้อยเขินเกิน55555
#ทำเสี่ยวเกอหลุดคาร์ เหอๆ ขอโทษค่ะ///กราบรอบทิศ
#นี่เป็นฟิคแรกที่เขียนค่ะ ฝีมืออ่อนหัดไปหน่อย ติชมได้นะคะแหะๆ:3
เมินโหยวผิง...
เมินโหยวผิง...
เมินโหยวผิง..
รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนเองกำลังยืนร้องไห้อยู่ท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน
ผมเสียน้ำตาให้คนใบ้จางเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ช่วงเวลาที่ผ่านไปสองปีไม่ทำให้ผมคิดถึงเขาน้อยลงเลย ทุกเวลาทุกนาทีผมเอาแต่คิดถึงเมินโหยวผิง ขนาดตอนผมนอนหลับ ผมก็ยังฝันถึงอีกฝ่ายทุกคืน
ผมฝันถึงตอนที่เราสองคนเจอกันครั้งแรก ฝันถึงตอนที่เราสองคนจับมือกัน ฝันถึงตอนที่เขาเดินหันหลังให้ผมยามสำรวจสุสานอย่างตั้งอกตั้งใจ
ความหนาวเย็น ความเจ็บปวด ความโหยหาทำให้ผมรู้สึกย่ำแย่อย่างถึงที่สุด
ถ้าเขารู้ว่าผมคิดถึงเขาจนใกล้เป็นบ้าแบบนี้ เขาจะรู้สึกยังไงกันนะ?
ดีใจ? หรือว่าไม่รู้สึกอะไรกันแน่?
หึ! นายเรือพ่วงน่าเบื่อคนนั้นน่ะต้องไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว....
ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า สูดน้ำมูก กล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามคลี่ยิ้มขำกับความคิดไร้สาระของตนเอง
แต่ผมทำได้แค่คลี่ยิ้มบิดเบี้ยวออกไปเท่านั้น
หิมะตกแรงขึ้น ผมควรจะกลับลงไปได้แล้ว
ตอนนี้ทั้งคอทั้งจมูกของผมพังยับ ไม่ต้องพูดถึงเสียง ผมบอกได้เลยว่ามันใกล้จะหายไปเต็มที แต่ก่อนที่ผมจะไม่มีแรงเปล่งเสียงอีกต่อไป ผมตัดสินใจตะโกนเรียกชื่อของเขาอีกครั้ง
"เมินโหยวผิงงงงงงงง!"
หลังจากนั้นผมต้องใช้เวลาพักหายใจหอบอยู่พักหนึ่ง จึงจะสามารถต่อประโยคที่ต้องการจะตะโกนออกไปได้
"ฉันรักนายยยยย!"
ความรู้สึกที่ผมมีให้เขาถูกรวบรวมไว้ในประโยคสุดท้าย
ผมแค่อยากบอกเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินก็ตาม
ฉันรักนายนะ เมินโหยวผิง....
" อู๋เสีย...."
" หืม? ว่าไง?"
ผมละสายตาจากสมุดบัญชีก่อนจะหันไปหาจางฉี่หลิงที่กำลังเดินดุ่มๆเข้ามาหา
นายเรือพ่วงทำหน้าเคร่งขรึมมาก ปกติเวลาทำหน้าตายก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่วันนี้มาแปลก ระดับความทะมึนอัพเกรดขึ้นสามเท่า พอเห็นท่าทีของเขาผมก็ได้แต่นั่งตัวลีบติดกับเก้าอี้ไม้ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
" เอ่อ...เสี่ยวเกอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? "
ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายพลางยกมือขึ้นลูบหลังคอ ทำไมจู่ๆรู้สึกร้อนๆหนาวๆก็ไม่รู้
คนใบ้จางเพียงจ้องมองผมด้วยดวงตาสีดำสนิทราวกับลูกปัดแก้วของเขา
แล้วทันใดนั้นเอง อีกฝ่ายก็ขยับเข้ามาใช้แขนข้างหนึ่งยันขอบโต๊ะ ส่วนอีกข้างหนึ่งจับพนักเก้าอี้ไม้ที่ผมนั่งอยู่เอาไว้
อืมมมมมม....
เดี๋ยวก่อน! หยุดก่อน! ช้าก่อนจางฉี่หลิง!
ผมเบิกตาขึ้นกว้าง พยายามส่งสายตาถามอีกฝ่ายเป็นเชิงว่าต้องการอะไร แต่แม่งอยู่ๆเสี่ยวเกอก็อยากทำตัวเป็นคนใบ้ขึ้นมาซะงั้น อีกฝ่ายไม่ยอมตอบไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลยสักอย่าง เมินโหยวผิงเพียงเคลื่อนดวงหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ ประสานสายตากับผมราวกับกำลังแข่งจ้องตากันอย่างไรอย่างนั้น
โพลิชั่นนี้เป็นโพลิชั่นเสี่ยงอันดับสิบที่พบได้ทั่วไปในนิยายรักหวานแหววชัดๆ
ตอนที่ผมไม่สามารถอดทนต่อความเงียบอันพิลึกพิลันระหว่างเราสองคนได้อีกต่อไปจางฉี่หลิงก็โน้มตัวลงมาจูบแก้มของผม
จากนั้นจึงเลื่อนริมฝีปากไปแตะใบหูของผมเบาๆ
" อู๋เสีย..."
" ว่าไง?"
ถ้าเอ็งไม่ตอบ มีเรื่องนะเฮ้ย!
ผมขมวดคิ้วมองคนที่กำลังคลอเคลียบริเวณรอบใบหูของผมอยู่เงียบๆ วันนี้เสี่ยวเกอทำตัวประหลาดมาก เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผมอ้าปากจะถามเขา แต่โดนเอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
" ฉันเผลออ่านบันทึกของนาย..."
เสี่ยวเกอกระซิบข้างหูของผมด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ้มน่าฟังของเขา กลิ่นสมุนไพรซึ่งเป็นกลิ่นประจำกายของอีกฝ่ายทำให้ผมใกล้จะเสียสติเต็มที ผมพยักหน้า พึมพำบอกเขาว่าไม่เป็นไร ผมไม่ได้หวงบันทึกขนาดนั้น
เสี่ยวเกอเงียบไปอีกครั้ง ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะผละออกไป แต่ที่ไหนได้ อีกฝ่ายกลับเคลื่อนริมฝีปากมาประกบจูบผมแทน
เขาจูบผมอย่างดูดดื่ม เร่าร้อน
รุนแรงราวกับกำลังโกรธเคือง แต่ก็อ่อนโยนราวกับกำลังเว้าวอน ถ้าจะบอกว่าเขาพยายามจะกลืนกินผมก็ว่าได้ ตอนที่ผมไม่มีอากาศหายใจอีกต่อไป เสี่ยวเกอก็ละริมฝีปากออก ก่อนจะถามผมอีกครั้ง
" ไม่ได้รักฉันแล้วเหรอ?"
ห๊ะ?!
" เสี่ยวเกอ....เกิดอะไรขึ้น มีใครพูดอะไรแปลกๆกับนายเหรอ? ฉันก็ต้องรักนายสิ...อ้อ! นี่นายโดนนายอ้วนหลอกอะไรมาใช่ไหม?"
" ในบันทึกของนาย....นายบอกรักคนอื่น..."
" จางฉี่หลิง...........นายแก่แล้ว บางทีสายตาอาจเลอะเลือนไปบ้าง..."
" ..... "
เมินโหยวผิงทอดสายตามองผม ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าวันนี้เขาทำตัวเหมือนกิเลนน้อยขี้อ้อนอย่างไรชอบกล แต่ก็น่ารักดี เสี่ยวเกอเวอร์ชั่นทำหางตกหูลู่เป็นของแรร์ ที่ต้องรีบเก็บเกี่ยว จะว่าไปถ้าไปเอากล้องวิดิโอมาอัดจะโดนสองนิ้วแทงคอไหมนะ
ผมเริ่มคิดเรื่อยเปื่อยอีกครั้ง แต่ก็ถูกจางฉี่หลิงเรียกสติกลับมาด้วยคำถามที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน
" เมินโหยวผิงเป็นใคร?"
" .... "
โอเค...
ผมเข้าใจแล้ว!
ผมลืมไปว่าเสี่ยวเกอไม่รู้ว่าผมแอบตั้งฉายาให้เขาว่า'เมินโหยวผิง'
" บันทึกเล่มนั้นเก็บอยู่ตรงไหน?"
" บนโต๊ะในห้องของนาย..."
ผมพยักหน้า " แล้วทำไมจู่ๆถึงเผลออ่านล่ะ?"
ผมรู้ดีว่าคนอย่างจางฉี่หลิงไม่ชอบเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอยู่แล้ว
"เพราะนายเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ผ้าม่านเลยปัดถ้วยชาล้ม น้ำชาหกรดบันทึก ฉันเลยเช็ดให้..."
" โอเคๆ เข้าใจแล้ว! ขอบคุณนะเสี่ยวเกอ.."
ผมหัวเราะ ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายเร็วๆหนึ่งครั้ง จางฉี่หลิงยังคงหน้าตายไม่เปลี่ยน เฉยชาราวกับก้อนหิน แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับรู้สึกว่าเขาอ่อนโยนมาก
" ฉันจะบอกอะไรให้นะ..."
ผมทำเหมือนที่เขาทำ กระซิบข้างหูเสี่ยวเกอพลางคลี่ยิ้มเขิน
" เมินโหยวผิงคือฉายาที่ฉันตั้งให้นาย..."
" ... "
" ให้ทายนะ ฉันคิดว่านายเผลออ่านบันทึกส่วนที่ฉันเขียนเล่าว่าฉันขึ้นไปตะโกนเรียกนายอยู่บนฉางไป๋ซานแหง..."
และไอ้ตอนที่ตะโกนเรียกอะไรนั่น สงสัยอีกฝ่ายคงแอบน้อยใจแน่ๆ ในเมื่อไม่รู้ว่าตัวเองคือเมินโหยวผิงนี่นา
" บนนั้น...นายเรียกฉัน?"
" ใช่! แต่เรียกฉายานะ เรียกว่าเมินโหยวผิง....ตอนนั้นฉันไปตะโกนอยู่ตั้งนาน โคตรเหมือนคนบ้าเลย ฮ่ะๆ"
ผมยิ่งนึกแล้วยิ่งอาย สุดท้ายเลยหันไปมองทางอื่น แต่แล้วเสี่ยวเกอขยับเข้ามาหาผมอีกครั้ง
" อู๋เสีย...."
ท่อนแขนแข็งแกร่งโอบกอดผมเอาไว้ จางฉี่หลิงซุกหน้าลงกับซอกคอของผม ปล่อยให้ลมหายใจร้อนๆของเขาทำให้ผมปั่นป่วน
ผมส่งเสียงครางในลำคอเป็นเชิงถามว่ามีอะไร จางฉี่หลิงจึงเงยขึ้นทอดสายตามองผม
" ฉันรักนายเหมือนกัน....อู๋เสีย"
#แล้วหลังจากนั้นบ้านบรึ้มค่ะ นายน้อยเขินเกิน55555
#ทำเสี่ยวเกอหลุดคาร์ เหอๆ ขอโทษค่ะ///กราบรอบทิศ
#นี่เป็นฟิคแรกที่เขียนค่ะ ฝีมืออ่อนหัดไปหน่อย ติชมได้นะคะแหะๆ:3
Aatsawara- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 3
Points : 3152
Join date : 20/08/2015
Re: [OS] เมินโหยวผิง (pairing:ผิงเสีย)
หลังจากที่คุณหว่านเสน่ห์ใส่นายน้อยไปขนาดนั้น
คุณคิดหรือว่านายน้อยจะรักคนอื่นได้นอกจากคุณคะ...จางอากง//ยิ้มอ่อน
คุณคิดหรือว่านายน้อยจะรักคนอื่นได้นอกจากคุณคะ...จางอากง//ยิ้มอ่อน
KANAE- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 37
Points : 3361
Join date : 21/02/2015
Re: [OS] เมินโหยวผิง (pairing:ผิงเสีย)
หลุดคาร์ที่ดีย์!!!! กิเลนโหมดอ้อนคลอเคลียเป็นของแรร์กระทั่งในฟิค!! ต้องรีบเก็บเกี่ยว 555
จางอากงครับ นายน้อยมันจะขึ้นไปตะโกนเรียกใครได้บนฉางไป๋ซาน วุ้ย บทจะบื้อก็บื้อจนเทียนเจินอายเลยนะเนี่ย
แต่น่าร้ากกกกกกกก อยากเอาวิดีโอมาถ่ายเก็บบ้าง ฮึ้ยยยย //ดิ้นนน เสี่ยวเกอหึงล่ะ วรั้ย
จางอากงครับ นายน้อยมันจะขึ้นไปตะโกนเรียกใครได้บนฉางไป๋ซาน วุ้ย บทจะบื้อก็บื้อจนเทียนเจินอายเลยนะเนี่ย
แต่น่าร้ากกกกกกกก อยากเอาวิดีโอมาถ่ายเก็บบ้าง ฮึ้ยยยย //ดิ้นนน เสี่ยวเกอหึงล่ะ วรั้ย
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3818
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [OS] เมินโหยวผิง (pairing:ผิงเสีย)
หึงตัวเอง แหง่วววว
ถ้าเป็นในซีรีส์ปัญหานี้จะไม่เกิดนะครับ เล่นเมินโหยวผิงซะเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น 5555555555
ถ้าเป็นในซีรีส์ปัญหานี้จะไม่เกิดนะครับ เล่นเมินโหยวผิงซะเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น 5555555555
Eli-kun- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 80
Points : 3406
Join date : 04/03/2015
Similar topics
» [SF] เมินโหยวผิง [ผิงเสีย]
» [Drabble] ความรู้สึกของก้อนหิน [เมินโหยวผิง/ผิงเสีย]
» [OS] Happiness of Wu Xie (pairing:ผิงเสีย)
» [Drabble] #dmbjdaily (บุหรี่) ของดูต่างหน้า [เมินโหยวผิง /Implied ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ*
» [Drabble] #dmbjdaily (หนึ่ง) หนึ่งชีวิต [เมินโหยวผิง&อู๋เสีย/ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10
» [Drabble] ความรู้สึกของก้อนหิน [เมินโหยวผิง/ผิงเสีย]
» [OS] Happiness of Wu Xie (pairing:ผิงเสีย)
» [Drabble] #dmbjdaily (บุหรี่) ของดูต่างหน้า [เมินโหยวผิง /Implied ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ*
» [Drabble] #dmbjdaily (หนึ่ง) หนึ่งชีวิต [เมินโหยวผิง&อู๋เสีย/ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth